[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 00:39:57 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัมผัสที่ 6 "สัตว์" เตือนภัยสึนามิ!!  (อ่าน 19817 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:40:42 »


           รุ่งอรุณวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ตึกสูงมากมายถล่มลงมา ประชาชนนับร้อยคนถูกฝังทั้งเป็นใต้ซากอิฐปูนที่ปรักหักพัง

            เวลาบ่ายโมงของที่นั่นคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในตึกที่ทำงาน เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายระลอก คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งสูงถึง 300 คน ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 3.6 แสนล้านบาท

           ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงเวลาประมาณ 10.10 น. (เวลาในไทย) อีกด้านหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิก เกิดแผ่นดินไหวในประเทศฟิลิปปินส์ขนาด 5.3 ริกเตอร์ ห่างจากกรุงมะนิลาเพียง 66 กม.
 อาคารสูงสั่นสะเทือนแต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

            ผ่านไปเพียง 1 คืน เวลา 22.53 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยประกาศเตือนแผ่นดินไหว ที่สปป.ลาว ขนาด 4.7 ริกเตอร์ ส่งผลให้หลายจังหวัดในภาคอีสานรับรู้ถึงแรงสั่นไหวโดยเฉพาะ จ.แพร่ น่าน เลย อุดรธานี หนองคาย และหนองบัวลำภู



             แม้จะยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั้ง 3 ส่วนนั้นเกี่ยวพันกันแต่ "วิริยะ มงคลวีราพันธ์" อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) วิเคราะห์ว่า ในแต่ละครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ๆ จะเกิดแรงสั่นสะเทือนไปยังจุดอื่น โดยเฉพาะประเทศที่อยู่บนแผ่นเปลือกโลกเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน แม้ว่าระยะทางจะห่างกันหลายพันกิโลเมตรก็ตาม ตัวอย่างเช่น แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ชิลีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว ขนาด 8.8 ริกเตอร์ ทำให้บ้านเรือนพังทลาย มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 คน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 2 ล้านคน ผ่านไป 12 ชั่วโมง ก็เกิดแผ่นดินไหวที่หมู่เกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นขนาด 6.9 ริกเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 คน

             ศูนย์เตือนภัยสึนามิภูมิภาคแปซิฟิกของสหรัฐได้ออกประกาศเตือนภัยไปยังหลายประเทศทันที เนื่องจากความแรงขนาด 8.8 ริกเตอร์ อาจทำให้เกิดคลื่นสึนามิเป็นบริเวณกว้างได้

             "หลังจากแผ่นดินไหวที่ชิลี ผมก็นั่งเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันว่า จะมีคลื่นสึนามิ เข้ามาฝั่งไทยหรือเปล่า ปรากฏว่าคลื่นสึนามิ มาจริงที่ญี่ปุ่นแต่สูงไม่ถึง 1 เมตร แล้วก็เข้ามาฝั่งอ่าวไทยเลยไม่น่าเป็นห่วงเพราะฝั่งอ่าวไทยน้ำทะเลตื้น จึงไม่มีสึนามิลูกใหญ่ อย่างมากก็สูงแค่ 15 ซม. ส่วนแผ่นดินไหวที่เกิดในนิวซีแลนด์แล้วส่งผลถึงสปป.ลาวหรือไม่นั้น คงต้องใช้เวลาตรวจสอบทางธรณีวิทยาว่าเชื่อมโยงกันหรือเปล่า แต่ที่ต้องระวังคือสึนามิเพราะนิวซีแลนด์เป็นเกาะ แรงสั่นสะเทือนต้องดันไปยังพื้นใต้น้ำ ซึ่งอาจเกิดคลื่นยักษ์ได้ ผ่านไป 2 วันก็โล่งใจว่าไม่มี" วิริยะกล่าว

            แม้ว่า "มหันตภัยสึนามิ" จะเป็นภัยธรรมชาติที่คาดเดาล่วงหน้าไม่ได้ แต่นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มพยายามเชื่อมโยงกับความรู้ในอดีตว่า สัตว์ใหญ่จะมีสัมผัสที่ 6 เป็นสัญชาตญาณเตือนภัยสึนามิ ดังเช่น กรณีแผ่นดินไหวเขย่าโลกขนาด 9.3 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 2.3 แสนคนนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ข้อมูลพบว่าก่อนหน้านั้นมีสัตว์หลายชนิดทั้งที่อาศัยอยู่บนบกและในน้ำ มีพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวผิดธรรมชาติ เช่น ฝูงนกขนาดใหญ่ที่บินหนีทั่วท้องฟ้า หรือฝูงช้างป่าที่เคลื่อนขบวนสู่ภูเขาสูง 

            ดร.เฮอร์เว ฟริตซ์ (Herve Fritz) นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์แห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส  (France's National Centre for Scientific Research) ยืนยันว่า สัตว์โดยเฉพาะที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีความสามารถในการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนหรือคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำจากระยะไกล หรือที่เรียกว่า อัลฟราซาวนด์ คลื่นความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ทำให้สัตว์พวกนี้หนีเอาตัวรอดได้ในเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวหรือสึนามิ ส่วนพวกนกจะอ่อนไหวมากหากความกดอากาศเปลี่ยนแปลงไป  เราเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "รหัสเตือนภัย" (alarm codes)           
     
            มีสิ่งบอกเหตุบางอย่างเชื่อมโยงกับการตายของ "วาฬบรูด้า" หลายตัวที่ลอยขึ้นอืดที่ฝั่งอ่าวไทย ช่วงเดียวกับที่เกิดแผ่นดินไหวหลายจุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลายคนเชื่อว่าแผ่นดินไหวอาจทำให้วาฬสูญเสียเรดาร์จึงหลงทางกลับเข้าหาฝูงไม่ได้ หรือมันอาจพยายามเข้ามาเตือนภัยธรรมชาติให้มนุษย์ หรือหนีคลื่นสึนามิใต้น้ำจนตาย

            เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองไครสต์เชิร์ชเพียง 1 วัน  มีรายงานการพบซากวาฬบรูด้า เพศเมีย น้ำหนัก 2 ตัน ยาวกว่า 10 เมตร ลอยมาเกยตื้นที่เกาะแสมสาร สัตหีบ จากนั้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หลังเกิดแผ่นดินไหวที่ สปป.ลาว 1 วันเช่นกัน มีรายงานจากอ่าวละแม จ.ชุมพร ว่า พบซากวาฬบรูด้า น้ำหนัก 4 ตัน ตายอยู่ชายฝั่งทะเล

            ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน ให้ข้อมูลว่า ภายในเดือนกุมภาพันธ์ มีรายงานวาฬบรูด้าตายแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ตัว ถือเป็นเรื่องผิดปกติเป็นอย่างมาก เพราะตามธรรมชาติแล้วจะมีวาฬบรูด้าตายแค่ปีละ 1-2 ตัวเท่านั้น คราวนี้สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นวาฬกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่สามารถผ่าพิสูจน์ได้ เพราะสภาพเน่าและขึ้นอืดมาหลายวันแล้ว คาดว่าตายแบบเฉียบพลันเพราะอายุยังน้อย โดยธรรมชาติแล้ววาฬบรูด้ากลุ่มนี้อาศัยอยู่รวมกันหลายสิบตัว พบแถวอ่าวไทย จ.สมุทรสาคร มักเคลื่อนย้ายไปมาตามฝูงปลากระตักซึ่งเป็นอาหารสำคัญ ส่วนฝั่งอันดามันจะพบแถวเกาะราชา จ.ภูเก็ต

             "ยังไม่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แน่ชัดว่าพฤติกรรมการหนีตายของสัตว์ใหญ่เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับแผ่นดินไหวหรือสึนามิ แต่มีการบันทึกความผิดปกติของสัตว์ไว้ได้ช่วงก่อนเกิดสึนามิ หากอยากรู้ความเชื่อมโยงตรงนี้คงต้องศึกษาอย่างละเอียด รวมถึงการโยกย้ายถิ่นฐานของสัตว์พวกนี้ด้วยว่า มีการว่ายไปมาระหว่างชายฝั่งทะเลของประเทศใดบ้าง แต่จะเอาเครื่องจีพีเอสหรือเครื่องส่งสัญญาณดาวเทียมไปติดบนตัววาฬบรูด้า เพื่อบันทึกข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย ในต่างประเทศเคยมีการยิงเครื่องส่งจีพีเอสใส่เข้าไปในปลาตัวใหญ่จากระยะไกล แต่ถูกต่อต้านอย่างหนักเพราะถือเป็นการทรมานสัตว์" ดร.ก้องเกียรติแสดงความเห็นทิ้งท้าย   

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=691763

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:42:11 »



ความเชื่อเรื่องสัตว์เป็นลางบอกเหตุ ลางดี-ลางร้าย


คนไทยเราให้ความสนใจกับเรื่องราว “ความเชื่อ” ที่สืบทอดกันมาเรื่อย ๆ นับแต่โบราณกาลจนปัจจุบัน ดังนั้น...แม้เมืองไทยยามนี้จะมีปัญหาใหญ่ ๆ ทั้งทางการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม ที่น่าเป็นห่วง แต่...กระแส “นกแสกผี” ก็สามารถที่จะแทรกเข้ามาครองพื้นที่ความสนใจของคนไทยได้อย่างแพร่หลายในวง กว้าง
   
“ลางบอกเหตุ” “ลางดี-ลางร้าย” ยังมีคนไทยเชื่อกันอยู่ และกับ “สัตว์” คนไทยก็เชื่อกันว่า “บอกเหตุ” ได้ ?!?
   
ทั้งนี้ กรณี “สัตว์บอกเหตุ” เป็นลางดี-ลางร้ายนี้ ก็มีสัตว์หลายชนิดที่เชื่อกันว่าบางพฤติกรรมของมันนั้นสามารถบ่งบอกสิ่งที่ จะเกิดได้ ซึ่งจะว่าไปแล้วกรณีที่มีการพิสูจน์หรือติดตามเก็บข้อมูลกันอยู่ในเชิง “วิทยาศาสตร์” ที่เกี่ยวโยงกับ “ปรากฏการณ์ธรรมชาติ” ก็ดูจะคล้าย ๆ กันอยู่เหมือนกัน ไม่ ว่าจะเป็นสัตว์อย่าง... มด, แมลงต่าง ๆ, กบ, หิ่งห้อย, นก, สัตว์ป่าต่าง ๆ ฯลฯ กับการที่จะเกิด... ฝนตก, น้ำท่วม, น้ำป่า หรือแม้แต่ แผ่นดินไหว
   
อย่างไรก็ตาม กล่าวสำหรับความเชื่อของคนไทยเรื่องลางดี-ลางร้ายที่จะเกิดกับคนอันเนื่อง จากพฤติกรรมของสัตว์นั้น ก็ยกตัวอย่างเช่น... จิ้งจก ก็มีความเชื่อเรื่องจิ้งจกร้องหรือ “จิ้งจกทัก” ก่อนจะออกจากบ้าน ก็จะมีทั้งแบบที่เชื่อว่าเป็นลางดีและลางร้าย ซึ่ง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” เคยนำเสนอไปบ้างแล้วเมื่อไม่นานมานี้
   
ตุ๊กแก เมื่อมาอยู่ในบ้าน คนโบราณส่วนหนึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับวิญญาณบรรพบุรุษมาช่วยคุ้มครอง แต่ถ้า “ตุ๊กแกร้องตอนกลางวัน” ตั้งแต่เช้ามืดถึงก่อนพลบค่ำ เชื่อว่าเป็นการบอกเหตุร้าย และบางคนก็มีสูตรความเชื่อนอกเหนือจากนี้โดยนับจำนวนครั้งการร้องของตุ๊กแก แล้วจึงตีความว่าเป็นลางดีหรือลางร้ายกันแน่
   
แมว และสัตว์อื่น ๆ ถ้าเป็น สีดำ ถ้าก่อนออกจากบ้านมันวิ่งตัดหน้าจากด้านขวาไปซ้าย เชื่อกันว่าเดินทางจะมีอันตราย เจออัปมงคล ต้องแก้เคล็ดโดยเปลี่ยนไปออกทางอื่น และกับ “แมวดำ” ใครเคยดูหนังไทยแนวผี ๆ สมัยก่อนคงจะคุ้น ๆ กับฉากแมวดำกระโดดข้ามโลงศพแล้วทำให้เกิด “ผีเฮี้ยน”
   
ผึ้ง ถ้า “ผึ้งทำรังในเขตบ้าน” เชื่อว่าเจ้าของบ้านจะมีโชค และเชื่อว่าถ้าไปไล่ทำลายรังจะเกิดหายนะ, สัตว์ป่าต่าง ๆ ถ้าเข้ามาในเขตบ้านจากทางทิศเหนือและตะวันตก เชื่อว่าจะให้ลาภ แต่ถ้าเป็นทิศอื่น ๆ จะอัปมงคล, ตัวเงินตัวทอง-ตะกวด-เหี้ย เชื่อว่าเป็นอัปมงคล แต่ถ้าเข้าบ้านให้พูดแต่สิ่งดี ๆ ก็เชื่อว่าจะแก้เคล็ดให้เกิดสิ่งดี ๆ ได้
   
ที่ว่ามาก็ตัวอย่างความเชื่อเรื่อง “สัตว์บอกเหตุ”และกับ “นก” ก็มีความเชื่อเรื่องการ “บอกเหตุ”
   
