[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 11:37:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดประดู่ทรงธรรม สำนักตักศิลาพระเวทย์เมืองกรุงเก่า เขาอ้อแห่งอยุธยา  (อ่าน 9363 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
พัดลมเพดานหมุนติ้ว
นักโพสท์ระดับ 7
**

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 102


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 39.0.2171.95 Chrome 39.0.2171.95


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 ธันวาคม 2557 13:15:21 »

วัดประดู่ทรงธรรม สำนักตักศิลาพระเวทย์เมืองกรุงเก่า เขาอ้อแห่งอยุธยา



หลวงพ่อรอด(เสือ) วัดประดู่ทรงธรรม เป็นพระเกจิยุคเก่ามากของอยุธยา เก่ากว่าหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงพ่อจั่น วัดบางมอญ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล เสียอีก เป็นสุดยอดเกจิยุคแรกสุด ของอยุธยา สมัยเริ่มกรุงรัตนโกสินทร์

วัดประดู่ทรงธรรมเปรียบเสมือนกับ สำนักเขาอ้อของอยุธยา เป็นตักศิลาใช้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางด้านปริยัติธรรมและด้านปฏิบัติสมถกรรมฐาน การเล่นฤทธิ์ต่างๆ พร้อมทั้งเรียนวิธีการลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ และวิชาศิลปะ 20 ประการ ตำราพิชัยสงคราม มวยโบราณ กระบีกระบอง การต่อสู้ ตำรายาสมุนไพร ตำราพระคาถา และอักขระเลขยันต์และหลักธรรมคำสอนตามพระไตรปิฎก อีกทั้งสำนักวัดประคู่ทรงธรรมเป็นสถานที่ ประสาทวิชาแก่พระเกจิคณาจารย์เมืองกรุงเก่า

มีพระคณาจารย์ผู้เรืองวิชามากมาย ที่เรียนจากที่นี้ อาทิ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ (เหรียญท่าน เป็นอันดับ ๑ ของเบญจภาคีพระเหรียญไทย)
หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี (หนึ่งในพระที่จารตะกรุด แล้วหลอมไม่ละลายที่วัดปราสาท 2506 )
หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน จ.ราชบุรี (หนึ่งในพระที่จารตะกรุด แล้วหลอมไม่ละลายที่วัดปราสาท 2506 )
หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช (หนึ่งในพระที่จารตะกรุด แล้วหลอมไม่ละลายที่วัดปราสาท 2506 )
หลวงปู่ปลื้ม วัดสวนหงส์ จ.สุพรรณบุรี
หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี
หลวงพ่อใหญ่ วัดสะแก หลวงปู่ดู่ หลวงปู่สีห์ วัดสะแก อ.เฮง ไพรวัลย์
หลวงพ่อนาค วัดประดู่ทรงธรรม หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม เป็นต้น

วิชาที่ขึ้นชื่อของสำนักนี้ คือ วิชาการทำตะกรุด เป็นที่โด่งดังมาก ซึ่งต่อมาหลังจากเป็นที่รู้จัก ที่อื่นได้มีการสร้างตามมา อาทิ ตะกรุดมหาระงับ ตะกรุดมหารูด ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ตราธิราช ตะกรุดมหาพิชัยสงคราม ตะกรุดมหาละลวย ตะกรุดมหาอำนาจ ตะกรุดมหาปราบ เป็นต้น

แล้วก็วิชาการสร้างพระพรหม (รัศมีพรหม) พระพรหมที่มีราคาแพงที่สุด และนิยมที่สุดอยู่ที่ จ.อยุธยา หลวงปู่สีห์ วัดสะแก อ.เฮง ไพรวัลย์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ซึ่งสร้างตามตำราวัดประดู่ทรงธรรม

วิชายันต์นะฉัพพรรณรังสี ยันต์ประจำสำนักวัดประดู่ทรงธรรม (ยันต์ทีหลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ท่านได้เรียนจากนิมิต และต่อมาจึงนำมาเป็นยันต์ประจำตัว) เป็นวิชาเมตตามหานิยมชั้นสูง แคล้วคลาด คุ้มภัย

