[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
02 พฤษภาคม 2567 06:09:56 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
ร้อยภูติ พันวิญญาณ


.:::

ผีนางกิ่งแก้ว ในเรือนจำบางขวาง นักโทษประหารจากการก่อคดีลักพาตัวเด็ก

:::.
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผีนางกิ่งแก้ว ในเรือนจำบางขวาง นักโทษประหารจากการก่อคดีลักพาตัวเด็ก  (อ่าน 11832 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
-NWO-
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +1/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United States United States

กระทู้: 518


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 39.0.2171.99 Chrome 39.0.2171.99


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 มกราคม 2558 00:08:52 »



ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน นักโทษประหารจากการก่อคดีลักพาตัวเด็กเรียกค้าไถ่ เมื่อถูกประหารแล้วก็เที่ยวหลอกหลอนชาวบ้านแถวนั้นอยู่นานเชียว''

นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน'' นักโทษประหารหญิงคนที่ 2 โดนประหาร แต่ไม่ยอมตาย

นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน เธอคนนี้คนไทยหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก แต่ก็ไม่ยากที่จะค้นหา เพราะประเทศไทยเรามีนักโทษประหารหญิงไม่กี่คน ซึ่งนางกิ่งแก้วนั้นเป็นนักโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของไทยเรา

เรื่องราวของนางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน น่าเชื่อว่ามาจากเนื้อหาหนังสือที่เชาวเรศน์จารุบุณย์เชาวเรศน์ จารุบุณย์เพชฌฆาตคนสุดท้ายที่ลั่นกระสุนปืนประหารชีวิตนักโทษหลายราย ก่อนที่การประหารชีวิตไทยจะเปลี่ยนเป็นฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดแทน

นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนินเป็น เป็นพี่เลี้ยงเด็กชาวโคราชที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพ และได้รับความวางใจจากครอบครัวหนึ่งที่ได้จ้างเธอมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ชายอายุ 6 ขวบ ซึ่งวันที่เกิดเหตุนั้นเธอได้ไปรับเด็กชายที่โรงเรียน ซึ่งเธอเป็นที่รู้จักกันดีกับคุณครูในโรงเรียนอยู่แล้ว และส่งเด็กให้เธอโดยไม่ เกิดความสงสัยใดๆ
แต่กลายเป็นนางกิ่งแก้วได้ร่วมมือกับพวกโจรผู้ชาย (2 คน) จับเด็กชายไปเรียกเงินค่าไถ่จากพ่อแม่เด็ก โดยตามแผนการนั้นพ่อแม่เด็กจะต้องโยนเงินออกจากรถไฟที่กำลังแล่นและใกล้กับ ธงที่เธอกำหนดไว้
ที่นี้ก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อเวลาส่งมอบเงินดันเป็นตอนกลางคืน ผู้ปกครองเด็กมองไม่เห็นธง และส่งเงินผิดพลาดไม่ตรงจุดที่กำหนด ส่งผลทำให้การแลกเปลี่ยนเงินค่าไถ่ล้มเหลว พวกโจรโกรธแค้นและแทงเด็กตายเพื่อปิดปาก
แม้ว่านางกิ่งแก้วพยายามห้ามพวกโจรไม่ให้ทำร้ายเด็ก แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจแทงเด็กตายและนำศพไปฝัง ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี (จากการชันสูตรศพต่อมาพบว่ามีเศษดินในปอดแสดงให้เห็นว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ หลังฝังศพของเขาบนดินแล้ว)

ด้วยการกระทำของเธอในการฆาตกรรมเด็กชาย นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนินถูก ตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า

สำหรับการยิงเป้าของไทยนั้น นักโทษจะถูกผ้าปิดตาและผูกติดกับเสาหลักรูปไม้กางเขนพันหน้าเข้ากับกำแพง ไม่ว่าจะเป็นเอว หน้าอก ข้อศอกทั้งสองข้างต้องติดกับไม้กางเขนทั้งสองด้าน และที่ข้อมือมีลักษณะพนมมือโอบรอบเสา ซึ่งต้องมัดให้แน่นจนนักโทษขยับตัวไม่ได้ และจากนั้นก็ตั้งปืนไรเฟิลอัตโนมัติชี้ไปยังหัวใจบริเวณแผ่นหลังของนักโทษ ประหาร (ซึ่งจะทำเครื่องหมายบริเวณหัวใจนักโทษเอาไว้) เมื่อถึงเวลาประหารเพชฌฆาตที่ อยู่ด้านหลังนักโทษจะทำการยิงกระสุนเข้าไปสิบห้านัดเข้าไปบริเวณที่ทำ เครื่องหมาย เพื่อให้นักโทษประหารตายทันทีไม่ให้ทรมานมากเกินไป

