[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 02:59:21 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เวลาเหลือน้อย : อ.บูรพา ผดุงไทย  (อ่าน 4423 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 11 เมษายน 2553 21:55:30 »




เวลาเหลือน้อย : อ.บูรพา ผดุงไทย

” เราอาศัยโลกอยู่แต่ไม่อาจเป็นเจ้าของโลกได้
มนุษย์มีอำนาจครอบครองสิ่งต่างๆ บนโลกได้เพียงชั่วคราว
เมื่อต้องจากโลกนี้ไป..


อำนาจแห่งการครอบครองบนโลกก็หมดลงตามไปด้วย
หากเราไม่เข้าใจและไม่ยอมรับในความจริงนี้
ดวงจิตวิญญาณที่ยังคงมีความยึดมั่นถือมั่น

คิดเป็นจริงเป็นจัง คิดว่าโลกนี้เป็นของของตนจริง
จึงต้องได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัส
ด้วยอวิชชาที่ไม่ยอมปล่อยวางสมมติบนโลก “



” ภาพลวงตา..

เราทุกคนต่างอยู่บนโลกแห่งจินตนาการ
โลกที่เต็มไปด้วยภาพมายาการปรุงแต่ง

สิ่งที่เราเห็น จึงมิใช่สิ่งที่เป็นอยู่อย่างแท้จริง
มันจึงเป็นเพียงแค่ภาพมายาที่ถูกกำหนดด้วยอำนาจกิเลสโลก

เราจึงไม่เคยเห็นตัวตนที่แท้่จริงของโลกและตัวของเราเองเลย
สิ่งที่เราเห็นจึงเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา..เท่านั้นเอง “


” มิติเวลาแห่งอดีต..

เมื่อเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เรากำลังมองดูภาพจากในอดีตเมื่อหลายล้านปีมาแ่ล้่ว

สิ่งที่เราเห็นอาจมิใช่สิ่งที่เป็นอยู่จริง
โลกและจักรวาลจึงเป็นแค่เพียงภาพมายาที่จิตของเราปรุงแต่งขึ้นมา
มันมีตัวตนจริงที่ไหน?..”



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 11 เมษายน 2553 22:16:46 »


http://i412.photobucket.com/albums/pp209/JSeventh/lake.jpg
เวลาเหลือน้อย : อ.บูรพา ผดุงไทย


” ความสุขที่แท้จริง (บรมสุข)

ความสุขอย่างไหนเป็นความสุขที่แท้จริงกันแน่?..

ระหว่างความสุขทางโลกที่เกิดจากการได้สนองอำนาจมายากิเลสโลก (เป็นทาส)
กับความสุขทางธรรมที่เกิดจากการหลุดพ้นจากอำนาจมายากิเลสโลก (เป็นอิสระ)


ความยึดมั่นถือมั่นในสมมติบัญญัติโลกว่าเป็นของตน
กับการปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นนั้นลงได้ “


” วิทยาศาสตร์ ศาสนา และธรรมชาติ

..แท้จริงแล้วล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน
แต่ด้วยความเจ้าปัญญาช่างคิดช่างฝันของมนุษย์แท้ๆ
จึงทำให้สิ่งที่เหมือนกัน กลายเป็นสิ่งที่แตกต่างกันได้ “


” มิติแห่งความคิดและความฝัน

การเวียนว่ายตายเกิดนับร้อยนับพันชาติ
อาจเป็นปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้นในความฝันเพียงครั้งเดียวของเราเท่านั้น “


” ผู้ที่หมดอวิชชาแล้วย่อมไม่มาเกิด

มนุษย์ทุกคนที่เกิดขึ้นมาบนโลกสมมติใบนี้
ล้วนเป็นผู้ที่ยังคงมีอวิชชา (ความโง่) อยู่ด้วยกันทั้งสิ้น

จะโง่มาก หรือโง่น้อยเท่านั้น
ที่หมดสิ้นอวิชชา (ความโง่) แล้วไม่มี

ผู้ที่หมดสิ้นอวิชชา..หมดความหลงผิด หมดความโง่แล้ว
ย่ิอมไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดบนโลกสมมติใบนี้


พวกเราทั้งหลายจึงเป็นเพื่อนร่วมทางด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
ไม่มีใครดีำว่าใคร ไม่มีใครเก่งกว่าใคร

เราต่างตกที่นั่งเดียวกันทุกคน
คือ ผู้แสวงหาหนทางกลับบ้านด้วยกันทั้งนั้น “
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 11 เมษายน 2553 22:33:26 »




” เข้าใจมิใช่เข้าถึง

อยากไปเมืองเชียงใหม่..
อย่ามัวแต่นั่งรอให้เมืองเชียงใหม่ มันเดินทางมาหาเรา
อยากถึงเมืองเชียงใหม่ เราต้องเดินทางไปหามัน

ออกเดินทางเสียแต่เดี๋ยวนี้
บางทีชาตินี้อาจถึงเมืองเชียงใหม่ได้

อย่ามัวเอาแต่ศึกษาเรียนรู้แล้วจินตนาการถึงเมืองเชียงใหม่อยู่เลย
เพราะมันไม่มีวันที่จะถึงเมืองเชียงใหม่ได้..ด้วยการจินตนาการคาดเดา

มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวของเมืองเชียงใหม่ด้วยการจินตนาการ
จึงมิได้หมายความว่าตนนั้นได้เดินทางมาถึงเมืองเชียงใหม่จริง

ศึกษาธรรมนั้น อาจเข้าใจธรรม
แต่ปฏิบัติธรรมเท่านั้น จึงจะเข้าถึงธรรม”



” อนัตตา

อวิชชาเปรียบดังเส้นเชือกที่ถูกผูกเป็นปมซ้อนกันไว้เป็นชั้นๆ
ด้วยปัญญา (รู้แจ้ง) จึงสามารถแก้ปมเชือกเหล่านั้นออกได้
เมื่อแก้ปมหนึ่งออกได้ ก็พบว่ายังมีปมอื่นซ่อนอยู่อีก

จนกระทั่งมาถึงปมสุดท้ายของเชือกเส้นนี้

หากแก้ปมสุดท้ายนี้ออกได้ เชือกเส้นนี้ก็จะเป็นอิสระและปราศจากปมอีกต่อไป
แต่เมื่อปมสุดท้ายของเชือกเส้นนี้ถูกแก้ออกได้แล้ว..เส้นเชือกนั้นกลับหายไป

ผู้ปฏิบัติทุกคนที่เดินทางมาถึงปมสุดท้ายของอวิชชา
ต่างก็พบกับความจริงของคำว่า อนัตตา นี้เหมือนกันทุกคน

เส้นเชือกที่ว่านั้น มันไม่เคยมีตัวตนอยู่จริงเลยตั้งแต่ต้น

นี่แหละที่สุดของ อนัตตา
มีปม จึงมีเชือก หมดปม เส้นเชือกก็ (ไม่มีตัวตน) หายไป “



http://i412.photobucket.com/albums/pp209/JSeventh/sunset_perfsky.jpg
เวลาเหลือน้อย : อ.บูรพา ผดุงไทย


 ยิ้ม  http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=8&t=2614
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 เมษายน 2553 22:37:56 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: ลิ้งค์ค่ะ » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.256 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2567 14:45:52