19 เมษายน 2567 18:52:27
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
กระบวนการ NEW AGE
.:::
ความทรงจำนอกมิติ : โลกกับแผ่นดินไหว-ทำไมถึงถี่และรุนแรงจัง?
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ความทรงจำนอกมิติ : โลกกับแผ่นดินไหว-ทำไมถึงถี่และรุนแรงจัง? (อ่าน 1699 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5064
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
ความทรงจำนอกมิติ : โลกกับแผ่นดินไหว-ทำไมถึงถี่และรุนแรงจัง?
«
เมื่อ:
15 มีนาคม 2553 07:44:06 »
Tweet
<CENTER>
</CENTER>
พืชพันธุ์ป่าไม้กับสัตว์โลกทั้งหลายจำนวนมาก รวมทั้งมนุษย์เรา-ที่มาทีหลังเพื่อน-ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินของโลกในวันนี้ ในตอนแรกล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่าเราอยู่บนแผ่นดินแผ่นหินเปลือกโลก (crust) ที่สุดแสนจะบางมากเพียงประมาณ 10-40 กิโลเมตร ลิทโธเสฟียร์ (lithosphere) คือเปลือกโลกที่เป็นหินเป็นภูเขาจะมีความหนามากกว่านั้นเล็กน้อย คือหนาประมาณ 0-60 กิโลเมตร นั่น-เมื่อเทียบกับขนาดของโลกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึงราวๆ 12,000 กิโลเมตร แถมที่สำคัญ แผ่นดินแผ่นหินดังกล่าวยังไหลเลื่อนเคลื่อนที่ตลอดเวลา เนื่องจากการที่มันลอยบนของเหลวที่ร้อนจัด โดยเคลื่อนที่ช้ามากเพียงหนึ่งนิ้วต่อปีไปทางทิศเหนือและทิศตะวันตก เพราะโลกเราหมุนรอบตัวเองไปรอบๆ ดวงอาทิตย์แบบทวนเข็มนาฬิกา จริงๆ แล้วสถิติจะบอกเราว่า ทั่วทั้งโลกจะมีแผ่นดินสั่นไหวน้อยๆ โดยสังเกตไม่รู้ไม่เห็นในทุก 30 วินาที แต่จะมีขนาดใหญ่ที่รุนแรงราวๆ 4-5 มาตรของริกเตอร์ขึ้นไปประมาณ 15-20 ครั้งต่อปี แต่แทบทั้งหมดจะมีความรุนแรงอยู่แค่นั้น แต่ในระยะหลังๆ มานี้โลกเรามีแผ่นดินไหวจริงๆ ถี่ขึ้นกว่านี้ และที่สำคัญอย่างยิ่ง ในส่วนที่ใหญ่กว่าจะมีความรุนแรงมากว่าก่อนหน้านี้มากนัก เฉพาะปีนี้ปีเดียวและเพิ่งผ่านไปสองเดือนเศษๆ เท่านั้น โลกเราได้มีแผ่นดินไหวตั้งแต่ร่วม 6 มาตรของริกเตอร์ไปแล้วถึงแปดครั้ง รวมทั้งที่ไต้หวัน-ตุรกีซึ่งมีขนาดราวๆ 6-7 มาตรของริกเตอร์ มีสองครั้งที่มีขนาดใหญ่เกินกว่า 8.5 ริกเตอร์สเกล
