[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 18:22:53 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้จัก "คุนต้า คินเต้" ใน "ROOTS" ข้อคิดจาก ยุคทาสอเมริกัน  (อ่าน 5690 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.271 Chrome 50.0.2661.271


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2559 14:50:30 »



Roots : ข้อคิดจากจากยุคทาสอเมริกันถึงโซ่อิสรภาพของหนุ่มสาวไทยยุคไฮเทค

http://www.onopen.com/2006/01/549
Fri, 05/05/2006 - 07:16 — onopen

เกือบ 30 ปีมาแล้ว ฟังดูนานมากทีเดียว... มีภาพยนตร์มินิซีรี่ส์ที่โด่งดังมากเรื่องหนึ่ง ชื่อ Roots หรือในชื่อไทยว่า “ทาส” ฉายทางช่อง 3

แม้เรื่องราวจะยาวหลายสิบตอน และตอนที่ฉายครั้งแรกก็อยู่ในช่วงเวลาค่อนข้างดึก แต่ว่ากันว่ามีผู้คนติดตามชมกันเกรียว และช่อง 3 ได้แฟนๆ เพิ่มอีกพะเรอ ภายหลังต้องนำกลับมาฉายซ้ำอีกหลายรอบในช่วงกลางวัน พอๆ กับตอนที่ต้องเอาซีรี่ส์ไต้หวันเรื่อง “เปาบุ้นจิ้น” เมื่อครั้งเวอร์ชั่นแรกมาออกอากาศซ้ำอีกหลายครั้งนั่นเหมือนกัน

Roots เป็นเรื่องราวของชาวแอฟริกันผิวดำ ที่ถูกคนขาวชาวศิวิไลซ์จับตัวมาจากดินแดนบ้านเกิด ไปขายเป็นทาสในไร่ของคนขาวด้วยกันในอเมริกา

หนังแสดงให้เห็นถึงการกดขี่ข่มเหงคนผิวดำที่ถูกกวาดต้อนจับกุมมาเป็นทาสอย่างไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์จะกระทำกับมนุษย์ได้ถึงขนาดนี้ ความลำบากยากแค้นของคนดำที่ต้องนอนแออัดกันอยู่ใต้ท้องเรือทั้งที่ถูกจองจำ ความอดอยาก เจ็บป่วย การจลาจล และความตายระหว่างการเดินทางกลางมหาสมุทร

เมื่อขึ้นฝั่ง พวกเขาก็ถูกปฏิบัติราวกับไม่ใช่คน มีการซื้อขายเหมือนกับสินค้าชนิดหนึ่ง คนดำต้องเรียนรู้ที่จะเอาชีวิตรอดในโลกใบใหม่ที่ไม่รู้จักไม่คุ้นเคย และต้องเรียกขานคนแปลกหน้าผิดสีผิวว่า “นาย” ทั้งๆ ที่ในใจระอุคั่งไปด้วยความคับแค้นจากการถูกปฏิบัติเยี่ยงสัตว์ป่า พวกเขาโหยหาเพียงสิ่งเดียวในชีวิต นั่นคือ อิสรภาพ

ตัวเอกของเรื่อง ชื่อ “คุนต้าคินเต้” ถูกจับมาจากชายฝั่งแอฟริกา บริเวณประเทศแกมเบียในปัจจุบัน เป็นทาสหัวดื้อในสายตานายผิวขาว เขาแอบหลบหนีทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ก็ไม่เคยรอด ถูกจับได้และเฆี่ยนตีนับครั้งไม่ถ้วน จนในที่สุดก็ถูกตัดเท้าออกครึ่งหนึ่ง กลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต

การยืนยันที่จะเรียกชื่อเดิมของตนเองในภาษาท้องถิ่นแอฟริกัน เป็นสิ่งที่คุนต้าคินเต้แสดงออกให้เห็นถึงการขัดขืนฝืนไม่ยอมรับสภาพแวดล้อมใหม่ และพยายามที่จะรักษาความทรงจำที่บ่งบอกถึงรากเหง้าตัวตนไว้ให้ได้ แต่เขากลับถูกบังคับให้ยอมรับชื่อใหม่ตามแบบคนผิวขาวว่า “โทบี้” ถ้าไม่ยอมเชื่อฟัง ก็จะถูกมัดโยงกับต้นไม้ โบยตีด้วยแส้จนแผ่นหลังแตกละเอียด เลือดแดงสีเดียวกับคนขาวไหลรินอาบร่างสีดำทะมึน

