[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 03:07:26 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คัทธณะกุมารชาดก  (อ่าน 3505 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 20 มกราคม 2559 19:59:32 »

.


คัทธณะกุมารเกี้ยวพาราสีนางสีไว ธิดาเศรษฐีเมืองจำปานคร
จิตรกรรมชาดก เรื่อง "คัทธณะกุมาร"
วัดภูมินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

คัทธณะกุมารชาดก

เมื่อครั้งที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นคัทธณะกุมาร ได้บรรเทาทุกข์แก่สรรพสัตว์ผู้ยากทั่วสารทิศโดยมิได้คำนึงถึงความเหนื่อยยาก ไม่ว่าไปถึงที่ใด ณ ที่นั้นความเดือดร้อนก็จะหมดสิ้นทุกแห่งหน จากนั้นคัทธณะกุมารพร้อมด้วยนายไผ่ร้อยกอกับนายเกวียนร้อยเล่ม สองบ่าวคู่ใจก็จะไปยังถิ่นฐานที่ต้องการความช่วยเหลือต่อไป

เมื่อคัทธณะกุมารกับสองบ่าวเดินทางเข้ามายังเมืองขวางทะบุรีศรีมหานคร ซึ่งขุนบรมราช เจ้าเมืองได้มีประกาศว่าในวัน ๗ ค่ำ และ ๘ ค่ำ วัน ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ ทั้งข้างขึ้นและข้างแรมห้ามชาวบ้านชาวเมืองกระทำการบาปใดๆ คำสั่งนี้เป็นเสมือนคำสาปแช่งด้วย เพราะหากผู้ใดฝืนประกาศแล้วจะบังเกิดความพินาศวิบัติล่มจมทั้งตนเองและบ้านเมือง ขวางทะบุรีศรีมหานครก็มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมา กระทั่งถึงสมัยพระยาผู้ครองเมืององค์หนึ่งไม่อยู่ในทศพิธราชธรรมและยังทำความเดือดร้อนให้บ้านเมืองเคียงข้างไม่ว่างเว้น ไม่ว่าจะเป็นการหาเหตุรุกรานฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฉุดคร่าลูกสาวเขา ร้อนถึงอาสน์พระยาแถน เทวดาผู้เป็นใหญ่ เห็นการณ์จะไม่เข้าที ขืนปล่อยไว้นานสืบไปคงจะกำเริบเสิบสานไม่มีที่สุด จึงสั่งพญางูใหญ่น้อยมากมายให้มาทำลายเมืองและผู้คนเสียให้สิ้น เมืองจึงกลายเป็นเมืองร้าง มีเพียงชีวิตเดียวที่รอดมาได้ก็คือ นางกองสี พระธิดาของพญาผู้ฮึกเหิม ซึ่งบิดาได้ซ่อนตัวนางไว้ในกลองใบใหญ่ก่อนที่กรรมจะตามสนอง

เมื่อคัทธณะกุมารผ่านเข้ามาในเมืองร้างขวางทะบุรีศรีมหานคร ไม่ปรากฏว่ามีผู้อยู่อาศัยและรกร้างด้วยรังนกรังกา เดินสำรวจพบกลองใบใหญ่บนหอกลอง พอเอาไม้เคาะดูและได้ใช้พระขรรค์เปิดหนังหน้ากลองออกก็ได้ตัวพระธิดากองสี บอกเล่าว่างูร้ายฝูงใหญ่จะลงมาทำร้ายผู้คนทันทีหากเห็นกลุ่มก้อนควันไฟลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า คัทธณะกุมารจึงสั่งให้นายไผ่ร้อยกอกับนายเกวียนร้อยเล่ม จัดการก่อไฟกองโตควันทะมึน พระยาแถนจึงสั่งงูร้ายให้ลงมายังขวางทะบุรีอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้บรรดางูร้ายทั้งหลายถูกคัทธณะกุมารฆ่าตายหมด ฝ่ายพระยาแถนก็มิได้ติดใจยืดเยื้อ อาจเห็นว่ามีคนดีมาเกิดแล้ว และพวกขวางทะบุรีศรีมหานครก็ได้รับบทเรียนแล้ว คงจะกลับตัวกลับใจได้

