[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 18:31:32 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รักกันจริง.! ‘ลิงกับหมา’ ขี่หลังเดินตามพระบิณฑบาต  (อ่าน 1131 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.273 Chrome 50.0.2661.273


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 ตุลาคม 2559 21:40:10 »



รักกันจริง.! ‘ลิงกับหมา’ ขี่หลังเดินตามพระบิณฑบาต

เพื่อนรักต่างสายพันธุ์! ‘ลิง’ ขี่หลัง ‘หมา’ เดินตามพระออกบิณฑบาตทุกเช้า หวังตอบแทนบุญคุณข้าวก้นบาตร หลังพากันหนีตายมาอาศัยอยู่ที่วัด
 
16 มี.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดนิเวศวิหาร บ้านนาดี ต.นาดี อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ทุกๆเช้าจะมีลูกลิงเกาะหลังสุนัขพร้อมกับเดินตามพระสงฆ์ที่ออกบิณฑบาต ซึ่งระหว่างทางทั้ง 2 หยอกล้อกันอย่างมีความสุข ซึ่งเป็นภาพที่แสนน่ารักและสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น
 


ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปสอบถามพระครูนิเวศรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาดวัดนิเวศวิหาร ต.นาดี อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ถึงที่มาของสุนัขและลูกลิง โดยพระครูนิเวศรัตนาภรณ์ เล่าว่า สุนัขดังกล่าวมีชื่อว่า "เจ้าแคลช" เป็นเพศผู้อายุ 2 ปี ส่วนลูกลิงมีชื่อว่าเจ้า "สงคราม" เพศผู้เหมือนกัน อายุ 2 ปี ทั้ง 2 ตัวมีถิ่นกำเนิดอยู่ทางฝั่งประเทศลาว โดยเมื่อกลางปี 2558 มีพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งเป็นชาวลาวได้พาเจ้าแคลช และเจ้าสงคราม ข้ามมาฝั่งไทยด้วย เพราะไม่อยากทิ้งเจ้าแคลชและเจ้าสงครามอยู่ตามลำพัง เหตุกลัวว่าจะไม่มีผู้ดูแลและเลี้ยงดู ซึ่งพระสงฆ์รูปดังกล่าวต้องข้ามมาจำวัดอยู่ที่วัดป่าแสนสุข บ้านป่งขาม ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อเรียนภาษาบาลี โดยมีกำหนดเรียนจนถึงช่วงเข้าพรรษาจึงจะกลับไปจำศีลอยู่ที่พักสงฆ์เดิมที่อยู่ฝั่งประเทศลาวซึ่งต้องใช้เวลาเรียนอีกนาน



โดยพระสงฑ์ที่พาเจ้าแคลชและเจ้าสงครามข้ามมาอาศัยอยู่ที่วัดป่าแสนสุขได้ระยะหนึ่ง ก็มีความตั้งใจจะพาเจ้าแคลช และเจ้าสงครามกลับไปอยู่ฝั่งลาว โดยจะหาญาติโยมที่อยู่ฝั่งลาวช่วยเลี้ยงดูให้ เพราะเกรงใจทางวัดป่าแสนสุข ซึ่งคิดว่าเจ้าแคลช และเจ้าสงครามคงฟังรู้เรื่องจึงกลัวจะถูกส่งกลับไปยังฝั่งลาวจึงคิดหลบหนี โดยเจ้าสงครามกระโดดขึ้นหลังเจ้าแคลช เพื่อวิ่งหนีออกจากวัดป่าแสนสุขไป ผ่านตามหมู่บ้าน แต่พอสุนัขเจ้าถิ่นเห็นก็ถูกไล่กัดจนต้องวิ่งหนีเข้าหลบไปในป่าข้างทาง พอเห็นว่าปลอดภัยก็ออกมาวิ่งไปต่อ จึงสร้างความแปลกใจให้ชาวบ้านที่พบเห็น ด้วยความกลัวสุนัขเจ้าถิ่นรุมกัดเจ้าแคลชต้องวิ่งอย่างเร็วเพื่อพาเจ้าสงครามหนีรอด จนหนีเข้ามาภายในวัดนิเวศวิหาร บ้านนาดี ต.นาดี อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร



จากนั้นบรรดาพระสงฆ์ที่จำอยู่วัดนิเวศวิหารเห็นเจ้าแคลชและเจ้าสงครามเกาะหลังและวิ่งหน้าตื่นพากันเข้ามาภายในวัดก็สร้างความแปลกใจว่า ลิงเกาะหลังสุนัขเข้าในวัดมาจากไหน มาได้อย่างไร และก็ไม่ยอมไปไหน พระลูกวัดจึงแจ้งให้พระครูนิเวศรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนิเวศวิหาร เข้าตรวจสอบ พอพระครูนิเวศรัตนาภรณ์เห็นเจ้าแคลชและเจ้าสงครามก็ไม่แปลกใจ เพราะท่านพระครูนิเวศรัตนาภรณ์ เวลาไปเรียนภาษาบาลีอยู่ที่วัดป่าแสนสุข ก็เจอพระสงฆ์ชาวลาวที่ข้ามมาจำวัดเพื่อเรียนภาษาบาลีด้วยกันก็จะเห็นเจ้าแคลชและเจ้าสงครามอยู่ในวัดดังกล่าวทุกครั้งที่มาเรียนด้วย แต่ที่แปลกใจคือเจ้าแคลช และเจ้าสงครามพากันมาได้อย่างไร
 