เมื่อไม่อาจกัดฟันยืนยันที่จะเรียกตัวเองด้วยชื่อแอฟริกัน ต้องยอมเรียกชื่อตนเองตามที่ “นาย” ต้องการ แต่คุนต้าคินเต้ก็เก็บสิ่งที่ยึดโยงประวัติศาสตร์ตัวตนของเขากับสภาพแวดล้อมใหม่ ด้วยการจดจำคำพื้นเมือง 2-3 คำเอาไว้ ได้แก่ ชื่อของเขา ชื่อแม่น้ำที่อยู่ใกล้ถิ่นอาศัยในแอฟริกา และชื่อของกลองพื้นเมือง แล้วถ่ายทอดให้ลูกสาวคนเดียวของเขา “คิซซี่” เป็นผู้รับสืบทอดวิญญาณของความเป็น “คนอิสระ” ต่อไป

แต่คิซซี่ก็เหมือนทาสรุ่นสองทั่วๆ ไป เธอไม่เคยรู้สึกรู้สมหรือตั้งคำถามกับชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างระหว่างคนขาวผู้เป็นนายกับทาสผิวดำ หรือแม้แต่จะสนใจรากเหง้าความเป็นมาของบรรพบุรุษซึ่งผู้เป็นพ่อเพียรพร่ำพูดถึง รวมถึงเหตุผลของการกระทำที่นำมาสู่ความพิการทางกายของพ่อเธอ

คิซซี่เป็นเพียงทาสผู้ไร้การศึกษา โลกของเธอสวยงามตามแบบฉบับหญิงสาวที่กำลังเติบโต และคิดแต่เพียงว่าพระเจ้ากำหนดให้มันต้องเป็นอย่างนี้มาแล้วตั้งแต่ต้น

แต่แล้ว พระเจ้าของคิซซี่กลับนิ่งดูดาย เมื่อ “นาย” ที่เธอให้ความเคารพยำเกรง ข่มขืนเธอราวกับไม่ใช่คน เสียงวิงวอนร้องขอโอดครวญไม่ได้ผ่านเข้าหูของนายผิวขาวที่กำลังนั่งคร่อมตัวเธอด้วยอาการเมามาย

และเสียงร่ำไห้ดังไปไม่ถึงหูของพระเจ้าเบื้องบน

กว่าเธอจะรู้ซึ้งเข้าใจถึงสิ่งที่พ่อพูดและสิ่งที่พ่อทำในวัยหนุ่ม คิซซี่ต้องแลกด้วยร่างกายและชีวิตทั้งชีวิต นับจากวันนั้น เธอเกลียดคนขาว และพยายามถ่ายทอดวิญญาณรักอิสระให้แก่ลูกชาย “ชิคเก้น จอร์จ” ซึ่งมีนิสัยชอบสนุกสนานเฮฮาไปวันๆ และเป็นนักชนไก่ฝีมือฉกาจ

เช่นเดียวกับคิซซี่ในวัยสาว ชิคเก้น จอร์จเป็นหนุ่มผิวดำที่ยอมรับในความเหนือกว่าของคนผิวขาว และไม่เคยตั้งคำถามต่อความไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนสองผิวสี กว่าที่เขาจะพบความจริงและตระหนักในตัวเองว่า ทุกสิ่งไม่ได้สวยงามและเป็นเช่นนั้นเองมาแต่ไหนแต่ไร หากแต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยสมองและสองมือของมนุษย์ เขาก็ต้องพานพบกับความผิดหวังอย่างที่สุดเสียก่อนในวันที่พ่ายแพ้การพนันไก่ชน

ความโอหังเชื่อมั่นในตนเองว่าเป็นนักชนไก่มือหนึ่ง คำป้อยอสรรเสริญของนายผิวขาวที่ทำให้เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ กลายเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไป ไม่มีอะไรเลย

