[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 05:27:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เขาวงกต มีที่มาอย่างไร?  (อ่าน 2925 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 21 มีนาคม 2558 09:05:03 »

.


เธซีอุสกับอารีแอดเน หน้าเขาวงกตของเดดาลุส

เขาวงกต

ได้ข้อมูลมาจากนิตยสารต่วย"ตูน เล่าถึง เขาวงกต หรือ Labyrinth ว่าคือพื้นที่ซับซ้อนซึ่งผู้ใดหลงเข้าไปแล้วยากจะหาหนทางกลับออกมา ที่มาของความเชื่อเรื่องเขาวงกตมาจากตำนานกรีกเรื่องหนึ่ง กล่าวถึง พระนางปาซิปาอี มเหสีของราชาไมนอส ถูกสาปให้ไปหลงรักวัวขาวที่สวามีของเธอไม่ยอมแก้บนบูชายัญ เทพโพไซดอน เจ้าแห่งทะเล ผลพวงของความรักต่างสปีชี่ ทำให้เกิดสัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งวัว เรียกกันว่า มิโนทอร์ (Minotaur) เจ้าตัวนี้ทำให้พระราชาแสนจะอับอาย เพราะมันประจานความผิดของพระองค์ว่าไม่รักษาสัญญา จึงจับเจ้าเด็กประหลาดขังไว้ในห้องเขาวงกต

กาลต่อมา เมื่อราชาไมนอสยกกองทัพไปตีเอเธนส์แล้วมีชัย พระองค์เรียกร้องบรรณาการเป็นหนุ่มสาวชาวเอเธนส์อย่างละ ๗ คนทุกปี เพื่อเอาไปให้มิโนทอร์รับประทาน เรื่องจบลงตรงที่ครั้งสุดท้าย วีรบุรุษเธสซีอุสเดินทางมาเป็นบรรณาการมีชีวิต เขาได้ฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนั้นด้วยกำลังมหาศาล และหาทางออกมาจากเขาวงกตด้วยอุบายกลุ่มด้ายที่อรีแอดนี่บอกให้

เรื่องนี้เล่าว่าเกิดเมื่อสี่พันกว่าปีก่อนบนเกาะครีตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นศูนย์กลางความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรม ไมโนอัน เป็นดินแดนที่มีวัฒนธรรมประเพณีและความมั่งคั่งมาก่อนกรีกหลายศตวรรษ ทว่าในท้ายที่สุดก็พบกับความพินาศล่มจมจากการที่เกาะธีรา (ปัจจุบันคือเกาะซานโครินี) เกาะสำคัญของแผ่นดิน ถูกคลื่นยักษ์จากแรงภูเขาไฟระเบิดถล่มสร้างความ เสียหายย่อยยับ อารยธรรมไมโนอันหายไปจากโลกนับแต่นั้น

ครีตไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลือนอกจากตำนานกษัตริย์ไมนอส และมิโนทอร์ สัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งวัวจอมตะกละในเขาวงกตใต้พระราชวัง แต่เมื่อเวลาผ่านมาถึงศตวรรษที่ ๒๐ เซอร์อาเธอร์ อีแวน ผู้หลงใหลตำนาน พลิกแผ่นดินเกาะครีต นำเมืองหลวง ชื่อ คนอสสอส สู่สายตา เขาพบซากเมืองขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับท่าเรือ เมื่อประมาณเอาจาก สิ่งก่อ สร้างที่หลงเหลือ คนอสสอสคงเคย มีพลเมืองถึง ๑๐๐,๐๐๐ คน และคงเป็นเมืองมั่งคั่งร่ำรวย โดยเฉพาะถ้าพิเคราะห์จากซากสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งโดดเด่นที่สุด เป็นอาคารเล่นระดับ มีห้องนับร้อย และมีบางส่วนอยู่ใต้ดิน ส่วนสมบูรณ์ที่สุดแสดงให้เห็นว่า ผนังมีการประดับตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกสีสดใส เป็นเรื่องราวชีวิตใน ท้องทะเลนางระบำ และการบูชาวัว เซอร์อีแวนและนักโบราณคดีหลายคนจึงสรุปเอาจากหลักฐานนี้ว่า ที่นี่ต้องเป็นพระราชวังของกษัตริย์

ผู้คนเชื่อถือเซอร์อีแวนอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง กระทั่งผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน ฮันส์ จอร์จ วันเดอลิช เสนอความเห็นว่าสิ่งที่เซอร์อีแวนพบไม่น่าจะใช่พระราชวัง แต่เป็นสุสานขนาดใหญ่มากกว่า เขาอ้างว่า ไหขนาดใหญ่ที่นักโบราณคดีพบ และคิดว่าเอาไว้สำหรับเก็บเมล็ดพืช น้ำมันและไวน์ ที่จริงน่าจะเป็นไหสำหรับใส่ศพ จากที่คนโบราณนิยมดองร่างไว้ด้วยน้ำผึ้ง ส่วนหินที่คิดว่าเป็นยุ้งก็น่าจะเป็นตัวสุสาน เช่นเดียวกับภาพเขียนที่คงไม่ได้มีไว้ตกแต่ง แต่น่าจะเป็นวิธีบอกวิญญาณถึงการเปลี่ยนภาวะไปสู่ชีวิตหลังความตาย

วันเดอลิชยืนยันว่า ที่นี่ต้องไม่ใช่พระราชวัง ด้วยเหตุที่ประการแรก สิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ในบริเวณป้องกันการรุกรานของศัตรูจากแผ่นดินได้ยาก ข้อสอง ไม่มีน้ำพอสำหรับคนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ที่นี่ ประการที่สามที่ร้ายที่สุด ไม่มีครัวและคอกม้าอยู่ตรงไหนเลย หรือว่าคนที่อยู่ที่นี่ไม่ต้องกิน ไม่ต้องเดินทาง เขายังเน้นด้วยว่า ห้องที่เชื่อกันว่าเป็นห้องสำหรับพระราชวงศ์หลายห้อง ชื้นแฉะไม่มีหน้าต่างและอยู่ต่ำกว่าพื้นดิน ใครหนอจะทนอุดอู้อยู่ใน ห้องอับไม่ออกมาชื่นชมธรรมชาติอันน่ารื่นรมย์ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไม่น่าจะใช่ที่ที่คนอยู่เลยจริงๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อคนอสสอสเผยโฉม ก็มีผู้ระบุว่า การออกแบบอาคารนี้ซับซ้อนเสียจนอาจหลงได้ง่ายๆ เช่น มีบันไดอยู่หลายอันในระยะใกล้กัน แต่กลับเชื่อมห้องต่างๆ ในต่างชั้น มีเฉลียงหลายที่ที่นำจากลานแห่งหนึ่งไปสู่ทางเลี้ยวและหักมุม รวมถึงห้องที่สร้างไว้อย่างแปลกๆ ความซับซ้อนชวนงงเช่นนี้อาจเป็นรากฐานความเชื่อเรื่องเขาวงกตได้ไม่ยากเลย
...ที่มา นสพ.ข่าวสด

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ตุลาคม 2558 11:19:53 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.226 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 08 เมษายน 2567 05:09:19