[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 21:04:13 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา  (อ่าน 3347 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2554 13:30:18 »

ความรู้ในระดับสูงจากการทำสมถะและวิปัสสนา


สมาธิ = จิตนิ่ง (ไม่ใช่กาย) นิ่งจนสามารถดับกิเลสทั้งหลายที่เกิดขึ้นได้  สมาธิในระดับสูงสุดเรียกว่า "เจโตวิมุติติ"

วิปัสสนา =  การดูจิต ดูกายตน จนกระทั่งเกิดปัญญารู้ความจริงว่า มีจิตอันหนึ่งที่เป็นตัวรู้ ซ่อนอยู่ในจิตของเรา ซึ่งเป็นผู้เคลื่อนไหวไปตามแรงของกุศล/อกุศล และความคิดปรุงแต่ง  วิปัสสนาในระดับสูงสุดเรียกว่า "ปัญญาวิมุติติ"

จิตตัวรู้ =  จิตพุทธะ หรือจิตนิพพาน หรือจิตมีสติสัมปะชัญญะเต็มที่  ไม่หลงไปตามการลวงของกิเลสตัณหาใด

จิตที่เคลื่อนไหว = จิตสังขาร หรือ จิตในปฏิจจสมุปบาท  จิตสังขาร หรือ จิตในปฏิจจสมุปบาท นี้เอง ที่พาคุณไปเกิดเป็นคน สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ

ทำสมาธิอย่างเดียวโดยไม่ทำวิปัสสนา เข้าถึงนิพพานได้ยาก   พระพุทธเจ้าจึงสอนให้ทำสมาธิควบคู๋ไปกับวิปัสสนา  ผลลัพท์ก็คือ รู้ก็สักแต่ว่ารู้  เห็นก็สักแต่ว่าเห็น  อะไรอะไรก็สักแต่ว่าทั้งนั้น  จิตไม่คิดปรุงแต่งออกไปเป็นอย่างอื่น 

เมื่อนั้นเราจะรู้ว่า  ที่แท้เหล่ามนุษย์ สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ ล้วนกำลังอยู่ในความฝันของตัวเองที่บุญและบาปนำมาให้พบ  และให้เล่นอยู่ในภพภูมิต่างๆตามกำลังบุญบาปของตน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2554 23:50:05 »

อ้างอิงคำพูดคุณพลศักดิ์
เมื่อนั้นเราจะรู้ว่า  ที่แท้เหล่ามนุษย์ สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ ล้วนกำลังอยู่ในความฝันของตัวเองที่บุญและบาปนำมาให้พบ  และให้เล่นอยู่ในภพภูมิต่างๆตามกำลังบุญบาปของตน



 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
ความรู้ระดับสูงทีได้จากสมถะ และวิปัสสนา (จริงๆๆ)

ก็เลยโยงไปอ้างอิงท้าวความถึงกระทู้นี้

http://www.sookjai.com/index.php?topic=16254.0

กระทู้นั้น มีกลิ่นอายของมาร
ที่ทำให้เวียนว่าย ในสังสารวัฎ  ด้วยกำลังบุญและบาป ติดอยู่ในความฝันตนเอง
จนจะอยู่เป้นสัตว์ตัวสุดท้าย ที่จะตื่น

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

แลก็อ้างอิง คำพูดคุณพลศักดิ์เอง  เป็นคำรบสอง
ว่ามั่วขนาดไหน

พระโพธิสัตว์ที่เข้านิพพานไปแล้ว  แต่ไม่ยอมคงอยู่ในพระนิพพาน(พุทธภูมิ) จึงทิ้งพระนิพพาน(พุทธภูมิ)ออกมาอยู่ในโพธิสัตว์ภูมิ  เช่น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระกษิติครรถ์โพธิสัตว์  แม้แต่พระเยซูคริสต์  พวกท่านเป็นพระบุตรเพียงคนเดียวของพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)


กลับมาเวียนว่าย ตามคติทั้งหก เช่นเดิม
เพราะเพลินต่อ อายตนะ

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 กุมภาพันธ์ 2554 23:53:18 โดย armageddon » บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 12.0.742.100 Chrome 12.0.742.100


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2554 23:57:10 »

อ้างอิงคำพูดคุณพลศักดิ์
เมื่อนั้นเราจะรู้ว่า  ที่แท้เหล่ามนุษย์ สัตว์ เทพ พรหม เปรต สัตว์นรก ฯลฯ ล้วนกำลังอยู่ในความฝันของตัวเองที่บุญและบาปนำมาให้พบ  และให้เล่นอยู่ในภพภูมิต่างๆตามกำลังบุญบาปของตน