เมื่อกลายเป็นผู้แพ้ เขาถูกเหยียดเหยียบลงไปต่ำเท่ากับทาสคนอื่นๆ และยิ่งร้ายไปกว่าคนอื่นตรงที่เขาทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากเลี้ยงไก่

ชิคเก้น จอร์จเริ่มคิดถึง “อิสรภาพ”

คำซึ่งเขาไม่เคยนึกถึงเลยตลอดเวลาที่ได้รับการยอมรับจากคนขาว แต่บัดนี้ได้กลายเป็นเป้าหมายเดียวที่เขาต้องการไปหา เขาหลบหนีเดินทางขึ้นไปทางเหนือ เมื่อรับรู้ว่าคนขาวที่นั่นยอมรับในสิทธิของคนผิวดำในการมีชีวิตอย่างอิสระและไม่เห็นด้วยกับการมีอยู่ของทาส

ชิคเก้น จอร์จโชคดีกว่าคุนต้าคินเต้ผู้เป็นตา เพราะเขาหนีรอด และสามารถจับจองที่ดินผืนงามเป็นของตนเอง ก่อนจะกลับมารับแม่ ลูกชาย และหลานๆ ของเขาออกมาจากฟาร์มทาสได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมกับทิ้งรอยแค้นให้กับคนขาวที่เคยย่ำยีพวกเขาไว้อย่างสาสม

อเล็กซ์ ฮาเลย์ ผู้เขียนนวนิยายเรื่องนี้ เป็นผู้เขียนบทโทรทัศน์มินิซีรี่ส์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาคือทายาทที่สืบสายเลือดมาจากคุนเต้คินเต้นับลงมาได้ 7 รุ่น แต่ฮาเลย์จบเรื่องราวภาคแรกของบรรพบุรุษเขาไว้ที่ 3 ชั่วอายุคน ก่อนจะเริ่มภาคสอง ที่ถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงของสังคมอเมริกันในยุคที่มีการปะทะขัดแย้งทางความคิดระหว่างฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้รุนแรงยิ่งขึ้น โดยมีครอบครัวอดีตทาสผิวดำตกอยู่ในกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้น

ความน่าสนใจของ Roots อยู่ที่เรื่องราวเนื้อหาที่เข้มข้นและสร้างพลังใจอย่างสูง การค้นคว้าสืบสาวหาข้อเท็จจริงย้อนกลับไปหาต้นตอบรรพบุรุษของอเล็กซ์ ฮาเลย์ ด้วยการเริ่มต้นจากภาษาแอฟริกัน 2-3 คำของคุนต้าคินเต้ที่เล่าตกทอดกันมาสู่รุ่นต่อรุ่น ทำให้เรื่องที่นำเสนออกมาทั้งชวนติดตามและน่าทึ่ง

น่าทึ่งไปกับความพยายามของผู้เขียนที่ดั้นด้นค้นหาข้อมูลเพียงเพื่อหาคำตอบที่ดูเหมือนง่ายแสนง่ายว่า “ฉันคือใคร?”

แม้ข้อเท็จจริงที่พบจะโหดร้ายรวดร้าว แต่ก็เพราะความเจ็บปวดมิใช่หรือที่ทำให้มนุษย์รู้จักตัวเอง และเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไม่สิ้นหวังและไม่ไร้ประโยชน์

ผมยังจำภาพและเสียงในตอนจบของ Roots ภาคแรกได้ดี เพลงประกอบที่ส่งอารมณ์ให้ขึ้นถึงขีดสุด โน้มนำให้ตระหนักถึงคุณค่าของอิสรภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ผิวสีอะไร

จำได้ถึงอารมณ์อิ่มเอมถึงที่สุดจากคำพูดยาวเหยียดของชิคเก้น จอร์จ ทาสผู้ซึ่งกลายเป็นคนอิสระ และบัดนี้เป็นเจ้าของผืนดินของตัวเอง

เมื่อนึกถึงหนังเก่าก็มักย้อนกลับมามองปัจจุบัน ผมเคยอ่านเคยฟังนักสังเกตการณ์ทางสังคมจำนวนหนึ่ง บอกว่าเด็กรุ่นใหม่ในสังคมไทยกำลังป่วยไข้ ไร้สิ่งยึดเหนี่ยว หาตัวเองไม่เจอ และต้องการเป็นใครสักคน (somebody) เพื่อให้สังคมยอมรับ ...ไม่ว่าจะด้วยวิธีการเช่นไร

