[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 05:30:52 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "ถ้าพระในบ้านยังอด...พระในวัดก็กลืนไม่ลง"!! ( คำพูดของ สมเด็จโต )  (อ่าน 1677 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.272 Chrome 50.0.2661.272


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 04 กันยายน 2559 04:36:22 »



"ถ้าพระในบ้านยังอด...พระในวัดก็กลืนไม่ลง"!! ... คำพูดของสมเด็จโตที่ทำเอาหญิงคนหนึ่งถึงกับ "หลั่งน้ำตาแห่งความสำนึกผิด"!!

มีคุณนายคนหนึ่งเป็นคนใจบุญสุนทาน...ตักบาตรทุกเช้า

ตักบาตรเสร็จแล้วก็แต่งสำรับกับข้าวอย่างบรรจงประณีตเพื่อเอาไปถวายท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตด้วยความเคารพนับถือในพระจริยาวัตรของท่าน และชอบที่จะฟังท่านคุยเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง

เรียกว่า ตักบาตรเสร็จเมื่อไหร่...คุณนายต้องมาวัดทุกวัน ถวายอาหารเสร็จก็คุยกับสมเด็จฯ

วันหนึ่ง...หลังจากที่คุณนายกลับไปแล้ว พระหนุ่มรูปหนึ่งซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิของสมเด็จฯ ก็เข้าไปกราบเรียนว่า

"คุณนายคนนี้ใจบุญสุนทานจริงๆ ... แต่เคยได้ยินว่าเป็นคนใจแคบ เหลือแม่อยู่คนเดียวก็ปล่อยให้อดๆ อยากๆ ไม่เอาใจใส่ ปล่อยให้อยู่ในห้องแคบๆ หลังบ้าน ส่วนตัวเองและลูกๆ อยู่ตึกใหญ่โต สะดวกสบาย  เวลาพูดจากับแม่ก็ฟังไม่ได้ หยาบคาย ขู่ตะคอก กระแทกกระทั้น ผิดกับตอนมาคุยกับสมเด็จฯ ที่วัด ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ  แม่จะออกมาเดินเล่นหน้าบ้านก็ไม่ได้ ไม่ยอมให้ออก เพราะมีแม่แก่ๆ หลงๆ ลืมๆ สติไม่สมประกอบ อายเขา

มีคนเขาเล่าให้ฟังหลายคนแล้ว ... เท็จจริงอย่างไรไม่ทราบได้!"


สมเด็จฯ ก็นั่งฟังเฉย...ไม่พูดว่าอะไร



วันหนึ่ง สมเด็จฯ มีกิจนิมนต์ไปทำบุญบ้าน  ขากลับเดินผ่านหน้าบ้านคุณนายคนนั้น ท่านก็เลยแวะบ้านคุณนายก่อน

คุณนายดีใจมากที่สมเด็จมาเยี่ยมถึงบ้าน ถือเป็นมงคลอย่างสูงที่พระชั้นสมเด็จฯ มาเยี่ยม จึงเรียกลูกหลานมากราบเท้าท่านเป็นการใหญ่ แล้วก็คุยกันถึงเรื่องต่างๆ มากมาย

ระหว่างนั้น สมเด็จฯ ถามคุณนายว่า

"พระในบ้าน...มีไหม?"

"มีเจ้าค่ะ... พระในบ้านมีหลายองค์... เป็นพระเก่าๆ ทั้งนั้น  สมัยสุโขทัยก็มี เชียงแสนก็มี  อาราธนาท่านสมเด็จฯ ขึ้นไปดูข้างบน"

สมเด็จฯ ก็เฉย แล้วถามต่อว่า

"ได้ทราบข่าวว่าคุณนายมีแม่อีกคน...เดี๋ยวนี้อยู่ที่ไหนเสีย?"

คุณนายสะอึก...เสียวแปลบเข้าไปในหัวใจ  จะตอบตามตรงก็กลัวว่าสมเด็จฯ จะเดินไปดู...เห็นสภาพความเป็นอยู่ของแม่แล้วท่านจะติเตียน

คุณนายอึกๆ อักๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตอบว่า

"ตอนนี้ท่านไม่อยู่เจ้าค่ะ... ออกไปเยี่ยมญาติ... อีกนานถึงจะกลับ"

สมเด็จฯ นั่งนิ่งอยู่สักครู่แล้วจึงลากลับ

หลังจากวันนั้น คุณนายก็ยังคงไปวัดตามปกติ



วันหนึ่ง สมเด็จฯ เห็นว่า วันนี้คุณนายยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาร่าเริง อารมณ์ดีหลังจากได้ทำบุญทำทาน จึงถามว่า

"พระในบ้านของโยม...โยมดูแลเรียบร้อยแล้วหรือยัง?"