เช่น... “นกถ่ายมูลรดหัว” จะเป็นนกอะไรก็ตาม ถ้าคนอยู่บริเวณบ้านแล้วนกบินมาถ่ายรดหัว เชื่อว่าจะมีเหตุร้ายให้เดือดร้อน และถ้ากำลังจะออกจากบ้านแล้วโดนนกถ่ายรดหัว เชื่อว่าจะไปเจออันตราย อุบัติเหตุ
   
อีกาดำ จริง ๆ แล้วกาชนิดต่าง ๆ เป็นนกที่อายุยืน แต่กลับมีความเชื่อว่า “กาดำเป็นนกนำสารจากดินแดนแห่งความตาย” บางคนก็มองมันเป็นสัญลักษณ์ของความ “ดุร้าย-สกปรก-ขี้ขโมย” ซึ่งกับสถานที่สำคัญ   ทางการเมืองของไทยอย่าง ทำเนียบรัฐบาล ก็เคยมีอีกาดำมาทำพฤติกรรมแปลก ๆ ให้ฮือฮา ให้วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่เนือง ๆ อย่างเช่นบินมาจิกตีกันบนยอดตึกไทยคู่ฟ้า ภายในทำเนียบฯ
   
กับพฤติกรรมแปลกของนกที่เกิดที่ทำเนียบฯ ก็เคยมีเหตุ “นกเอี้ยงตามจิกตีตัวเหี้ยขนาดใหญ่” ราวกับโกรธแค้นสุด ๆ ซึ่งก็วิจารณ์กันแซดว่าเป็นอาเพศ-ลางไม่ดี และนักการเมืองซีกรัฐบาลขณะนั้นก็ถูกแนะนำให้แก้เคล็ด
   
สำหรับ นกแสก นี่ดูจะโดนหนักหน่อย เพราะถูกเชื่อว่าเป็น “นกผี” ซึ่งนอกจากกรณีที่เพิ่งเป็นข่าวดังแล้ว โบราณก็เชื่อกันว่าถ้านกแสกบินผ่านหลังคาบ้านแล้วร้อง หรือเกาะหลังคาบ้านไหน “เป็นลางบอกเหตุว่าจะมีคนตาย” ซึ่งก็มีเรื่องเล่าที่ไม่มีการยืนยัน ประมาณว่าบางคนกำลังป่วยหนักอยู่ พอเจอลางแบบนี้ก็ยิ่งใจเสียไปเลย !!
   
ทั้งนี้ กับเรื่องลางบอกเหตุจากสัตว์นี้ ถ้าจะว่ากันในเชิงจิตวิทยา ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยา บอกว่า... ถ้าเป็นเรื่องของเสียงนกแสกที่ร้องตอนกลางคืน ทางด้านจิตวิทยาแล้วเสียงจะเป็นรูปธรรม เป็นเหมือนตัวแทนของอารมณ์ ซึ่งความมืดของเวลากลางคืนที่เงียบสงัดจะควบคู่กับความกลัวของมนุษย์อยู่ แล้ว ยิ่งมีเสียงร้องที่ฟังดูน่ากลัวของสัตว์ต่าง ๆ ก็ยิ่งทำให้เป็นการ “กระตุ้นอารมณ์ความกลัวของมนุษย์” ให้มีมากขึ้นไปอีก
   
นักจิตวิทยาระบุอีกว่า... เรื่องของเสียงนั้นเป็นเรื่องของความรู้สึกทางความคิด เมื่อมีเสียงที่กระตุ้นอารมณ์กลัว จิตของมนุษย์ก็จะอุปาทานไปเอง ทำให้เกิดอาการ “หลอน” ได้ ยิ่งเป็นเสียงร้องของสัตว์ในเวลากลางคืนที่มักจะฟังดูโหยหวน ก็ยิ่งกระตุ้นความกลัวของมนุษย์ เพราะเสียงโหยหวนจะคู่กับความน่ากลัว อย่างเช่นเสียงของสุนัขที่เห่าหอนหาคู่ในเวลากลางคืนที่มีผลกับอารมณ์ของคน “ทำให้นึกถึงเรื่องผี” ก็คล้าย ๆ กรณีเสียงนกแสก
   
“ความเชื่อว่าพฤติกรรมของสัตว์เป็นลางบอกเหตุ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย แต่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งจากเรื่องความเชื่อนั้น ก็นำไปสู่เรื่องของจิตใต้สำนึกสะสม สัตว์ที่ถูกกำหนดว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับการที่เคยคุกคามมนุษย์ หรือเกี่ยวพันในเหตุการณ์ร้าย ๆ มาก่อน จึงถูกตั้งหรือกำหนดให้เป็นลางบอกเหตุร้าย” ...ดร.วัลลภระบุทิ้งท้ายในทางหลักจิตวิทยา

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:43:06 »

ที่นิวซีแลนด์ วันที่ประมาณวันที่ 20 ก.พ. ปลาวาฬขึ้นมานอนตายเกยตื้น
วันที่ 22 ก.พ. แผ่นดินไหว 6.3 ริคเตอร์ เมื่อเวลาประมาณ 12.51 น.


....................




22 ก.พ. 54 รายงานข่าวอ้างสำนักข่าวเอเอฟพีที่ได้รายงานว่า

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดของเกาะสจ๊วต นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะใต้ ประเทศนิวีแลนด์ ต่างก็ต้องตกตะลึง หลังพบมีวาฬนำร่องประมาณ 107ตัวได้มานอนเกยตื้นตายอยู่บริเวณชายหาดดังกล่าว

ซึ่ง จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กรมอนุรักษ์ธรรมชาติ เผยว่า การตายหมู่ดังกล่าวอาจจะมีสาเหตุมาจากพวกมันอาจจะว่ายพลัดหลงมาเกยหาด ประกอบกับน้ำทะเลมีกำลงลดระดับลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่สามารถที่จะทำให้ไม่สามารถว่ายกลับลงน้ำทะเลได้จึงทำให้พวกมันเสีย ชีวิต

อีกทั้งบริเวณดังกล่าวมักจะพบว่ามีวาฬขึ้นมานอนเกยตื้นตายบ่อย ครั้งมาก โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีวาฬ 14 ตัวก็ขึ้นมาเกยตื้นตายบนหาดใกล้เมืองเนลสัน แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะใต้ และอีก 24 ตัวใกล้กับแหลมเรนกา ทางตอนเหนือของประเทศ

ขณะที่นักวิทยา ศาสตร์ ยังมืดแปดด้านไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุใดวาฬนำร่องเหล่านั้นจึงขึ้นมาเกยตื้นเอง อย่างไรก็ตามการตายของมันอาจจะเป็นสัญญานเตือนของภัยพิบัติก็เป็นได้

หลัง จากเมื่อช่วงเวลา12.51น. วันนี้(22 ก.พ.54) ตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริคเตอร์ ขึ้นในไครสต์เชิร์ช เมืองใหญ่อันดับสองของนิวซีแลนด์ ทำให้มีตึกพังถล่มหลายแก่ง และเจ้าหน้าที่ต่างต้องสั่งเร่งอพยพประชาชนเป็นการด่วนหวั่นเกิดอันตรายถึง ชีวิต

ที่มา
http://news.mthai.com/world-news/104135.html
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:44:40 »

--------------------------------------------------------------------------------
http://news.mthai.com/headline-news/106304.html

ตะลึง! ฝูงปลารวมตัวหนาแน่น ชายฝั่งเม็กซิโก เชื่อ เชื่อมโยงสึนามิ

Mthai news: 12มี.ค.สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพปรากฏการณ์ที่ปลาชนิดต่างๆ เช่น แอนโชวี่ ซาร์ดีน จำนวนมากรวมกลุ่มกันเป็นฝูงอย่างหนาแน่นที่บริเวณชายฝั่งของหาดเมทองท่า เม็กซิโก ตามแนวชายฝั่งของรีสอร์ทเม็กซิกัน

ซึ่ง ชาวประมงเชื่อว่าปรากฏการณ์ประหลาดนี้ มีความเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนว่าเกี่ยวกันหรือไม่

-------------------------------------------------------------------------------------

ข่าวนี้ก็น่าสนใจนะครับ สดร้อนๆจากเม็กซิโกเลย อาจจะเป้นลางบอกเหตุแผ่นดินไหวในทะเลอีกมั้ยในพื้นที่ประเทศนั้น น่ากลัวมากๆ
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:46:03 »

เรื่อง: สัญชาตญาณเตือนภัย ช่วยฝูงสัตว์ปลอดภัยจากคลื่นยักษ์



 
สัญชาตญาณเตือนภัย ช่วยฝูงสัตว์ปลอดภัยจากคลื่นยักษ์

นักสัตววิทยาฝรั่งเศสเฝ้าสังเกตสัตว์จากภาพทีวีวงจรปิด พบว่าในช่วงเกิดภัยสึนามิถาโถมเข้าประเทศศรีลังกา พวกมันแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่รับรู้ล่วงหน้าก่อนที่ภัยร้ายจะถึงตัว แถมยังส่งเสียงแจ้งเตือนพรรคพวกให้รีบลี้ภัยขึ้นบนที่สูง
 
ภาพทีวีวงจรปิดในมุมสูงของสวนสัตว์แห่งชาติ ยาลาในศรีลังกา แสดงให้เห็นสวนสัตว์ที่ถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมจากคลื่นยักษ์สึนามิ แต่ไม่มีสัญญาณเลยว่าสัตว์สงวนอย่างช้าง เสือดาว กวาง หมาไน และจระเข้ ล้มตาย
 
สภาพการณ์ดังกล่าวช่วยเพิ่มข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ให้เราได้รับทราบเกี่ยวกับภัยพิบัติอย่างคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเมื่อเกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ นกจะพากันบินหนี สุนัขหอนโหยหวน ฝูงสัตว์จะวิ่งแตกตื่นไปหาสถานที่ปลอดภัยก่อนที่ภัยพิบัติจะมาเยือน
 
"ในเรื่องของการสั่นไหว แรงสั่นสะเทือน หรือเสียงคลื่นนั้น สัตว์มีความสามารถ ซึ่งมนุษย์ไม่มี อาทิ ช้างมีการสื่อสารของคลื่นเสียง ซึ่งมีย่านความถี่ต่ำกว่าระดับที่มนุษย์สามารถได้ยิน ช้างสามารถจับเสียงเหล่านี้ได้จากระยะไกลมาก เรียกได้ว่าอยู่ห่างไปหลายกิโลเมตรก็สามารถจับสัญญาณได้" เฮอร์เว ฟริตซ์ นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์แห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส กล่าว
 
ทั้งนี้ คลื่นเสียงความถี่ต่ำแบบที่เรียกว่าอัลฟราซาวนด์ มักมีความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ซึ่งต่ำกว่าระดับที่มนุษย์จะสามารถได้ยิน โดย ฟริตซ์นำเสนอทฤษฎี เพื่ออธิบายว่าเหตุใดช้างจึงอาจมีสัญญาณเตือนว่าจะเกิดคลื่น
 
นั่นเป็นเพราะว่า ช้างน่าจะสามารถจับ "สัญญาณภาคพื้นดิน" ของการสั่นสะเทือนหรือเสียงจากอากาศ ที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสัตว์หรือสิ่งอะไรก็ตามที่มีขนาดใหญ่ อันเป็นเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน
 
แต่ช้างก็ไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวที่สามารถจับสัญญาณอันตรายจากการสั่นสะเทือนได้ เพราะกระต่ายและสัตว์สี่เท้าอื่นๆ ก็สามารถรับรู้ภัยล่วงหน้าได้ ผ่านทางพื้นดิน รวมถึงนกพิราบ ซึ่งอ่อนไหวมากกับการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ
ส่วนผึ้งก็มีประสาทสัมผัสที่มีความแม่นยำสูงมาก และจะมีปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กในโลก ขณะที่ค้างคาวอาศัยการรับฟังคลื่นเสียง และเสียงสะท้อนเพื่อจับตำแหน่งของสิ่งนั้นๆ
 
นอกจากนั้น สัตว์ซึ่งอยู่ร่วมกันเป็นฝูงอย่างช้าง กวาง และนก ยังมีรหัสเตือนภัยอันทรงประสิทธิภาพ นั่นคือ เสียงร้องในแบบพิเศษที่สามารถเตือนเพื่อนร่วมฝูงให้หนีได้ทันเมื่อเห็นอันตรายใกล้เข้ามาก
 
ประสาทสัมผัสเหล่านี้เชื่อว่า ช่วยให้สัตว์ต่างๆ ตรวจจับภัยอันตรายล่วงหน้าได้ เพียงแค่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กน้อย หรือในกรณีที่วัตถุเกิดการสั่นไหว จึงไม่แปลกเลยที่คลื่นสึนามิไม่สามารถทำอันตรายพวกมัน
 
ที่มาคม ชัด ลึก
 
http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=493&sid=14a480426a20d862d66a58b62ed488ad
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:47:01 »

กรณีศึกษาจากจีน อ้างอิงข้อมูลมาครับ โปรดใช้วิจารณญาณ


จีนกับแผ่นดินไหว (14 เมย.53)