เนื่องจากวัดป่าแสนสุข ที่เจ้าแคลชและเจ้าสงครามอาศัยอยู่นั้นห่างกันกับวัดนิเวศวิหาร บ้านนาดีฯ กว่า 10 กิโลเมตร แต่เจ้าแคลชและเจ้าสงครามทำไมพากันมาถึงวัดนี้ได้
 
จากการสอบถามพระในวัดเล่าว่า เห็นเจ้าสงครามเกาะหลังเจ้าแคลชวิ่งหนีตายเข้ามาในวัดโดยมีเสียงเห่าของสุนัขเจ้าถิ่นไล่ตามหลังมา จากนั้นพระครูนิเวศรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด ให้พระลูกวัดหาน้ำและอาหารมาให้เจ้าแคลชและเจ้าสงครามกินและให้ทั้ง 2 ตัวอาศัยอยู่ในวัดก่อน จนกระทั่งพระครูนิเวศรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด ไปเรียนภาษาบาลีที่วัดป่าแสนสุข ก็ได้พบกับพระสงฆ์ชาวลาวที่พาเจ้าแคลชและเจ้าสงครามข้ามมา จึงแจ้งให้ทราบว่าเจ้าแคลชและเจ้าสงครามพากันไปอาศัยอยู่ที่วัดนิเวศวิหารแล้ว โดยทั้ง 2 ตัวพากันไปเอง เมื่อพระสงฆ์ชาวลาวทราบข่าวก็รู้สึกดีใจ เพราะอยู่ๆมันก็หายไป แล้วไม่รู้ว่าพากันไปไหน จึงเกิดความเป็นห่วง โดยเฉพาะเจ้าสงครามที่กำพร้าแม่



โดยพระสงฆ์ชาวลาวได้เล่าเรื่องที่มาของเจ้าสงคราม (ลูกลิง)ว่า เจ้าสงครามเกิดมามีอายุได้ประมาณ 1-2 เดือน แม่เจ้าสงครามก็พาออกไปหาอาหารกิน โดยแอบไปกินพืชผลของชาวบ้าน จนถูกเจ้าของสวนใช้ปืนแก๊ปยิงแม่ลิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่แม่ลิงยังตะเกียกตะกายพาเจ้าสงครามหนีจนมาถึงหน้าที่พักสงฆ์ แม่ลิงก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวนอนตายอยู่หน้าที่พักสงฆ์ ในสภาพที่แม่ลิงนอนจมกองเลือดโดยมีเจ้าสงครามตัวเล็กๆยังเกาะท้องแม่ดูดนมโดยที่ไม่รู้ว่าแม่ของตัวเองตายแล้ว ตรวจสอบตามลำตัวแม่ลิงพบบาดแผลเป็นรูลูกกระสุนจากปืนแก๊ปตามลำตัว โชคดีที่ลูกกระสุนไม่ถูกเจ้าสงคราม จึงได้นำแม่ลิงไปฝัง ส่วนเจ้าสงครามก็นำมาเลี้ยงดูพร้อมกับตั้งชื่อว่า สงคราม โดยให้อยู่ร่วมกันกับเจ้าแคลชที่มีอายุพอๆกัน

พอเลี้่ยงเจ้าแคลชและเจ้าสงครามเขาก็อยู่ร่วมกันจนโตด้วยกัน ไม่เคยมีอคติต่อกัน กินร่วมกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน รักกัน แม้ต่างสายพันธุ์ก็อยู่ร่วมกันได้ ไม่ขัดแย้งกัน ไม่ทำร้ายซึ่งกัน พอทราบว่ามันหายไปก็รู้สึกเป็นห่วงเจ้าแคลชและเจ้าสงครามเป็นอย่างมาก แต่พอพระครูนิเวศรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนิเวศวิหาร เรียนให้ทราบว่าเจ้าแคลช และเจ้าสงครามพากันมาอาศัยอยู่ที่วัดนิเวศวิหาร ก็รู้สึกดีใจที่มันไม่ได้เป็นอะไรไป อยู่กับทางวัดก็สบายใจและดีใจถ้าไม่เป็นการรบกวนขอให้ทางวัดรับเจ้าแคลช และเจ้าสงครามได้อาศัยอยู่ในวัดก็เป็นสุขใจ




ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับเจ้าแคลช และเจ้าสงคราม เวลานอนก็จะนอนด้วยกัน ตื่นแต่เช้าถึงแม้ว่าบางวันอากาศจะหนาวเย็น ทั้ง 2 จะพากันมานอนหน้าประตูกุฎิเจ้าอาวาส เพื่อรอร่วมออกเดินบิณฑบาต โดยเจ้าสงครามจะขึ้นเกาะหลังเจ้าแคลชแล้วออกเดินตามพระบิณฑบาต โดยไม่มีใครฝึกสอนแต่อย่างใด คาดว่าอาจเป็นเพราะเจ้าแคลช และเจ้าสงครามต่างก็อยากมีสวนร่วมทำหน้าที่เพื่อตอบแทนบุญคุณข้าวก้นบาตร









จาก คม ชัด ลึก http://www.komchadluek.net/detail/20160316/224243.html

<a href="https://www.youtube.com/v/LHDu2CxwNTk" target="_blank">https://www.youtube.com/v/LHDu2CxwNTk</a>

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.367 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 14 มีนาคม 2567 07:55:15