"เรียบร้อยเจ้าค่ะ!  ดิฉันจุดธูปเทียน ถวายอาหาร บูชาเสร็จแล้วจึงมาที่วัด ... ท่านไม่ต้องเป็นห่วง"

"อาตมาไม่ได้หมายถึงพระพุทธรูป ...

พระในบ้านที่อาตมาถามถึงนี่เป็นพระที่ยังมีลมหายใจ...คือ แม่พระ...ผู้มีพระคุณสูงสุดแก่โยม

แม่ให้ชีวิตเรามาโดยเอาชีวิตตัวเองเข้าแลก... เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนได้ดิบได้ดีทุกวันนี้

แม่เหน็ดเหนื่อย...ทุกข์ทรมานแสนสาหัส

แม่ทนหิวเพื่อให้ลูกอิ่ม

แม่ทนหนาวเพื่อให้ลูกอุ่น

แม่ไม่เคยนอน...ถ้าลูกของแม่ยังไม่หลับ

ยามลูกเจ็บป่วย...ร้องไห้ หัวใจแม่ก็เจ็บปวดและร้องไห้พร้อมกับลูกด้วย

แม่อยากเอาความเจ็บปวดทั้งหมดของลูกมาไว้ที่แม่

ถ้าทำได้...แม่ยอมตายเพื่อลูกได้

พระคุณของแม่นี้ใหญ่หลวงเกินกว่าจะคณานับ

เราต้องตอบแทนบุญคุณท่านบ้างนะโยม

เอาตาดู...หูใส่...เอาใจใส่ท่านบ้าง  ไม่ใช่ปล่อยให้ท่านอดๆ อยากๆ  เจ็บไข้ได้ป่วยก็ดูแลท่านบ้าง

อาตมาได้ข่าวว่า คุณโยมเหลือแม่อยู่คนเดียวและไม่ค่อยสนใจความเป็นอยู่ของท่าน ปล่อยให้อยู่ในห้องแคบๆ ... ไม่สงสารท่านบ้างหรือโยม?

โยมจัดอาหารมาถวายพระได้ทุกวัน  แต่พระในบ้านอีกองค์...โยมไม่เคยจัดให้

และตอนที่โยมจัดมาให้อาตมา สังเกตดู...โยมจัดมาให้อย่างดี...ประณีตบรรจง  เมื่อก่อนอาตมาไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ฉันของโยมตามปกติ  แต่ตอนนี้บอกตรงๆ เลยว่า...กลืนไม่ค่อยลงมาหลายวันแล้ว!

อาตมาเป็นพระในวัด...ไม่ควรเอาเปรียบพระในบ้านของโยมเกินไป

ถ้าพระในบ้านยังอด พระในวัดก็กลืนไม่ลง!!

การทำบุญให้ได้บุญมากนะโยม...ต้องเลี้ยงพ่อแม่ให้อิ่มหนำสำราญเสียก่อน แล้วจึงถวายพระ"


คุณนายไม่พูดอะไรอีก...แล้วน้ำก็ค่อยๆ ไหลออกจากตา

.......................

บางคนกว่าจะรู้ว่าพ่อแม่เป็นพระในบ้านผู้ประเสริฐก็สาย...เมื่อท่านทั้งสองไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้แล้ว ...



จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/202904/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ทดแทนคุณ บิดา - มารดา(สมเด็จโต พรหมรังสี)
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
時々๛कभी कभी๛ 0 7038 กระทู้ล่าสุด 15 สิงหาคม 2554 09:52:29
โดย 時々๛कभी कभी๛
อานิสงส์ของการสวดมนต์ - สมเด็จโต
บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
เจ๊ละงง 0 1657 กระทู้ล่าสุด 07 พฤษภาคม 2558 10:38:31
โดย เจ๊ละงง
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.301 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 03 มีนาคม 2567 01:13:50