[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 15:26:10 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำเสน่ห์ยาแฝดพระปิ่นเกล้าฯ  (อ่าน 1661 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2304


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 02 สิงหาคม 2558 05:10:43 »


พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทำเสน่ห์พระปิ่นเกล้าฯ
จนมีโอรสธิดา ๑๒ พระองค์

        พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระอนุชาร่วมครรภ์พระราชชนนีกับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ และได้รับพระราชทานบวรราชาภิเษก ให้มีเกียรติเสมอด้วยเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒ ในนามบัตรของพระปิ่นเกล้าฯ ซึ่งเป็นของใหม่นำสมัยในยุคนั้น พิมพ์พระอิสริยยศไว้ว่า “Second King of Siam
      
       พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ไม่มีอัครมเหสี คงมีแต่พระสนม และพระสนมเอกที่ทรงยกย่องให้เป็นหัวหน้าของบรรดาพระสนมทั้งหลาย ก็คือ เจ้าคุณจอมมารดาเอม ซึ่งเป็นพระชนนีของกรมหมื่นบวรวิไชยชาญ วังหน้าในรัชกาลที่ ๕
      
       เจ้าจอมมารดาอีกคนหนึ่งซึ่งทรงโปรดปรานไม่น้อยกว่ากันก็คือ เจ้าจอมมารดากลีบ ซึ่งมีพระราชโอรสและพระราชธิดาถึง ๑๒ พระองค์
      
       การที่เจ้าจอมคนหนึ่งมีพระราชโอรสพระราชธิดาถึง ๑๒ พระองค์นั้น ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทรงโปรดปรานมากแค่ไหน
      
       แต่แล้วมีผู้มากระซิบกราบทูลว่า เจ้าจอมมารดากลีบซึ่งรับหน้าที่คุมห้องเครื่องเสวย ทำเสน่ห์ยาแฝด จึงได้โปรดฯให้พระยาพิไชยบุรินทรา พระยามณเฑียรบาล ตระลาการในบวรพระราชวัง ไต่สวนชำระความ คณะตระลาการเห็นว่าเรื่องนี้พระบาทสมเด็จปิ่นเกล้าฯไม่ทรงเชื่อถือมากนัก จึงชำระความไปพอเป็นพิธี ไม่ได้ไต่สวนจริงจังนัก แต่หลังการไต่สวนก็โปรดฯให้เจ้าจอมมารดากลีบพ้นจากหน้าที่ห้องเครื่อง ให้ พระยาราชโยธามาคุมแทน ส่วนเครื่องเสวยก็ให้ผู้ชายทำทั้งหมด ป้องกันมิให้มีเรื่องนินทาเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
      
       ต่อมาทรงประชวรเสวยพระกระยาหารไม่ได้ เหล่าข้าราชบริพารหลายคนจึงกราบทูลเสนอให้เจ้าจอมมารดากลีบกลับเข้ามาทำเครื่องเสวยใหม่ โดยมีพระยาพิไชยบุรินทรา หลวงเสนาพลสิทธิ์ หลวงเพ็ชรชลาลัย จมื่นศรีบริรักษ์ จ่าการประกอบกิจ ท้าวพิพัฒนโภชา พร้อมด้วยนางแย้ม ผู้ช่วย และนางขำ ภรรยาพระพรหมภิบาล (เสม) เข้าชื่อกันค้ำประกันว่า
      
       ถ้าเจ้าจอมมารดากลีบทำเสน่ห์ยาแฝดในครั้งที่แล้ว หรือกลับมาทำใหม่ครั้งนี้ ก็ขอให้เอาโทษผู้เป็นนายประกันเหล่านี้ถึงชีวิตด้วยกันทุกคน
      
       พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จึงรับสั่งให้เจ้าจอมมารดากลีบกลับเข้ามาคุมห้องเครื่องทำพระกระยาหารให้เสวยตามเดิม
      
       พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯก็ยังคงประชวรไม่หาย วันหนึ่งเจ้าจอมมารดากลีบทำก๋วยเตี๋ยวน้ำให้เจ้าพนักงานนำไปตั้งถวาย ทรงเสวยได้ ๒ ฉลองพระหัตถ์(ช้อน) ก็ทอดพระเนตรเห็นขนเส้นหนึ่งอยู่ในชามก๋วยเตี๋ยว จึงเกิดความคลางแคลงพระทัยขึ้นมาอีก
      
