[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 19:08:57 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานเรื่องเล่า : หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ปราบมาร ตอนออกธุดงค์  (อ่าน 2026 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.271 Chrome 50.0.2661.271


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2559 23:06:23 »



ในสกู๊ปข่าว "ย้อนรอยปาฏิหาริย์" ตอนที่แล้วได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่นายทหารคนหนึ่งพบเห็นพระภิกษุชรารูปหนึ่งลอยอยู่บนก้อนเมฆขณะกำลังขับเครื่องบินเหนือน่านฟ้า และได้ตามหาตัวจนกระทั่งพบว่าเป็นหลวงปู่แหวนในเวลาต่อมา

เหตุการณ์อัศจรรย์นี้มิได้เป็นที่โจษจันกล่าวขานกันเฉพาะในหมู่ชาวพุทธไทยเท่านั้น เพราะเมื่อเรื่องนี้รู้ถึงฝรั่งต่างชาติเข้าก็ถึงขนาดต้องส่งนักข่าวมาทำสกู๊ปข่าวเลยทีเดียว  สื่อที่ว่านี้ก็คือ "เอเชีย แมกกาซีน" ซึ่งได้ส่งนายชาร์ลส์ บราวส์ มาทำข่าวและเขียนเป็นบทความขึ้นมา ดังนี้


"ความเชื่อในสิ่งที่นอกเหนือธรรมชาติหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องธรรมดาในเมืองไทย เพราะมีผีและวิญญาณทุกหนทุกแห่ง  ไม่ว่าจะปลูกบ้าน เดินทางไปเมืองนอก หรือเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ก็จะต้องมีผู้ชำนาญการคอยช่วยชี้แนะเขาเหล่านั้น คือ โหร (นักพยากรณ์) คนเข้าทรง ฯลฯ  แม้แต่พระสงฆ์ในพุทธศาสนาก็มีหลายองค์ที่มีเรื่องศักดิ์สิทธิ์เล่ากัน  ในบรรดาพระสงฆ์นั้น องค์หนึ่งคือหลวงปู่แหวน ซึ่งผู้สื่อข่าวได้บรรยายให้เห็นภาพพจน์ที่คละเคล้าด้วยเรื่องราวที่แสดงถึงอารมณ์ขัน ความน่าเชื่อถือ ความเคารพศรัทธา และความรู้สึกเชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่ง ตลอดจนปรัชญาของท่าน

คณะของเรามี ๗ คน คือ แพทย์ ๔ พยาบาล ๑ ช่างภาพ ๒ เพราะท่านนายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ถ่ายภาพของหลวงปู่แหวนเพื่อนำไปติดไว้ที่อาคารหลังใหม่ของโรงพยาบาลนครเชียงใหม่  ปีนี้หลวงปู่แหวนอายุ ๙๒ ปี  ท่านยังสุขภาพดี แต่ตาเจ็บ คณะแพทย์จึงต้องเดินทางไปตรวจรักษา  วัดอยู่ในหมู่บ้านดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว เหนือเชียงใหม่ไป ๑๐๐ กิโลเมตร  ประชาชนเพิ่งจะได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่แหวนเมื่อ ๕ ปี มานี้เอง  ผู้เขียนเอง (ชาร์ลส์ บราวส์) ก็ไม่เคยได้ยินชื่อท่านมาก่อน  ชาวบ้านในแถบนั้นเชื่อว่าท่านเป็นอรหันต์ เพราะว่าท่านมีเมตตาธรรมต่อพวกเขามาก  แต่ความจริงแล้ว หากไม่มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นเมื่อ ๕ ปีที่แล้ว คนที่อยู่อำเภอพร้าวก็ไม่เคยมีใครได้ยินชื่อหรือรู้จักหลวงปู่แหวนมาก่อนเลย

