[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
17 เมษายน 2567 02:42:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะกับชีวิตประจำวัน : 10 ระดับ ความสุขความเจริญ  (อ่าน 2460 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 มกราคม 2554 20:26:53 »



การที่พระพุทธองค์ทรงส่งพระสาวกออกประกาศศาสนาและพระองค์ก็เสด็จออกทำหน้าที่ด้วยนั้น มีจุดประสงค์อีกประการหนึ่งคือ สุขาย(สุ-ขา-ยะ) เพื่อความสุข ถ้าพิจารณาดูให้ลึกเข้าไปว่า ความสุขระดับไหน ความสุขประเภทไร ก็อาจจะพิจารณาได้หลายประเภท หลายแง่มุม อย่างน้อยพระองค์ก็สอนให้คนที่อยู่ในโลกิยสุข รู้จักแสวงหากามสุข สุขด้วยความปลอดภัย
       
       ในคัมภีร์อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๐) ได้จำแนกความสุขออกไปทั้งโดยประเภทและโดยระดับเป็นคู่ๆ มากมายหลายคู่ เช่น สุขของคฤหัสถ์กับสุขของบรรพชิต กามสุขกับเนกขัมมสุข โลกิยสุขและโลกุตตรสุข สุขของพระอริยะกับสุขของปุถุชน เป็นต้น ความสุขที่ท่านแบ่งไว้ชัดเจน ละเอียด ดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อน น่าจะได้แก่ วิธีแบ่งระดับความสุขเป็น ๑๐ ขั้น คือ
       
       • ระดับความสุข ๑๐ ขั้น
       
       ๑. กามสุข
ความสุขเนื่องด้วยกาม ซึ่งเกิดจากความกำหนัดยินดีในรูปที่สวย เสียงที่ไพเราะ กลิ่นที่หอม รสที่อร่อย และสัมผัสอันอ่อนนุ่มสุขสบาย หรือเรียกว่าความสุขที่เกิดจากกามคุณ ๕
       
       ๒. ปฐมฌานสุข ความสุขจากภาวะจิตที่เข้าสมาธิแห่ง รูปฌานขั้นที่ ๑ ซึ่งเป็นภาวะจิตที่สามารถสลัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลาย ประกอบด้วยองค์ธรรม ๕ ประการ คือ วิตก (ภาวะจิตที่ตรึกนึกอารมณ์ขึ้นเป็นครั้งแรก) วิจาร (ภาวะจิตที่เฟ้นพิจารณาอารมณ์นั้น) ปีติ (ภาวะจิตที่กำซาบอิ่มเอิบในอารมณ์) สุข (ภาวะจิตที่สุขสบายในอารมณ์) และเอกัคคตา (ภาวะจิตที่เป็นสมาธิหรือมีอารมณ์เดียว)
       
       ๓. ทุติยฌานสุข ความสุขจากภาวะจิตที่เข้าสมาธิแห่ง รูปฌานขั้นที่ ๒ ซึ่งประกอบด้วยองค์ธรรม ๓ ประการ คือ ปีติ สุข และเอกัคคตา
       
       ๔. ตติยฌานสุข
ความสุขจากภาวะจิตที่เข้าสมาธิแห่ง รูปฌานขั้นที่ ๓ ซึ่งประกอบด้วยองค์ธรรม ๒ ประการ คือ สุข และเอกัคคตา
       
       ๕. จตุตถฌานสุข
ความสุขจากภาวะจิตที่เข้าสมาธิแห่ง รูปฌานขั้นที่ ๔ ซึ่งประกอบด้วยองค์ธรรม ๒ คือ อุเบกขา (ภาวะจิตที่วางเฉยในอารมณ์) และเอกัคคตา
       
       ๖. อากาสานัญจายตนสมาปัตติสุข
ความสุขจากภาวะ จิตที่เข้าสมาธิแห่งอรูปฌานขั้นที่ ๑ ซึ่งมีอากาศอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นอารมณ์ หมายถึง ความสุขที่เกิดจากฌานจิตที่เลิกเพ่งกสิณ แล้วมากำหนดอากาศคือที่ว่างช่องว่าง เป็นอารมณ์ โดยพิจารณาให้เห็นว่าอากาศไม่มีที่สุด
       
