[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 10:12:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชื่อพิลึก "เห็ดหำพระ" ของดีในป่า มากสรรพคุณ  (อ่าน 8029 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5433


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2558 15:27:56 »

.


เห็ดหำพระ บำรุงสุขภาพสตรี

เห็ดเป็นสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ แม้เป็นเพียงพืชชั้นต่ำจำพวกรา (fungi) ที่ไม่สามารถสร้างอาหารโดยการสังเคราะห์แสงเหมือนพืชชั้นสูงสีเขียวอื่นๆ ที่มีคลอโรฟิลล์ (chlorophyll) ก็ตาม   แต่เห็ดก็ไม่เบียดเบียนอาศัยเกาะกินร่างคนเหมือนโรคเชื้อราร้ายอื่นๆ ตรงกันข้าม มันดำรงชีวิตอยู่ด้วยการดูดซึมสารอาหารจากซากอินทรียวัตถุและแร่ธาตุต่างๆ ในดิน แล้วก่อรูปเป็นเห็ดชนิดต่างๆ ทั้งที่มีพิษและไม่มีพิษ

เห็ดประเภทหลังนี้เองที่กลายมาเป็นเมนูอาหารเก่าแก่ก่อนที่มนุษย์จะรู้จักกินข้าวเสียอีก เพราะมนุษย์ยุคโบราณที่หาอยู่หากินตามป่าดง ย่อมรู้จักเก็บเห็ดกินก่อนที่จะรู้จักเพาะปลูกข้าวหลายพันปี โดยมีหลักฐานที่พบในโบราณสถานของชนเผ่าอินคาในชิลีว่า มนุษย์รู้จักการใช้ประโยชน์จากเห็ดมาไม่น้อยกว่า 13,000 ปี

ต่อมาเห็ดจึงพัฒนากลายมาเป็นยารักษาโรค และเมนูอาหารชั้นสูงขนาดขึ้นโต๊ะเสวยของจักรพรรดิโรมันและฮ่องเต้เมื่อราวหลายร้อยปีก่อนพุทธกาล

ในประเทศไทยเราเองก็เป็นแดนอุดมด้วยเห็ดนับพันชนิดให้เก็บกินเก็บขายได้ไม่มีวันหมด เฉพาะอีสานบ้านเฮาเองก็มีเห็ดป่าตามธรรมชาติที่ชาวบ้านสามารถเก็บมาบริโภคได้ถึงกว่า 600 ชนิด  ที่สำคัญคือมีเห็ดป่าที่สามารถนำมาใช้เป็นทั้งอาหารและยาตามภูมิปัญญาหมอพื้นบ้านถึง 38 ชนิด  

ในที่นี้ขอแนะนำเห็ดป่าตัวหนึ่งที่นิยมใช้กินเป็นยาและอาหารรสเด็ด คือ เห็ดหำพระ

ฟังชื่อเห็ดชนิดนี้แล้ว ทั้งประสกและสีกาสมัยใหม่ก็คงสะดุ้งไปตามๆ กัน ว่าเห็ดอีสานชื่อพิลึกแบบนี้มีด้วยหรือ?

คนกรุงอาจจะฟังแปลกๆ แต่สำหรับชาวบ้านนั้น เขาเห็นเป็นเรื่องปกติเพราะชาวบ้านกับวัดเขาใกล้ชิดกัน การที่คนอีสานตั้งชื่อเห็ดชนิดนี้ว่า เห็ดหำพระ เขามิได้คิดลบหลู่พระสงฆ์องค์เจ้าแต่ประการใด เพียงแต่ต้องการบ่งบอกรูปลักษณ์ของเห็ดชนิดนี้อย่างตรงไปตรงมา ให้ง่ายต่อการแยกแยะไม่ผิดตัว

เนื่องจากเห็ดชนิดนี้ มีรูปกลมๆ หรือค่อนข้างกลม เส้นผ่าศูนย์กลางราว 2-3 ซม. ไม่มีครีบ ไม่มีโคนขาเหมือนฟองไข่ จึงเป็นที่มาของชื่อ “หำ” ในภาษาอีสาน

และเอกลักษณ์ที่โดนตาที่สุดคือ สีเหลืองอ๋อยเหมือนสีจีวรพระของเจ้าเห็ดชนิดนี้นี่เอง ทำให้มีการนำพระ-เณรเข้าไปเกี่ยวข้อง  

- ถ้าเห็ดดอกใหญ่ก็เอิ้นว่า เห็ดหำพระ
- ถ้าดอกเล็กก็เอิ้นว่า เห็ดหำเณร

เห็ดชนิดนี้พบเป็นดอกเดี่ยวกระจัดกระจายหรือเกาะเป็นกลุ่ม 3-4 ลูกบนพื้นดินที่มีใบไม้ผุพังทับถมอยู่ตามป่าโคก ป่าเบญจพรรณ ป่าแดงและป่าเต็งรัง ทั้งทางภาคอีสานและเหนือ

เนื่องจากเห็ดเป็นลูกสีเหลืองสังเกตเห็นได้ง่ายเรี่ยรายอยู่กลางดินสวยงาม จึงมีคนโรแมนติกตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ลูกทองคำแห่งแผ่นดินอีสาน”

ช่วงหาเห็ดชนิดนี้คือช่วงหน้าฝนตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน

ในด้านคุณค่าอาหารก็เป็นที่รู้กันว่า เห็ดทุกชนิดเป็นแหล่งโปรตีน เกลือแร่ วิตามิน และใยอาหารที่มีปริมาณสูงกว่าที่พบในผักชนิดอื่นๆ  ส่วนสรรพคุณทางยาถ้ากล่าวเฉพาะเห็ดหำพระเอง หมอพื้นบ้านใช้เห็ดหำพระในการบำรุงรักษาสุขภาพ สตรีที่มีปัญหามดลูกหย่อนคล้อยและเต้านมหย่อนยาน ให้กลับมาฟิตและเฟิร์ม ช่วยขับประจำเดือนให้เป็นปกติ ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าเห็ดชนิดนี้ช่วยทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งยุบลงได้ด้วย

การปรุงเห็ดหำพระเป็นยาก็ง่ายมาก คือเพียงนำเห็ดสด (ไม่ต้องขัดเอาสีเหลืองออก) หนัก 100 กรัม ต้มกับน้ำประมาณ 1 ลิตร จนเห็ดสุก เอาแต่น้ำดื่มเป็นยา ครั้งละ 30 ซีซี วันละ 2 เวลา ก่อนอาหารเช้า-เย็น

เห็ดหำพระไม่มีพิษข้างเคียงใดๆ สามารถนำมาต้มน้ำดื่มบำรุงสุขภาพได้ทุกวัน ส่วนเนื้อเห็ดก็นำไปปรุงอาหารได้

เห็ดหำพระเป็นเห็ดที่สามารถนำมากินสดได้ไม่มีโทษ แต่ต้องขัดเอาผิวสีเหลืองออกเสียก่อน มิฉะนั้นจะมีรสขม

ชาวบ้านมีวิธีง่ายๆ ในการกินเห็ดหำพระ โดยนำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วเสียบไม้ย่างไฟอ่อนๆ เหมือนลูกชิ้นปิ้งจนสุกได้ที่แล้วจึงลูบเอาเปลือกสีเหลืองออก ชุบน้ำเกลือแล้วนำไปย่างไฟต่อพอแห้ง จะได้เห็ดตำรับบาร์บิคิวที่หอมกรุ่น เนื้อนุ่ม เคี้ยวหนึบอร่อย

คนอีสานเขาเรียกสูตรตำรับนี้ว่า “จ่ามเห็ดหำพระ” หรือบาร์บิคิวอีสานนั่นเอง





ถ้าอยากจะกินแซบขึ้นอีกขอแนะนำสูตรเด็ด แกงเห็ดหำพระ ประสกกินได้ สีกากินดี ดังนี้

ส่วนผสม
1. เห็ดหำพระอ่อนๆ ย่างไฟขัดเอาสีเหลืองออกหมดแล้ว 1 ขีด
2. พริกแห้ง 5 เม็ด
3. กระเทียมเผา 2 หัว
4. ข่าหั่น 1 หัว
5. ตะไคร้ซอย 2 ต้น
6. หอมเผา 4 หัว
7. ขิงเผา 1 หัว
8. เกลือ 1 หยิบมือ
9. เนื้อปลาที่หาได้ในท้องถิ่น 1 ถ้วย
10. ข้าวคั่ว 2-4 ช้อนโต๊ะ
11. ใบโหระพา 10-20 ใบ

วิธีปรุง
นำวัตถุดิบเครื่องแกงตั้งแต่รายการที่ 2-8 มาโขลกในครกให้แหลกเป็นเนื้อแกงเดียวกัน จากนั้นนำเห็ดหำพระย่างที่หั่นแล้วใส่ลงในหม้อ เติมน้ำเล็กน้อยพอท่วมเห็ด ต้มพอสุก ใส่พริกแกงและเนื้อปลาลงไปคลุกเคล้าเยาะน้ำปลาเล็กน้อยให้ได้รสชาติตามต้องการ ใส่ข้าวคั่ว แล้วต้มอีกสักพักเพื่อให้รสเข้มข้นหอมมัน  จากนั้นโรยใบโหระพาลงไปปิดฝาหม้อ ยกลงพร้อมเสิร์ฟได้เลย

เห็ดเป็นอาหารสุขภาพชั้นดีกินเท่าไรก็ไม่อ้วน มีสารอาหารโปรตีน วิตามินเกลือแร่พอสมควร  แต่ถ้าจะให้ได้สารอาหารครบถ้วน ควรได้แหล่งโปรตีนจากธัญพืชจำพวกถั่วด้วยสำหรับนักมังสวิรัติ

แต่สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการลดน้ำหนักควรได้โปรตีนจากปลาเสริม เพราะเห็ดส่วนใหญ่มีโปรตีนเพียง 2-10% โดยน้ำหนัก ยกเว้นเห็ดหอมที่มีโปรตีนถึง 20%   วสันต์ฤดูนี้ ถ้ายังมีฝนตกหยิมๆ ให้เก็บเห็ดได้มากมาย เราก็คงจะได้เพลิดเพลินเจริญอาหารกับเมนูเห็ดป่าเลิศรสหลากหลายชนิดที่เป็นทั้งยาและอาหารสุขภาพชั้นดี โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยาที่เป็นเคมีเภสัชเลยด้วยซ้ำไป


ที่มา : คอลัมน์ สมุนไพรเพื่อสุภาพ โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทยเห็ดหำพระ บำรุงสุขภาพสตรี” หน้า 102 หนังสือมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1823 ประจำวันที่ 24-30 กรกฎาคม 2558

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.332 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 05 เมษายน 2567 11:41:26