 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
ความรู้ระดับสูงทีได้จากสมถะ และวิปัสสนา (จริงๆๆ)

ก็เลยโยงไปอ้างอิงท้าวความถึงกระทู้นี้

http://www.sookjai.com/index.php?topic=16254.0

กระทู้นั้น มีกลิ่นอายของมาร
ที่ทำให้เวียนว่าย ในสังสารวัฎ  ด้วยกำลังบุญและบาป ติดอยู่ในความฝันตนเอง
จนจะอยู่เป้นสัตว์ตัวสุดท้าย ที่จะตื่น

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

แลก็อ้างอิง คำพูดคุณพลศักดิ์เอง  เป็นคำรบสอง
ว่ามั่วขนาดไหน

พระโพธิสัตว์ที่เข้านิพพานไปแล้ว  แต่ไม่ยอมคงอยู่ในพระนิพพาน(พุทธภูมิ) จึงทิ้งพระนิพพาน(พุทธภูมิ)ออกมาอยู่ในโพธิสัตว์ภูมิ  เช่น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระกษิติครรถ์โพธิสัตว์  แม้แต่พระเยซูคริสต์  พวกท่านเป็นพระบุตรเพียงคนเดียวของพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)


กลับมาเวียนว่าย ตามคติทั้งหก เช่นเดิม
เพราะเพลินต่อ อายตนะ

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

พระอรหันต์โพธิสัตว์ท่านบรรลุธรรมแล้ว  จะไปเพลินต่อ อายตนะได้อย่างไร  เพียงแต่ท่านมีหน้าที่ต้องทำ ต้องช่วยโปรดสัตว์ต่อเท่านั้เอง
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2554 23:45:09 »

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

กว่าคุณพลศักดิ์จะไปหาคำตอบมาได้ ตั้งห้าเดือนแน่ะ
ไปโดนช๊อตไฟฟ้ามาหรือไงครับ

ความรู้ระดับสูงของคุณพลศักดิ์  ยังสูงไม่พอครับ

ต้องสูงพอที่จะเข้าไปดูที่ดุสิตให้ได้เสียก่อนครับ


อุคส่าห์ ไปคิดคำตอบ  ไปสรรหามากว่าห้าเดือน  ก็มาตอบผิดอีกแล้ว ครับ

พระอรหันต์ อยู่ต่อได้ ตามอายุขัยเท่านั้น

พระพุทธเจ้า ก็อยู่ได้ ไม่เกินอายุขัย

ก่อนจะมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ทรงเลือกสถานที่เกิด ห้าอย่าง
เรียกว่า ปัญจะมหาวิโลกนะ

ข้อที่หนึ่ง เลื่อกกาล อายุขัย
การที่ทรงเลือก อายุกาลมนุษย์ เพราะอายุมนุษย์ขึ้นลงตามกระแสสังขาร บางยุคอายุ ๘ หมื่นปี ๔ หมื่นปี ๒ หมื่นปี อายุกาลของมนุษย์ในยุคนั้น ๑๐๐ ปีตรงตามที่ทรงกำหนดไว้คือต้องไม่สั้นกว่าร้อยปี ต้องไม่ยาวเกินแสนปี ที่ทรงเลือกอายุ ๑๐๐ ปีเพื่อให้เห็นความไม่เที่ยงของสังขาร เหตุที่ไม่ตรัสรู้บนสวรรค์ทั้งนี้เพราะเทวดาไม่เห็นทุกข์มีแต่สุข อายุยืนยาวนานนัก จะไม่เห็นอริยสัจ การตรัสรู้ธรรมและแสดงธรรมได้ผลดีมากในเมืองมนุษย์

ถ้าอายุเกินกว่านี้   อยู่แถไปแถมา เป็นพันปี

เรียกว่า มั่วครับ


บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 21 มิถุนายน 2554 00:10:30 »

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

พระอรหันต์ ไม่เป็นทุกข์เพราะอุปาทานอันเร่าร้อนเผาลนครับ 
เพราะความสิ้นไปแห่งตัณหาอันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพสิ้นแล้ว

แล้วพระอรหันต์
จะไปสู่ภพภูมิต่างๆ  ไม่รู้จบ ได้อย่างไร

เมื่อเครื่องนำไปสู่ภพอันได้แก่ ตัณหา อุปทาน ได้ สิ้นลงไปแล้ว

ถ้ายังเกิดภพอยู่  ก็ไม่ใช่แล้ว

แบบนั้น เรียกว่ามั่วตามเคยครับ


 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.294 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 03 มีนาคม 2567 11:08:59