[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 18:55:40 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชมวัง-เข้าวัด ไหว้พระพม่า  (อ่าน 1609 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2321


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 23 ธันวาคม 2558 20:05:59 »

.


ชมวัง-เข้าวัด ไหว้พระพม่า

ในโอกาสไปร่วมทริปโครงการความร่วมมือ "ผ่าตัดต้อกระจกเพื่อผู้ยากไร้" กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) และเอสซีจี เพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสมองเห็นได้อีกครั้ง สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ไทย-เมียนมา

โดยระหว่างทางก่อนไปปฏิบัติภารกิจสำคัญที่โรงพยาบาลเจนเนอรอล เมืองเมาะลำไย รัฐมอญ ประเทศเมียนมา นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.ศูนย์จักษุและต้อกระจก ร.พ.บ้านแพ้ว เป็นไกด์นำคณะไปเที่ยวทำบุญไหว้พระตามวัด และสถานที่สำคัญต่างๆ ในพม่า

แห่งแรกที่ไปเยือนคือ "พระราชวังบุเรงนอง" เมืองหงสาวดี ห่างจากนครย่างกุ้งประมาณ 80 กิโลเมตร ปัจจุบันพระราชวังสร้างขึ้นใหม่จากการสันนิษฐานทั้งหมดโดยรัฐบาลพม่าเมื่อปี พ.ศ.2533

กรมโบราณคดีพม่าจำลองพระมหาปราสาทและตำหนักต่างๆ ขึ้น ภายในประดิษฐานพระราชบัลลังก์ที่ประทับของพระมหากษัตริย์เรียกว่า "ภุมราสนบัลลังก์" โดยจัดแสดงสิ่งของต่างๆ และเสาไม้ ที่สันนิษฐานว่าเป็นชิ้นส่วนของซากปราสาทองค์เดิมที่เหลืออยู่

สถานที่ต่อมาคือ "วัดวินเส่งตอว์ยะ" ตั้งอยู่ในเมืองมุดง รัฐมอญ ห่างจากเมืองเมาะละแหม่งไปทางทิศใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร


 

บริเวณถนนทางเข้าวัดเป็นรูปปั้นพระอรหันต์ 500 องค์ ยืนเรียงอยู่เป็นการจำลองขบวนพระอรหันต์เดินตามพระพุทธเจ้า เมื่อถึงภายในวัดจะพบกับพระปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2536 มีความยาวประมาณ 170 เมตร สูงราวๆ ตึก 5 ชั้น

ภายในองค์พระแบ่งเป็นห้องต่างๆ มีทั้งภาพวาดและประติมากรรมรูปปูนปั้นที่แสดงถึงพุทธประวัติคำสอนต่างๆ ของพุทธศาสนา เช่น เรื่องนรก สวรรค์ ผลแห่งกรรม ชาดก 10 ชาติ เป็นต้น

ที่นี่เองได้ชิมอาหารว่างประจำประเทศพม่าคือ "เลอะเพ็ดโตะ" หรือเรียกว่า "ยำใบชา" ประกอบด้วย ใบชาหมัก ถั่ว งา พริก มะเขือเทศ กะหล่ำปลีซอย รสชาติจะเค็มๆ มันๆ ต้องกินคู่กับพริกขี้หนูและกระเทียม ถึงจะอร่อย ส่วนราคานั้นเพียง 500 จ๊าต หรือไม่เกิน 20 บาทเท่านั้น

หลังจากคณะ ร.พ.บ้านแพ้ว ปฏิบัติภารกิจสำคัญเสร็จสิ้น จึงเดินทางไปไหว้พระกันต่อที่ "พระธาตุอินทร์แขวน" 1 ใน 5 สถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของชาวพม่า แต่กว่าจะมาถึงต้องนั่งรถ 6 ล้อขึ้นเขาสูงชัน และฝ่าสายฝนตลอดทางมาร่วมชั่วโมง คนขับรถต้องใช้ความชำนาญในการขับรถขึ้นเขา

"พระธาตุอินทร์แขวน" อยู่ที่เมืองไจก์โถ่ อ.สะเทิม รัฐมอญ บนยอดเขาพวงลวง ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงกว่า 1,200 เมตร พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่เหมือนจะหล่นแต่ไม่หล่น

มีความเชื่อกันว่าพระอินทร์เสด็จลงมาจากสวรรค์นำเอาพระธาตุมาแขวนไว้ให้ผู้มีบุญมากราบไหว้ ใครได้มาสักการะก็เท่ากับได้ไหว้พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์

จากนั้นไปต่อกันที่ "เจดีย์ชเวดากอง" ตั้งอยู่ที่เมืองย่างกุ้ง เป็นสถานที่สำคัญ 1 ใน 5 แห่งของชาวพม่าที่เกิดมาครั้งหนึ่งในชีวิตต้องเดินทางมาสักการะ เพราะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่าและชาวมอญ

เจดีย์ชเวดากองมีความสูง 109 เมตร ภายในเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุ 8 เส้นของพระพุทธเจ้า รอบองค์เจดีย์มีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศ ใครเกิดวันไหนให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรูปภาพอันเก่าแก่เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเจดีย์ชเวดากอง

ต่อมาไฮไลต์ของงาน คือ "เจดีย์วัดโบตะตอง" ตั้งอยู่ที่เมืองย่างกุ้งเช่นกัน ที่นี่มี "เทพทันใจ" และ "เทพกระซิบ" ใครได้ไปอธิษฐานขอพรจะได้ผลรวดเร็วทันใจ

การบูชานั้นต้องใช้กล้วยนากและมะพร้าวพร้อมชุดบูชา ส่วนการอธิษฐานขอพรเทพทันใจ จะต้องถวายธนบัตร 2 ใบ เสียบไว้ที่มือของท่านที่ชี้นิ้วไปข้างหน้า จากนั้นยืนให้หน้าผากของเราจรดกับนิ้วมือของท่านแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอพรเพียง 1 ข้อเท่านั้น

เสร็จแล้วนำธนบัตรที่ถวายนำกลับคืนมา 1 ใบ เพื่อนำไปเป็นเงินขวัญถุงและเป็นสิริมงคล ส่วนการบูชาเทพกระซิบนิยมบูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ พร้อมทั้งตั้งจิตอธิษฐานกระซิบขอพรที่ข้างหูของท่าน

ที่สุดท้ายก่อนเดินทางกลับคือ "พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี" หรือ "พระนอนตาหวาน" เป็นพระนอนองค์ใหญ่และงดงามที่สุดของประเทศพม่ามีความยาวกว่า 70 เมตร มีพระพักตร์และดวงตาที่งดงามและจีวรที่พลิ้วไหว และที่ฝ่าพระบาทมีลวดลายธรรมจักรล้อมด้วยรูปมงคล 108 ประการ

นอกจากภารกิจจิตอาสาของ ร.พ.บ้านแพ้ว ช่วยเหลือชาวพม่าแล้ว ยังได้ไหว้พระอิ่มบุญอิ่มใจไปด้วย



daily.khaosod.co.th/view

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.263 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 18 เมษายน 2567 15:49:28