19 เมษายน 2567 12:07:42
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ไปรษณีย์
.:::
คนทำทาง ผู้สร้างโลกด้วยสองมือ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: คนทำทาง ผู้สร้างโลกด้วยสองมือ (อ่าน 1644 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2319
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
คนทำทาง ผู้สร้างโลกด้วยสองมือ
«
เมื่อ:
08 พฤษภาคม 2559 14:24:10 »
Tweet
คนทำทาง ผู้สร้างโลกด้วยสองมือ
โดย : ประลองพล เพี้ยงบางยาง
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน
อุโมงค์กัวเลี่ยง ที่เจาะไปตามริมผา
ทุกวันนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย นึกอยากทำอะไรก็ง่ายขึ้นด้วยอุปกรณ์เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆที่มีอยู่รอบตัว จนบางครั้งเราก็หลงลืมไปว่ารากฐานแห่งความสะดวกสบายทั้งหลายนั้นล้วนมีที่มาส่วนหนึ่งจากการสร้างทำของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนความเจริญให้โลกนี้ด้วยหยาดเหงื่อและแรงกาย
วันนี้เป็นวันแรงงานแห่งชาติ คอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูน ขอเชิดชูผู้ใช้แรงงานด้วยเรื่องราวของการทำงานด้วยแรงคนที่ส่งผลอันยิ่งใหญ่ กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายได้ร่วมกันใช้ประโยชน์ ขอเชิญมาชมผลงานของเหล่าคนทำทางที่สร้างความสุขสบายให้กับคนรุ่นหลังกันครับ
คลองสุเอซ (
Suez Canal
) คลองขุดในประเทศอียิปต์ มีความยาวถึง 193 กิโลเมตร เป็นเส้นทางลัดระหว่างยุโรปและเอเชีย เชื่อมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับทะเลแดงเข้าด้วยกัน แต่เดิมนั้นการขนส่งทางเรือระหว่างยุโรปและเอเชียต้องอ้อมทวีปแอฟริกาทั้งทวีป หรือไม่ก็ใช้วิธีขนส่งทางบกร่วมกับการขนส่งทางเรือ ซึ่งก็ไม่สะดวกนัก การขุดคลองนี้ขึ้นมาทำให้ระยะเวลาและระยะทางในการเดิน เรือย่นย่อลงอย่างมาก เช่น การเดินเรือจากอังกฤษไปอินเดียหากใช้เส้นทางลัดผ่านคลองสุเอซระยะทางจะสั้นลงกว่าการแล่นเรืออ้อมทวีปแอฟริกาไปราวๆ 8,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว
คลองสุเอซ.
ในช่วงแรกคลองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงงานมนุษย์เป็นหลัก โดยเริ่มขุดเมื่อ 25 เมษายน พ.ศ.2402 เชื่อมต่อระหว่างฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เมืองพอร์ทเซดกับเมืองสุเอซที่ฝั่งทะเลแดง โดยมีทะเลสาบเกรทบิทเทอร์ (
Great Bitter
) อยู่ตรงกลาง คนงานต้องใช้เวลาขุดนานถึง 10 ปีจึงแล้วเสร็จ และเปิดใช้งานได้เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2412
ตอนแรกที่ใช้แต่แรงคนล้วนๆเป็นผู้ขุด ความยากลำบากและการดูแลคนงานอย่างทาส ทำให้มีผู้ใช้แรงงานต้องล้มตายไปจำนวนมหาศาล จนถูกต่อต้านจากหลายประเทศ ในภายหลังจึงต้องนำเครื่องจักรไอน้ำมาช่วยขุดแทน ปัจจุบันคลองสุเอซยังคงเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ มีเรือเดินสมุทรแล่นผ่านปีละกว่า 20,000 ลำ ซึ่งล่าสุด เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลอียิปต์ได้มีพิธีเปิดคลองสุเอซส่วนต่อขยายเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย
ภายหลังความสำเร็จของคลองสุเอซ ก็มีการวางแผนขุดคลองอีกแห่งหนึ่งขึ้นมา นั่นคือ คลองปานามา (
Panama Canal
) เพื่อเชื่อมมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งแต่เดิมการเดินเรือระหว่างชายฝั่งสองมหาสมุทรนี้จะต้องแล่นอ้อมไปจนสุดทวีปอเมริกาใต้แล้ววกกลับขึ้นมา เช่น การเดินทางด้วยเรือจากนิวยอร์กไปซานฟรานซิสโก ซึ่งอยู่คนละฝั่งของสหรัฐอเมริกา หากแล่นอ้อมทวีปอเมริกาใต้จะไกลถึง 20,900 กิโลเมตร แต่ถ้าผ่านทางคลองปานามาจะเดินทางแค่ 8,370 กิโลเมตร ช่วยย่นระยะทางได้กว่า 12,000 กิโลเมตร
คลองปานามา เรือต้องผ่านประตูน้ำเพื่อเปลี่ยนระดับความสูงของน้ำ.