6.9 ริคเตอร์เจ็บกว่าหมื่นเสียหายกว้าง

แผ่นดินไหว 6.9 ริคเตอร์ ในมณฑลชิงไห่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ติดกับเขตปกครองตนเองทิเบต เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา ได้รับรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 400 ศพ บาดเจ็บอีกกว่าหมื่นคน เผยความเสียหายกินอาณาบริเวณกว้าง ขณะที่ทางการระดมกำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบ ภัยแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจาก กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.49 น. เช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.49 น. เช้าวันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 ริคเตอร์

โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 46 กม. และอยู่ห่าง 380 กม.ทางทิศใต้ถึงตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโกลมุด ในเขตมณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และติดกับเขตปกครองตนเองทิเบต

อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจวัดแผ่นดินไหวของจีน ระบุว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้วัดได้ 7.1 ริคเตอร์ และ ยังสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เช่นรอยร้าวกับตัว เขื่อนด้วย

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนว่า บ้านเรือนราษฎรที่สร้างจากอิฐและไม้ได้รับความเสียหายพังถล่มลงมา เพราะอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว

โดยเฉพาะที่เมืองจี้กู คิดเป็นตัวเลขประมาณร้อยละ 85 ของบ้านเรือนราษฎรที่พังถล่มลงมา อาคารใหญ่ เช่น โรงแรมยูซู สูง 4 ชั้นมีรอยร้าวเกิดขึ้น และโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งพังถล่มลงมา

มีเด็กนักเรียนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ส่วนสถานีโทรทัศน์ซีทีทีวี ของทางการจีน รายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยสถานการณ์ฉุกเฉินของมณฑลชิงไห่ว่า ได้รับรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 400 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 10,000 คน

โฆษกหน่วยสถานการณ์ฉุกเฉินของมณฑลชิงไห่ แถลงว่า กำลังทหาร 700 คน ได้รับคำสั่งให้เดินทางมาช่วยเหลือในปฏิบัติการกู้ภัย เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังแล้ว และจะเสริมกำลังทหารอีก 1,000 คน

แต่ก็มีอุปสรรคตรงที่ยังขาดอุปกรณ์การขุด รวมถึงเครื่องเวชภัณฑ์ นอกจากนั้น ความเสียหายที่เกิดกับระบบสาธารณูปโภคเช่น ถนนหนทาง ซึ่งถูกดินถล่มลงมาปิดเส้นทาง กลายเป็นอุปสรรคอีกเช่นกัน สำหรับการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย

โดยทางกระทรวงกิจการพลเรือนของจีนแจ้ง ว่า เตรียมส่งเต็นท์ 5,000 หลัง ผ้าห่ม 50,000 ผืน และ ผ้าปูนอน 50,000 ผืนไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐระบุด้วยว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือแรงสั่นสะเทือน ตามหลังแผ่นดินไหวหลายครั้งในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงของมณฑลชิงไห่ วัดแรงสั่นสะเทือนสูงสุดได้ที่ 5.8 ริค เตอร์ แรงสั่นสะเทือนยังรับรู้ได้ในพื้นที่ใกล้เคียง

อาทิ เขตปกครองตนเองทิเบต เจ้าหน้าที่ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวของจีนในกรุงปักกิ่ง เกรงว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในช่วงหนึ่งถึงสองวันนี้

ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังรัฐบาลท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และ สนามบินในเขตยูซูของมณฑลชิงไห่ ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งทางสื่อมวลชนของจีนแจ้งว่า การสื่อสารกับสนามบินถูกตัดขาด และเส้นทางสัญจรทางบกไปยังสนามบินก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน

เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ในเขตพื้นที่ของเมืองโกลมุด เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.2 ริคเตอร์ ยังผลให้มีบ้านเรือนราษฎรพังถล่ม 30 หลังคาเรือน แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ

แต่ที่รุนแรงที่สุด เป็น แผ่นดินไหว 8.0 ริคเตอร์ เมื่อเดือน พ.ค. 2551 ที่มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีผู้เสียชีวิตและสูญหายรวมแล้ว 87,000 คน









โดย 10 วัน ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในจีนเมื่อปี 2551 มีสัญญาณจากธรรมชาติหลายอย่างด้วยกันคือ


1. เกิดหนองน้ำใหม่







หนองน้ำประหลาด ? ก่อนหน้าเกิดเหตุแผ่นดินไหว 2 สัปดาห์ หรือ 14 วันในเขต Enshi ห่างจากเมือง Wuhan ประมาณ 400 โล ชาวบ้านรายงานไปยังหนังสือพิมพ์ว่า อยู่ๆ วันหนึ่ง ตื่นมาตอนเช้าก็พบหนองน้ำประหลาด ไม่รู้ใครมาขุดตั้งแต่เมื่อไหร่

เพียงแต่ช่วงบ่ายๆ ก่อนหน้าวันนั้น ชาวบ้านได้ยินเสียงครืนๆ แปลกๆ อยู่รอบๆ หมู่บ้าน สัก 4 ชั่วโมงได้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมาเจอบ่อที่ค่อยๆ มีน้ำผุดขึ้นมาเรื่อยๆ และจุได้ถึง 80,000 ตันเลยทีเดียว

เมื่อถ่ายรูปหนองน้ำที่ยังแห้งผากลงข่าวในหนังสือพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ไม่กี่วันถัดมา นักวิจัยที่กลับมาสำรวจก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่าน้ำเต็มบ่อ แถมยังมีปลาตัวใหญ่เบ้อเร่อให้ชาวนาได้จับไว้กินอีกด้วย


2.



เมื่อสัตว์เคลื่อนทัพ ? หลายวันก่อนแผ่นดินไหว บริเวณที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 60 ไมล์ มีคนตื่นตะลึงกับจำนวนผีเสื้อนับล้านตัว ที่พากันบินว่อน เกาะกลุ่มเคลื่อนทัพราวกับว่าจะย้ายที่อยู่อาศัยไปไหนก็ไม่รู้

หลายวันถัดมา คือ วันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก่อนหน้าเกิดเหตุ 4 วัน ในมลฑล Jiangsu ก็พบฝูงกบนับพัน พากันออกจากทุ่งนามาข้ามถนนอย่างไม่กลัวตาย

ในข่าวบอกว่าหลังจากบันทึกภาพไว้แล้ว พวกมันก็โดนรถทับเละ ไม่รู้ว่ามีกี่ตัวที่อพยพได้สำเร็จ (รูป) กบนับหมื่นตัวพากันข้ามถนนในจีน ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 2 วัน


3. แพนด้าไดเอท



ภาพหมีแพนด้าที่ถูกบันทึกว่ามีท่าทีเศร้าสร้อยและไม่ยอมกินไม้ไผ่อาหารโปรด


4.



ภาพกบสามตัวที่เกาะกันแน่นไม่ยอมปล่อย รอดชีวิตอยู่ภายใต้เศษหินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว


5. เมฆแผ่นดินไหว



เรื่องเมฆแผ่นดินไหว ตามทฤษฎีของ Zhonghao Shou นักเคมีชาวจีนที่ศึกษามานานมาก จนยืนยันว่า 70% ของก้อนเมฆที่ถ่ายรูปไว้ มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นตามมา

ในเหตุการณ์นี้ก็เหมือนกัน มีนักถ่ายภาพคนหนึ่งถ่ายรูปเมฆเอาไว้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก็คือ 2 วันก่อนแผ่นดินไหว ในบริเวณ Linyi มณฑฉาตง (Shandong)





จากนั้นเขาเอาภาพเหล่านี้ไปแปะไว้ในเวบไซต์ http://www.daqi.com
และวิเคราะห์กันว่า เมฆประเภทคลื่นนี้ เป็นเมฆแผ่นดินไหวที่ชัดเจนที่สุดภาพหนึ่งทีเดียว มันมีลักษณะการเรียงตัวเป็นคลื่นและมีเส้นแสงบนเมฆ



นอกจากนี้ ยังมีปรากฏการณ์แสงรุ้งบนก้อนเมฆ หรือ “เมฆเรืองแสง” ที่มณฑลชานซี ที่ฮือฮาในข่าวอยู่หลายวัน ซึ่งปรากฏอยู่บนท้องฟ้า 30 นาทีถึง 10 นาทีก่อนเกิดเหตุ ตอนนี้ 200 กว่าเวบไซต์มีการพูดคุยเรื่องลางสังหรณ์เหล่านี้ทั้งอย่างวิเคราะห์

และบางคนเชื่อว่า นี่คือลางบอกเหตุที่ชัดเจนมากๆ และบอกด้วยว่า ในช่วงหลายวันก่อนเกิดเหตุนั้น นาย Li Shihui นักวิทยาศาสตร์ของจีนได้ทำนายและตั้งข้อสังเกตเหล่านี้ในเวบบล็อกของเขาว่า น่าจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวในสเกลที่ใหญ่ว่า 7.0 ริกเตอร์เป็นแน่แท้ จึงมีการเตือนให้รับมือครั้งใหญ่ แต่ทว่าในช่วงเวลานั้น ไม่มีใครสนใจมากนัก






http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=5&contentID=60057

http://atcloud.com/stories/30113



บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:49:04 »

สัญชาติญาณเตือนภัยพิบัติของสัตว์



 
สัตว์นั้นมีสัญชาติญาณ สามารถรู้ล่วงหน้าถึงภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นได้จริงหรือ
 
ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2551 มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมแพนด้า ต่างรายงานว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวไม่นาน แพนด้าก็ต่างแสดงอากัปกริยาลุกลี้ลุกลน เหมือนจะรู้ว่ากำลังจะมีภัยร้ายเกิดขึ้น
 

2518 แผ่นดินไหวเมืองไฮชิง
 

 
หลายครั้งที่สัญชาติญาณชี้เตือนภัยของสัตว์ถูกเมิน ไม่ได้รับความสนใจ จนกระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2518 นักวิทยาศาสตร์ในเมืองไฮชิง ประเทศจีน ต่างสงสัยเมื่อแมวแสดงอากัปกริยาหวาดระแวง และหมาก็เริ่มเห่าหอนไม่หยุดหย่อน จนนักวิทยาศาสตร์เกิดความเชื่อมั่นว่ากำลังจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น
 
เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ทำการอพยพผู้คน หนีภัยออกจากเมืองในทันที เพียง 5 ชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่เมือง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ระดับ 7.3 ริกเตอร์  ในครั้งนั้นมีผู้คนเสียชีวิตแค่ 2,000 คน ส่วนตัวเมืองนั้นพังราบ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่าหากไม่ได้ทำการอพยพ คงจะมีผู้เสียชีวิตถึง 150,000 คน
 
นับเป็นครั้งแรกที่เมืองได้รับการอพยพหนีก่อนเกิดแผ่นดินไหว ในครั้งนี้สัตว์ก็ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายว่าช่วยเตือนถึงอุบัติภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น
 
2538 แผ่นดินไหวเมืองโกเบ
 

 
ในเดือนมกราคม 2538 ณ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหว ระดับ 7.2 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตถึง 6,400 คน ผู้บาดเจ็บ 27,000 คน โดยก่อนหน้าเกิดแผ่นดินไหว ผู้คนในเมืองต่างสังเกตว่าสุนัขทั่วทั้งเมืองต่างเห่าต่อเนื่อง ไม่มีหยุดตลอดวันตลอดคืน
 
น.พ.คิโยชิ ชิมามูระ ได้ศึกษาแผ่นดินไหวครั้งนี้โดยละเอียด และพบว่ามีรายงานสุนัขกัดคนเพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิดแผ่นดินไหว จึงตั้งสมมุติฐานว่าสัตว์นั้นรู้ล่วงหน้าถึงแผ่นดินไหวจึงเกิดอาการเคร่งเครียด
 
2547 พายุเฮอริเคนชาร์ลี
 

 
ในเดือนสิงหาคม 2547เกิดพายุเฮอริเคนถล่มรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา มีผู้เสียชีวิต 10 คน ก่อความเสียหาย 16 ล้านดอลลาร์
 
เมื่อทีมนักชีววิทยาทางทะเลได้กลับมาทบทวนดูข้อมูล ก็พบว่ากลุ่มฉลาม 14 ตัวซึ่งได้ติดเครื่องส่งสัญญาณวิทยุเพื่อศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหว นั้นรู้ล่วงหน้าก่อนแล้วว่าพายุกำลังจะมา จึงได้ว่ายหนีจากพายุไปไกล รอคอยจนภัยพิบััติผ่านพ้นไปแล้วถึงสองสัปดาห์ จึงได้กลับมาหากินแหล่งเดิม คุณมิเชล ฮูเพล นักวิทยาศาสตร์นั้นกล่าวว่า “สัตว์เหล่านี้รับรู้ถึงสภาวะแวดล้อมได้มากกว่าที่เราคิด”
 
2519 แผ่นดินไหวเมืองตังฉาน
 

 
ในเดือนกรกฏาคม 2519 ประเทศจีนถูกแผ่นดินไหว ระดับ 7.8 ริกเตอร์ เมืองตังฉาน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมนั้นถูกกระทบอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตถึง 240,000 คน
 
ช่วงระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดแผ่นดินไหว สถานีวิทยุท้องถิ่นได้รายงานถึงหมีแพนด้าซึ่งเอามือกุมหัว ร้องโหยหวนไม่มีหยุด คนเลี้ยงแพนด้านั้นรู้สึกแปลกใจ แต่ในภายหลังจึงเข้าใจและเชื่อว่าแพนด้าคงรู้สึกได้ล่วงหน้าว่าแผ่นดินไหวกำลังจะมา
 
