ประโยชน์สูงสุด

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/03.%20Track%203.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>

ประโยชน์ของการศึกษาพระธรรมอยู่ที่การมีความเข้าใจในพระธรรมที่กำลังได้ฟัง

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงตรัสรู้นั้น เป็นธรรมที่ลึกซึ้งละเอียดรู้ตามได้ยากจึง

ควรพิจารณาไตร่ตรองให้เข้าใจสิ่งที่ได้ฟังจริง ๆ โดยไม่คิดเอาเองเพราะพระธรรม

นั้นเป็นสิ่งที่มีจริงทรงแสดงสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันมีปรากฏให้

พิสูจน์ได้จึงควรพิจารณาให้เข้าใจถึงลักษณะที่มีจริงของสภาพธรรมแต่ละอย่าง เช่น

จิตเห็น จิตได้ยิน จิตคิด สุข ทุกข์ โกรธ..........ล้วนเป็นของจริงมีลักษณะเฉพาะอย่าง ๆ

ควรที่จะพิจารณาจนกว่าจะเข้าใจสภาพธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงท่าน

อาจารย์เคยกล่าวไว้ว่าเมื่อมีความเข้าใจสิ่งที่ได้ฟังจริง ๆ จิตเห็นมีจริงสิ่งที่ปรากฏ

ทางตามีจริงได้ยินก็มีจริงเสียงก็มีจริงเมื่อมีความเข้าใจถึงลักษณะที่มีจริงของ

สภาพธรรมแต่ละอย่างไม่ท้อถอยที่จะอบรมความเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏเมื่อ

ความเข้าใจค่อย ๆ เพิ่มขึ้นสักวันหนึ่งสติจะเกิดระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมแล้วก็จน

กว่าจะประจักษ์แจ้งลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริง

เพราะฉะนั้น.......ผู้ที่ได้ฟังธรรมแล้ว ก็จะเกิดความอาจหาญ คือ อุตสาหะในการที่จะ

พิจารณาจนกว่าจะเข้าใจสภาพธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง