25 เมษายน 2567 22:39:34
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
.:::
เชือกคาด สุดยอดเครื่องรางของขลัง
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: เชือกคาด สุดยอดเครื่องรางของขลัง (อ่าน 4911 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2325
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
เชือกคาด สุดยอดเครื่องรางของขลัง
«
เมื่อ:
19 สิงหาคม 2558 17:48:55 »
Tweet
เชือกคาด ลายกระดูกงู หาดูยาก
เชือกคาด
สุดยอดเครื่องรางของขลัง อีกหนึ่งภูมิปัญญาของเกจิอาจารย์ไทย
สายตรงเครื่องรางของขลัง
“
เชือกคาด
” เป็น "
เครื่องรางของขลัง
" ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นภูมิปัญญาของเกจิอาจารย์ไทยมาแต่โบราณกาลอย่างแท้จริง คำว่า “คาดเชือก” เป็นชื่อมวยไทยสมัยเก่าก่อน หากต่อยกันด้วยหมัดรุ่นๆ มันไม่ค่อยถนัด เดี๋ยวเนื้อหนังถลอกปอกเปิก จึงเอาเชือกเส้นเล็กๆ มาพันมือแทนนวม แล้วก็ต่อยกัน ส่วนเชือกนั้นต้องชุบน้ำข้าว เพื่อให้คม จะได้ฉีกเนื้อคู่ต่อสู้ให้เหวอะแตก เรียกว่าให้แพ้เท็คนิเกิลน็อคเอ้าท์ไปเลย
ในอดีตกาล บรมครูมวยไทยของเราคนหนึ่งชื่อ นายขนมต้ม เคยถล่มนักมวยพม่าถึง ๑๐ คนผลัดมาแล้ว ก็ด้วยคาดเชือกนี่แหละ แต่เชือกคาดนั้น คือ เชือกเส้นใหญ่ที่ใช้คาดเอว เพื่อให้เป็นคงกระพันชาตรี จัดอยู่ในชุดเครื่องคาดของไทยชนิดหนึ่ง การแต่งกายให้สุภาพก็ต้องมีเข็มขัด ซึ่งพัฒนามาจากเชือกคาดเอวในสมัยโบราณ ส่วนรัดประคดของพระสงฆ์ก็จัดอยู่ในสายคาดเอวเหมือนกัน เชือกคาดจึงเป็นสิ่งที่ผูกพันกับชีวิตของคนไทยมาแต่โบราณ พระเกจิอาจารย์ต่างๆ จึงนิยมสร้างเชือกคาดขึ้นมาเป็นเครื่องรางไว้ป้องกันภัยให้กับลูกศิษย์...สืบทอดวิชามาจนถึงทุกวันนี้
"เชือกคาด" ที่ว่านี้ไม่ใช่เชือกคาดปอ, เชือกกล้วย หรือเชือกมะนิลา แต่เป็นเชือกที่ถักขึ้นเป็นพิเศษพร้อมกับลงคาถาอาคม โดยมีหลักการสร้างดังนี้
๑.ใช้ผ้าขาวที่ห่อศพ หรือคลุมโลงศพ หรือจะใช้ผ้าเหลืองพระที่ได้มาจากบังสุกุลเอามาฉีกเป็นเส้นๆ ก็ได้
๒.ต้องลงอักขระลงไปบนเส้นผ้าที่ฉีกออกนั้นให้ครบทุกเส้น คือลงให้เต็มที่
๓.ถ้าหากไม่ฉีกเป็นเส้นก็เอามาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม แล้วลงยันต์ นำมาม้วนเป็นก้อนแท่งยาว ๆ แล้วเอาเชือกมาถักหุ้มภายนอกสำหรับคาดเอว อย่างนี้ก็ใช้ได้เหมือนกัน
๔.บางแห่งใช้ "หวาย" ลงอักขระ แล้วถักหุ้มด้วยผ้า เป็นสายคาดเอวก็มี
เชือกคาดเอว
ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมีหลายสำนัก เป็นการสืบทอดวิชามาจากโบราณคณาจารย์ยุคเก่าอย่างไม่ขาดสาย อาทิ เชือกคาดไส้หนุมาน หวายคาดเอว หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว, หวายคาดเอว หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว, เชือกคาดเอว หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ , เชือกคาดเอว หลวงพ่อโชติ วัดตะโน, เชือกคาดเอว หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว (ลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้ม), เชือกคาดเอว หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง (ลูกศิษย์หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ), เชือกคาดเอว พ่อท่านเขียว วัด หรงบน, เชือกขมวดหนุมาน หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค, เชือก ๗ ขอดไปได้กลับได้ หลวงพ่อกวย,เชือกคาดเอว หลวงพ่อหลิว วัดสนามแย้, เชือกขอด หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ, เชือกคาดตะกรุด ภุชงค์เบญจฤทธิ์ หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง, เชือกคาดเอว หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ฯลฯ