ความคิดในการขุดคลองปานามานั้นมีมานานหลายร้อยปีแล้วครับ แต่ได้เริ่มลงมือขุดกันในปี พ.ศ. 2423 ภายใต้การดำเนินการของฝรั่งเศส โดยมีแฟร์ดินองด์ เดอ เลสเซปส์ (
Ferdinand de Lesseps
) หัวเรือใหญ่ในการขุดคลองสุเอซเป็นผู้ควบคุมงาน แต่ก็ไม่สามารถขุดได้สำเร็จเนื่องจากโรคระบาดที่มีทั้งมาลาเรียและไข้เหลือง รวมถึงดินถล่ม ทำให้คนงานต้องเสียชีวิตไปกว่า 21,900 คน หลังจากความล้มเหลวของฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกาก็เข้ามาดำเนินงานต่อ ซึ่งเหตุจากผลประโยชน์ในการขุดคลองนี้เองที่ทำให้จังหวัดปานามาแยกตัวจากสาธารณรัฐโคลอมเบียมาตั้งเป็นประเทศปานามา โดยมีอเมริกาหนุนหลัง แลกกับการที่อเมริกาจะได้ถือครองสิทธิต่างๆเหนือคลองปานามา เมื่อผลประโยชน์ลงตัว อเมริกาก็เริ่มลงมือขุดคลองในปี พ.ศ. 2447 จนสำเร็จเปิดใช้งานได้ในวันที่ 15 สิงหาคม 2457 แม้ว่าในระหว่างการขุดคลองที่ยาว 77 กิโลเมตรแห่งนี้ จะมีการจัดการมากมายเพื่อยับยั้งโรคระบาด รวมถึงมีการแพทย์และสุขอนามัยที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีคนงานต้องสังเวยชีวิตไปถึง 5,609 คน นับเป็นการก่อสร้างที่ทุ่มเททั้งเงินตรา เวลา และชีวิตคน แต่ก็ช่วยให้คนอีกมากมายได้เดินทางง่ายขึ้น ธุรกิจการค้าก็ก้าวหน้าไปได้มากด้วยประโยชน์จากคลองปานามา
เราขึ้นฝั่งมาดูถนนที่สร้างขึ้นด้วยความยากลำบากกันบ้างครับ คาราโครัม ไฮเวย์ (
Karakoram Highway
) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า
KKH
ถ้าท่านผู้อ่านเคยได้ยินชื่อเทือกเขาคาราโครัมมาบ้าง ก็คงจะนึกภาพออกว่าภูมิประเทศแถบนี้สุดโหดหินขนาดไหน เทือกเขานี้ครองอาณาเขตกว้างไกลตั้งแต่จีน ปากีสถาน และอินเดีย ทัศนียภาพโดยรอบมีแต่ยอดเขาหินแหลมคมและหิมะหนาวเหน็บ ยอดเขาเคทู (
K2
) ที่สูงลิ่วเป็นอันดับสองของโลกก็คือส่วนหนึ่งของคาราโครัม ซึ่งคาราโครัม ไฮเวย์ก็ได้รับตำแหน่งถนนไฮเวย์ที่สูงที่สุดในโลกไว้ประดับเกียรติ แม้จะมีถนนแต่การเดินทางบนดินแดนทุรกันดารเช่นนี้ก็ยังยากลำบาก ดังนั้นเดาได้เลยว่าการสร้างถนนบนสายนี้ก็ต้องสุดหฤโหดขึ้นอีกหลายเท่าแน่นอน
คาราโครัม ไฮเวย์ มีความยาวประมาณ 1,300 กิโลเมตร จากเมืองราวัลปินดี (
Rawalpindi
) ใกล้เมืองหลวงอิสลามาบัด ของปากีสถาน ทอดสายคดเคี้ยวไปตามขุนเขาจนถึงด่านชายแดนคุนจีราบ (
Khunjerab Pass
) ลากยาวเข้าประเทศจีนไปจนถึงเมืองคัชการ์ (
Kashgar
) ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ โดยถนนคาราโครัมอยู่ในเขตปากีสถาน 887 กิโลเมตร และในจีน 413 กิโลเมตร ถนนสายนี้เริ่มสร้างใน พ.ศ.2502 โดยความร่วมมือของจีนและปากีสถาน ใช้เวลานานถึง 20 ปีกว่าจะสำเร็จ ต้องสูญเสียชีวิตคนงานปากีสถานไปอย่างน้อย 810 คน ชาวจีนอีกประมาณ 200 คน จากกรณีหินถล่มและพลัดตกเขา แลกกับเส้นทางฝ่าด่านความทุรกันดารอันยิ่งใหญ่สายนี้
คาราโครัม ไฮเวย์.