เรื่องมีอยู่ว่า  นักบินแห่งกองทัพอากาศไทยคนหนึ่ง ขณะบิน (ซึ่งผู้เขียนไม่ทราบว่าบินสูงแค่ไหน เอาเป็นว่าบินอยู่บนท้องฟ้า ปะปนอยู่กับหมู่เมฆ) ทันใดนั้น นักบินก็สังเกตเห็นพระองค์หนึ่งนั่งสมาธิอยู่นอกเครื่องบินของเขา  แน่ละ... เขาก็คิดว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาด จึงเล่าให้เพื่อนฟัง แต่ไม่มีใครรู้จัก  นักบินคนนั้นกางแผนที่สำรวจว่าบริเวณนั้นอยู่ที่ไหน พบว่าอยู่เหนือดอยแม่ปั๋ง  เขาเดินทางไปและสอบถามชาวบ้านผู้บอกกับเขาว่า หลวงปู่แหวนเป็นพระที่พวกเขาเคารพนับถือมากที่สุด  เขาจึงปลงใจเชื่อว่าน่าจะเป็นองค์นี้ที่เขาเห็น"



"ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลวงปู่แหวนก็เป็นพระที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ  ผู้คนต่างพากันเดินทางไปเพื่อนมัสการและอยากพบตัวท่าน  รูปภาพและเหรียญรูปเหมือนท่านก็มีขายทุกแห่ง  ในวันที่ผู้เขียนไปถึง มีรถโดยสารใหญ่สองคัน แต่เจ้าอาวาสไม่ให้ใครเข้าพบหลวงปู่ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ด้วยเหตุผลที่ว่า หลวงปู่แก่ชรามาก ต้องการพักผ่อน หากใครอยากพบเห็นก็ให้แต่เช้าๆ ฯลฯ  ผู้เขียนจะไม่เล่าในรายละเอียด  แต่เป็นเรื่องตลกที่ได้ยินผู้ที่มาวัดแล้วไม่ได้พบหลวงปู่แหวนพูดกันว่า เจ้าอาวาสลั่นกุญแจขังหลวงปู่ไว้ในห้อง

อย่างไรก็ดี  คณะของผู้เขียนได้เข้าพบหลวงปู่แหวนในห้อง แล้วช่วยกันประคองท่านออกมาที่นอกชานเพื่อถ่ายรูป  นับเป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนเห็นหลวงปู่แหวนและได้เห็นอย่างใกล้ชิด  แต่ขอบอกถึงความรู้สึกจริงๆ ว่า ไม่ได้เห็นว่าท่านมีอะไรพิเศษ  ระหว่างที่ช่างถ่ายรูปนานถึงครึ่งชั่วโมง ท่านก็นั่งเฉย ไม่เคลื่อนไหวอะไรทั้งสิ้น แม้แต่ตาก็ไม่กะพริบ ทุกอย่างนิ่ง จนผู้เขียนนึกประหลาดใจว่าท่านยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ... รอสักพัก ผู้เขียนและเพื่อนรู้สึกเบื่อจึงออกไปดูสถานที่ซึ่งสร้างใหม่เพื่อตั้งหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่แหวน  เรื่องหุ่นขี้ผึ้งนี้ หวังว่าผู้อ่านจะอ่านพบจากหน้าหนังสือพิมพ์กันบ้างแล้ว

เรื่องหุ่น...เล่ากันว่า  นายแพทย์คนหนึ่งป่วย เขาได้กราบขอให้หลวงปู่แหวนช่วย  ผลก็คือเขาหาย  เพื่อแสดงความกตัญญูและทำบุญด้วย เขาจึงจ้างช่างปั้นแห่งพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซแห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปั้นรูปเหมือนหลวงปู่แหวน ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเขาคงปั้นจากรูปถ่าย  นายแพทย์คนนี้รวย เขาจ้างปั้นในราคา ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท  แต่ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ตกลงปั้นให้ในราคาครึ่งหนึ่ง โดยขอปั้นหุ่นหลวงปู่อีกองค์หนึ่งเพื่อตั้งไว้ที่กรุงลอนดอน  แม้แต่วันที่หุ่นนี้เดินทางมาถึงเชียงใหม่ก็มีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น คือ ทันทีที่เครื่องบินจอด ฝนซึ่งกำลังตกก็หยุด มีแดดจ้าและอากาศสดใส

บัดนี้ หุ่นขนาดเท่าตัวจริงของหลวงปู่ตั้งอยู่ในห้องพิเศษ และท่านผู้อ่านรู้ไหม... เมื่อผู้เขียนเห็นรูปปั้นนั้นก็รู้สึกว่า นั่นคือตัวหลวงปู่แหวนจริงๆ คือมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แม้แต่เล็บก็ขาวสะอาด สัดส่วนทุกอย่างเหมือนจริงมากที่สุด  เพื่อนร่วมเดินทางก็รู้สึกอย่างนั้น จนเราสงสัยว่าองค์ไหนเป็นคนที่มีชีวิตกันแน่!