แน่นอน – คงไม่ได้หมายความตีขลุมเด็กไปทั้งเจเนอเรชั่น แต่คงไม่ยากที่จะยอมรับว่าเด็กไทยวัยใสจำนวนไม่น้อยกำลังตกอยู่ในวังวนอาการเยี่ยงนี้

มันเป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัยในแทบทุกสังคม ก็ดูอย่าง “คิซซี่” กับ “ชิคเก้น จอร์จ” ในวัยสาวหนุ่มเป็นตัวอย่างนั่นปะไร

แต่ใช่ว่ามันต้องเป็นเช่นนี้เสมอไป

การเข้าใจตัวตนของตัวเองจะนำมาสู่การค้นพบคำตอบที่สำคัญที่สุด คือเราจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร? และควรทำอะไรให้ชีวิตมีคุณค่ามีความหมาย?

สำหรับผมนั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็น “คนกลางเก่ากลางใหม่” เพราะจะให้ความคิดจิตใจหนักแน่นเหมือนคนรุ่นเก่าที่ผ่านร้อนหนาวมามากก็ไม่ใช่ แต่ก็ไม่ได้หน่อมแน้มและไม่เคยกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเป็นใครสักคนเพื่อให้สังคมยอมรับอย่างที่คนรุ่นใหม่ (บางคน) กำลังเป็น

ยกเว้นอยากเป็นไอ้มดแดงในสมัยยังเด็ก

แต่ถ้าหากอาการของคนหนุ่มสาวร่วมสมัยเป็นไปอย่างที่นักสังเกตการณ์สังคมว่าเอาไว้จริง มันก็น่าสงสัยว่าการพยายามเป็นคนอื่นนั้นจะทำให้พวกเขาเรียนลัดไปสู่การเข้าใจตนเองในที่สุดได้อย่างไร

เพราะผมเชื่อว่าคนเราไม่อาจค้นพบศักยภาพภายในที่สะท้อนตัวตนได้ ถ้าหากคนๆ นั้นไม่รู้จักและไม่เข้าใจรากเหง้าที่มาของตัวเอง

การแสวงหา “ตัวตน” ด้วยการพยายามเป็นใครสักคนของสังคม จึงเป็นเพียงการลอกคราบตัวตนปลอมๆ อันหนึ่ง ไปสู่ตัวตนปลอมๆ อีกอันหนึ่งเท่านั้นเอง

มันห่างไกลลิบลับกับการค้นพบคำตอบของคำถามว่า “ฉันคือใคร?”

ไม่ว่าจะชอบพันธมิตรฯ หรือรักทักษิณ แต่ถ้าน้องๆ รุ่นใหม่วัยใสเพียรสร้างตัวตนจากความพยายามเป็น “คนอื่น” ผมคิดว่าอิสรภาพของคนรุ่นใหม่ คงมีเนื้อหาและนิยามที่แปลกแปร่งไปจากอิสรภาพของคุนต้าคินเต้ คิซซี่ หรือชิคเก้นจอร์จมากทีเดียว

เพราะอิสรภาพจากการใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดพร้อมสารพัดโปรโมชั่นที่โฆษณากรอกหูให้วัยรุ่นเม้าท์แตกกันมากๆ นั้น เป็นคนละเรื่องกับอิสรภาพจากการค้นพบตัวตนที่แท้

จาก https://sites.google.com/site/daroonkku/video/roots

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.271 Chrome 50.0.2661.271


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 กรกฎาคม 2559 14:51:01 »

รู้จัก "คุนต้า คินเต้" และ "ROOTS" หนังดังในอดีต

<a href="https://www.youtube.com/v/ByhFz5e5Tno" target="_blank">https://www.youtube.com/v/ByhFz5e5Tno</a>


   ROOTS เป็นภาพยนตร์ที่ออกอากาศทางทีวีในอเมริกาช่อง ABC เมื่อ 23-30 มกราคม 1977 (พ.ศ.2520) ที่ประเทศไทยก็น่าจะฉายปี 2520 โดยช่อง 3 ให้ชื่อเรื่องภาษาไทยสั้นๆ คือ “ทาส”