2482-2488 สงครามโลกครั้งที่สอง
 

 
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีคนอังกฤษเสียชีวิตกว่า 450,000 คน มีผู้กล่าวว่าคงจะมีผู้เสียชีวิตมากยิ่งกว่านี้อีก ถ้าหากไม่ได้รับเสียงเตือนภัยจากสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์
 
ในขณะที่เรือบินรบจากเยอรมันกำลังจะเข้ามาทิ้งระเบิดอังกฤษ สุนัขและแมวก็มักจะร้องเห่าหอนเตือนให้เจ้าของหาที่หลบกำบัง
 
“บางคนคิดว่ามีแรงสั่นไหวเบาๆ ก่อนเกิดเหตุซึ่งคนไม่สามารถรู้สึกได้ บางทฤษฏีก็ว่ามีการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบกาซในอากาศหรือประจุไฟฟ้า” คุณรูเพิร์ต เชลล์เดรก นักวิทยาศาสตร์ ผู้ศึกษาถึงประสาทสัมผัสที่หกของสัตว์อย่างลึกซึ้ง กล่าว “แต่นั่นก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าสัตว์รู้ได้อย่างไรว่ากำลังจะถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง”
 
2542 แผ่นดินไหวเมืองอิซมิท
 
 
 
ในรุ่งเช้าของวันที่ 17 สิงหาคม 2542 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 7.4 ริกเตอร์ ใกล้กับเมืองอิซมิท ประเทศตุรกี ระยะเวลาเพียงแค่ 37 วินาที แต่ก็ส่งผลให้คน 45,000 คนเสียชีวิต บาดเจ็บ 40,000 คน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่าล้านคน ส่งผลต่อพื้นที่กว่า 100 ไมล์
 
ในช่วงหลายวันก่อนเกิดแผ่นดินไหว ชาวบ้านต่างรายงานว่าสุนัขนั้นเห่าหอนไม่มีหยุด รวมทั้งแมว หนู และนก ก็มีพฤติกรรมลุกลี้ลุกลนผิดปกติ เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงน้ันพยายามเตือนถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมา
 
2547 คลื่นยักษ์สึนามิ คาบสมุทรอินเดีย
 

 
ในเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นับเป็นอุบัติภัยทางธรรมชาติที่ส่งผลอาณาเขตกว้างขวางหลายประเทศ และมีรายงานของสัตว์ที่รู้ภัยล่วงหน้าหลายชนิดเช่นเดียวกัน
 
ที่ประเทศไทยมีรายงานช้างแสดงอาการเคร่งเครียดร้องแผดเสียงอย่างต่อเนื่องหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ และช่วงหนึ่งชั่วโมงก่อนคลื่นยักษ์จะมา มีช้างบางตัวที่วิ่งหนีจากชายทะเลขึ้นพื้นที่สูง คุณคริส ครุซ ครูสอนดำน้ำที่ภูเก็ต นั้นล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าจากฝูงโลมา “มันกระโดดไปมาข้างหน้าเรือผมเลย ผมจึงรู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ”
 
ที่ศรีลังกา ค้างคาวซึ่งปกติต้องนอนหลับเวลากลางวัน กลับบินไปมา
 
ที่อินเดียฝูงฟลามิงโกซึ่งทำรังวางไข่อยู่ได้หนีพื้นที่ราบต่ำขึ้นไปอยู่พื้นที่สูงเพื่อหนีคลื่นยักษ์สึนามิ
 
เรียบเรียงโดย น.สพ. กานต์ เลขะกุล
 
http://zoowildlifevet.com/?p=230
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:49:56 »




จีนพึ่งสัตว์ในสวนสัตว์ทำนายแผ่นดินไหว


ปักกิ่ง 22 พ.ค.- สวนสัตว์ในจีนเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ที่เลี้ยงไว้อย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาพฤติกรรมที่จะใช้ทำนายการเกิดแผ่นดินไหว

หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานว่า สวนสัตว์กวางโจว ในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของประเทศ ได้ติดตั้งจุดสังเกตการณ์ใกล้นกยูง กบ งู เต่า กวาง และกระรอก เพื่อบันทึกพฤติกรรมของพวกมันแล้วเก็บเป็นข้อมูลให้แก่สำนักงานแผ่นดินไหวของเมือง ไชน่า เดลี่ อ้างผู้เชี่ยวชาญว่า สัตว์หลายชนิดมีพฤติกรรมแปลก ๆ ก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น สัตว์ที่กำลังจำศีลจะตื่นและหนีออกจากที่จำศีล ขณะที่สัตว์น้ำจะกระโดดขึ้นมาจากผิวน้ำ อย่างไรก็ดี รายงานไม่ได้ระบุว่า สัตว์มีพฤติกรรมเหล่านี้นานเพียงใดก่อนเกิดแผ่นดินไหว หรือพฤติกรรมดังกล่าวใช้แจ้งเตือนภัยแผ่นดินไหวได้ทันเวลาหรือไม่

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานแผ่นดินไหว กล่าวว่า ก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของสัตว์ได้ราว 130 ชนิด เช่น หนู และงู ที่ปกติไม่ออกจากที่ซ่อนในตอนกลางวัน จะวิ่งกันพล่าน ยีราฟจะวิ่งหนีห่างจากต้นไม้ ฮิปโปฯ จะขึ้นบก แต่หากจะเกิดสึนามิมันจะอยู่ในน้ำลึกเพื่อปกป้องตัวเองจากคลื่นยักษ์

ส่วนที่สำนักงานแผ่นดินไหวในเมืองหนานหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซี ทางตอนใต้ของจีน ได้ติดตั้งกล้องตรวจจับความเคลื่อนไหวของงู ที่สวนงูหลายแห่งตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากงูเป็นสัตว์ที่ไวต่อแผ่นดินไหวมากที่สุด. – สำนักข่าวไทย

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:50:58 »


ก่อนเกิดสึนามิ  มีปลาตายนับล้านตัว


บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:51:59 »

เครื่องเตือนภัยจากธรรมชาติ
ประสบการณ์ พ่อ พะตีจอนิ ปากากเญอ
แห่งบ้านหนองเต่า อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

ผู้เขียนได้อยู่กับลุงจอนิ โอโดเชา ในคืนดาวช้างวาดงวดอยู่บนท้องฟ้า กองไฟลุกโชนขึ้นริมขอบนาข้าว ใกล้กระท่อมกลางป่าเขาไกลลิบ ท่ามกลางเสียงกบเขียดกังวาลลั่น รอบตัวมีแต่ความมืดมิด ฟืนไฟลุกโชติช่วง พ่อจอนิเล่าถึง ธรรมชาติกับการพยากรณ์อากาศ ลางบอกเห็นที่ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างน่าอัศจรรย์



เราพูดถึงเครื่องรับในตัวคน ที่เป็นมรดกสัญชาตญาณตื่นรู้ สัมผัสโลกที่ติดตัวมา ถ่ายทอดส่งต่อกันมา ที่นับวันจะสูญหาย และถูกทำลายออกไปจากชีวิต
"ธรรมชาติการรับรู้ในตัวคนถูกทำลายไปหมดแล้วที่เหลือก็ขาดเป็นท่อนๆ คนไม่สนใจมันด้วย ไม่สำคัญแล้ว เขาเชื่อดาวเทียมมากกว่าเสียงกบเสียงเขียด"
..."คนเป็นยิ่งกว่าเครื่องจักร คนมีชีวิต ฉลาด รู้ไปทุกเรื่อง แต่เราปล่อยให้หลายส่วนตายไป ส่วนที่ดียังเหลืออยู่ เขาก็เอาไปสู้ไปรบกันมากกว่า"

พ่อจอนิ พูดย้อนถึงวันเกิดสินามิทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกว่า รู้สึกได้ถึงบ้านหนองเต่า

"เฮาไปโบสถ์ เฮารู้สึกคืนนี้ต้องมีอะไรสักอย่าง ท้องฟ้าแปรปรวนตั้งแต่ตะวันตก ถึงตะวันออก ไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อน เป็นลางบอกเหตุ เฮาสงสัย...พอรุ่งเช้า ตอน 8 โมงกว่าๆ นาฬิกาในโบสถ์แกว่งไปมา พอถึง 10 โมง วิทยุประกาศว่าเกิดพายุสึนามิขึ้นที่ภาคใต้แล้ว

....ถ้าสังเกตธรรมชาติดีๆ จะรู้เลย ปีนี้ทั้งปี ตอนลุงนอน รู้สึกว่ามีแผ่นดินไหวหลายรอบ แต่บอกคนอื่นอาจไม่มีใครเชื่อ พอฟังข่าวเขาก็บอกแผ่นดินไหวที่โน่นที่นี่ แต่ไม่รุนแรงเป็นอันตรายกับคน"
ตัวรับสัญญาณข้างในตัวพ่อจอนิได้รับการฝึกฝนให้มีสัญญาจำอย่างต่อเนื่อง จึงสามารถรับรู้ถึงการสื่อสารของธรรมชาติจากพื้นดินที่ส่งสัญญาณบอกเรา
"โลกเป็นเนื้อเดียวกัน ไหวถึงกันอยู่แล้ว" ...(ในพระไตรฎิปกของพุทธศาสนา กล่าวไว้ว่า ในจักรวาลนี้ ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีอะไร ก็เพราะไม่รู้จึงเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ สิ่งที่มีอยู่จริงก็คือ จิตที่รับรู้ คิดว่าเรารู้ เราเห็น เรารู้สึกอย่างโน่นอย่างนี้ และกายก็คือสสารและพลังงานในแง่ฟิสิกส์ ทั้งอย่างเป็นหนึ่งเดียวกันหมด

ดังนั้นเมื่อเราทำอย่างหนึ่งก็จะกระทบไปทั้งจักรวาล อนันตจักรวาลเพราะเรากับจักรวาลก็คือหนึ่งเดียวกัน ปัจจุบันวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็มีทฤษฏีหลายทฤษฏีที่สนับสนุนเรื่องนี้้..เสริมจากผู้เรียบเรียง)
ถาม "แล้วเรื่องดินถล่มหล่ะ มีสัญญาณอะไรที่จะบอกเราได้บ้าง"
"ดินจะทำทางของมันเป็นเดือนสองเดือนแล้ว มันบอกเหตุก่อน อย่างปกติดินบริเวณนั้นจะชื้นแฉะตลอด แต่มันแห้งผิดปกติ เขาเรียกว่าน้ำชั้นใต้ดินมันระเหยไป อย่างนี้สังเกตได้ คนเดินผ่านทุกวันจะรู้ มันบอกให้รู้ล่วงหน้า"
จริงเท็จแค่ไหนไม่อาจยืนยัน แต่ถือเป็นมิติที่น่าทำความเข้าใจ น่าศึกษา
"ข้างในดินมีรูไฟอยู่แล้ว แกนกลางโลกเป็นไฟ มันมีรูอยู่ทั่วไป มันถึงมีน้ำร้อน มีน้ำอุ่น มีน้ำเย็น สังเกตน้ำบนผิดดินได้ เมื่อก่อนใกล้บ้านพ่อมีบ่อน้ำ มอก็มี ปลวกก็มี อยู่ๆ มัดกับปลวกทะเลาะกัน กระทั่งนายพญาปลวกออกมา ลูกหลานล้อมตัวมันไว้ สักพักหนึ่ง มดอีกชนิดหนึ่งก็รุมกัด เฮาคิดว่ามันน่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรสักอย่าง จู่ๆ ที่ประเทศอิหร่านทะเลาะกัน เจ้าฟ้าพระราชาอิหร่านหนี สังเกตดีๆ ธรรมชาติบอกเราได้"


ในตัวคนมีเครื่องวัดผิดถูกดีชั่ว เครื่องวัดที่เป็นนามธรรมเช่นนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับเสียงเตือนจากธรรมชาตินั้นหรือ พ่อจอนิบอกว่า "สิ่งเตือนภัยอยู่รอบๆ ตัวเรา มันบอกเราทุกอย่าง วันนี้ต่างกันวันวาน แต่พรุ่งนี้อาจเป็นอย่างเมื่อวันวานนี้ก็ได้
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:53:19 »

ลุงจอนิ โอโดเชา ต่อ ๆๆๆๆๆ   อายจัง






เครื่องวัดธรรมชาติด้วยกัน ส่งผ่านตัวนำที่เป็นธรรมชาติด้วยกัน สัญญาณรับคลื่นความรู้สึกเช่นนี้ ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่พ่อจอนิเชื่ออย่างสนิทใจว่า ธรรมชาติสะท้อนตัวมันเอง เป็นความรู้บอกคนได้ ทำให้คนมีชีวิตรอดได้

"ความชื้นในอากาศบอกเราได้ เวลาก่อไฟ ก่อไฟวัดฝนได้ ก่อไฟแล้วไฟหยุดๆ ติดๆ ฝนจะตก ถ้าก่อไฟแล้วไฟลุกต่อเนื่อง ฝนไม่ตก อันนี้ใช้วัดฝนได้ภายในสองสามวัน"

หรือขยับให้มาใกล้ตัวหน่อย "เปิดประตูบ้านก็วัดฝนได้ ลองสังเกตดู ถ้าเปิดปิดประตูบ้านได้ง่ายๆ เปิดคล่อง ไม่อึดอัด ฝนไม่ตก ฝนจะแล้ง แต่ถ้าเปิดประตูยาก ประตูแน่น แสดงว่าฝนจะตก"