       ๗. วิญญาณัญจายตนสมาปัตติสุข ความสุขจากภาวะ จิตที่เข้าสมาธิแห่งอรูปฌานขั้นที่ ๒ ซึ่งยึดเอาวิญญาณอันไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอารมณ์ หมายถึงความสุขที่เกิดจากฌานจิตที่เลิกเพ่งอากาศหรือที่ว่างนั้น แล้วมากำหนดเพ่งดูวิญญาณจิตที่แผ่ไปสู่ที่ว่างเป็นอารมณ์ โดยพิจารณาให้เห็นว่าวิญญาณไม่มีที่สุด
       
       ๘. อากิญจัญญายตนสมาปัตติสุข ความสุขจากภาวะจิตที่เข้าสมาธิแห่งอรูปฌานขั้นที่ ๓ หมายถึง ความสุขที่เกิดจากฌานจิตที่เลิกกำหนดเพ่งดูวิญญาณจิตที่แผ่ไปสู่ที่ว่าง แล้วมากำหนดภาวะที่ไม่มีอยู่แห่งวิญญาณเป็นอารมณ์ โดยพิจารณาให้เห็นว่าสักหน่อยหนึ่งนิดหนึ่งก็ไม่มี
       
       ๙. เนวสัญญานาสัญญายตนสมาปัตติสุข ความสุขจากภาวะจิตที่เข้าสมาธิแห่งอรูปฌานขั้นที่ ๔ อันถึงภาวะที่สัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ เป็นอารมณ์ หมายถึงฌานที่เลิกกำหนดภาวะที่ไม่มีแห่งวิญญาณนั้น แล้วเข้าถึงภาวะที่มีสัญญา (ภาวะที่จิตกำหนดหมาย) ก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ ที่ละเอียดประณีตกว่าความสุขในขั้นอรูปฌานที่ ๓ นั้น
       
       ๑๐. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาปัตติสุข สุขเกิดจากภาวะ จิตสงบประณีต เข้าถึงนิโรธสมาบัติ อันถึงภาวะที่ดับสัญญาและเวทนาทั้งหมด เป็นภาวะจิตที่ละเอียดมีความประณีตลึกซึ้งกว่าเนวสัญญานาสัญญายตนสมาปัตติสุขขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง โดยผู้เข้าสมาบัตินี้จะไม่มีสัญญาและไม่มีเวทนา
       
       ถ้าย่อทั้ง ๑๐ นี้ลงอีก ก็เหลือ ๓ ข้อ คือ กามสุข ความสุขของคนทั่วไป ฌานสุข ความสุขของผู้ได้สมาธิจิต ขั้นฌาน นิโรธสมาปัตติสุข ความสุขเกิดจากการเข้านิโรธสมาบัติของพระอรหันต์
       
       ความสุขทั้งหมดนี้ท่านยอมรับว่าเป็นความสุขทั้งนั้น แต่เป็นความสุขที่ดีกว่าประเสริฐกว่ายิ่งไปตามลำดับ ประณีตบริสุทธิ์มากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น พระพุทธองค์ก็ยังขอให้มองความสุขเหล่านี้เป็น ๓ ส่วน คือ แง่ที่เป็นสุข แง่ที่มีทุกข์ และให้รู้จักทางออก เรียกว่ามองเป็น ๓ มิติ ในขั้นสุดท้ายก็เกิดมรรคสุข ผลสุข และนิพพานสุข ซึ่งไม่ กลับกลายอีก มีแต่ความปลอดโปร่งถ่ายเดียว นี่คือประโยชน์สุขที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์เข้าถึงให้ได้
       
       • ความเจริญที่ประเสริฐ
       สำหรับคฤหัสถ์ ๑๐ ระดับ

       
       ในวัฑฒิสูตร ทสกนิบาต อังคุตตรนิกาย (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔ ข้อที่ ๗๔) พระพุทธองค์ทรงแสดงความเจริญในขั้นตอนต่างๆ ของชีวิตคฤหัสถ์ไว้ ๑๐ ระดับ คือ
       
       ๑. เจริญด้วยอสังหาริมทรัพย์ มีเรือกสวน ไร่นา เป็นต้น
       ๒. เจริญด้วยสังหาริมทรัพย์ มีเงินทอง ข้าวเปลือก เป็นต้น
       ๓. เจริญด้วยบุตรธิดาและภรรยา
       ๔. เจริญด้วยข้าทาสบริวาร
ลูกน้อง กรรมกร คนใช้
       ๕. เจริญด้วยสัตว์เลี้ยงต่างๆ ในกรณีที่มีอาชีพทางเลี้ยงสัตว์
       ๖. เจริญด้วยศรัทธา คือ ความเชื่ออันมั่นคง
       ๗. เจริญด้วยศีล คือ การควบคุมกายและวาจาตนเอง ให้ปกติ
       ๘. เจริญด้วยสุตะ คือ การศึกษา การสดับรังฟัง ความรู้ในวิทยาการต่างๆ
       ๙. เจริญด้วยจาคะ คือ การเสียสละเพื่อเกื้อกูลแก่คน อื่น
       ๑๐. เจริญด้วยปัญญา คือ มีความรอบรู้ในเหตุผลต่างๆ ทั้งด้านดีและไม่ดี
       
