[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 07:27:20 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มหันตภัยจากความหวาน อาจทำลายระบบลำไส้  (อ่าน 1029 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2325


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 25 เมษายน 2559 19:52:31 »



มหันตภัยจากความหวาน
อาจทำลายระบบลำไส้

อาหารไทยนั้นเป็นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารมีรสชาติจัดจ้าน ทั้งเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ดเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทยำ แกง อาหารหมักดอง และอื่นๆ อีกมากมาย

หนึ่งในรสชาติของอาหารไทยที่โดดเด่นนั่นก็คือ "รสหวาน" ทั้งรสหวานที่ได้จากน้ำตาล น้ำตาลโตนด และสารให้ความหวานที่ใช้แทนน้ำตาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรลดการบริโภคในชีวิตประจำวัน

"นพ.สมบูรณ์ รุ่งพรชัย" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า การบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไปทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคไขมันพอกตับ

ที่น่ากังวลก็คือ ปัจจุบันพบว่ามีอัตราการเกิดโรคเหล่านี้สูงในกลุ่มคนหนุ่มสาวและเด็ก ซึ่งต่างจากในอดีตที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป

"อยากแนะนำให้ทุกคนบริโภคน้ำตาลแต่พอดี และควรเลือกรับประทานน้ำตาลชนิดที่มีประโยชน์ เพราะน้ำตาลแต่ละชนิดก็ให้ผลไม่เหมือนกัน

กลูโคส เป็นน้ำตาลที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเองตามธรรมชาติ จากการเปลี่ยนพลังงานคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากข้าวหรือพาสต้า กลูโคสถูกดูดซึมสู่ตับได้โดยง่ายและจะถูกส่งต่อไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย"

"กลูโคสเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซลล์สมอง ส่วนฟรุกโตส (หรือ ฟรักโทส) เป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม ฟรุกโตส เป็นน้ำตาลที่พบได้ในผักและผลไม้ที่เติมเข้าไปในเครื่องดื่มอย่างเช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง แตกต่างจากกลูโคสเนื่องจากฟลุกโตสไม่ได้สร้างพลังงานให้กับกล้ามเนื้อหรือสมอง แต่มันจะถูกส่งตรงไปที่ตับและสะสมเป็นไขมันและไม่ได้ถูกดึงมาใช้งาน"

นพ.สมบูรณ์กล่าวว่า ฟรุกโตสไประงับการกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารอิซูลิน พูดง่ายๆ ก็คือ คนที่บริโภคฟรุกโตสเป็นจำนวนมาก มีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารที่ผิดปกติอย่างเช่น ความดันสูง น้ำตาลในเลือดสูง โรคอ้วนลงพุง ระดับคอเลสเตอรอลผิดปกติ ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและเบาหวาน

"น้ำเชื่อมที่มีฟรุกโตสสูง เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มีราคาถูกที่สกัดจากข้าวโพด สารนี้ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหาร และเป็นมหันตภัยความหวานอันดับแรกที่เราควรหลีกเลี่ยง"

การบริโภคน้ำเชื่อมฟรุกโตสสูงในปริมาณสูงถึง 42-55% จะทำลายระบบทำงานของตับและไประงับเล็ปตินฮอร์โมน หรือฮอร์โมนอิ่ม ทำให้เราไม่รู้จักอิ่มและกินเกินความต้องการ

จากผลวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า น้ำเชื่อมฟรุกโตสสูงนั้นเป็นพิษต่อร่างกายและสามารถทำลายระบบลำไส้อีกด้วย

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.43 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 03 กันยายน 2566 11:57:16