หมาก็ใช้วัดฝนได้ "อยู่ๆ หมาลงไปอาบน้ำกลางวัน แสดงว่าแล้งยาวนาน"

ที่พ่อจอนิบอกมานี้ดูจะเป็นเรื่องชวนหัว ล้าหลัง คร่ำครึ ไม่ทันสมัย แต่ในชีวิตจริงของคนที่อยู่กับธรรมชาติป่าเขา ล้วนได้รับแรงส่งผ่านธรรมชาติ ได้ยินเสียงโต้ตอบจากภายนเหมือนเครื่องรับส่งชีวภาพที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด....ช่องว่างระหว่างโลกเก่ากับโลกใหม่ถูกทับถมด้วยคลื่อนวิทยุสื่อสาร คลื่นดาวเทียม คลื่นโทรศัพท์ ออกจะแม่นยำน่าเชื่อถือ

แต่ความลี้ลับที่ซ่อนอยู่ในจิตของคนเรา กลับค่อยๆ เสื่อมลงเมื่อคนหัวไปพึ่งพาของพวกนั้นมากขึ้น เหมือนกับคนที่ทำเครื่องคิดเลยขึ้นมา่ช่วยคิดเลข แต่ต่อมาเมื่อใช้เครื่องคิดเลขไปนานๆ กลับพบว่าตัวเองคิดเลขเองไม่เป็น เช่นนี้เป็นต้น (ผู้เรียบเรียง)

"หากธรรมชาติยังไม่ถูกทำลาย เรายังพึ่งพาธรรมชาติได้อยู่ มีธรรมชาติแล้วก็ต้องสังเกตธรรมชาติด้วย คนเมื่อก่อนอยู่รอดมาได้ก็ดูๆ มองๆ สังเกตมาทั้งนั้น"

"ข้างในตัวคนต้องสนใจเรื่องธรรมชาติ ต้องมีธรรมชาติไว้ในใจก่อน มันถึงจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆ ด้วย ในตัวคนไม่รับเสียอย่าง ทำอะไรไม่ได้"

ก่อนพายุใหญ่จะมา มีเครื่องวัดลมสำคัญอีกอย่างหนึ่ง

"ดูมดส้ม (มดแดง) ถ้ามันทำรังสูงๆ พายุจะมาบริเวณนั้น แต่ไม่น่าห่วง ลมไม่แรง ถ้ามดส้มทำรังอยู่กลางๆ ต้นไม้ พายุจะพัดกลางๆ ไม่รุนแรงมาก ถ้ามดส้มทำรังเตี้ยๆ ใกล้พื้นดิน พายุลมจะแรงมาก ให้ระวัง มดล้มรู้ล่วงหน้าก่อนพายุมา 3 เดือน"

"มดส้มจะเปลี่ยนรังทุกปี ถ้าไม่เปลี่ยนที่ แสดงว่าลมพัดเหมือนเดิม เรื่องมดส้มแน่นอนมาก ดูได้เลย ไม่ผิดพลาด"

ถาม "สัญญาณเตือนภัยที่เกี่ยวกับลม ยังมีอีกไหม๊"

"ดอกไม้รัก ถ้าปีนั้นออกดอกเยอะลมพัดแรง"

มาถึงเครื่องมือวัดฝนให้ดูที่ "หางแลนหรือหางตะกวดนี่แหละ ดูหางแลนที่เกิดในปีนั้น ถ้าเราจับได้ ดูหางมัน พบหางดำจะมีฝนเอยะ หรือสีดำมีอยู่สีห้าที่ ก็มีฝนเยอะ ดำๆ มืดๆ เป็นฝนแน่ ถ้าหากมีสีแดงสีดำอยู่สลับกัน แสดงว่าปีนั้น ฝนแล้งบ้าง ตกบ้าง สองอย่างมาด้วยกัน ถ้าหากสีแดงสีเหลือง ปีนั้นไม่มีฝน ฝนทิ้งช่วง"

"ลูกมะเดื่อก็บอกฝน" พ่อจอนิเริ่มบทเรียนต่อไป "ถ้ามันออกลูกตรงปลายกิ่งเยอะ จะมีฝนปลายปี ถ้ามันออกลูกกลางต้น แสดงว่ามีฝนกลางปี ถ้ารวมอยู่ตรงโคนต้น หมายถึงมีฝนตกต้นปี"

เสียงลมฟ้าอากาศ คงไล่สั่นสะเทือนลงตามก้านกิ่ง ไหวลึกไปถึงราก เป็นเมนูใบสั่งจากดินฟ้าอากาศ เป็นเมนูอากาศที่สอนให้คนไม่ประมาท รู้คาดการณ์ล่วงหน้า พร้อมให้ทำใจรับสภาพกับเพทภัยที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างน้อยได้เตรียมใจหยั่งรู้ไว้ล่วงหน้า

เครื่องมือวัดฝนอีกอย่างคือ การล้างหน้าตอนเช้า "ตื่นขึ้นมาล้างหน้า รู้สึกหน้าลื่นๆ วันนั้นฝนจะตก"

การขนทรายเข้าวัดก่อเจดีย์ทรายในประเพณีสงกรานต์ก็ทำนายฝนในปีนั้นได้

"ทุกปีมีการก่อกองทรายในวัด ต่างคนต่างขนทรายเข้าวัด ทำด้วยจิตใจสงบ ตั้งใจทำ ต่างคนต่างปักธงลงไปบนกองทราย ไม่มีใครล่วงรู้ล่วงหน้าว่าจะปักลงตรงไหน ปักกันไปเรื่อยๆ ถ้าปักธงเป็นกลุ่มๆ ช่วงยอดกองทรายเยอะ ฝนจะตกมากตอนปลายปี ถ้าปักธงช่วงกลางๆ เยอะ ฝนจะตกมากตอนต้นปี ถ้าปักกระจายไปทั่วกองทราย ปีนั้นฝนจะตกกระจายทั้งปี ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน"

มาถึงเครื่องมือในการวัดฤดูหนาว "ให้ดูฝักมะขาม ถ้าฝักงอมาก มีลูกดกมาก ปีนั้นจะหนาวยาวนาน ถ้าหักงอสั้นๆ จะหนาวในช่วงสั้นๆ ถ้าฝักงอนิดๆ หน่อยๆ ปีนั้นไม่ต้องกลัวหนาว หนาวไม่นาน"

ชีวิตที่ใกล้ชิดผูกพันอยู่กับธรรมชาติ ก็จะเห็นพืชพันธุ์ สัตว์ คน ต่างร่วมกันแสดงบอกเหตุบางอย่าง เสมือนแบบเรียนรู้ที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้พิจารณา ล้วนสะท้อนแรงกระเพื่อมจากดินฟ้าอากาศ ด้วยมิติอันล้ำลึกบางอย่าง ซึ่งจะเรียกว่าสัญชาตญาณ/ปัญญาที่อยู่ในพืช ในสัตว์ เพื่อการปรับตัวให้อยู่รอด ข้ามผ่านฤดูกาลหนึ่งๆ ก็ได้

อาศัยการอ่านและตีความเรื่องหมายที่ปรากฎให้เห็น เป็นหมายบอกการเตรียมพร้อมรับมือเป็นเหตุที่จะเกิดขึ้น จึงไม่แปลกที่เห็นการเคารพฟ้าดินของคนสมัยก่อน ที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา ที่คนรุ่นใหม่มองว่าเป็นความงมงาย

พ่อจอนิบอกว่า คนสมัยก่อนเรียนรู้และเข้าใจธรรมชาติ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเราอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะสมัยก่อนไม่มีเครื่องวัด เครื่องเตือนภัยอะไร อาศัยการเรียนรู้ธรรมชาติ เล่ากันเหมือนนิืทานพื้นบ้านให้จดจำกัน

"ทุกอย่างเกิดซ้ำได้ เกิดซ้ำๆ ให้คนจำ นำมาสอนถึงลูกถึงหลาน มันจริงทั้งนั้น เทคโนโลยีไปไกลถึงไหน เราก็ยังต้องใ้ช้ตาไว้ดู ใช้จมูกดมกลิ่น ใช้หูฟัง มือหยิบๆ จับๆ เท้าก็เดิน ต้นไม้ก็ยังออกดอกออกลูก แตกกิ่งแตกยอด มันเกี่ยวกันทั้งนั้น เป็นเรื่องเดียวกัน ไม่มีอะไรแยกอยู่โดยไม่เกี่ยวกับอย่างอื่น"

ความรู้พยากรณ์อีกหลายชุด และไม่มีสอนในห้องเรียน แต่มีอยู่กลางแดด กลางป่า กลางทุ่ง ว่าด้วยการเคารพธรรมชาติ ไม่ละเมิดธรรมชาติ ล้วนเป็นสัญชาตญาณหรือปัญญาธรรมชาติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด หรือจะเรียกว่าตามคติพุทธว่าเป็นสัญญาจำมาตั้งแต่อดีตชาตินั่นเอง การเรียนรู้ธรรมะ /ธรรมชาติ เป็นหนทางพึ่งตนเอง แบบไม่ต้องยืมมือเทคโนโลยี สัญชาตญาณหนีภัย ซื้อขายกันไม่ได้ แต่เรียนรู้กันได้

บทเรียนแบบป่าๆ บ้านๆ เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ มองซ้ำๆ นานปี ความรู้ประเภทนี้ไม่มีหนังสือให้เรียน ต้องออกไปเดินไปรู้เห็นเอง แม้จะแฝงไว้ด้วยความหวาดหวั่นลึกๆ แต่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็ควรได้เรียนรู้ ไม่นิ่งนอนใจ ชีวิตเป็นเรื่องไม่แน่นอน ทำใจให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้น สิ่งที่เหนือความคาดหมายที่อาจเกิดขึ้น นั่นคือการฝึกตนให้อยู่ในความไม่ประมาทนั่นเอง

เรียบเรียงจาก "จดหมายเหตุจากดินฟ้าอากาศ ยามหนึ่ง อนาคาริก หน้า 33 เนชั่นสุดสับดาห์ ปี 14 ฉบับที่ 731 ,วันที่ 2 มิถุนายน 2549 [และ ฉบับที่ 732 ,วันที่ 5 มิถุนายน 2549...โดย นายเมียงเหนือ
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:54:50 »

การสังเกต++สัญชาตญาณเตือนภัยของสัตว์++สิ่งบอกเหตุ


ภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหวนั้นไม่มีใครทำนายได้ล่วงหน้าเลยว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนเมื่อไร นักวิทยาศาสตร์หลายชาติหลายคณะในปัจจุบันกำลังศึกษาหาทางที่จะให้รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุขึ้นที่ไหนเมื่อไร แต่จนบัดนี้ยังไม่มีคณะไหนไขปัญหานี้ได้ แต่ว่ามีศาสตร์ชาวบ้านจากประเทศจีนบอกว่าให้สังเกตสัตว์ที่อยู่ใต้ดินเช่น หนู ถ้าหากสัตว์เหล่านี้แตกตื่นออกมาวิ่งเพ่นพ่านข้างบนพื้นดินอย่างโกลาหลแล้ว สิ่งที่ตามมาคือแผ่นดินไหว ดังนั้น ถ้าหากพบเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นขอให้รู้ไว้มันอาจเป็นสัญญาณเตือนภัยแผ่นดินไหวจากสัตว์ใต้ดินก็ได้




นักสัตววิทยาฝรั่งเศสเฝ้าสังเกตสัตว์จากภาพทีวีวงจรปิด พบว่าในช่วงเกิดภัยสึนามิถาโถมเข้าประเทศศรีลังกา พวกมันแสดงพฤติกรรมบางอย่างที่รับรู้ล่วงหน้าก่อนที่ภัยร้ายจะถึงตัว แถมยังส่งเสียงแจ้งเตือนพรรคพวกให้รีบลี้ภัยขึ้นบนที่สูง

ภาพทีวีวงจรปิดในมุมสูงของสวนสัตว์แห่งชาติ ยาลาในศรีลังกา แสดงให้เห็นสวนสัตว์ที่ถูกน้ำไหลบ่าเข้าท่วมจากคลื่นยักษ์สึนามิ แต่ไม่มีสัญญาณเลยว่าสัตว์สงวนอย่างช้าง เสือดาว กวาง หมาไน และจระเข้ ล้มตาย

สภาพการณ์ดังกล่าวช่วยเพิ่มข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ให้เราได้รับทราบเกี่ยวกับภัยพิบัติอย่างคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิด ซึ่งเมื่อเกิดปรากฏการณ์เหล่านี้ นกจะพากันบินหนี สุนัขหอนโหยหวน ฝูงสัตว์จะวิ่งแตกตื่น ไปหาสถานที่ปลอดภัยก่อนที่ภัยพิบัติจะมาเยือน

"ในเรื่องของการสั่นไหว แรงสั่นสะเทือน หรือเสียงคลื่นนั้น สัตว์มีความสามารถ ซึ่งมนุษย์ไม่มี อาทิ ช้าง มีการสื่อสารของคลื่นเสียง ซึ่งมีย่านความถี่ต่ำกว่าระดับที่มนุษย์สามารถได้ยิน ช้างสามารถจับเสียงเหล่านี้ได้จากระยะไกลมาก เรียกได้ว่าอยู่ห่างไปหลายกิโลเมตรก็สามารถจับสัญญาณได้" เฮอร์เว ฟริตซ์" นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์แห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส กล่าว