ริกเตอร์สเกล หรือมาตรวัดของชาร์ลส์ ริกเตอร์ นั้น เป็นมาตรที่เราใช้วัดความหนักหน่วงรุนแรง (magnitude) ของแผ่นดินไหว จริงๆ แล้วมาตรของริกเตอร์สเกลนี้จะมีแค่ 9 สเกลเท่านั้น แต่แผ่นดินไหวที่ไหนที่มีขนาดหนักเกินกว่า 9 มาตรของริกเตอร์ เราจะถือว่าเกินมาตรปกติของแผ่นดินไหวของริกเตอร์ บางคนจึงคิดว่าริกเตอร์สเกลมี 10 ระดับ ผู้เขียนถึงได้คิดว่าเพื่อให้จำง่าย ทั้งสมัยก่อนไม่ค่อยพบกัน ที่รู้มาก็มีเพียงครั้งเดียวที่ชิลีเหมือนกันในปี 1960 ขนาด 9.7 ริกเตอร์ และก็ที่สุมาตราในมาตรที่ไม่น้อยกว่ากันเท่าไหร่ ซึ่งได้ก่อสึนามิที่ชายฝั่งทะเลอันดามันที่บ้านเรา และมีคนตายไปหลายหมื่นคนเมื่อปลายปี 2004 บางคนที่ว่าจึงนับให้ริกเตอร์สเกลมีทั้งหมดเป็น 10 ระดับเสียเลย อีกอย่างหนึ่งต่อนี้ไปดูจากปริมาณแผ่นดินไหวที่มีถี่ขึ้นและจะรุนแรงหนักขึ้นดังที่สถิติมันบอก แผ่นดินไหวจึงมีแต่หนักหน่วงขึ้น ฉะนั้นต่อไปนี้ระดับริกเตอร์สเกลที่มีเพียง 9 หรือ 8 ระดับด้วยซ้ำคงจะไม่พอ อนึ่ง-ดังที่ผู้เขียนได้เขียนมาแล้วว่า อาจจะมีการย้ายขั้วโลกจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (ซึ่งเคยมีมาแล้วหลายครั้งในอดีต) และอาจจะเกิดอีกเมื่อไรก็ได้หรือเร็วๆ นี้ก็ได้ ระดับของริกเตอร์สเกลนั้น แต่ละระดับจะมีความหนักหน่วงรุนแรงนับเป็น 10 เท่าของระดับที่ต่ำกว่าเสมอไป พูดง่ายๆ ให้เอา 10 ไปคูณกับระดับที่มีความหนักหน่วงรุนแรงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหนึ่งระดับ ฉะนั้นระดับ 6 อาจจะยกตึกขนาดหลายหมื่นตันได้อย่างสบายๆ แต่ขนาด 7 จะให้พลังงานถึง 10 เท่าของระดับ 6
การย้ายที่ของแผ่นดินแผ่นหินของเปลือกโลก (lithosphere) นั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลกเรา เพียงแต่เรายังไม่รู้ว่าแผ่นดินไหวและมหาสมุทรไหวมันเกิดได้อย่างไร? เรารู้แต่สิ่งที่ตามองเห็นหูได้ยินเท่านั้น มิน่าเราถึงเชื่อแต่สิ่งที่อวัยวะสัมผัสบอกเราเท่านั้น เราอยู่กับทฤษฎีกับเหตุผลที่เราใช้ความคิดคิดขึ้น ความรู้ที่เรามีทั้งหมด ครึ่งหนึ่งจึงเป็นความเชื่อที่เชื่อตามๆ กันมาและเราคิดว่ามีเหตุผล อีกครึ่งหนึ่งถึงเป็นความรู้ที่เรารู้จริงๆ เพราะเราเห็นหรือได้ยินหรือสัมผัสได้ และเป็นความจริงทางโลกเท่านั้น เพราะฉะนั้น ปฐพีวิทยา เรื่องของโลก เรื่องของดินของหินนั้น ก็เช่นเดียวกับความรู้ทั้งหลาย คือครึ่งหนึ่งเราไม่รู้ ครึ่งหนึ่งเรารู้เพราะตาเราเห็น เช่นรู้เพราะเชื่อตามที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่า 99% ของธาตุที่ประกอบเป็นแผ่นเปลือกโลกนั้นมีอยู่สิบธาตุเท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าเปลือกโลกมีขึ้นมาอย่างไร ทวีปหรืออเมริกาและประเทศไทยเรามีมาอย่างไร? ทั้งหมดเป็นแค่ทฤษฎีที่ไม่มีข้อพิสูจน์ตลอดกาล อยู่ที่ใครเชื่อมากน้อยเพียงใด หรือมีเหตุผลที่เราสมควรเชื่อตามหรือไม่?