นาง กิ่งแก้ว ลอสูงเนิน ถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 13 มกราคม 1976 ในเวลานั้นสภาพจิตใจนางกิ่งแก้วย้ำแย่มาก (เคยพยายามฆ่าตัวตายเพื่อหนีโทษประหาร) ซ้ำยังหน้ามืดจะเป็นลม มีอาการทางจิตประสาท ทำให้พี่เลี้ยงต้องคอยดูแลอาการและคอยให้ยาดม

ในระหว่างรอประหารเธอก็ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ของเธอในคดีฆาตกรรมเด็กชาย ว่า “ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าเด็ก” เธอขอร้อง “ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน ฉันไม่ได้ฆ่าเขา” เธอพูดซ้ำซากแบบนี้ตลอดเวลา
แต่หมดสิ้นความหวังเพราะเธอก็ถูกส่งไปยังเวทีประหาร ปืนถูกโหลดและเพชฌฆาตเล็งเป้า อีกสักครูก็มีกระสุนกว่าสิบนัดถูกยิงออกไปสู่จุดที่เชื่อว่าตัดขั้วหัวใจของนางกิ่งแก้ว

ไม่นานหลังจากยิงปืนเสร็จสิ้น หมอได้เดินเข้ามาใกล้นางแล้วตรวจหาชีพจรก็พบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว จุดที่ถูกยิงมีเลือดออกมาปริมาณมาก พวกเขาจัดการแก้ร่างของเธอและวางคว่ำหน้าของเธอลงบนพื้น ซึ่งตอนนั้นเธอก็ชักและกระตุกเล็กน้อย หน้าอกของเธอปริออกเพราะแรงกระสุน ร่างของเธอถูกย้ายไปที่ห้องเก็บศพและวางอยู่บนเตียง ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นเตรียมประหารคนต่อไปที่รอคิวอยู่ แต่แล้วก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้น นางกิ่งแก้วยังไม่ตาย เธอเริ่มส่งเสียง (ดูเหมือนจะพูดว่า"ฉันไม่ผิดๆๆๆๆๆๆๆ") และ พยายามลุกขึ้นนั่ง พี่เลี้ยงต้องวิ่งเข้าไปห้องเก็บศพ และพวกเขาพยายามกลิ้งเธอหลายครั้งและกดบนหลังของเธอเพื่อให้เลือดออกเร็วขึ้นเพื่อให้เธอตาย (บางคนพยายามที่จะบีบคอ) แต่เธอก็ยังอ้าปากหายใจ ไม่เสียชีวิตในทันที

แม้จะทำยังไงเธอก็ยังหายใจ และยังมีชิวิตอยู่ แม้เลือดจะออกมามากมายก็ตาม ผลสุดท้ายเธอก็ถูกยกกลับไปเวทีประหารและประหารชีวิตใหม่ด้วยการยิงกระสุนอีก 15 นัดอีกครั้ง เธอจึงเสียชีวิต

ไม่มีใครทราบว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น บางทีอาจเป็นเพราะผูกติดกับเสาหลักไม่แน่นพอ ทำให้เธอดิ้นจนกระสุนเลยจุดตาย และอีกทั้งหัวใจของเธอนั้นอยู่ด้านขวาไม่ใช่ด้านซ้ายเป็นเหตุทำให้การประหาร ผิดพลาดดังกล่าว

(มีเหตุหลังจากนี้นิดหน่อย มีเรื่องเล่าว่าหลังจากที่นำศพของเธอมาไว้ห้องเก็บศพ ยังคงมีคนได้ยินเสียง “ฉัน ไม่ ผิด” ดังจากในห้องซ้ำแบบนี้ตลอดเวลา และทุกวันนี้ยังมีผู้พบเห็นเธอเป็นผีวนเวียนอยู่ที่เรือนจำบางขวาง)