สรุปแล้ว เชือกคาด ก็คือ การลงอักขระบนผ้า หรือวัสดุอื่นๆ แล้วทำให้เป็นสายยาวๆ ใช้คาดเอวป้องกันอันตราย ส่วนการลงอักขระนั้น ก็แล้วแต่จะเลือกเอา เท่าที่ได้คลี่เชือกคาดของพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งของนครปฐม ดูเส้นหนึ่ง (เพราะชำรุดคาดไม่ได้) พบว่า เป็นการลงยันต์แบบปทุมจักรตรงกลาง ล้อมรอบด้วยยันต์องค์พระ เป็นมหาอุด ขมวดมุมทั้งสี่ด้วยยันต์เฑาะว์สมาธิ และมีอักขระกำกับสี่ด้าน เมื่อแกะดูแล้วผู้เป็นเจ้าของยังใช้เป็นผ้ายันต์นำติดตัวไปไหนมาไหนได้ เพราะถือว่าได้ลงอักขระและปลุกเสกไว้แล้วย่อมต้องเข้มขลังเหมือนเดิม
เชือกคาด สุดยอดเครื่องรางของขลัง 3 เชือกคาด มีหลายสำนักทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ... อาทิของ หลวงพ่อโชติ วัดตะโน ธนบุรี สำนักนี้ถักเป็น ลายจระเข้ขบฟัน หัวเป็นตะกร้อ หางเชือกเป็นบ่วงแน่นหนา มีทั้งผ้าขาว และผ้าเหลือง สมัยก่อน มีผู้คนจำนวนมากนิยมไปหา หลวงพ่อโชติ วัดตะโน เพื่อขอเชือกคาดจากท่าน ต่อมาท่านเกิดตาบอดตอนชราภาพ ก็เพราะว่า การทำเชือกคาดนั้น ต้องเสียค่ายกครูหนึ่งสลึง (สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ เงินเฟื้องเงินสลึง หรือ ๒๕ สตางค์ ถือว่าไม่ใช่เงินน้อยๆ บังเอิญมีเจ้าหนุ่มชาวสวนคนหนึ่ง อยากได้เชือกคาด แต่ไม่มีสตางค์ จึงไปกราบเท้าอ้อนวอนขอให้ท่านช่วยทำเชือกคาดให้ ปรากฎว่าท่านใจอ่อน ก็เลยทำให้ฟรี ไม่เรียกค่ายกครู เท่านั้นแหละ ครูของท่านมาบอกว่า เอ็งจะต้องตาบอดแน่ๆ และท่านก็ตาบอดจริงๆ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๐ มาถึง พ.ศ.๒๕๐๐ สิบปีเต็มๆ ที่หลวงพ่อต้องให้ศิษย์ถักเชือกแล้วเอามาให้ท่านปลุกเสกอีกทีหนึ่ง ... ทุกวันนี้ แม้หลวงพ่อโชติจะมรณภาพ
สำหรับเชือกคาดของหลวงพ่อเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ท่านใช้ผ้ารอยมือรอยเท้าของท่านมาม้วนแล้วถักเป็นเชือกคาด ส่วนเชือกคาดของหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ท่านใช้ผ้าขาวมาถักเป็นเชือกล่ามควาย หัวก็พันเอาดื้อๆ ไม่ค่อยสวย แต่มีผลชะงัดทีเดียว เชือกคาด นั้นใช้ได้ ๒ อย่างด้วยกัน คือ ๑.คาดเอวแทนเข็มขัด หรือแทนตะกรุด แต่บางคนใช้พันแขนแทน เชือกคาดแขน หรือพิรอดแขน ใช้ได้ทั้ง ๒ อย่าง แล้วแต่จะสะดวก
สุดยอดของเชือกคาด ถ้าจะเอากันให้ดีจริงๆ ต้องปลุกเสกให้เชือกคาดนั้นสามารถเคลื่อนตัว
บิดไปบิดมาได้เหมือนกับงู
จึงจะใช้การได้อย่างแท้จริง ซึ่งพลังจิตแบบนี้มีพระเกจิอาจารย์น้อยรูปที่สามารถทำได้
การอาราธนาเชือกคาด ใช้พระคาถาดังนี้...ตั้งนะโมฯ ๓ จบ แล้วสวดบูชาระลึกถึงพระศรีรัตนตรัย บิดามารดา ครูบาอาจารย์ และท่านผู้เป็นเจ้าของเชือกคาด เป็นที่สุดแล้วว่า “อุทธัง อัทโธ นะโมพุทธายะ โธอุท ธังอัท ผุดผัดผิด ปิดด้วยนะโมพุทธายะ มะอะอุ อุอะมะ นะปิดนะหยุด นะอัตถะยาวะ”ข้อมูล
จากหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...