[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 00:08:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่มาของ "เข้ากระดูกดำ"  (อ่าน 1003 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 87.0.4280.141 Chrome 87.0.4280.141


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 มกราคม 2564 10:58:50 »



ที่มาของ "เข้ากระดูกดำ"

           สำนวนนี้เกิดมาจากโรคระบาดร้ายแรงในสมัยก่อน คือ ไข้ทรพิษหรือโรคฝีดาษ ใครที่เป็นโรคนี้กระดูกจะเป็นจุดดำๆ จึงเกิดเป็นสำนวน เข้ากระดูกดำ หมายถึง ติดแน่นจนถอนไม่ขึ้นหรือไม่รู้ลืม ดังนั้น เกลียดเข้ากระดูกดำ คือ เกลียดจนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกได้

           ฝีดาษ, ไข้ทรพิษ หรือ ไข้หัว (อังกฤษ: Smallpox) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจาก small poxvirus (Variolar) มีลักษณะเฉพาะคือมีผื่นขึ้นตามตัว และมีอาการทั่วไปรุนแรง โรคนี้ระบาดในประเทศอินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถานและเอธิโอเปียเมื่อปี พ.ศ. 2519 สำหรับประเทศไทยมีการบันทึกไว้ว่าระบาดครั้งสุดท้ายปี พ.ศ. 2504 องค์การอนามัยโลกได้เลิกฉีดวัคซีนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513

ประวัติการระบาด


           ในสมัยศตวรรษที่ 16 เมื่อคนผิวขาวจากตะวันตกเดินทางไปยังโลกใหม่ในเมโสอเมริกา ได้นำโรคฝีดาษไปแพร่ระบาดแก่คนพื้นเมืองชาวอินเดียนในอเมริกาใต้อย่างรุนแรง เมื่อนายพล Cortez นำทหารบุกเข้ายึดอาณาจักร Aztec ทหารที่เป็นโรคฝีดาษได้แพร่ระบาดโรคฝีดาษ ไปสู่ชนพื้นเมืองทำให้ชนพื้นเมืองที่ไม่มีภูมิคุ้มกันโรคเลยต้องตายเป็นจำนวนนับแสนคน การสูญเสียผู้คนจำนวนมากเช่นนี้มีส่วนทำให้อาณาจักร Aztec ล่มสลายในเวลาต่อมา

           ฝีดาษมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า variola major คำว่า variola มาจากคำในภาษาละตินว่า varus ซึ่งแปลว่า ตุ่มตามตัว เนื่องจากเมื่อ 200 ปีก่อน เวลาใครเป็นโรคชนิดนี้ 20-40% ของผู้ป่วยจะเสียชีวิต ส่วนคนที่หายป่วยจะมีแผลเป็นตามตัวและใบหน้า

           ประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ได้บันทึกว่า George Washington ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐฯ ในวัยหนุ่มเคยเป็นโรคฝีดาษ เขาจึงต้องต่อสู้กับโรคร้ายและทหารอังกฤษไปพร้อมกัน และเมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคเขาก็สั่งให้ทหารทุกคนในกองทัพเข้ารับการปลูกฝีทันที ซึ่งมีผลทำให้กองทัพของเขารบชนะข้าศึกในที่สุด ส่วน Thomas Jefferson ได้บันทึกว่า ทาสของเขาที่หลบหนีไปเข้ากับกองทัพอังกฤษ หลายคนเป็นโรคฝีดาษ และในปี พ.ศ. 2306 กองทัพอังกฤษได้ให้ผ้าห่มของคนที่เป็นฝีดาษแก่ชาวอินเดียนแดงที่ Fort Pitt เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ฝีดาษเป็นอาวุธสงคราม   ประเทศจีนในสมัยก่อน ผู้ป่วยด้วยโรคฝีดาษจะถูกกักบริเวณไม่ให้ออกนอกพื้นที่ แพทย์จะให้ผู้ป่วยสูดดมควันที่ได้จากการเผาสะเก็ดแผลของคนที่หายจากฝีดาษแล้ว ในตะวันออกกลางและแอฟริกา หมอผีจะเอาหนองสด ๆ จากคนที่กำลังเป็นฝีดาษ มาทาตามผิวที่มีรอยขีดข่วนของคนที่ยังไม่เป็น และพบว่าวิธีนี้ทำให้คนบางคนตายด้วยโรคฝีดาษ ในเวลาต่อมา

การปลูกฝี


          วัคซีนทำจากไวรัสชื่อ vaccinia เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในวัวที่ยังมีชีวิตแต่ทำให้อ่อนแรง เชื้ออาจจะกระจายจากตำแหน่งที่ฉีดวัคซีนไปยังตำแหน่งอื่นได้ ต้องระวังการรักษาความสะอาด การปลูกฝีสามารถป้องกันโรคฝีดาษและค่อนข้างปลอดภัย แต่อาจจะมีผลข้างเคียงตั้งแต่น้อยจนมาก หลังการฉีดวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ได้ 3-5 ปี หากได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันจะอยู่นานขึ้น การปลูกฝีจะใช้เข็มซึ่งมีเชื้อโรคอยู่ ทำให้ผิวหนังเกิดแผลเชื้อจะเข้าสู่แผล

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/66/Child_with_Smallpox_Bangladesh.jpg/230px-Child_with_Smallpox_Bangladesh.jpg
ที่มาของ "เข้ากระดูกดำ"

ที่มา รู้ไปทำไม
      Wikipedia โรคฝีดาษ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ประวัติ ที่มาของ "ดินสอ" ของที่ใช้อยู่ทุกวัน
สุขใจ ห้องสมุด
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 3 5062 กระทู้ล่าสุด 28 กุมภาพันธ์ 2553 13:19:56
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
"Lemon Soup" อาสาส่ง"ทุกวัน"เพลงกระตุ้น"รัก"ที่เมื่อรู้สึกแล้วต้อง"บอก"
หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
มดเอ๊ก 0 5136 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2554 10:29:07
โดย มดเอ๊ก
ที่มาของ แพะรับบาป ทำไม "แพะ" ต้องรับบาปแกะรับแทนไม่ได้หรอ
สุขใจ ห้องสมุด
Compatable 0 1748 กระทู้ล่าสุด 13 พฤศจิกายน 2555 12:40:44
โดย Compatable
ที่มาของ "แซ่" นามสกุลของคนจีน
สุขใจ ห้องสมุด
Compatable 2 2671 กระทู้ล่าสุด 11 มกราคม 2556 13:06:31
โดย Compatable
ที่มาของ "เบี้ยแก้ "เครื่องรางของขลังจากภูมิปัญญาพระเกจิคณาจารย์ของไทย
เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
Maintenence 3 11375 กระทู้ล่าสุด 26 มิถุนายน 2558 09:07:09
โดย Maintenence
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.322 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 16 เมษายน 2567 02:15:56