อีกเรื่องเล่าหนึ่งจากปากพัศดี พัศดีหลายคนเล่าว่า นางกิ่งแก้วรักเด็กคนนี้มาก รักเหมือนลูกของตน และเมื่อวันที่เด็กถูกสังหาร เป็นวันที่นางกิ่งแก้วไม่อยู่ ทางฝ่ายสามีจึงลงมือสังหารเด็กเสีย ฝ่ายนางกิ่งแก้วกลับมาและไม่พบเด็ก ก็รู้ได้ทันทีว่าอาจเกิดอันตรายกับเด็กคนนั้น นางจึงออกตามหาเด็ก และมาพบรอยดินที่เหมือนพึ่งฝังเสร็จใหม่ๆ นางกิ่งแก้วจึงลงมือขุดจนพบร่างเด็ก แต่ไม่ทันการเสียแล้ว เด็กหมดลมหายใจไปเสียก่อน นางกอดศพและร้องไห้อยู่พักนึง เป็นเวลาเดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังบุกจับพอดี นางกิ่งแก้วจึงตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าคนตาย

นี่คือคำสารภาพที่นางกิ่งแก้ว พูดกับพัสดีภายในเรือนจำ พัสดีเล่าต่อว่า ขณะที่นางกิ่งแก้วโดนจองจำอยู่นั้น สุขภาพจิตของเธอแย่มาก ได้แต่ร้องไห้และพร่ำเพ้อว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด อยู่อย่างนั้น ดั่งคนเสียสติ จนนักโทษในเรือนจำเกิดความเวทนานางกิ่งแก้วมาก และเป็นอย่างนี้อยู่ประจำ จนเมื่อถึงวันประหาร
ขณะที่นางกิ่งแก้วโดนคุมตัวไปยังแดนประหาร นางพร่ำเพ้ออยู่ตลอดว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิดเมื่อเข้าสู่หลักประหาร เพชรฆาตก็เตรียมตัวลั่นไกไปที่หัวใจของนางกิ่งแก้ว เสียงปืนชุดแรกดังขึ้น กระสุนพุ่งสู่ร่างนางกิ่งแก้ว จากนั้นเลือดก็สาดพร้อมกับเสียงโหยหวนของนางกิ่งแก้วว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด เพชรฆาตตกใจมากที่นางกิ่งแก้วยังไม่ตาย จึงยิงใส่อีกชุดนึงเพื่อที่จะให้นางกิ่งแก้วพ้นทุกข์โดยเร็ว ปรากฎว่า นางกิ่งแก้วก็ยังไม่หมดลมหายใจและยังตะโกนโหยหวนด้วยความทรมารว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ทางพัสดีและหมอประจำเรือนจำจึงรีบเข้าไปตรวจสอบที่ร่างนางกิ่งแก้วอีกครั้ง และผลปรากฏว่านางมีหัวใจอยู่ด้านขวา ทางพัสดีจึงต้องวัดเป้าอีกครั้งและทำการประหารใหม่ และคราวนี้นางกิ่งแก้วได้พ้นทุกข์เแล้วสียที พร้อมกับคำพูดสุดท้ายว่า ฉันไม่ผิด

ยังมีเรื่องเล่าหลังจากจากนางกิ่งแก้วเสียชีวิตไปแล้ว ว่ามีนักโทษและชาวบ้านแถวนั้นพบเจอวิญญาณนางกิ่งแก้วออกมาปรากฎตัวอยู่บ่อยครั้ง บ้างก็เห็นนางกิ่งแก้วเดินร้องไห้และพูดว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด และหายเข้าไปในกำแพงเรือนจำ บ้างก็เห็นว่าเธอลอยอยู่บนเหนือกำแพงเรือนจำ ส่งเสียงร้องไห้โหยหวนว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด...

และทุกวันนี้ก็ยังมีคนพบเจอวิญญาณของนางกิ่งแก้วอยู่ แม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

- New World Order -
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.347 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มีนาคม 2567 22:28:56