       ในเดือนต่อมา เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯเสด็จมาเยี่ยมอาการประชวรของพระอนุชา พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯจึงกราบบังคมทูลเรื่องพบขนในชามก๋วยเตี๋ยว และสงสัยว่าเจ้าจอมมารดากลีบจะทำเสน่ห์ยาแฝด อันเป็นสาเหตุของการประชวรเนิ่นนานไม่ทุเลานี้ ขอรับพระราชทานข้าทูลละอองในพระบรมมหาราชวังเป็นตระลาการชำระให้ได้ความจริงด้วย เพราะข้าราชบริพารในวังหน้าไต่สวนเรื่องนี้มาแล้วไม่ได้ผล
      
       พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯดำรัสให้ พระยามณเฑียรบาล พระยาอนุชิตชาญไชย พระยาบริรักษ์ราชา พระยาอัษฎาเรืองเดช พระพรหมภิบาล พระพรหมสุรินทร์ เป็นตระลาการชำระความ และจากการไต่สวนครั้งใหม่ คณะตระลาการวังหลวงก็ลงความเห็นว่า เจ้าจอมมารดากลีบทำเสน่ห์ยาแฝดจริง โดยมี อ้ายช้าง อ้ายขนานแดง อ้ายโสม เป็นหมอเสน่ห์ เหล่าลูกขุนจึงปรึกษาโทษว่า เจ้าจอมมารดากลีบมีพระองค์เจ้าถึง ๑๒ พระองค์ ไม่มีความกตัญญูรู้พระเดชพระคุณ มาคิดทรยศกับอ้ายช้าง อ้ายขนานแดง อ้ายโสม ผู้เป็นครู พร้อมทั้งอีน้อย อีแย้ม อีขำ จ่าการประกอบกิจ ซึ่งเป็นญาติ รู้เห็นร่วมกัน ๘ คน ให้ริบราชบาทว์ลงพระราชอาญาเฆี่ยนแล้วให้นำไปประหารชีวิตเสีย ส่วนพระยาไชยบุรินทรา จมื่นศรีบริรักษ์ หลวงเสนาพลสิทธิ์ ผู้เป็นนายประกันนั้น ทำไปตามพระอัธยาศัย ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วย ให้ถอดเสียจากตำแหน่ง ลงพระราชอาญาส่งไปจำคุก ส่วนอ้ายจันชุม อียา อีอ่วม อีสุด อีป้อม อีก้อน อีแก้ว อีหนู ไม่ได้เป็นบ่าวทาส แต่มาอาสารับใช้เจ้าจอมมารดากลีบและรู้เห็นด้วย ให้ลงพระราชอาญาเฆี่ยนแล้วส่งไปจำคุก คนที่เป็นปลายเหตุก็ให้ส่งไปใช้แรงงานตามโรงสี
      
       เมื่อคณะลูกขุนปรึกษาโทษกันแล้ว พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ประชวรทรุดหนักลงจนสวรรคตในวันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม ปีฉลู พ.ศ.๒๔๐๘ หลังจากที่ประชวรเรื้อรังมาถึง ๕ ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จึงทรงคลางแคลงพระทัยว่า เรื่องที่เจ้าจอมมารดากลีบทำเสน่ห์นี้คงจะไม่ใช่เป็นเรื่องจริง และไม่ได้เกี่ยวกับอาการประชวรของพระอนุชา จึงทรงพระราชหัตถ์เลขาให้งดโทษประหารไว้ทั้งหมด เนรเทศเจ้าจอมมารดากลีบ อีแย้ม อีขำ ให้ไปอยู่เมืองสุโขทัย อ้ายโสม อ้ายช้าง อ้ายขนานแดง หมอเสน่ห์ นั้นให้ส่งไปเข้าคุก
      
       ส่วนพระพิไชยบุรินทรา หลวงเสนาพลสิทธ์ จมื่นศรีบริรักษ์ นายประกัน ก็ให้ปล่อยตัวพ้นโทษไป แต่มิได้ให้กลับเข้ารับราชการอีก



พระแท่นบรรทมพระปิ่นเกล้าฯ


นามบัตรพระปิ่นเกล้าฯ



เรื่องเก่าเล่าสนุก ผู้จัดการ Online

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.451 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 27 มีนาคม 2567 11:58:01