ทั้งนี้ คลื่นเสียงความถี่ต่ำแบบที่เรียกว่าอัลฟราซาวนด์ มักมีความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ซึ่งต่ำกว่าระดับที่มนุษย์จะสามารถได้ยิน โดย ฟริตซ์นำเสนอทฤษฎี เพื่ออธิบายว่าเหตุใดช้างจึงอาจมีสัญญาณเตือนว่าจะเกิดคลื่น

นั่นเป็นเพราะว่า ช้างน่าจะสามารถจับ "สัญญาณภาคพื้นดิน" ของการสั่นสะเทือนหรือเสียงจากอากาศที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสัตว์หรือสิ่งอะไรก็ตามที่มีขนาดใหญ่ อันเป็นเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถได้ยิน
แต่ช้างก็ไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวที่สามารถจับสัญญาณอันตรายจากการสั่นสะเทือนได้ เพราะ กระต่ายและสัตว์สี่เท้าอื่นๆ ก็สามารถรับรู้ภัยล่วงหน้าได้ ผ่านทางพื้นดิน รวมถึง นกพิราบ ซึ่งอ่อนไหวมากกับการเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ

ส่วน ผึ้ง ก็มีประสาทสัมผัสที่มีความแม่นยำสูงมาก และจะมีปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กในโลก ขณะที่ ค้างคาว อาศัยการรับฟังคลื่นเสียงและเสียงสะท้อน เพื่อจับตำแหน่งของสิ่งนั้นๆ

นอกจากนั้น สัตว์ซึ่งอยู่ร่วมกันเป็นฝูงอย่างช้าง กวาง และนก ยังมี "รหัสเตือนภัย" อันทรงประสิทธิภาพ นั่นคือ เสียงร้องในแบบพิเศษที่สามารถเตือนเพื่อนร่วมฝูงให้หนีได้ทันเมื่อเห็นอันตรายใกล้เข้ามาก

ประสาทสัมผัสเหล่านี้เชื่อว่า ช่วยให้สัตว์ต่างๆ ตรวจจับภัยอันตรายล่วงหน้าได้ เพียงแค่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเล็กน้อย หรือในกรณีที่วัตถุเกิดการสั่นไหว จึงไม่แปลกเลยที่คลื่นสึนามิไม่สามารถทำอันตรายพวกมัน

http://www.dmr.go.th/news/14_01_48_8.html
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:55:58 »




พิษโลกร้อนทำหมึกยักษ์เปรูรุกล้ำน่านน้ำแคลิฟอร์เนีย   

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กรกฎาคม 2550 16:12 น.


พี/นิวส์ไซเอนติส – สภาพอากาศแปรปรวนและอุณหภูมิโลกสูงขึ้นจนเป็นเหตุให้หมึกยักษ์ที่เคยอาศัยอยู่ในทะเลเขตร้อนออกล่าเหยื่อไกลถึงเขตหนาว แย่งอาหารกับนักล่าท้องถิ่นทั้งฉลามและทูน่า รวมทั้งชาวประมงมะกันด้วย

ชาวประมงสหรัฐฯ จับหมึกยักษ์ตัวเขื่องขนาดยาว 2 เมตร หนัก 45 กิโลกรัมได้ขณะออกหาปลาบริเวณชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเป็นเพราะอุณหภูมิโลกสูงขึ้นทำให้หมึกยักษ์ที่เคยพบเฉพาะเขตร้อนไปโผล่อยู่ในทะเลเขตอบอุ่น และเป็นนักล่าคู่แข่งกับปลาฉลาม ทูน่า ทั้งยังล่าเหยื่อที่เป็นปลาเศรษฐกิจ จึงส่งผลให้ชาวประมงเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

หลุยส์ ไซด์เบิร์ก (Louis Zeidberg) นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) สหรัฐฯ เปิดเผย ว่า หมึกยักษ์ ที่ชาวประมงแคลิฟอร์เนียจับได้ ปกติอาศัยอยู่ในทะเลเขตร้อน บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตั้งแต่เปรูถึงคอสตาริกา เคยพบปรากฏในเขตน่านน้ำเม็กซิโกเมื่อครั้งเกิดปรากฏการณ์เอล นีโญ (El Niño) ที่กระแสน้ำอุ่นไหลเข้าไปแทนที่กระแสน้ำเย็น

เมื่อ 16 ปีก่อนหมึกยักษ์เริ่มขยายอาณาเขตมาถึงน่านน้ำแคลิฟอร์เนียโดยนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยสัตว์น้ำมอนเทอเรย์ เบย์ (Monterey Bay Aquarium Research Institute) สังเกตเห็นจากกล้องที่สามารถส่องดูใต้ทะเลลึกได้ และยังเคยพบล่าเหยื่อแถวอลาสกาด้วย นับว่าพฤติกรรมของมันเปลี่ยนไปมาก อาจเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้สัตว์ที่พบเฉพาะในทะเลเขตร้อนขึ้นมาหาอาหารไกลถึงเขตหนาว

หมึกยักษ์โดซิดิคัส ไจกัส (Dosidicus gigas) หรือ ฮัมโบลดต์สควิด (Humboldt squid) เป็นนักล่าแห่งท้องทะเลน้องๆปลาฉลามและทูน่า นักวิทยาศาสตร์ยังตั้งข้อสังเกตว่า ปลาฉลามกับปลาทูน่าถูกล่ามากขึ้นจนลดจำนวนลงก็อาจมีส่วนทำให้หมึกยักษ์เพิ่มจำนวนและขยายเขตล่าเหยื่อ เพราะทั้งฉลามและทูน่าเป็นนักล่าคู่แข่งและเป็นศัตรูธรรมชาติของลูกหมึกยักษ์

นอกจากนี้ ทุกครั้งที่มีหมึกยักษ์ปรากฏตัวขึ้นบริเวณชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ปลาทะเลหลายชนิดลดจำนวนลงมากโดยเฉพาะปลาเฮก (hake) ปลาแอนโชวี (anchovy) ปลาเนื้อขาว (whitefish) เป็นต้น ซึ่งเป็นปลาที่คนนิยมบริโภค ทำให้การปรากฏตัวของหมึกยักษ์ส่งผลกระทบต่อการทำประมงของชาวแคลิฟอร์เนีย

แม้ว่าหมึกยักษ์อาจไม่สนใจที่จะล่ามนุษย์เป็นอาหารอยู่และหากมันพบเห็นเราเข้ามันคงว่ายน้ำหนีไปทางอื่น แต่ผลจากความแปรปรวนของสภาพอากาศโลกจนทำให้พฤติกรรมของสัตว์ทะเลชนิดนี้เปลี่ยนไปก็น่าจะทำให้มนุษย์ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นและไม่อาจนิ่งดูดายอีกต่อไป
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:56:55 »

เกิดสิ่งมหัศจรรย์ของปลาซาร์ดีน, แอนโชวี่, ปลากะพงและปลาทู


    บีชรีสอร์ทของเมืองอาคาปูโก ประเทศเม็กซิโกใน เมื่อวันศุกร์ 11 มีนาคม เกิดสิ่งมหัศจรรย์ของปลาซาร์ดีน, แอนโชวี่, ปลากะพงและปลาทูจำนวนมากว่ายเข้าใกล้ชายฝั่ง ง่ายต่อการจับของชาวประมงจำนวนมาก ฝูงปลาขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ของชายฝั่ง มองเหมือนพื้นที่ขนาดใหญ่ของน้ำมันที่ลอยในทะเล ชาวประมงรีบร้อนวางแผนที่จะจับปลาเหล่านั้น เชื่อว่าเกิดจากคลื่นสึนามิในญี่ปุ่น

    ปลาในกลุ่ม นี้ มีประสาทสัมผัสหลายอย่างเหนือกว่าปลาใหญ่ๆ บางชนิด

ประกอบกับ ระดับของ ก๊าซมีเทน ที่รั่วขึ้นมาตามรอยเเยกของเปลือกโลก เวลาเกิดเเผ่นดินไหว ถึงจะเล็กน้อย เเต่ปลาน้อยเหล่านี้ก้รับรู้ได้ เเละถ้าก๊าซชนิดนี้ผ่านเข้ากระเเสนั้าที่มี อหภูมิที่พอดี ก็จะ เดินทางไปกับนั้า ในกระเเสนั้าอุ่นนั้นๆ ไปได้ไกล บางทีก็ข้าม ทวีปไปเลย ฉะนั้นถ้าปลารับรู้ได้ถึง ก๊าซ ที่ออกมา มันก็จะว่ายนํ้าหนี ออกไปเรื่อยๆ การหลงกระเเสนํ้าจึงเกิดขึ้นบ่อย ในช่วงก่อน เเละหลัง จากเเผ่นดินไหว ก็ยิ่งหลงกันบ่อยขึ้น ไกลขึ้น
ฉะนั้น เหตุที่ปลาน้อยเหล่านี้ หลงทิศ จึงถือเป้นกรณี เร่งด่วนที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่า การท่องเที่ยว หรือการลงทุนเป็นไหนๆ


news.wenxuecity
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:57:42 »

ปรากฏกาณ์ กองทัพ ปลาซาร์ดีน หลัง สึนามิ

กองทัพปลาซาร์ดีน



ภาพนี้ไำม่ใช่คราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเล แต่ พวกมันคือ ฝูงปลานับพัน นับหมื่น ที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดจากอะไรอย่างแน่นชัด แต่พวกมันเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์คลื่นสึนามิถล่ม ญี่ปุ่น

รายละเอียด

--------------------------------------------------------------------------------

ภาพนี้คือ ฝูงปลา ซาร์ดีน(Sardine) ปลาแอนโชวี่(Anchovies) และปลาแม็คคาเรล(mackerel)
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ที่ชายฝั่ง นอกหาด Acapulco ในประเทศเม็กซิโก
และคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สีนามิ ถล่ม ประเทศญี่ปุ่น
เนื่องจาก สีนามิ จะก่อให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศ แต่ก็ยังยากที่จะอธิบายความเกี่ยวข้องอย่างแน่ชัด ระหว่าง สึนามิ กับ ปรากฏการณ์ กองทัพ ปลาซาร์ดีน นี้




http://2.bp.blogspot.com/-MKpK4GtXSoY/TXu5_uIWAII/AAAAAAAANsA/LOoa0833hl0/s1600/article-1365538-0D940A72000005DC-776_634x456.jpg
สัมผัสที่ 6 "สัตว์" เตือนภัยสึนามิ!!

ฝูงปลาแปรขบวน เป็น กระต่าย

http://2.bp.blogspot.com/-ykmfq4CLh98/TXu6FTC3ITI/AAAAAAAANso/zZgbsfa7OCA/s1600/article-1365538-0D9436CD000005DC-209_634x383.jpg
สัมผัสที่ 6 "สัตว์" เตือนภัยสึนามิ!!

เหล่าชาวประมง รู้สึกประหลาดใจต่อเหตุการณ์นี้ แต่ น้ำขึ้นต้องรีบตัก ปลาชุมต้องรีบจับ เช่นกัน

http://1.bp.blogspot.com/-818GQaeUpKM/TXu6A67QkmI/AAAAAAAANsg/zDkaA_YyD64/s1600/article-1365538-0D943BF9000005DC-136_634x422.jpg
สัมผัสที่ 6 "สัตว์" เตือนภัยสึนามิ!!

เครื่องไม้เครื่องมือในการจับปลาทุกชนิดถูกนำมาจับ ปลาเหล่านนั้นได้อย่างง่ายดาย

http://3.bp.blogspot.com/-PUSH4ckX-1s/TXu6AEiJtyI/AAAAAAAANsQ/qwkSjGY6wss/s1600/article-1365538-0D943A4D000005DC-260_634x422.jpg
สัมผัสที่ 6 "สัตว์" เตือนภัยสึนามิ!!

ปลานั้นมากมายเสียจนใช้เมือ กอบ ก็ได้มาเต็มมือ

http://2.bp.blogspot.com/-ICENtTvKXWI/TXu5_2fZ3BI/AAAAAAAANsI/NOJKTO_Uvrc/s1600/article-1365538-0D942CB4000005DC-756_634x400.jpg
สัมผัสที่ 6 "สัตว์" เตือนภัยสึนามิ!!