   ในยุคนั้น คนไทยติดละครจักรๆ วงศ์ๆ กันงอมแงม เช่น อุทัยเทวี, ฝนสามฤดู พระรถเมรี, ขุนแผนผจญภัย ฯลฯ นานๆ จะมีภาพยนตร์ชุดจากต่างประเทศดีๆ เข้ามาบ้าง เช่นเรื่อง "ยูโด" (พระเอกชื่อซันชิโร่ คนละเรื่องกับยูโดสายดำที่พระเอกชื่อเนาย่านะ)
   "ทาส" ก็เป็นภาพยนตร์ชุดอีกเรื่องหนึ่งที่กลายเป็นเรื่องที่โด่งดังสนั่นที่สุดในยุคนั้น ก่อนเข้าสู่ยุครุ่งโรจน์ของภาพยนตร์จีนกำลังภายใน

   ตอนนั้นชาวบ้านร้านตลาด ล้วนพูดถึงแต่ คุนต้า คินเต้ ทาสทรนง จากเรื่อง "ทาส (ROOTS)" ช่อง 3 ก็โปรโมทจนฮิตติดปาก รวมทั้งการดำเนินเรื่องที่น่าติดตาม การแสดงที่เข้าถึงจิตวิญญาณ และเป็นเรื่องที่ไม่ยาวเยิ่นเย้อ ทำให้เรื่องนี้เป็นที่กล่าวขวัญไม่น้อยไปกว่า "คู่กรรม" ยุคพี่เบิร์ดกับน้องกวาง



   ROOTS สร้างจากนวนิยายของ Alex Haley ทายาทที่สืบเชื้อสายมาจากคุนต้า คินเต้นับลงมาได้ 7 รุ่น เขาได้ศึกษาค้นคว้าย้อนหลังหาบรรพบุรุษที่แท้จริงของเขา จนพบว่าบรรพบุรุษมาจากทวีปแอฟริกาที่ถูกพวกฝรั่งผิวขาวจับตัวมาเป็นทาสในอเมริกาตอนใต้ เขาเกิดความสนใจมากจากนั้นจึงเริ่มแต่งเรื่องเป็นนวนิยาย โดยให้บรรพบุรุษคือคุนต้าคินเต้เป็นตัวเอกและดำเนินเรื่อง

   เรื่องย่อๆ ก็คือ
   ในปี ค.ศ.1750 ที่แกมเบีย ทวีปแอฟริกา Binta Kebba ได้คลอดทารกเป็นบุตรชาย Omoro นักรบเผ่า Mandinta ผู้กลายเป็นพ่อดีใจมาก เขาอุ้มทารกแล้วชูขึ้นเหนือศรีษะ ตั้งชื่อลูกว่า "Kunta Kinte"

   เมื่อคุนต้า คินเต้โตเป็นหนุ่มอายุ 17 ปีก็ได้เป็นนักรบของเผ่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่านี้อยู่อย่างมีความสุขสงบร่มเย็น แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งคุนต้า คินเต้ต้องเผชิญหน้ากับพวกฝรั่งผิวขาวซึ่งกำลังล่าคนผิวดำมาเป็นทาสที่ชายฝั่งทะเล คุนต้า คินเต้ถูกจับขึ้นเรือ ในที่สุดเขาต้องพลัดพรากครอบครัวตั้งแต่บัดนั้น หมดโอกาสที่จะพบกันอีกตลอดชีวิต

   ในเรือนั้นมีคนผิวดำรวมทั้งคุนต้า คินเต้ถูกจับเข้ากรงรวม 140 คนพวกเขาต้องอยู่อย่างทนทุกข์ทรมาน ความลำบากยากแค้นที่ต้องนอนแออัดร่วมกันในใต้ท้องเรือ ความอดอยากและเจ็บไข้ได้ป่วย รวมถึงเกิดมีจลาจลจึงนำไปสู่ความตาย



