[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 07:41:43 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตำนานเครื่องดื่ม "น้ำอัดลม"  (อ่าน 2895 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2325


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 พฤษภาคม 2558 17:35:25 »

.

เปิดตำนานเครื่องดื่ม "น้ำอัดลม"


โรงงานผลิตน้ำส้มไบเล่.

อากาศร้อนๆ อย่างนี้เราหาเรื่องเย็นใจมาคุยกันดีกว่าครับ ถ้าพูดถึงของเย็นๆ ใกล้ตัวไว้ดับกระหายคลายร้อนก็คงต้องนึกถึงน้ำเย็นเป็นอันดับแรก ยิ่งถ้าได้น้ำผลไม้เย็นเจี๊ยบมาดื่มดับร้อนก็จะยิ่งชื่นใจกว่าน้ำเปล่าหลายเท่าตัว

ทุกวันนี้เราดื่มน้ำผลไม้และเครื่องดื่มหลากรสกันได้อย่างสะดวกสบาย เพราะมีใส่ขวดวางขายอยู่ทุกหนทุกแห่ง เห็นแล้วก็ทำให้สงสัยใคร่รู้ถึงความเป็นมาของเครื่องดื่มบรรจุขวดเหล่านี้ว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้นมีที่มาอย่างไร คิดได้ดังนั้นแล้วไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูนก็รีบไปค้นข้อมูลมาให้แฟนานุแฟนได้อ่านคลายร้อนกันทันทีเลยครับ

เครื่องดื่มประเภทที่ฝรั่งเรียกกันว่าซอฟท์ดริ๊งค์ (Soft Drink) หรือเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ของมึนเมานั้นมีการผลิตเพื่อจำหน่ายกันมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 โดยเครื่องดื่มที่มีขายเป็นชนิดแรกๆ ในยุโรปก็คือน้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง มีหลักฐานบันทึกว่าในปี 1676 มีบริษัทที่ได้รับสิทธิ์ผูกขาดการขายน้ำมะนาวในปารีส โดยพนักงานขายจะแบกถังน้ำมะนาวไว้บนหลังแล้วเดินเร่ขายให้แก่ผู้คน

เครื่องดื่มอีกชนิดที่นิยมกันมากในยุคนั้นคือน้ำแร่ธรรมชาติซึ่งเชื่อกันว่าดีต่อสุขภาพ ต่อมามีการค้นพบว่าฟองและรสซาบซ่าของน้ำแร่นั้นเกิดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงได้มีการผลิตน้ำคาร์บอเนต (Carbonated water) ขึ้นในห้องทดลอง และต่อมาก็ได้ผลิตออกจำหน่ายที่อังกฤษในชื่อของน้ำโซดา (Soda water)




ซึ่งต่อมาก็มีผู้ที่นำกรรมวิธีทำน้ำโซดาไปพัฒนาปรุงแต่งกลิ่นรสจนกลายเป็นเครื่องดื่มชนิดอื่นๆออกมาอีกมากมาย เช่น “โคคา-โคลา” หรือที่คุ้นปากคุ้นหูชาวไทยเราในชื่อ “โค้ก” ซึ่งมีกำเนิดในปี ค.ศ. 1886 โดย ดร.จอห์น เพมเบอร์ตัน (Dr.John Pemberton) เภสัชกรร้านขายยา เจคอบ ฟาร์มาซี ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ดร.จอห์นได้คิดค้นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยปรุงแต่งกลิ่นรสด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกในภายหลัง สีน้ำตาลเข้มเกือบดำของเครื่องดื่มชนิดนี้มาจากสีของคาราเมลหรือน้ำตาลที่เคี่ยวจนเหนียวข้น สำหรับเครื่องดื่มสีเข้มอีกยี่ห้อที่เป็นคู่แข่งกันมายาวนานอย่าง “เป๊ปซี่” ก็มีกำเนิดคล้ายคลึงกัน คือคิดค้นโดยเภสัชกรร้านขายยา นามว่า คาเลบ ดี แบรดแฮม (Caleb D. Bradham) ในเมืองนิวเบิร์น รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ในปี 1898 โดยในยุคแรกนั้นมีสโลแกนว่า “สดชื่น มีชีวิตชีวา และช่วยย่อยอาหาร” กล่าวกันว่าชื่อเป๊ปซี่นั้นแผลงมาจาก เป๊ปซิน (Pepsin) ซึ่งก็คือชื่อน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของเรานั่นเอง

เครื่องดื่มบรรจุขวดระดับตำนานอีกชนิดที่ผู้เฒ่าผู้แก่ยังคงจำได้ดีก็คือน้ำมะเน็ด (Lemonaed) น้ำอัดลมยุคแรกๆ ที่แม้จะมีชื่อเป็นน้ำมะนาวแต่ก็ไม่ใช่น้ำมะนาวคั้นมาแต่อย่างใด สันนิษฐานว่ามีเข้ามาขายในไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 น่าเสียดายที่น้ำขวดชนิดนี้ไม่มีจำหน่ายให้คนรุ่นหลังได้ลิ้มรสกันแล้ว

เครื่องดื่มบรรจุขวดที่มีความเป็นมาน่าสนใจอย่างยิ่งอีกยี่ห้อก็คือ “ไบเล่” ที่ว่าน่าสนใจก็เพราะ แฟรงค์ ดับเบิ้ลยู ไบเล่ย์ (Frank W. Bireley) ผู้สร้างตำนานให้เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นคนสู้ชีวิต มีหัวก้าวหน้าควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นแบบอย่างสำหรับคนรุ่นหลัง

ในปี ค.ศ.1923 แฟรงค์เด็กหนุ่มอเมริกันอายุ 17 ผู้ยากไร้ ต้องพบกับความผิดหวังครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะถูกปฏิเสธการให้ทุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย อนาคตเหมือนจะดับวูบ แต่แฟรงค์ไม่ยอมแพ้ เขาส่งใบสมัครเข้าเรียนต่อที่ ลีแลนด์ สแตนฟอร์ด แคลิฟอร์เนีย แล้วเดินทางออกจากบ้านด้วยความมุ่งหวังว่าจะหางานทำส่งตัวเองเรียนให้ได้ แต่โชคชะตาก็ไม่ปรานี ไม่ว่าจะไปสมัครหางานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเข้าทำงานเลยสักแห่งเดียว แม้หนทางจะมืดมน แต่แฟรงค์ก็ไม่ย่อท้อ เมื่อไม่มีคนรับเข้าทำงานเขาก็ลงทุนเปิดกิจการเองซะเลย!


ภาพโฆษณาโค้กในอดีต.


ภาพโฆษณาเป๊ปซี่รุ่นดั้งเดิม.

วัยรุ่นยากจนระหกระเหินจากบ้านไปอย่างนั้นจะทำอะไรได้? แต่แฟรงค์ทำได้ครับ ด้วยเงินติดตัวที่มีอยู่เพียงน้อยนิด เขาซื้อเครื่องคั้นน้ำส้มด้วยมือ แกลลอนบรรจุน้ำ และผลส้มสดใหม่หนึ่งลัง เขาตื่นตั้งแต่ตี 3 เดินทางไปเลือกซื้อส้มสดลูกโตน่ากินจากตลาด จากนั้นก็เดินไปมหาวิทยาลัย ไปนั่งรอลูกค้าอยู่ในโรงอาหาร ระหว่างรอก็นั่งอ่านตำราเรียนและทำการบ้านไปด้วยจนนักศึกษาเริ่มทยอยมามหาวิทยาลัย ทันทีที่มีคนเข้ามารับประทานอาหารเช้าแฟรงค์จะคั้นน้ำส้มทีละแก้วนำไปเสนอขายให้กับเพื่อนนักศึกษาในราคาไม่แพง

ความขยันอดทนของแฟรงค์บวกกับมิตรภาพและความใส่ใจในการทำน้ำส้มที่อร่อย สดใหม่ ทำให้น้ำส้มของแฟรงค์ขายดิบขายดีขึ้นทุกวัน จนในที่สุดก็มีเงินพอที่จะจ่ายค่าเทอมและเลี้ยงตัวเองได้ในระหว่างเรียน