มาดูผลงานอลังการจากทีมงานเล็กๆกันบ้างครับ ที่ อุโมงค์กัวเลี่ยง (
Guoliang Tunnel
) เส้นทางซึ่งเกิดจากการสกัดเจาะผนังหินริมหน้าผาของขุนเขาไท่หาง (
Taihang
) ในเขตเมืองซินเซียง มณฑลเหอหนานของจีน เพื่อเป็นเส้นทางระหว่างโลกภายนอกกับหมู่บ้านกัวเลี่ยง หมู่บ้านเล็กๆที่มีความเป็นมายาวนาน ซึ่งเล่ากันว่าในสมัยราชวงศ์ฮั่น มีกลุ่มกบฏต่อราชวงศ์หลบหนีมาอาศัยอยู่ในหุบเขาลึกและอาศัยภูมิประเทศอันยากจะเข้าถึงเป็นที่ลี้ภัยจากอำนาจของจักรพรรดิ ซึ่งเทือกเขาอันสูงตระหง่านก็ได้กางกั้นพวกเขาออกจากอารยธรรมภายนอกมาเป็นเวลานานแสนนาน
ครั้นมาถึงยุคปัจจุบัน เมื่อชาวบ้านจำเป็นต้องเดินทางไปมาหาสู่กับโลกภายนอก ขุนเขาที่เคยเป็นปราการคุ้มภัยกลับกลายเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวง พวกเขาอยากมีเส้นทางที่สัญจรได้ง่ายกว่าการปีนป่ายไปตามภูเขา แต่ทางการก็ยังเห็นว่าไม่คุ้มที่จะลงทุนนับล้านเพื่อสร้างถนนผ่านภูเขาให้กับชาวบ้านเพียง 300 กว่าคน ชาวบ้านโดยการนำของ เซิงหมิงซิน (
ShenMingxin
) จึงตัดสินใจที่จะเจาะภูเขาทำถนนด้วยตนเอง ในปี พ.ศ.2515 พวกเขาตัดใจขายแพะอันเป็นสัตว์เลี้ยงสำคัญเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือสำหรับสกัดหินทำถนน อย่าคิดถึงเครื่องมือไฟฟ้า หรือเครื่องจักรอย่างดีทันสมัยนะครับ เพราะเครื่องมือหลักของพวกเขามีแค่ค้อนและเหล็กสกัดเท่านั้นเอง กำลังหลักก็เป็นชาวบ้านแค่ 13 คน ซึ่งคนหนึ่งต้องเสียชีวิตไปในระหว่างการก่อสร้าง การขุดอุโมงค์นั้นมีการเจาะช่องหน้าต่างเอาไว้ด้วยประมาณ 30 ช่อง เพื่อรับแสงสว่าง และยังเป็นช่องสำหรับทิ้งเศษหินในขั้นตอนการขุดด้วย ในช่วงที่ยากลำบากที่สุดของการขุดอุโมงค์ ชาวบ้านจะต้องใช้เวลาตั้ง 3 วัน จึงสกัดหินได้ระยะทางเพียง 1 เมตร และกว่าจะสำเร็จเสร็จสิ้นเป็นอุโมงค์ที่ยาว 1.2 กิโลเมตร สูง 5 เมตร และกว้าง 4 เมตร ก็ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี
อุโมงค์นี้สร้างสำเร็จเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2520 ซึ่งตรงกับวันนี้ของเมื่อ 39 ปีที่แล้วพอดีเลยครับ
ปัจจุบันอุโมงค์กัวเลี่ยงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกอยากไปเยี่ยมเยือน เพื่อจะได้ก้าวย่างไปบนเส้นทางแห่งความทุ่มเทนี้สักครั้งในชีวิต
ดาสราช แมนจิ.