วัดประดู่ทรงธรรมถูกกล่าวถึงในพระราชพงศาวดาร ในคราวที่พระภิกษุสงฆ์ของวัดประดู่ทรงธรรม เพียงแค่ 8 รูป ได้ช่วยเหลือพา พระเจ้าทรงธรรมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา หลบหนีจากการก่อกบฏของพวกญี่ปุ่นที่หมายปลงพระชนม์ชีพออกมาอย่างง่ายดาย

ชื่อ หลวงพ่อรอด ( เสือ ) มีที่มาหลากหลาย สำหรับกระแสแรกนั้นเล่ากันทำนองว่า สาเหตุที่เรียก หลวงพ่อรอด ( เสือ ) ก็เพราะท่านมีชื่อเดิมว่า รอด แต่ดุอย่าง เสือ

อีกกระแสหนึ่งพอสรุปได้ว่า สาเหตุที่ได้ชื่ออย่างนั้นก็เพราะท่าน รอด ชีวิตจาก เสือ แต่เดิมนั้น หลวงพ่อรอด ( เสือ ) พำนักอยู่ วัดบาง หว้าใหญ่ หรือ วัดระฆัง ฝั่งธนบุรี ในเวลาต่อมา ก่อนที่ท่านจะมาปฏิสังขรณ์ วัดประดู่ (และ วัดโรงธรรม ) นั้น

หลวงพ่อรอด ( เสือ ) ได้จอดเรือเพื่อแวะพักค้างคืนที่ บ้านเสือข้าม ชาวบ้านในละแวกนั้นมาขอให้ย้ายไปจอดที่อื่น เพราะเกรงว่าหากถึงเวลาเสือข้ามฟากตอนดึกๆ อาจไม่ปลอดภัย แต่ หลวงพ่อรอด ( เสือ ) ไม่ยอมย้าย เมื่อท่านไม่ยอมทำตามคำขอร้องชาวบ้านที่ว่าจึงลากลับ โดยในระหว่างทางต่างพูดกันทำนองว่า หากย้อนมาในตอนเช้า หลวงพ่อรอด ( เสือ ) ยังอยู่ก็แสดงว่าเป็นพระดีมีวิชา แต่ถ้าถูกเสือกิน ก็ต้องเก็บซากศพเผาเอาบุญแล้วกัน ครั้นถึงตอนเช้าของวัน ต่อมากลับพบว่า ท่านนั่งหัวร่ออยู่ในเรืออย่างอารมณ์ดี เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้เรียกขานกันว่า หลวงพ่อรอด ( เสือ ) แต่นั้นมา

บางท่านก็ว่าหลวงพ่อรอด ท่านสำเร็จวิชาเสือสมิง

สันนิษฐานว่า หลังจาก กรุงศรีอยุธยา ถึงคราวต้องล่มสลาย วัดส่วนใหญ่ทั้งในและนอกเกาะเมืองล้วนไม่มีพระเณรพำนักพักพา เนื่องจากว่าต้องหลบหนีข้าศึกเช่นเดียวกับชาวบ้านทั่วไป ถึงจะไม่ถูกพม่าฆ่าฟันแต่ก็อาจ อดตายอยู่ดี เพราะหาคนที่จะใส่บาตรหรือถวายอาหารไม่ได้ ด้วยว่าส่วนใหญ่ต่างหนีภัยสงครามเอาตัวรอดกันทุกหมู่บ้าน หลวงพ่อรอด ( เสือ) ก็เช่นกัน

กล่าวคือ ท่านได้หลบหนีจาก วัดประดู่ ไปอยู่ วัดระฆัง หรือ วัดบาง (ห) ว้าใหญ่ สมัยนั้น อยู่ระยะหนึ่ง กระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ จึงได้ย้อนกลับมาปฏิสังขรณ์ วัดประดู่ และ วัดโรงธรรม (ซึ่งอยู่ใกล้กัน) ขึ้นใหม่ และได้ใช้ชื่อ วัดประดู่โรงธรรม เรื่อยมาตั้งแต่บัดนั้น โดยมีท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกตั้งแต่ต้นรัชกาลที่ ๑ จากหลักฐานทั้งหลาย อันได้แก่ พระนิพนธ์เรื่อง ความทรงจำ ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ


ที่มา:พระเกจิอยุธยา
ที่มาภาพ:holidaythai

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.604 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 02 เมษายน 2567 10:09:14