ถึงจะพอมีพอกินแล้วเขาก็ไม่งอมืองอเท้าหาเลี้ยงชีพไปวันๆ อยู่แค่นั้น น้ำส้มยิ่งขายดีแฟรงค์ยิ่งใส่ใจพัฒนาคุณภาพของน้ำส้มให้ดีขึ้น เขาศึกษาเรื่องผลส้ม ฤดูกาลที่ผลผลิตส้มดีที่สุด การปลูกการดูแลต้นส้มให้เหมาะสม รวมไปถึงค้นหากระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่จะรักษาคุณประโยชน์ของน้ำส้มให้ดีอยู่เสมอ การศึกษาค้นคว้าเหล่านี้ทำให้แฟรงค์แปลกใจว่าในแคลิฟอร์เนียซึ่งมีการคั้นน้ำส้มขายมากว่า 75 ปี ไม่เคยมีใครรู้ลึกรู้จริงถึงการดูแลรักษาน้ำส้มให้คงคุณภาพดีไว้ได้เลยสักคนเดียว และนั่นก็เป็นโอกาสของแฟรงค์ซึ่งมั่นใจว่าตัวเองรู้เรื่องน้ำส้มดีกว่าใครๆ ได้พัฒนาคุณภาพและความอร่อยให้ก้าวล้ำเหนือกว่าใครในยุคสมัยนั้น

วันหนึ่งแฟรงค์ตัดสินใจเสนอขายน้ำส้มให้กับร้านอาหารชื่อดังในเมือง แม้เจ้าของร้านจะวุ่นวายกับการงานจนแทบไม่มีเวลามาสนใจกับเด็กหนุ่มพ่อค้าน้ำส้มรายนี้สักเท่าไร แต่เจ้าหนุ่มก็คะยั้นคะยอบอกให้เจ้าของร้านหาเวลาว่างลองชิมน้ำส้มของเขาสักหน่อย จากนั้นก็กลับมารอฟังผลด้วยใจตุ๊มต่อมๆ ว่าทางร้านอาหารชื่อดังจะว่าอย่างไร


ร้านขายยาในวอชิงตัน ปี 1920 มีถังบรรจุโซดาไว้จำหน่าย



รถส่งน้ำส้มบรรจุขวด.

ในที่สุดชัยชนะก็เป็นของคนมีฝัน เจ้าของร้านบอกว่าชอบน้ำส้มของพ่อหนุ่มไบเล่ย์คนนี้มากและตกลงสั่งน้ำส้มไว้ขายในร้าน ขอให้ส่งมาให้มากพอตามที่สั่งก็แล้วกัน

ถึงตอนนี้งานของแฟรงค์ชักจะหนัก ไหนจะต้องเรียนหนังสือ ไหนจะต้องตื่นแต่มืดไปเลือกซื้อส้มคุณภาพดีมาคั้นน้ำ ออเดอร์แต่ละวันก็มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากเรื่องความสดอร่อยของน้ำส้มแล้ว เขายังให้ความสำคัญกับเครื่องคั้นน้ำส้ม เขาต้องการเครื่องที่ต้องไม่คั้นเอารสขมขื่นของเปลือกส้มปะปนเข้ามาในน้ำส้ม แล้วก็ต้องคั้นให้ได้พร้อมกันทีละหลายๆลูกด้วย แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีเครื่องแบบนี้ขายอยู่เลย ทำไงดีล่ะทีนี้

เอ้า...ไม่มีขายก็ทำเองซะเลยสิแฟรงค์

เขาใช้เวลาพักผ่อนที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ไปขอฝึกงานในร้านผลิตเครื่องมือจนได้รู้จักกับนายช่างฝีมือเยี่ยม ซึ่งก็ช่วยคิดค้นประดิษฐ์เครื่องคั้นน้ำส้มแบบที่แฟรงค์ต้องการได้สำเร็จในที่สุด




โปสเตอร์โฆษณาไบเล่ในญี่ปุ่น.