ขอปิดท้ายด้วยถนนสุดอัศจรรย์ที่สร้างด้วยแรงงานของคนเพียงคนเดียวกันบ้าง ดาสราช แมนจิ (
Dashrath Majhi
) ซึ่งมีสมญาเป็นที่รู้จักกันในภายหลังว่า “คนภูเขา” (
Mountain Man
) เป็นเพียงคนงานยากจนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกัลลอร์ อำเภอคยา จังหวัดมคธ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ทุกวันภรรยาของแมนจิจะนำอาหารกลางวันไปส่งให้เขา แต่หนทางจากบ้านไปสู่ที่ทำงานของแมนจินั้นสุดแสนลำบาก ต้องปีนข้ามภูเขาหินออกไป แล้ววันหนึ่งภรรยาของแมนจิก็พลัดตกภูเขาข้อเท้าหัก ทว่าไม่สามารถไปโรงพยาบาลได้ เพราะความลำบากของเส้นทาง ทำให้แมนจิเกิดความคับแค้นและต้องการทลายภูเขาที่ขวางกั้นพวกเขาให้ต้องตกอยู่ในดินแดนแห่งความยากลำบาก ซึ่งต่อมาภรรยาของเขาก็เสียชีวิตเพราะไม่สามารถพาไปหาหมอได้ การสูญเสียคนรักยิ่งตอกย้ำความเจ็บช้ำให้แมนจิลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ เขากระหน่ำความแค้นผ่านค้อนทุบหินภูเขาด้วยแรงกายอย่างสุดกำลัง จนใครๆก็หาว่าเขาบ้า รอบข้างมีแต่คนหัวเราะเยาะเย้ย เขาทำงานหนัก แต่ต้องกินอยู่อย่างอดๆอยากๆเพราะไม่มีเงิน บางครั้งต้องกินใบไม้ประทังชีวิต แม้จะขาดเรี่ยวแรงกาย แต่พลังใจก็ไม่เคยหมดสิ้น
ผลงานการขุดภูเขาของ ดาสราช แมนจิ.
สิบปีผ่านไป เส้นทางผ่านภูเขาเป็นรูปเป็นร่าง ถึงตอนนี้เริ่มมีคนเห็นถึงคุณค่า มีคนช่วยเหลือให้อาหารการกิน ออกเงินช่วยซื้ออุปกรณ์การขุด แต่ทุกคนก็ต้องทำมาหากิน เพราะที่นั่นมีแต่คนยากจน แมนจิจึงต้องทำงานของเขาอยู่เพียงผู้เดียว เป็นเวลานานถึง 22 ปีในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ
ถนนตัดผ่านภูเขาหิน ใช้แรงมนุษย์เพียงคนเดียวขุดตั้งแต่ พ.ศ.2502-2524 มีความยาว 110 เมตร กว้าง 9.1 เมตร และเจาะลึกลงจากยอดเขา 7.6 เมตร กลายเป็นทางสัญจรให้ทุกผู้คน เป็นอนุสรณ์แห่งความรักของชายยากไร้ที่มีให้ภรรยาผู้จากไป เมื่อ ดาสราช แมนจิ ถึงแก่กรรมในวัย 73 ปี รัฐพิหารได้จัดพิธีศพของเขาอย่างยิ่งใหญ่ เรื่องราวความรักและพลังใจมุ่งมั่นของเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง “
Manjhi The Mountain Man
” เมื่อปีที่ผ่านมา (น่าเสียดายที่โรงหนังเมืองไทยไม่มีหนังเรื่องนี้ให้ดู) แม้กายจะลับลา แต่วีรกรรมและชื่อของดาสราช แมนจิ ยังคงถูกเรียกขานเป็นชื่อถนนที่เขาสร้างขึ้นและจะอยู่ในใจผองชนไปอีกตราบนานเท่านาน.
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...