เมื่อช่างภาพถ่ายรูปหลวงปู่แหวนเสร็จ คณะเราก็เดินทางกลับเชียงใหม่  ผู้เขียนรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยจึงอดเย้าแหย่นายแพทย์คนที่ตรวจหลวงปู่แหวนไม่ได้ว่า เขาคิดว่าหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่หรือ?

นายแพทย์คนนั้นตอบว่า เขาเองก็นึกสงสัยเช่นนั้น  แต่เมื่ออยู่ตามลำพังกับท่าน เขาจึงอยากจะทดสอบว่าหลวงปู่ยังปกติดีหรือไม่ เขาก็พูดขึ้นลอยๆ ว่า สมัยหลวงปู่ยังหนุ่ม ออกธุดงค์บำเพ็ญสมาธิในป่า เมื่อพระจะบำเพ็ญเพียร ศึกษาสมาธิ ปฏิบัติธรรม ต้องธุดงค์เข้าป่าในหน้าแล้งเพื่อแสวงหาวิเวกสถาน ... นายแพทย์คนนี้หลวงปู่แหวนรู้จักมาก่อน ท่านจึงตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ชัดถ้อยชัดคำว่า เจ้าก็เคยบวชเป็นพระ แล้วยังมาถามอีก!  คำตอบเช่นนี้ทำให้คณะของเรายอมรับว่า จิตของหลวงปู่แหวนยังตื่นอยู่

แต่ที่ดียิ่งกว่านั้น นายแพทย์อีกคนหนึ่งเล่าว่า เขาเองเคยอยากรู้เป็นที่สุดว่า เรื่องนักบินเห็นหลวงปู่แหวนนั่งสมาธิอยู่ในอากาศนั้นเป็นเรื่องจริงหรือ จึงกราบเรียนถามท่านว่า เป็นความจริงหรือว่าหลวงปู่แหวนเหาะได้ (ลอยอยู่ในอากาศ)

หลวงปู่แหวนไม่เคลื่อนไหวอะไร ไม่แสดงความรู้สึก ตาก็ยังหลับ แต่ริมฝีปากขยับนิดหนึ่ง พอมองเห็น และน้ำเสียงแผ่วเบา หากชัดถ้อยชัดคำ ตอบว่า... เธอคิดว่าฉันเป็นนกหรือ?!!"
 

ที่มา : หนังสือที่ระลึก อาคารสุจิณโณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

จาก http://www.partiharn.com/contents/147581/


<a href="https://www.youtube.com/v/i1tOWbL3woM" target="_blank">https://www.youtube.com/v/i1tOWbL3woM</a>

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ชีวประวัติ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
เงาฝัน 2 5273 กระทู้ล่าสุด 20 มีนาคม 2554 14:23:32
โดย เงาฝัน
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ เล่าถึงพญานาคในถ้ำเชียงดาว
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
Compatable 0 2645 กระทู้ล่าสุด 02 ธันวาคม 2554 00:35:46
โดย Compatable
ตำนานเรื่องเล่า : อภินิหาร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1595 กระทู้ล่าสุด 20 กรกฎาคม 2559 23:12:11
โดย มดเอ๊ก
[ เรื่องเล่า โดย อาจารย์ยอด ] : หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ปราบมาร ตอน ออกธุดงค์
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
มดเอ๊ก 0 1433 กระทู้ล่าสุด 01 ตุลาคม 2559 22:55:34
โดย มดเอ๊ก
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ : ตามรอยอริยะ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 2111 กระทู้ล่าสุด 26 กุมภาพันธ์ 2561 15:42:34
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.609 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้