เมื่ออุปกรณ์ชั้นดีมาอยู่ในมือคนเก่ง ธุรกิจน้ำส้มของเขาจึงกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ไม่นานชื่อเสียงน้ำส้มของแฟรงค์ ไบเล่ย์ก็ดังไปทั่วแคลิฟอร์เนีย ร้านค้ามากมายพากันสั่งน้ำส้มของเขาไปขาย พอถึงปี 1939 แฟรงค์ไม่ต้องย่ำเท้าเดินฝ่าความมืดไปตลาดอีกแล้ว เพราะทุกเช้าส้มสดๆ 250 ตันจากทั่วแคลิฟอร์เนียจะส่งตรงถึงหน้าโรงงานของเขา ตอนนั้นน้ำส้มของแฟรงค์ดังมากจนมีการขนานนามว่าเขาเป็น “ราชาแห่งน้ำส้ม (King of Orange Juice)”

แม้กระนั้นเขาก็ยังไม่หยุดนิ่ง แฟรงค์พัฒนาน้ำส้มเข้มข้นขึ้นมาโดยคงรสชาติดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จนมีออเดอร์จากทุกรัฐในอเมริการวมทั้งจากอีกหลายๆประเทศ จนถึงปี 1942 บริษัท เจนเนอรัล ฟู้ด ได้ซื้อแบรนด์ไบเล่มาบริหารต่อ และพัฒนาให้เป็นน้ำส้มแบบพาสเจอไรส์ไม่อัดลม ซึ่งยังคงรสชาติความสดใหม่ แต่เก็บไว้ได้ยาวนานขึ้น

ความนิยมน้ำส้มไบเล่นั้นมีมายาวนาน ในไทยเราชื่อไบเล่ก็เป็นที่รู้จักดีมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ มีโรงงานผลิตอยู่ในไทยแถวเสาชิงช้า ที่รู้จักกันในนาม “ตรอกไบเล่” จนมาช่วงหลังชื่อเสียงของไบเล่ในไทยก็ชักจะจางหายไปตามกาลเวลา แต่ล่วงมาถึงวันนี้ ชื่อไบเล่ก็หวนกลับมาอีกครั้งด้วยการฟื้นฟูครั้งใหม่ ให้ทั้งคนรุ่นใหม่ได้รู้จักและคนรุ่นเก่าได้สัมผัสกับความสุขรสผลไม้กันอีกครั้ง

ความสุขกายนั้นหาได้ไม่ยาก บางครั้งเครื่องดื่มเย็นชื่นใจสักแก้วหนึ่งก็ช่วยได้แล้ว แต่หากท่านผู้อ่านมีความทุกข์ทับถมรุมเร้าแบกปัญหาไว้มากมายจนคล้ายจะก้าวไปต่อไม่ไหว ก็ขออย่าได้ทดท้อหมดกำลังใจ ลองนึกถึงความวิริยะอุตสาหะของพ่อหนุ่มน้อยแฟรงค์ ไบเล่ย์เอาไว้ก็ได้ คนเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วเขายังสู้ได้ขนาดนี้ พวกเราเกิดมาในยุคสมัยที่มีความเจริญก้าวหน้าทุกอย่าง ก็ต้องไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคไม่ว่ามันจะหนักหนาสักเพียงใดใช่ไหมล่ะครับ.


ไทยรัฐออนไลน์
โดย :ประลองพล เพี้ยงบางยาง
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน




Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
"Lemon Soup" อาสาส่ง"ทุกวัน"เพลงกระตุ้น"รัก"ที่เมื่อรู้สึกแล้วต้อง"บอก"
หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
มดเอ๊ก 0 5147 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2554 10:29:07
โดย มดเอ๊ก
ผลวิจัยเผย น้ำอัดลม 1 ขวด = วิ่ง 50 นาที
สุขใจ อนามัย
Compatable 0 1498 กระทู้ล่าสุด 04 กันยายน 2555 17:57:37
โดย Compatable
น้ำอัดลม ภัยร้ายสำหรับเด็ก
สุขใจ อนามัย
Kimleng 0 1568 กระทู้ล่าสุด 24 กันยายน 2555 19:44:05
โดย Kimleng
"สามัญชน" ผู้กลายเป็น "ราชินี" และ "เจ้าหญิง" โชคชะตาที่ฟ้าได้ "ลิขิต" ไว้
สุขใจ จิบกาแฟ
Kimleng 0 8163 กระทู้ล่าสุด 17 ธันวาคม 2557 14:13:59
โดย Kimleng
เตือนภัย ดื่ม “น้ำอัดลม” มาก อาจทำฟันสึกกร่อน-เสี่ยงฟันผุ
สุขใจ อนามัย
Compatable 0 730 กระทู้ล่าสุด 18 มิถุนายน 2564 15:36:34
โดย Compatable
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.451 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 13 เมษายน 2567 09:59:54