ฉะนั้น ทฤษฎีแผ่นเปลือกโลก (plate tectonic theory) ที่มีขนาดใหญ่มากๆ 6 แผ่น และมีขนาดเล็กย่อยๆ อีกสิบกว่าแผ่น (ซึ่งเกิดจากการแตก-เบียดเสียดกันที่รอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกแผ่นใหญ่ที่ว่านั้น) ในปัจจุบันนี้ด้วยเหตุผลใดไม่ปรากฏ แต่นักปฐพีวิทยาบางคนคาดกันว่า เป็นธรรมชาติของโลกที่แผ่นเปลือกโลกใหญ่ๆ จะต้องย้ายเร็วขึ้นเป็นวัฏจักรของมัน และแผ่นเปลือกโลกแผ่นใหญ่ที่มีหกแผ่นนั้น ขณะนี้บางแผ่น เช่น แผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกได้มีการย้ายที่มีอัตราเร่งที่เร็วขึ้นมาก และนี่เองอาจอธิบายการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศชิลี ขนาด 8.7 มาตรของริกเตอร์ ที่น้อยกว่าแต่มีจุดศูนย์กลาง (focus) ที่ลึกกว่าแผ่นดินไหวเมื่อปี 1960 ที่มีความรุนแรงถึง 9.6 ริกเตอร์สเกล แต่การไหวที่ประเทศชิลีเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ถึงกับทำให้แกนโลกเอียงไปทางตะวันตกถึง 8 ซม. (ซึ่งได้เคยมีรายงานมาแล้ว (Sciencetific American, 1996 ว่าเพราะน้ำที่กักเอาไว้ที่เขื่อนฮูเวอร์ ทำให้การหมุนรอบตัวเองของโลกฉุดให้แกนโลกต้องเอียงไปทางทิศตะวันตกก่อนหน้านี้อยู่แล้วถึงสามนิ้ว เพราะฉะนั้นแกนโลกหรือขั้วโลกเหนือในขณะนี้ เดี๋ยวนี้ได้ย้ายไปทางทิศตะวันตกไปแล้ว รวมกันประมาณ 15.5 ซม.) หากเกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณทวีปอเมริกาใต้หรือบริเวณแอฟริกาใต้สุดอีก และหากแผ่นดินไหวนั้นมีจุดที่ปล่อยพลังงาน (focus) ลึกใต้ผืนดินไปเยอะๆ หรือไม่ก็แผ่นดินไหวในทวีปแอนตาร์กติกเอง ก็อาจทำให้มีการย้ายขั้วโลกได้ การย้ายขั้วโลกเหนือไปมากๆ อาจจะก่อความล่มสลายหายนะให้กับสัตว์โลก รวมทั้งมนุษยชาติด้วยอย่างรุนแรง ยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มฮิโชิมาและนางาซากิระเบิดพร้อมๆ กันนับแสนนับล้านลูกทีเดียว
อย่าลืมว่าการหมุนรอบตัวเองของโลกและแกนโลกนั้น ให้เรานึกถึงลูกข่างที่กำลังหมุนติ้วๆ อยู่ตลอดเวลา และฐานของมันหรือปลายล่างสุดของลูกข่างที่หมุนกับพื้น หรือทวีปแอนตาร์กติกหรือแอนตาร์กติกานั้น เป็นเทือกเขาสูงเหมือนเทือกเขาแอลป์ในยุโรป แถมยังมีน้ำแข็งปกคลุมบางแห่งที่หนาถึงสี่กิโลเมตร เราพอนึกภาพออกว่าขั้วโลกใต้มันแน่นหนาและหนักเพียงไร นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่ามันหนักและไม่เปลี่ยนแปลงมากเลย มาตั้งแต่มีแผ่นดินแผ่นหินที่ก่อประกอบเป็นทวีปกอนดาวันแลนด์ ทวีปดึกดำบรรพ์ที่รวมทวีปทั้งหมดของโลกไว้-รวมทั้งทวีปแอนตาร์กติกเอง-เมื่อประมาณ 600 ล้านปีก่อน เพราะฉะนั้น ฐานของลูกข่างหรือขั้วโลกใต้จึงน่าจะไม่ย้ายตำแหน่งเลยมาตั้งแต่ต้น ตรงกันข้ามกับขั้วโลกเหนือที่เคยย้ายที่มาแล้วถึง 200 ครั้งในกว่า 600 ล้านปีก่อน หรืออย่างน้อย 16 ครั้งในระยะหลังหรือไม่กี่ล้านปีมานี้ (Charles Hapgoods: Paths of the Pole, 1970) ที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เขียนคำนำให้และยกย่องแฮปกูดไว้เป็นพิเศษในหนังสือเรื่องเดียวกันที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านั้น ก่อนที่ไอน์สไตน์จะเสียชีวิตในปี 1955 แฮปกูดบอกว่าการย้ายที่ของขั้วโลกเหนือนั้นในทุกๆ ครั้งจะย้ายไม่เกิน 30 ดีกรี หรือ 2,000 ไมล์ (3,200 กิโลเมตร)
ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง มีอยู่อีกสองประเด็นที่ชาร์ลส์ แฮปกูด คิดจากการที่ตนค้นคว้ามา นั่นคือ หนึ่งการย้ายขั้วโลก (เหนือ) มักจะเกิดพร้อมๆ กับการเกิดธารน้ำแข็ง หรือทิศทางไหลของเกลซิเอชัน (glaciation) และการเกิดยุคน้ำแข็งที่เกี่ยวข้องกับการลดต่ำของสนามแม่เหล็กโลก (geomagnetics or magnetosphere) และการเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศ สอง-การย้ายขั้วโลกซึ่งความจริงก็คือการย้ายแผ่นเปลือกโลกทั้งหมดเลย ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นวันๆ แต่จะกินเวลานานหลายปีหรือบางทีนับร้อยๆ ปี แต่เมื่อการย้ายแผ่นเปลือกโลกได้เกิดขึ้นแล้ว ก็จะมีอัตราเร่งเกิดขึ้นมากโดยเราไม่มีทางรู้ตัวเลย หลักฐานที่ชาร์ลส์ แฮปกูด ใช้คือ การใช้การสลายตัวของกัมมันตภาพรังสีของคาร์บอนและไอโอเนียม (radioactive carbon and ionium) ด้วยการตรวจของทั้งสองประการ แฮปกูดบอกว่าด้วยหลักฐานดังกล่าว เขาคิดว่าขั้วโลก (เหนือ) ในตำแหน่งที่เรารู้ว่าอยู่ในตำแหน่งของมันในปัจจุบันนี้นั้น ก่อนหน้านี้เมื่อราวๆ 18,000 ปีก่อน มันได้เริ่มย้ายจากตำแหน่งที่มันเคยอยู่ (ที่กรีนแลนด์) มาอยู่ที่อ่าวฮัดสันซึ่งต่ำกว่าตำแหน่งในปัจจุบันมาก คืออยู่ระหว่างเส้นแวงที่ 60 องศาเหนือ และเส้นรุ้งที่ 87 องศาตะวันตก ซึ่งในตอนนั้นเป็นเวลาที่ธารน้ำแข็งของอเมริกาเหนือเกิดมีมากที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่อากาศหนาวจัดที่สุดของยุคน้ำแข็ง (ซึ่งเริ่มราวๆ 90,000 ปีก่อน และน้ำทะเลที่แข็งได้ทำให้มีทางเดินบนพื้นดินสูงถึง 400 ฟีต เชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปอเมริกาเหนือที่อะแลสกาพอดี)
ยุคน้ำแข็งไม่ว่าใหญ่หรือเล็กเป็นคนละเรื่อง หรือมีคนละเหตุปัจจัยกับภาวะโลกร้อนที่เป็นฝีมือของมนุษย์กับเทคโนโลยี และระบบเศรษฐกิจทุนนิยมการตลาดเสรี ในขณะที่ยุคน้ำแข็ง-ไม่ว่าจะมีการย้ายขั้วโลก (เหนือ) หรือไม่?-เป็นเรื่องของวัฏจักรธรรมชาติ และยุคน้ำแข็งนั้นนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสัมพันธ์กับจุดดำในดวงอาทิตย์ (sun spots) และการหายไปของแมกนีโตสเฟียร์ของโลก ซึ่งทั้งสองกรณีก็กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้พอดี แถมเรื่องของแผ่นดินไหวที่มีทั้งถี่ขึ้นและรุนแรงหนักหน่วงยิ่งขึ้น จากการย้ายแผ่นเปลือกโลกแผ่นใหญ่ที่มีหลายๆ จุดและหลายๆ แผ่นด้วย เราไม่รู้ว่าแผ่นดินไหวใหญ่จริงๆ และการย้ายแผ่นเปลือกโลกพร้อมๆ กันทั้งหมดหรือแผ่นใหญ่ๆ เพียงบางส่วน