       พระพุทธองค์ทรงย้ำว่า หากบุคคลเจริญด้วยความเจริญในระดับต่างๆ ดังกล่าว ชื่อว่าเจริญด้วยความเจริญอันประเสริฐ เพราะสามารถถือเอาสิ่งที่เป็นสาระ คือสิ่งที่ประเสริฐแห่งชีวิตได้ และตรัสสรุปความเป็นพระพุทธคาถาว่า
       
       “ในโลกนี้ บุคคลใดเจริญด้วยทรัพย์ ข้าวเปลือก บุตร ภรรยา (ทาสกรรมกร) และสัตว์สี่เท้า บุคคลนั้นย่อมเป็นผู้มีโชค มียศ เป็นผู้อันญาติมิตร และพระราชาบูชาแล้ว
       
       ในโลกนี้ บุคคลใดเจริญด้วยศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา บุคคลเช่นนั้นจัดเป็นสัตบุรุษ มีปัญญาเห็นประจักษ์ ย่อมเจริญด้วยความเจริญสองส่วน”

       
       จากพระพุทธคาถาสรุปความในพระสูตรนี้ เป็นเครื่อง ชี้ให้เห็นได้ว่าในทางพระพุทธศาสนามองปัจจัยแห่งการอยู่ดีมีสุขของคนผู้ครองเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจเป็น ๒ ชั้น คือ
       
       (๑) ชั้นของการสนองตอบความต้องการหรือการบำบัดทุกข์
       (๒) ชั้นของการบำบัด หรือบรรเทา คือการลดกระแส ของความอยาก ความต้องการที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด โดยให้ลดความรุนแรงลงเป็นชั้นของการบำรุงสุข
       
       (จากส่วนหนึ่งของหนังสือพุทธธรรม เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ)
       
       (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 122 มกราคม 2554 โดย แก้ว ชิดตะขบ นักวิชาการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ)

http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9530000182965

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 มกราคม 2554 09:35:10 »

สาธุ อนุโมทนาครับ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
อะเวรา
นักโพสท์ระดับ 4
****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 17


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 8.0.552.224 Chrome 8.0.552.224


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 มกราคม 2554 13:59:50 »

อนุโมทนาสาธุค่ะ
บันทึกการเข้า

เพียงพบพาน เพื่อผ่านภพ
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ธรรมะกับชีวิตประจำวัน : เทคนิคการสนทนาที่ดี
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
หมีงงในพงหญ้า 0 2639 กระทู้ล่าสุด 24 มิถุนายน 2553 23:44:54
โดย หมีงงในพงหญ้า
ธรรมะกับชีวิตประจำวัน : กฎแห่งการใช้ชีวิตให้สุขสงบสำเร็จ ตามแนว “พระพุทธเจ้า”
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
มดเอ๊ก 0 1780 กระทู้ล่าสุด 11 สิงหาคม 2559 01:56:48
โดย มดเอ๊ก
ธรรมะกับชีวิตประจำวัน : “กฎ” ที่ต้องจำให้ขึ้นใจ “โลกนี้ไม่มีสิ่งบังเอิญ”
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
มดเอ๊ก 0 1436 กระทู้ล่าสุด 06 ตุลาคม 2559 16:19:53
โดย มดเอ๊ก
[ข่าวด่วน] - มท.เข้มออกมาตรการป้องกัน 3 ระดับ ดูแลประชาชนช่วงสงกรานต์
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 169 กระทู้ล่าสุด 10 เมษายน 2565 11:03:36
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไลฟ์สไตล์] - Eat Out กับแมริออท บอนวอย จัดโปรโมชั่นอาหาร 3 ระดับ ตลอด 2 เดือน จากโรงแรมและรีสอร์ทกว
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 168 กระทู้ล่าสุด 28 เมษายน 2565 01:44:18
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.404 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2567 16:00:12