เมื่อเรือไปถึงรัฐแมรี่แลนด์ อเมริกาตอนใต้ คนผิวดำเหลือรอดชีวิต 98 คน พวกผิวขาวนักล่าค้ามนุษย์ได้นำคนผิวดำเอาไปขายให้กับคนผิวขาวกลุ่มหนึ่งโดยการประมูลค่าตัว คนผิวขาวกลุ่มนี้ต้องการคนผิวดำเพื่อเอาไปเป็นทาส เอาผู้หญิงเอาไปทำงานในบ้าน และอาจจะถูกบำเรอกามด้วย ส่วนทาสชายเอาไปทำไร่ทำสวนและงานหนักๆ ทุกอย่างที่เจ้านายสั่งให้ทำ

   ชาวเวอร์จีเนียคนหนึ่งประมูลได้คุนต้า คินเต้ แต่คุนต้า คินเต้ไม่ยอมคน ไม่เชื่อฟังคำสั่ง เขาต้องการอิสรภาพ จึงได้หลบหนีหลายครั้งหลายคราแต่ถูกจับได้ทุกครั้ง



เจ้านายตั้งชื่อให้เขาว่า “ Toby ”แต่คุนต้า คินเต้ยืนยันใช้ชื่อเดิม เขาจึงถูกหัวหน้าควบคุมทาสสั่งเฆี่ยนตีด้วยแส้จนแผ่นหลังแตกเป็นรอยแผลลึกเลือดไหลไม่หยุด หัวหน้าควบคุมทาสถามหลายครั้งและครั้งสุดท้ายถามอีกว่า “ แกชื่ออะไร ” คุนต้า คินเต้มิอาจทนความเจ็บปวดได้อีกต้องยอมรับสภาพตอบไปว่า “ โทบี้ ”อย่างไรก็ตามคุนต้า คินเต้ก็ยังหลบหนีอีก จนเจ้านายหมดความอดทน เมื่อจับตัวได้ก็ถูกตัดเท้าออกครึ่งหนึ่ง กลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต



เวลาล่วงผ่านไป คุนต้า คินเต้ก็มีลูกสาวชื่อ คิซซี่ เขาถ่ายทอดให้เธอรับรู้ว่าอิสรภาพคืออะไรแต่ดูเหมือนว่าคิซซี่จะพอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ เธอไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างอิสรภาพกับทาส แล้วในที่สุดเธอก็รู้ซึ้งแล้วว่าสิ่งที่พ่อได้สอนไว้นั้นมีคุณค่ายิ่ง เมื่อคืนหนึ่งเจ้านายได้กระทำการข่มขืนเธอ นับแต่นั้นมาเธอจึงเกลียดจึงชังคนผิวขาวและโหยหาแต่อิสรภาพ

   คิซซี่คลอดบุตรชายที่เกิดจากการข่มขืนของเจ้านายชื่อ “ ชิคเก้น จอร์จ ” และพยายามถ่ายทอดวิญญาณรักอิสรภาพให้แก่ลูกชายซึ่งมีนิสัยสนุกสนานเฮฮาไปวันๆและเป็นนักชนไก่ฝีมือดีได้รับคำชมจากเจ้านายให้เป็นผู้เลี้ยงไก่อย่างเดียว

   จอร์จก็เช่นเดียวกับผู้เป็นแม่ตอนยังเป็นสาวแรกรุ่น ไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างอิสรภาพกับทาส จนในที่สุดวันหนึ่งจอร์จแพ้พนันชนไก่ทำให้เจ้านายเสียการพนันไปเยอะ คำชมแต่เดิมที่นายผิวขาวยกยอสรรเสริญว่าจอร์จเก่งกาจ มาบัดนี้เขารู้แล้วว่าเป็นแค่คำชมเสแสร้งขอไปที พอถึงคราวแพ้เจ้านายไม่สนใจใยดี เขาถูกเหยียดหยามลงไปต่ำเท่ากับทาสคนอื่นๆ และยิ่งร้ายไปกว่านั้นนอกจากเลี้ยงไก่เก่ง เขาทำอย่างอื่นไม่เป็นเลย



