[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 เมษายน 2567 07:41:17 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊  (อ่าน 5607 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 06 ธันวาคม 2553 11:07:23 »

อมตะและไม่ทุกข์=อัตตาจริง หรือนิพพาน ไม่อมตะและทุกข์=อัตตาเก๊



armageddon เขียน:

ยังเถียงกันไม่เสร็จ  ว่าจะสร้างกระไดอย่างไร

แล้วคำพูดไหน ที่หลวงตาพูดว่า นิพพาน เป็นอัตตา?  ไม่เห็นมีสักประโยค

เห็นมีแต่พูดว่า

นิพพานมีหนึ่งเท่านั้นไม่เคยมีสอง ไม่มีสองกับอัตตา ไม่มีสามกับอนัตตา



phonsak ยกคำพูดของหลวงตามหาบัวมา:


ปีที่ 2 ฉบับที่ 590 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 แรม 3 ค่ำ ...

พระนิพพาน เป็นอัตตา ไม่สูญ “หลวงตามหาบัว” พระนักปฏิบัติพูดชัด เป็นอัตตาไม่น่าจะผิด แต่ไม่ได้หมายถึง “อัตตา” ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา”



armageddon เขียน:


555+ ยังไงๆๆ  ก็ยังไม่ชัดอยู่ดี

ไม่น่าจะ ..

ไม่แน่ว่าจะ ..
อาจจะ ..
แบบนี้ หรือชัด

แต่ที่แน่ๆๆ
ชัดๆ ก็คือ

นิพพานมีหนึ่งเท่านั้นไม่เคยมีสอง ไม่มีสองกับอัตตา ไม่มีสามกับอนัตตา



phonsakเขียน:

นิพพานมีหนึ่งเท่านั้นไม่เคยมีสอง ไม่มีสองกับอัตตา ไม่มีสามกับอนัตตา

"อัตตา" ที่หลวงตามหาบัวพูดถึง ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา” = อัตตานุทิฏฐิ หรืออุปทาน สิ่งนี้เป็นความเข้าใจผิดของมนุษย์ทั่วโลกว่ามันเป็นอัตตา

ส่วนที่หลวงตามหาบัวพูดว่า  พระนิพพาน เป็นอัตตา ไม่สูญ หลวงตามหาบัวพูดชัด เป็นอัตตาไม่น่าจะผิด = อัตตาแท้ที่ระบุในอนัตตลักขณะสูตรว่า เป็นสิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา

อย่าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจเลยคุณarmageddon  

สรุป


"อัตตา" ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา” = อัตตานุทิฏฐิ หรืออุปทาน  อัตตาตัวนี้เป็นความเข้าใจผิดของมนุษย์ว่า ขันธ์ 5 หรือร่างกายของเรามีตัวตน  พระพุทธองค์จึงเปลี่ยนเรียกชื่อ "อัตตา" ที่เป็นอัตตานุทิฏฐิ ว่า  "อนัตตา"

ส่วน "อัตตา" ที่พระพุทธองค์ให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร = สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา

พูดง่ายๆ

-  สิ่งที่ไม่เป็นอมตะ  ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย = อนัตตา หรือ "อัตตา"เก๊ = อัตตานุทิฏฐิ  

-  สิ่งที่เป็นอมตะ  ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย =  "อัตตา" ที่พระพุทธเจ้าพูดถึงในอนัตตลักขณะสูตร

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 ธันวาคม 2553 11:10:32 โดย phonsak » บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 ธันวาคม 2553 18:17:26 »

สรุป


"อัตตา" ที่เป็นคู่กับ “อนัตตา” = อัตตานุทิฏฐิ หรืออุปทาน  อัตตาตัวนี้เป็นความเข้าใจผิดของมนุษย์ว่า ขันธ์ 5 หรือร่างกายของเรามีตัวตน  พระพุทธองค์จึงเปลี่ยนเรียกชื่อ "อัตตา" ที่เป็นอัตตานุทิฏฐิ ว่า  "อนัตตา"

ส่วน "อัตตา" ที่พระพุทธองค์ให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร = สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา

พูดง่ายๆ

-  สิ่งที่ไม่เป็นอมตะ  ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย = อนัตตา หรือ "อัตตา"เก๊ = อัตตานุทิฏฐิ 

-  สิ่งที่เป็นอมตะ  ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย =  "อัตตา" ที่พระพุทธเจ้าพูดถึงในอนัตตลักขณะสูตร