กองทัพปลา บุก

http://wowboom.blogspot.com/2011/03/blog-post_12.html
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:58:41 »

สัตว์รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว    หัวเราะลั่น





จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบว่า หากสัตว์ป่ามีพฤติกรรมผิดไปจากปกติ มักจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทั้งนี้เพราะสัตว์มีความสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งในการเอาชีวิตรอด
[/COLOR]

จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบว่า หากสัตว์ป่ามีพฤติกรรมผิดไปจากปกติ มักจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ทั้งนี้เพราะสัตว์มีความสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งในการเอาชีวิตรอด
พฤติกรรมผิดปกติ ของนก

นกมีความรู้สึกต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะนกพิราบป่าจะไวเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวในประเทศจีนพบว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือน 3 ริกเตอร์ขึ้นไป ฝูงนกพิราบป่าที่อยู่ภายในรัศมี 50 กม. จากศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะรู้ล่วงหน้า และบินหนีไปภายใน 24 ชั่วโมง นอกจากนี้กาและนกเลี้ยงบางชนิด เช่น นกแก้ว ก็มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวเช่นกัน

ฝูง นกพิราบหรือกาจะบินหนีไป ทันที นกใน กรงก็แตกตื่นจะหนีออก จากกรง

พฤติกรรมผิดปกติ ของปลา

ปลาน้ำเค็ม

เมื่อ ค.ศ.1995 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ชาวประมงจับปลาได้มากกว่าปกติ และมีปลาจากทะเลลึกว่ายเข้ามาในเขตน้ำตื้นด้วย

พบ ปลาแปลกๆ หรือปลาน้ำจืดในเขตน้ำตื้น ก่อนเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณ ใกล้เคียงจะจับปลาได้มากกว่าเดิม 2-10 เท่า

ปลาน้ำจืด

ปลาน้ำจืดในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่มีความรู้สึกไวต่อการเกิดแผ่นดินไหวคือปลา คาร์ป ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง เคยมีคนเห็นปลาคาร์ปจำนวนมากกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำเหมือนตกใจหนีอะไรบางอย่าง

ปลา คาร์ปกระโดดขึ้นมาเหนือผิว น้ำ หรือมีท่าทางลุกลน ถ้าปลาดุกมีท่าทางตื่นตระหนก แสดงว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหว
พฤติกรรมผิดปกติ ของสัตว์เลื้อยคลาน

ผลการวิจัยพบว่า สัตว์ที่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก่อนใครคืองู ทั้งนี้เพราะงูจำศีลอยู่ในโพรงดิน (งูในประเทศเขตหนาว) จึงรู้สึกถึงความผิดปกติได้ง่ายเมื่อมีการสั่นสะเทือนของเปลือกโลก มีก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ฯลฯ และจะหลับภัยด้วยการเลื้อยขึ้นมาบนดินแม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวก็ตาม

ตัวอย่างเช่นเมื่อ ค.ศ. 1855 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นหนึ่งวัน พบฝูงงูเลื้อยขึ้นมาแข็งตายบนดิน เมื่อ ค.ศ. 1976 หนึ่งวันก่อนเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองถังซานในประเทศจีน ก็มีฝูงงูจำนวนมากเข้าไปหลบอยู่ในซอกหิน

พฤติกรรมผิดปกติ ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ

กบก็แสดงพฤติกรรมผิดปกติเช่นเดียวกับงู เมื่อ ค.ศ. 1976 ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว รุนแรงที่เมืองถังซานในประเทศจีน มีคนเห็นกบนับพันนับหมื่นตัวพากันอพยพ
พฤติกรรมผิดปกติ ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

สุนัข

ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ มีรายงานว่าสุนัขจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ มากที่สุด สุนัขเป็นสัตว์ใกล้ชิดกับคน จึงสังเกตความผิดปกติของสุนัขได้ง่าย และพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว สุนัขจะมีอาการตื่นตระหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น ส่วนบางตัวก็เห่าและหอน

แมว

ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวส่วนใหญ่จะหาที่หลบ ญี่ปุ่นมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า "ก่อนแผ่นดินไหว แมวจะปีนขึ้นต้นไม้สูง" และมีคนเห็นเช่นนี้จริงๆ ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวบางตัวแสดงอาการงุ่นง่าน วิ่งไปมา และส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาย

หนู

เมื่อ ค.ศ. 1923 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คันโต หนูพากันหลบหนีไปหมด และตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ก็พบปรากฎการณ์หนูพากันหลบหนีเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะมีหนูติดกับดักเพิ่มขึ้น และหนูบางตัววิ่งพล่านไปทั่ว
สุนัข ที่เคยเชื่อง แสดงอาการดุร้ายขึ้นทันที แมววิ่งไปมาอย่างงุ่นง่าน หรือปีนขึ้นต้นไม้สูง หนูพากันหลบหนี
 
-ขอขอบคุณ-
ถนนฅนเดินจังหวัดเชียงใหม่

www.cnxwalkingstreet.com
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #16 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 15:59:19 »



"สัตว์พยากรณ์"

มนุษย์พยายามหาวิธีพยากรณ์อากาศมาแต่ครั้งโบราณ โดยการสังเกตธรรมชาติ เช่น รู้ว่าฤดูหนาวกำลังจะมาเมื่อเห็นใบไม้ร่วง หรือรู้ว่าพายุผ่านพ้นไปแล้วเมื่อเห็นรุ้งกินน้ำ

บางคนเชื่อว่าสัตว์เปลี่ยนความรู้สึกเมื่ออากาศกำลังจะเปลี่ยน จึงเฝ้ามองปฏิกิริยาของสัตว์เมื่อต้องการจะพยากรณ์อากาศ คุณจะลองสังเกตสัตว์เลี้ยงดูบ้างก็ได้

ต่อไปนี้ คือปฏิกิริยาของสัตว์ต่าง ๆ ที่แสดงว่าฝนใกล้จะตก

กบ จะร้องดังและนานกว่าปกติ
สุนัข จะหอนหรือคราง และกระวนกระวาย
แมว จะมีชีวิตชีวา ขี้เล่นเหมือนลูกแมว
ไก่ จะขันผิดเวลา (ไม่เฉพาะเช้ามืด)
นก จะบินต่ำ และรวมกันอยู่ตามต้นไม้ เสาไฟฟ้า สายโทรศัพท์
หมู จะส่งเสียงร้องมากขึ้น และจะเก็บเศษไม้ไปทำรัง
วัว จะนอนลงกลางทุ่งแล้วใช้หางปัดแมลง
ผีเสื้อกับผึ้ง จะหายไปจากแปลงดอกไม้ที่เคยมาวนเวียนประจำ
มดแดงกับมดดำ จะสร้างเนินดินใกล้ๆ กับรูของมัน
ปลา จะกระโดดขึ้นเหนือน้ำฮุบแมลงที่บินอยู่เตี้ย ๆ

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 16:00:38 »

หมีแพนด้ารู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือไม่ ?


 
ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศจีนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2551 หมีแพนด้าที่ศูนย์เพาะเลี้ยงแพนด้าวูลอง มณฑลเสฉวน ใกล้เมืองเฉิงตูซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ก็เริ่มแสดงพฤติกรรมผิดปกติ
 
“ทีแรกนั้นแพนด้าดูขี้เกียจ กินไผ่แค่นิดหน่อย”  ไดแอน เอ็ทกินส์ นักท่องเที่ยวที่อยู่ที่วูลองพอดีเล่า “แล้วอยู่ดีๆ แพนด้าก็ลุกเดินวนไปมารอบกรงไม่ยอมหยุด เมื่อได้มองย้อนกลับไปคิดแล้ว สงสัยว่าแพนด้าคงต้องรู้แน่เลยว่ากำลังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น”
 


 
แพนด้าตัวเต็มวัยท้ัง 86 ตัวที่วูลองนั้นปลอดภัยดี ไม่ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหว ส่วนลูกแพนด้านั้นถูกย้ายไปที่เมืองชาวัน ซึ่งปลอดภัยกว่า
 

 
รายงานของสัตว์ซึ่งแสดงพฤติกรรมผิดปกติก่อนเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นมีอยู่หลายครั้ง
 
ครั้งล่าสุดที่มีพยานเห็นเหตุการณ์บันทึกอย่างชัดเจน คือ ครั้งเกิดซึนามิ ปี พ.ศ. 2549 นั้น ช้างที่แถบชายฝั่ง ประเทศศรีลังกาต่างก็หวีดร้อง แล้ววิ่งหนีขึ้นที่สูง ส่วนสัตว์ในสวนสัตว์ก็วิ่งกลับเข้าคอกกักในจังหวะก่อนที่คลื่นซึนามิจะมา
 
ในครั้งนั้นมีผู้คนตายกว่า 150,000 คน ในขณะที่รายงานการตายของสัตว์นั้นมีน้อยมาก จึงทำให้หลายคนคิดว่าสัตว์อาจมีสัญชาติญาณรู้ล่วงหน้าถึงภัยอันตราย
 

 
สัตว์หลายชนิดนั้นมีประสาทสัมผัสที่ไวกว่าคนมาก เช่น งูนั้นสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนของเหยื่อซึ่งอยู่ในโพรงหลุมใต้ดินได้ ส่วนช้างนั้นก็สามารถสื่อสารผ่านทางแรงสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงความถี่ต่ำกว่าที่มนุษย์สามารถได้ยิน (infrasonic)  ซึ่งคลื่นความถี่ตำ่นั้นสามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลกว่าความถี่สูง ช้างจึงสามารถสัมผัสและ “ได้ยิน” ถึงแรงสั่นสะเทือนของโขลงช้างที่อยู่ห่างออกไปถึง 32 กิโลเมตร
 
อย่างไรก็ตาม ดร. ไรส์ ก็เตือนว่าอย่าพึ่งด่วนสรุปใดๆ จากพฤติกรรมผิดแปลกไปของแพนด้าครั้งนี้  “มันเป็นจุดสังเกตที่น่าสนใจ แต่หากอยากรู้ว่าแพนด้านั้นตอบสนองต่อแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวจริงหรือไม่ เราก็ต้องรู้พฤติกรรมตามปกติของแพนด้ามากกว่านี้”
 
แต่ในความเป็นจริงก็น่าคิดว่าแพนด้านั้นเป็นสัตว์ที่นักวิทยาศาสตร์มีการจดพฤติกรรมในกรงเลี้ยงละเอียดมากที่สุดในโลกแล้ว หากยังดูไม่ออกอีก ก็แทบจะไม่ต้องหวังพึ่งสัตว์ป่าใดๆ แต่สัตว์เลี้ยงซึ่งอยู่กับมนุษย์อย่างใกล้ชิดกว่า นั้นอาจมีโอกาสสังเกตพฤติกรรมได้ง่ายกว่า
 

 
หลักฐานครั้งแรกที่ปรากฏของสัตว์ซึ่งเตือนภัยแผ่นดินไหว คือเมื่อ พ.ศ. 170 หนู งู และพังพอน ต่างวิ่งหนีออกจากเมืองเฮลิซ อาณาจักรกรีก เพียงไม่กี่วันก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
 
นอกจากนั้นในครั้งอื่นๆ ก็มีบันทึก เช่น ไก่หยุดวางไข่ ผึ้งแตกหนีออกจากรัง สุนัขเห่าหอนไม่ยอมหยุด หรือแสดงอาการลุกลี้ลุกลน
 
แต่จริงๆ แล้วสัตว์นั้นรู้สึกสัมผัสสิ่งใด ทฤษฏีหนึ่งกล่าวว่า ก่อนเกิดเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้นมักจะมีการสั่นไหวย่อยๆ ก่อน ซึ่งสัตว์อาจสามารถสัมผัส รู้สึกได้ หรืออีกทฤษฏีก็กล่าวว่าอาจสัมผัสได้ถึงปฏิกริยาทางไฟฟ้าที่เปลี่ยนไปในอากาศ หรือกาซที่ถูกปล่่อยออกมาจากใต้พื้นพิภพ
 
แม้จะมีความพยายามในการศึกษาการใช้สัตว์เป็นตัวชี้วัดแผ่นดินไหวมากมาย แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ข้อสรุป แอนดี มิเชล นักธรณีฟิสิกซ์ ซึ่งได้ศึกษาเรื่องนี้คิดว่า “เรามีแค่เพียงคำบอกเล่าลำ่ลือ แต่สัตว์นั้นก็แสดงปฏิกริยาตอบสนองต่อหลายสิ่งเหลือเกิน ทั้งความหิว การปกป้องถิ่นอาศัย การสืบพันธุ์ การถูกไล่ล่า ฉะนั้นจึงเป็นการยากที่จะศึกษาแบบควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่จะตรวจวัดล่วงหน้าก่อนเกิดแผ่นดินไหว”
 

 
นักธรณีวิทยาส่วนใหญ่จึงไม่เชื่อในคำรำ่ลือถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของสัตว์ก่อนเกิดแผ่นดินไหว  โดยกล่าวว่ามันเป็นผลของสภาวะจิตที่เรามุ่งสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หลังเกิดแผ่นดินไหว คนก็พยายามจดจำสิ่งต่างๆ ที่เกิดว่าเป็นลางสังหรณ์ แต่หากไม่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ก็คงไม่มีใครเอะใจว่าพฤติกรรมสัตว์เหล่านั้นผิดปกติ

สิ่งน่าคิด
- สัตว์เลี้ยงของท่านเคยแสดงพฤติกรรมผิดปกติ หรือมีลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุการณ์หรือไม่
 
เรียบเรียงโดย : น.สพ. กานต์ เลขะกุล
 
เรียบเรียงจาก :
http://news.nationalgeographic.com/news/2008/05/080515-pandas-quake.html
http://news.nationalgeographic.com/news/2003/11/1111_031111_earthquakeanimals.html

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 10.0.648.133 Chrome 10.0.648.133


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 15 มีนาคม 2554 19:42:47 »

สุดยอดครับ ธรรมชาติ และสัตว์นี่แหละ คือตัวบอกภัยพิบัติที่ดีจนวิทยาศาสตร์ตามไม่ทัน

นึกถึงเดอะเดย์อาฟเตอร์ทูมอโรว์เลย

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #19 เมื่อ: 16 มีนาคม 2554 08:50:35 »


 
ปลายเดือนกุมภาพันธ์..ก่อน แผ่นดินไหวเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ไม่กี่วัน ก็มีข่าว "วาฬนำร่อง" นับร้อยตัวพากันมาเกยตื้นบนเกาะสจ๊วต นอกชายฝั่งเกาะใต้ของนิวซีแลนด์

ย้อนไปก่อนหน้านี้ราวต้นเดือน บริเวณเกาะใต้แห่งนี้ก็พบวาฬนำร่องเกยตื้นตายแล้ว 14 ตัว และยังเกยตื้นทางเกาะเหนืออีก 24 ตัว สาเหตุในช่วงเวลานั้น...คาดกันว่าเกิดจากวาฬหลงทิศเมื่ออยู่ในน้ำตื้น หรือเกิดจากอาการป่วย ทำให้พวกมันตามกันว่ายเข้าฝั่ง

ที่ผ่านมา วาฬนำร่อง ขนาดยาว 6 เมตร เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในน่านน้ำของนิวซีแลนด์ ส่วนการเกยตื้นหมู่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยแถวแนวชายฝั่งที่มีคลื่นรุนแรง

ในมุมมองนักวิทยาศาสตร์ สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด เพียงแต่คาดการณ์ได้ว่า อาจเป็นเพราะคลื่นโซนาร์ของพวกมันถูกรบกวนในแหล่งน้ำตื้น หรือเมื่อมีสมาชิกในฝูงป่วย วาฬตัวอื่นๆจึงว่ายตามขึ้นมาด้วย

สกู๊ปหน้า 1 พยายามค้นหาคำตอบ ก็มาสะดุดข้อมูลในเว็บไซต์ความจริงที่คนไทยควรรู้ (www.truth4thai.org) หัวข้อ... "รวบรวมข้อมูลสัตว์ตายหมู่ 2010–2011" โดยผู้ใช้นามว่า... "Nazio311"

กระทู้นี้เป็นที่เก็บรวบรวมข้อมูล สำหรับการติดตามจากข่าวสารจากการตายของสัตว์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเอาไปใช้ประกอบในการวิเคราะห์โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง?