  จอร์จจึงเริ่มคิดถึงคำสั่งสอนของแม่ถึงคำว่า “ อิสรภาพ ” ต่อมาจอร์จทราบว่าพวกฝรั่งทางตอนเหนือยอมรับสิทธิของคนผิวดำในการมีชีวิตอย่างอิสระและไม่เห็นด้วยกับการมีทาส เขาจึงหลบหนีไปทางเหนือ เขาโชคดีกว่าคุนต้า คินเต้ผู้เป็นปู่เพราะเขาหนีรอดพ้นเอื้อมมือพวกฝรั่งตอนใต้ได้ เมื่อไปถึงทางเหนือจอร์จถึงกับดีใจ ซาบซึ้งใจ ที่นี่คนผิวขาวกับคนผิวดำมีความเท่าเทียมกันหมด ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะเหมือนอย่างทางตอนใต้ เขาสามารถจับจองที่ดินผืนหนึ่งเป็นของตัวเอง ต่อมาเขากลับมารับแม่ ลูกชายและหลานๆออกมาจากฟาร์มทาสได้เป็นผลสำเร็จ พร้อมกับทิ้งรอยแค้นให้กับคนผิวขาวที่เคยย่ำยีเหยียดหยามเขาไว้อย่างสาสม



ภาพยนตร์ซีรีส์นี้นำแสดงโดย
   Levar Burton - Kunta kinte (as a boy)
   John Amos - Kunta kinte (Toby:adult)
   Cicely Tyson - Binta
   Thalmus Rasula - Omoro
   Maya angelou - Nya Boto
   O.J.Simpson - Kadi Touray
   Louis Gossett Jr. - Fiddler

   กำกับภาพยนตร์โดย Marvin J.Chomsky, John Erman

   ข้อมูล http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aooa&month=07-2008&date=15&group=36&gblog=18
   http://en.wikipedia.org/wiki/Roots_(TV_miniseries)

   

   หนังสือที่เคยแปลเป็นภาษาไทย
   พิมพ์ครั้งแรก สิงหาคม 2521 โดยสํานักพิมพ์การเวก
   ปกอ่อนกระดาษธรรมดา จํานวนหน้า 681 หน้า   

   ***********************

   อ่านบทความต่อเนื่องได้ที่มาของบทความ

   http://www.oknation.net/blog/print.php?id=345803


ยังหาหนังชุดเต็มไม่ได้ ดูอย่าง บางช่วง บางตอน ก็ คงจับเนื้อหาสาระ อะไรได้ ถึงความเป็นคนที่ไม่เท่ากัน

Roots - Transcendance Music

<a href="https://www.youtube.com/v/Zfp-KOlx6Ao" target="_blank">https://www.youtube.com/v/Zfp-KOlx6Ao</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/wRKOIphnHXk" target="_blank">https://www.youtube.com/v/wRKOIphnHXk</a>

<a href="https://www.youtube.com/v/2oyu4m8gCog" target="_blank">https://www.youtube.com/v/2oyu4m8gCog</a>

จาก http://muslimchiangmai.net/index.php?topic=8602.0
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ข้อคิดจาก"อเล็กซานเดอร์มหาราช"
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 1 2571 กระทู้ล่าสุด 28 มกราคม 2554 00:17:18
โดย ▄︻┻┳═一
[ไทยรัฐ] - รู้จัก &quot;กาแฟบันดุ๊ก&quot; หนึ่งเดียวในประเทศ ผสมผสานขนมพื้นถิ่นเข้ากับเมนูกาแฟ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 256 กระทู้ล่าสุด 14 มกราคม 2565 03:02:41
โดย สุขใจ ข่าวสด
[การเมือง] - รู้จัก "มังกร ยนต์ตระกูล" อดีตดีลเลอร์รถรายใหญ่ภาคอีสาน ผงาดเป็น สส. แทน "เสร
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 65 กระทู้ล่าสุด 05 กันยายน 2566 01:59:30
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวเด่น] - รู้จัก "มาลาลา ยูซาฟไซ" ที่ "แอนโทเนีย" ตอบว่าอยากจะเป็นบนเวที Miss Universe 2023
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 81 กระทู้ล่าสุด 19 พฤศจิกายน 2566 17:07:13
โดย สุขใจ ข่าวสด
[การเมือง] - รู้จัก "แฟรงค์ ณัฐนนท์" อดีตการ์ด WeVo และคดีทุบรถ สู่คู่หู "ตะวัน" คดีขบวนเสด็
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 29 กระทู้ล่าสุด 22 กุมภาพันธ์ 2567 15:37:22
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.602 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 17 เมษายน 2567 14:39:35