 

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน
บันทึกการเข้า
WangJai
นักโพสท์ระดับ 5
*****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 34


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.13 Firefox 3.0.13


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2553 00:47:08 »


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน


ใช้ พลศักดิ์ลักขณะสูตร ยืนยันกระต่ายขาเดียวไปก่อน


เราพลศักดิ์ เป็นผู้มีปัญญาและมองเห็นภัยในสังสารวัฏฏ์ เราเห็นพวกเธอนอนอยู่ในหลุมถ่านเพลิงแห่งความอยากรู้อยากเห็นในพุทธพจน์ของแท้แห่งตถาคตองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  แต่พวกเธอโดนมารปิดกั้นความรู้ในพุทธพจน์

เราเห็นพวกเธอหมดปัญญาเอาชนะเหล่ามารพวกนี้   เราจึงมาดับหลุมถ่านเพลิงแห่งความอยากรู้อยากเห็นของพวกเธอในพุทธพจน์ของแท้แห่งตถาคตองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และของเหล่าพระอรหันต์ต่างๆ

เราเขียนกระทู้มาเป็นร้อยเป็นพันกระทู้  มารหมดทางปราบเราได้แล้ว  ไล่เราออกจากเว็บไหนๆ  เราก็เข้าไปได้ใหม่เสมอ  แต่เราเห็นว่าความรู้ของเราสมควรเปิดกว้างไปในเว็บต่างๆให้ถ้วนทั่ว  เราจึงเลือกเข้าไปเล่นในเว็บเหล่านั้น

มารมาเจรจากับเรา  มาเปิดเว็บให้เราฟรี  เราไม่หลงกลมารหรอก

5555555


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น อยากบอกเสียจนหลุมถ่านเพลิง เผาตัวเอง

บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2553 01:04:52 »

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2553 01:12:35 »

armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น



อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 ธันวาคม 2553 01:24:19 โดย phonsak » บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2553 09:28:02 »

armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น



อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

ตอบว่า
แหกตาดูซะก่อนครับ
อนัตตลักขณะสูตร
พูดเรื่อง ขันธ์

ถ้าขันธ์ทั้งหลายเที่ยง ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา

นั่นเรียกว่า ปัญญาอ่อน

บันทึกการเข้า
WangJai
นักโพสท์ระดับ 5
*****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 34


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.13 Firefox 3.0.13


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2553 13:31:23 »

แล้วก็กรุณาแหกตาดูอีกทีนะ

armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน


ไ่ม่ได้ให้เอาคำพูดเพ้อเจ้อของร่างทรงองค์เก๊อย่างพลศักดิ์มานะ


ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า ควรเห็นกันจะๆ เลยว่า พลศักดิ์ ชอบสวมรอยขี้ตู่ว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้า

เห็นกันจะๆ เลยว่าพลศักดิ์ = ร่างทรงของเก๊ ปัญญาอ่อน พระพุทธเจ้าข้าาาา...
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2553 16:13:12 »

จุดที่ผมรับไม่ได้ในตัว phonsak นอกเหนือจากความแหกคอก

คือเรื่องอ้างเป็นร่างทรงนี่แหละ

แย่ว่ะไอ้คน ๆ นี้
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 17:10:11 »

armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น



อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

ตอบว่า
แหกตาดูซะก่อนครับ
อนัตตลักขณะสูตร
พูดเรื่อง ขันธ์

ถ้าขันธ์ทั้งหลายเที่ยง ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา

นั่นเรียกว่า ปัญญาอ่อน



อย่าด่าตัวเองว่า  ปัญญาอ่อนเลย  จริงๆคุณเป็นพวกฉลาดน้อย และแกล้งโง่ต่างหาก


อนัตตลักขณสูตร พูดเรื่องขันธ์ 5 ที่ไม่เที่ยง ทุกข์ แปรปรวน  และก็พูดถึงเรื่องขันธ์อีกประเภทหนึ่งซึ่งเที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวนด้วย

ต้องฝึกให้ได้ถึงขั้นเห็นขันธ์ 5 เป็นอนัตตา  แล้วจะเห็นว่า ธรรมขันธ์ หรือธรรมกาย ที่เป็นอายตนะนิพพาน นั้นเป็นอัตตาที่เที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวน

แกล้งโง่ต่อไปนะ  หรือว่าคุณเป็นบัวใต้น้ำลึกสุดวะนี้  จึงไม่มีทางเห็นธรรมจริงๆวะนี่

สมเด็จพระสังฆราช อริยวงศาคตญาณ (แพ ติสูรเทโว)


" สัตว์โลกยังมีอวิชชาจะเข้าใจว่าขันธ์ ๕ เป็นอัตตา เว้นเมื่อเข้าถึงอสังขตธาตุได้ความบริสุทธ์เป็นนิพพาน จะเข้าใจว่า ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาทันที แล้วจะเห็นว่าพระนิพพานเป็นอัตตา "
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 19:58:03 »

armageddon เขียน:

ไปหาหัวข้อ อัตตาลักขณะสูตร มายืนยันก่อน

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น



อัตตาในคำนิยามที่พระพุทธเจ้าได้ให้ไว้ในอนัตตลักขณะสูตร

ในอนัตตลักขณสูตร พระพุทธองค์ให้นิยามคำว่า "อัตตา" ไว้ชัดเจน

" ดูกรภิกษุทั้งหลาย....

ถ้ารูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) นี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)ว่า รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) รูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย "

สรุป

ถ้ามีรูป (เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ใด ที่ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสิ่งนั้นว่า ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถิด อย่าเป็นอย่างนี้เลย สิ่งนั้นก็เป็น "อัตตา"

และพระพุทธองค์ยังตรัสถามพระปัญจวัคคีย์ เพื่อสอบความเข้าใจด้วยว่า :

ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.

ตอนนี้เราจะถามท่านWangJai และท่านarmageddon ที่มีตัวเดียว แต่แปลงเป็น 2 ตัว ว่า:

ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?

ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ต้องตอบว่า : ข้อนั้น ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า

เมื่อไรที่ท่านมาร 2 ตัว ที่เป็นตัวเดียว  ตอบได้ดังนี้ ท่านก็พบและเข้าใจ อัตตาที่พระพุทธเจ้าให้นิยามไว้ในอนัตตลักขณะสูตร


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

ตอบว่า
แหกตาดูซะก่อนครับ
อนัตตลักขณะสูตร
พูดเรื่อง ขันธ์

ถ้าขันธ์ทั้งหลายเที่ยง ก็สิ่งใดเที่ยง ไม่เป็นทุกข์ ไม่มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา

นั่นเรียกว่า ปัญญาอ่อน



อย่าด่าตัวเองว่า  ปัญญาอ่อนเลย  จริงๆคุณเป็นพวกฉลาดน้อย และแกล้งโง่ต่างหาก


อนัตตลักขณสูตร พูดเรื่องขันธ์ 5 ที่ไม่เที่ยง ทุกข์ แปรปรวน  และก็พูดถึงเรื่องขันธ์อีกประเภทหนึ่งซึ่งเที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวนด้วย

ต้องฝึกให้ได้ถึงขั้นเห็นขันธ์ 5 เป็นอนัตตา  แล้วจะเห็นว่า ธรรมขันธ์ หรือธรรมกาย ที่เป็นอายตนะนิพพาน นั้นเป็นอัตตาที่เที่ยง ไมทุกข์ ไม่แปรปรวน

แกล้งโง่ต่อไปนะ  หรือว่าคุณเป็นบัวใต้น้ำลึกสุดวะนี้  จึงไม่มีทางเห็นธรรมจริงๆวะนี่

สมเด็จพระสังฆราช อริยวงศาคตญาณ (แพ ติสูรเทโว)


" สัตว์โลกยังมีอวิชชาจะเข้าใจว่าขันธ์ ๕ เป็นอัตตา เว้นเมื่อเข้าถึงอสังขตธาตุได้ความบริสุทธ์เป็นนิพพาน จะเข้าใจว่า ขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาทันที แล้วจะเห็นว่าพระนิพพานเป็นอัตตา "


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

เพราะเห็นนิพพานในขณะที่มียศสมณะศักดิ์อยู่
ก็เรียกว่าอัตตา ก็ถูกแล้วนี่ครับ
ถ้าหมดยศโลกธรรม แล้ว ก็จะเห็นนิพพาน เป็นนิพพาน อย่างเดียว เป็นหนึ่งเดียว

ไม่มีสองด้วยอัตตา ไม่มีสามด้วยอนัตตา

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น



บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2553 22:15:43 »

 ขำ ขำ ขำ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.611 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 05 เมษายน 2567 18:07:38