อาทิ พบปลาตายนับแสนตัวในนิวเจอซีย์ เมื่อ 12 สิงหาคม 2553, ปลาตายนับแสนตัวในหลุยส์เซียนา เมื่อ 13 ตุลาคม 2553, ปลาตายหลายพันตัวที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ 19 ธันวาคม 2553

ปลาหมึกตายหลายพันตัวที่ชายหาดประเทศโปรตุเกส เมื่อ 3 มกราคม 2554, ทั้งนกและปลาตายไปราว 100,000 ตัวใน Arkansas เมื่อ 4 มกราคม 2554, ยังมีปลาตายเป็นจำนวนมากที่ประเทศบราซิล เมื่อ 4 มกราคม 2554




ปูตายเป็นจำนวน 40,000 ตัว ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อ 5 มกราคม 2554, พบนกตายกว่า 3,000 ตัว ในสวีเดน เมื่อ 5 มกราคม 2554, พบนกจำนวนมากตกมาจากฟากฟ้าในประเทศจีนเมื่อ 5 มกราคม 2554, ปลาตายหลายร้อยตัว (ส่วนใหญ่เป็นปลากะพง) ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อ 5 มกราคม 2554, นกตายหลายร้อยตัวในรัฐเท็กซัส เมื่อ 6 มกราคม 2554, พบปลาตาย 2 ล้านตัวในแมรีแลนด์ 7 มกราคม 2554

ยังมีนกตายหมู่ที่ไต้หวัน เมื่อ 8 มกราคม 2554, นกตายประมาณ 50 กว่าตัวในฮอลแลนด์ เมื่อ 10 มกราคม 2554, พบนกตายในตุรกีเป็นจำนวนมากเมื่อ 10 มกราคม 2554, สัตว์ตายปริศนาเป็นจำนวนมากในอิตาลี 11 มกราคม 2554

ยังมีปลาตายเพิ่มอีกในชิคาโก เมื่อ 11 มกราคม 2554, นกตายมากกว่า 100 ตัวในแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 11 มกราคม 2554, พบนกตายเป็นจำนวน 300 กว่าตัวในเอเธนส์ 12 มกราคม 2554, แมวน้ำตายหลายร้อยตัว ที่แคนาดา 17 มกราคม 2554

แล้วก่อนวันเกิดคลื่นแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์ จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ความสูง 10 เมตร...ถล่มประเทศญี่ปุ่น ครั้งล่านี้...วันที่ 9 มีนาคม 2554 ก็มีข่าวปลาแอนโชวี่หลายล้านตัวเกยตื้นตายหมู่ปริศนาในแคลิฟอร์เนีย

ปรากฏการณ์นี้  ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า  ปลาเหล่านี้อาจตายเพราะสภาพไร้ออกซิเจนในท้องน้ำจากสาหร่าย  ขณะที่ชาวบ้านพากันสงสัยว่า...ลมกระโชกแรงในคืนนั้น อาจซัดปลาลอยเข้าไปยังจุดอับของท่าเรืออันเป็นบริเวณที่มีออกซิเจนน้อย




ประเด็นการตายจากสารพิษน่าจะถูกตัดทิ้งไปตั้งแต่ต้น เพราะทั่วบริเวณนั้นไม่พบเห็นสัญญาณของสารพิษใดๆ ไม่พบเหตุน้ำมันหรือสารพิษรั่วไหลลงสู่ทะเลแถบนี้ ที่อาจเป็นต้นตอของการตายของปลานับล้านตัวเหล่านี้ได้เลย

เมื่อวันเวลาผ่านไปก็เกิดสมมุติฐานใหม่ มีผู้ตั้งข้อสังเกตในสังคมออนไลน์ว่าสาเหตุการตายของปลาหลายล้านตัวที่แคลิฟอร์เนีย เกิดจากการเกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 11 มีนาคม 2554 ที่ญี่ปุ่น...แล้วเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ

นั่นเป็นเพราะว่า... "สัตว์มีประสาทสัมผัสที่รวดเร็วกว่ามนุษย์ จึงหนีไปฝั่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับญี่ปุ่น"

อีกสมมุติฐานหนึ่ง สะท้อนว่าคงกล่าวได้ไม่หมด ถึงเหตุการณ์ที่มี ปลาตาย นกตาย วาฬ แมวน้ำตายทั่วโลกเช่นนี้ คำถามสำคัญอยู่ที่ว่า...ทำไม? ถึงตาย และใครมีข้อสมมุติฐานอะไรบ้าง

สำหรับความเห็นส่วนตัวสัตว์ต่างๆ เหล่านี้ส่วนมาก มีการย้ายถิ่น แต่ก็ไม่ได้ดูข้อมูลลึกไปถึงว่า ปลาที่ย้ายถิ่น เป็นน้ำจืด...น้ำเค็ม ที่ต้องขึ้นมาวางไข่หรือเปล่า หรือนกที่ตายได้หนีหนาวไหม ในมุมคิดหนึ่งที่ขอทึกทักเอาเองว่า "น่าจะเกิดความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กโลก ไม่อย่างนั้น วาฬคงไม่เกยตื้น"

จับประเด็นไปที่สัมผัสสัญญาณธรรมชาติวิปโยคจาก "วาฬ"

โลมาและวาฬ อยู่ในวงศ์ Delphinidae ในประเทศไทยพบทั้งหมด 15 ชนิดด้วยกัน อาทิ วาฬนำร่องครีบสั้น (Shortfined pilot whale) สีเทาดำหน้าผากโป่งนูนชัดเจน ครีบหลังโค้งลาดฐานกว้างอยู่ค่อนมาทางส่วนหัว




มีแถบสีขาวรูปอานอยู่หลังครีบหลัง ครีบข้างหักโค้งขนานกับลำตัว ปลายเรียวแหลม ฟันซี่ใหญ่ปลายแหลมจำนวน 7-9 คู่บนขากรรไกรแต่ละข้าง เพศผู้โตกว่าเพศเมียมาก อาจได้ถึง 4.5 เมตร ขณะที่เพศเมียโตเต็มที่ยาว 4 เมตร

ในประเทศไทย มีรายงานพบสองครั้ง...เกยตื้นที่จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่และชาวประมงช่วยกันปล่อยกลับลงสู่ทะเลได้สำเร็จ และอีกครั้งพบซากที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

ห้องหว้ากอ เว็บไซต์พันทิป ก็สนใจประเด็นนี้ คุณแมลงปอร่อแร่ ย้ำประเด็นสงสัย "วาฬน่าจะมีสัมผัสพิเศษอะไรบางอย่าง ที่สามารถคาดการณ์์ แผ่นดินไหวได้?"

หลายๆอย่างก็หาคำตอบได้ยาก วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้...เพียงแต่ว่ากรณีนี้เกิดขึ้นกับเฉพาะวาฬนำร่องมาสองครั้งแล้ว และระยะเวลาการเกิดก็ใกล้กัน...

"วาฬนำร่องอ่อนไหวต่อสนามแม่เหล็กโลก ก็เลยคิดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกหรือสนามแม่เหล็ก ก่อนแผ่นดินไหว วาฬเลยมีพฤติกรรมแปลกๆ"

ทรรศนะหนึ่งก็ย้อนถึงตอนก่อนเกิดสึนามิชายฝั่งทะเลอันดามัน ก็มีปลาทะเลลึกหนีมาที่ตื้น พวกนี้คงจับสัญญาณแผ่นดินเคลื่อนตัวได้เช่นเดียวกับสัตว์พวก...เป็ด ไก่
"วาฬ ก็น่าจะมีประสาทรับได้เช่นกัน จึงพากันหนีภัยมาที่ตื้น"

เมื่อครั้ง "คลื่นยักษ์สึนามิ"... กรณีแผ่นดินไหวเขย่าโลกขนาด 9.3 ริกเตอร์ วันที่ 26 ธันวาคม 2547 มีผู้เสียชีวิตกว่า 2.3 แสนคน นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อมูลน่าสนใจจากสัตว์หลายชนิดทั้งที่อาศัยอยู่บนบก...ในน้ำ มีพฤติกรรมผิดธรรมชาติ ไม่ว่าฝูงนกขนาดใหญ่ที่บินหนีทั่วท้องฟ้า หรือฝูงช้างป่าที่เคลื่อนขบวนสู่ภูเขาสูง

คำยืนยันจาก ดร.เฮอร์เว ฟริตซ์ (Herve Fritz) นักวิจัยพฤติกรรมสัตว์แห่งศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติของฝรั่งเศส บอกว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะมีความสามารถในการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนหรือคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำจากระยะไกล

คลื่นความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ ทำให้สัตว์พวกนี้หนีเอาตัวรอดได้ในเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวหรือสึนามิ ส่วนนกจะอ่อนไหวมากหากความกดอากาศเปลี่ยนแปลงไป สิ่งเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็น "รหัสเตือนภัย"

ถึงตรงนี้ในห้องหว้ากอหลายเสียงส่วนใหญ่คิดว่าสัมผัสวาฬก่อนเกิดแผ่นดินไหวเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน เพราะสัตว์มีสัญชาตญาณและอาศัยธรรมชาติดีกว่ามนุษย์เสมอ

อย่าง...วาฬเป็นสัตว์ที่น่ามหัศจรรย์ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้อะไรนำทางเวลาว่ายน้ำจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งได้อย่างแม่นยำ

แต่ก็สังเกตจากนกพิราบยังใช้คลื่นแม่เหล็กที่จงอยปาก ในการบินจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งอย่างถูกต้อง วาฬก็น่าจะเหมือนกัน




เชื่อว่า...ความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติเพียงเล็กน้อย ก็คงส่งผลต่อการดำรงชีพของสัตว์ ทำให้สัญชาตญาณบางอย่างรวน เหมือนหนู...อยู่ที่ไหนมันก็อยู่ได้ แต่พอจะเกิดแผ่นดินไหว มันดันวิ่งลงน้ำฆ่าตัวตาย

เสียงหนึ่ง...มีประสบการณ์ดูคลิปในยูทูป..."หมารู้ตัวก่อนคน ก่อนแผ่นดินจะไหว" อยู่ด้วยกันดีๆหมาก็ตื่นตกใจ สักพักแผ่นดินก็ไหว ส่วนคนไทยโบราณก็มีความเชื่อสัญชาตญาณสัตว์ ใกล้ตัวก็เรื่องมด...ก่อนฝนตกใหญ่ มดจะขึ้นมาจากรังใต้ดิน เตรียมหนีน้ำ

รหัสเตือนภัย...รหัสล่า "ฝูงปลารวมตัวหนาแน่น ชายฝั่งเม็กซิโก" มีทั้งแอนโชวี่ ซาร์ดีน สำหรับชาวประมงเชื่อว่าปรากฏการณ์ประหลาดนี้ มีความเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา...

ในความเป็นจริงสัญญาณธรรมชาตินี้จะเกี่ยวโยงแค่เหตุการณ์มหาวิบัติที่ญี่ปุ่น หรือจะเป็นสัญญาณใหม่ที่บ่งชี้ว่าโลกกำลังจะเข้าสู่ปรากฏการณ์เลวร้ายอะไรอีกหรือไม่

มนุษย์คงต้องเฝ้าติดตามดูความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติอย่างไม่คลาดสายตา เพราะถ้าเกิดขึ้นจริง...อีกไม่นานคงได้รู้กัน.
 
http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/156091
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.608 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 31 มกราคม 2567 05:01:42