ครั้นเมืองขวางทะบุรีศรีมหานคร มีความร่มเย็นเป็นสุขดีแล้ว คัทธณะกุมารก็มอบเมืองบำเหน็จแก่นายไผ่ร้อยกอ ปกครองอยู่กินกับราชธิดากองสีสืบไป ส่วนพระองค์กับนายเกวียนร้อยเล่มก็ออกเดินทางต่อไป




จิตรกรรมชาดก เรื่อง "คัทธณะกุมาร"
วัดภูมินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

ต่อมาเมื่อคัทธณะกุมารกับนายเกวียนร้อยเล่มเดินทางมาถึงเมืองชะวาทะวดีศรีมหานคร ก็ปรากฏว่ามิได้มีอะไรผิดแผกไปจากขวางทะบุรีศรีมหานครเลย เมืองชะวาทะวดีศรีมหานครได้กลายเป็นเมืองร้างปราศจากร่องรอยสิ่งมีชีวิต คัทธณะกุมารกับนายเกวียนร้อยเล่มจึงตรวจหาความจริงโดยผ่านเข้าไปถึงกลางท้องพระโรง ได้ใช้ไม้เคาะเสาท้องพระโรงต้นหนึ่ง กลับได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง คัทธณะกุมารจึงเปิดโพรงเสาพบหญิงสาวแสดงตนเป็นราชธิดาแห่งชะวาทะวดี ชื่อนางคำสิง พร้อมทั้งได้เล่าเรื่องแต่ครั้งก่อนว่า เมืองของนางนั้นเดิมมามีความสมบูรณ์พูนสุขเป็นอย่างยิ่ง วันหนึ่งพระบิดาเสด็จประพาสป่าแล้วประทับพักผ่อนใต้ต้นไม้ เผอิญกาที่จับอยู่บนต้นไม้นั้นถ่ายมูลลงมาถูกพระองค์เข้า ทรงพิโรธยิ่งนัก กาตัวนั้นจึงต้องตายเท่านั้นยังไม่พอ ทรงออกประกาศให้พลเมืองของพระองค์ฆ่าแร้งกาที่พบเห็นให้หมดสิ้น การสำแดงพระองค์เป็นพาลเช่นนี้ พระยาแถนจึงบัญชาให้นกรุ้ง นกแร้งและหงส์ทองจำนวนมากมาจิกกินชาวชะวาทะวดีทั้งหมด แต่ที่นาคำสิงรอดมาได้นี้ก็เพราะก่อนที่พระบิดากับพระมารดาจะถูกแร้งปลงพระชนม์ชีพ ได้นำนางมาซ่อนไว้ในโพรงเสาท้องพระโรง ถ้าหากคัทธณะกุมารจะช่วยเหลือนางแล้วก็ขอให้ก่อกองไฟเพื่อมีควันมากๆ แล้วฝูงแร้งฝูงหงส์เหล่านั้นจะพากันมาโดยทันที นายเกวียนร้อยเล่มจึงได้จุดกองไฟเรียกนกแร้ง ฝ่ายพระยาแถนเทวดาเห็นควันไฟลอยพุ่งขึ้นมาจากนครร้างก็ส่งฝูงนกแร้ง นกรุ้ง หงส์ทองลงมาทันใด คัทธณะกุมารได้แสดงอิทธิฤทธิ์สังหารเสียสิ้น พระยาแถนก็มิได้ติดใจ คัทธณะกุมารจึงจัดแจงชุบชีวิตเจ้าเมือง มเหสี และไพร่บ้านพลเมืองขึ้นมาดังเดิม ส่วนนายเกวียนร้อยเล่มก็ได้รับบำเหน็จขึ้นปกครองชะวาทะวดีศรีมหานครกับนางคำสิงด้วยทศพิธราชธรรมโดยสงบ สันติเรื่อยมา ฝ่ายคัทธณะกุมารก็ออกจาริกต่อไป


จิตรกรรมชาดก เรื่อง "คัทธณะกุมาร"
วัดภูมินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.431 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้