อันเป็นสาเหตุของการย้ายตำแหน่งของขั้วโลกเหนือ-ที่ชาร์ลส์ แฮบกูด บอกว่าการย้ายที่แต่ละครั้งจะมีไม่เกิน 30 ดีกรี และไม่เกิน 2,000 ไมล์ที่ได้กล่าวมา แล้วจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่? เพราะธรรมชาตินั้นเราจะทำนายอย่างเป๊ะๆ ไม่ได้เลย ไม่เหมือนกับภาวะโลกร้อนที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ อย่างน้อยก็มากกว่าครึ่งหนึ่งที่บอกได้บ้าง เช่นเมื่ออุณหภูมิของโลกในเทมเพอเรตโซน (ยุโรปและตอนเหนือของสหรัฐอเมริกากับแคนาดา) เกินกว่า 5 องศา และก๊าซคาร์บอนในบรรยากาศเกินกว่า 390-400 ppm ซึ่งกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ผู้เขียนคาดว่า-ตรงตามคำสัมภาษณ์ที่ให้กับหนังสือพิมพ์การ์เดียนเมื่อปีที่แล้วของนักวิทยาศาสตร์ใหญ่อังกฤษ เจมส์ ลัฟล็อก เพียงย่นเวลามาใกล้ๆ อีกสักหน่อย-โลกเราจะมีมนุษย์เหลืออยู่ไม่ถึง 20% ทั่วทั้งโลก ที่เกิดขึ้นเพราะภาวะโลกร้อนและน้ำท่วมโลก
ผู้เขียนคิดเอาเอง และเป็นไปได้ที่อาจจะคาดหมายว่าภัยธรรมชาติอันนี้คงจะมาก่อน และที่จะมาทีหลังระยะใกล้ๆ นั้น คือแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยมีมา จะเกิดทวีปอเมริกา (ใต้หรือเหนือ) พร้อมๆ กันนั้นก็จะมีการย้ายแผ่นเปลือกโลก ที่จะทำให้เกิดการย้ายตำแหน่งของขั้วโลกเหนือไปทางทิศตะวันตก ประเทศไทยจะย้ายที่ไปทางทิศเหนือกับตะวันตก จะเข้าไปใกล้ๆ ขั้วโลกเหนือที่ตำแหน่งใหม่อีกนับเป็นพันๆ กิโลเมตรทีเดียว บวกกับยุคน้ำแข็งที่จะมาถึงพร้อมๆ กันนั้น เนื่องจากการหายไปของจุดดำของดวงอาทิตย์ (Maunder minimum) จึงอาจมีหิมะตกได้ดังที่อาจารย์อาจอง ชมสาย ณ อยุธยา ทำนายไว้.
http://www.thaipost.net/sunday/140310/19303
บันทึกการเข้า
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
ความทรงจำนอกมิติ : รูป นาม วิญญาณกับจักรวาลวิทยา
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก
0
2464
21 กุมภาพันธ์ 2553 14:00:45
โดย
มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : ประวัติศาสตร์คือบันทึกความสัมพันธ์ของดินกับฟ้า
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก
0
2050
05 เมษายน 2553 08:47:42
โดย
มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : ทฤษฎีรวมแรงทั้งหมดกับพุทธศาสนา
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก
0
1995
18 เมษายน 2553 17:16:25
โดย
มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : มนุษย์กับโลกไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวเดียวดาย
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก
0
2047
03 พฤษภาคม 2553 08:42:23
โดย
มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : ถึงเวลาที่ต้องยุติระบบต่างๆ ทางสังคมที่ผิด
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก
0
7156
03 มิถุนายน 2553 08:32:19
โดย
มดเอ๊ก
กำลังโหลด...