[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 23:17:56 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พลังทำลายล้างของภาพถ่าย 1 ภาพ - ภาพเปลี่ยนโลกจากสงครามเวียดนาม  (อ่าน 1997 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 54.0.2840.71 Chrome 54.0.2840.71


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2559 10:53:53 »





เรื่อง "พลังทำลายล้างของภาพถ่าย 1 ภาพ"

เรามาดูกันว่า ภาพถ่ายเพียง 1 ภาพสามารถทำลายชีวิตคนได้ยังไงกันนะครับ

คุณรู้สึกยังไงเมื่อเห็นรูปนี้ตอนแรกสุด....โดยที่ยังไม่ได้อ่าน

เก็บสิ่งที่คุณคิดไว้ในใจนะครับ....แล้วมาฟังเรื่องราวต่อไปนี้....

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 54.0.2840.71 Chrome 54.0.2840.71


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2559 10:56:13 »



1 กุมภาพันธ์ 1968

บนถนนในกรุงไซง่อน ระหว่างที่สงครามเวียดนามกำลังเดือดถึงขีดสุด

ภาพประวัติศาสตร์ภาพหนึ่งถูกถ่ายขึ้น

ภาพของทหารคนหนึ่ง กำลังจ่อยิงชายคนหนึ่ง ที่ถูกมัดมือไพร่หลังอย่างโหดเหี้ยม
ปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ผ่านสายตาของผู้อ่านชาวอเมริกันนับล้าน

เราได้เห็น เสี้ยววินาทีที่กำลังก้ำกึงระหว่างความเป็นและความตาย ในขณะที่กระสุนกำลังเจาะผ่านสมอง
ของชายผู้เคราะห์ร้ายรายนี้

ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่า บุคคลทั้ง 2 ในรูปนี้เป็นใคร แต่ทุกคนคิดแบบเดียวกันว่า นี่คือ ภาพทหารยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์

ช่างภาพของสำนักข่าว AP "เอ็ดดี้ อดัมส์" เป็นผู้ถ่ายภาพภาพนี้ไว้และภายหลังเขาก็ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์จากภาพถ่ายภาพนี้

ท่ามกลางภาพถ่ายอันโหดร้ายของสงครามเวียดนามนับหมื่นๆ ภาพ
ภาพนี้ คือ หนึ่งในภาพที่ได้รับความสนใจและเป็นที่จดจำมากที่สุด มันกลายเป็นหนึ่งในภาพถ่ายระดับ "ไอคอนนิก"
ในประวัติศาสตร์ และทรงพลังจนแม้แต่ตัวอดัมส์เองยังแปลกใจ

ภาพนี้มีส่วนสำคัญ ที่นำไปสู่การเคลื่อนไหวของหนุ่มสาวชาวอเมริกันนับล้านให้ออกมาเดินขบวนต่อต้านสงคราม
จนนำไปสู่การถอนทหารอเมริกันออกจากเวียดนามในที่สุด




บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 54.0.2840.71 Chrome 54.0.2840.71


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2559 11:10:40 »



นายทหารที่อยู่ในภาพนี้ คือ "นายพลตำรวจ เหงียน ง่อก โลน"

หลังจากถ่ายภาพนี้ไม่นาน นายพลได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้อย่างกล้าหาญ จนต้องสูญเสียขาไปข้างหนึ่ง
ภายหลังจากกรุงไซง่อนแตก เขาได้ลี้ภัยไปอยู่อเมริกา และหวังจะได้ใช้ชีวิตสงบสุขที่นั่น...

แต่โลกไม่ยอมให้อภัยกับความโหดร้ายของชายคนนี้และพิพากษาเขาด้วยภาพถ่ายภาพเดียว

นายพลเหงียนกลับมาใช้ชีวิตเฉกเช่นคนธรรมดา เขาแต่งงาน มีลูก และเปิดร้านพิซซ่าเล็กๆ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี
แต่ผู้คนจดจำเขาได้ และต่างพากันขับไล่และสาปแช่งจนเขาต้องถูกไล่ออกจากร้านพิซซ่าของตัวเองในปี 1991

หลังจากนั้น ไม่ว่าเขาจะย้ายไปที่ไหน ครอบครัวของเขาก็ถูกขับไล่ไสส่ง จนหาความสงบสุขไม่ได้
แม้แต่ในวาระสุดท้ายของชีวิต

นายพลเหงียนเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในปี 1998 เมื่ออายุได้ 68 ปี....



ก่อนตาย เขาได้เล่าเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหลังภาพประวัติศาสตร์ภาพนั้น

ชายคนที่ถูกยิงศีรษะ ชื่อ "เหงียน ฟาน เล็ม" เป็นทหารเวียดกงระดับหัวหน้า

ก่อนเกิดเหตุการณ์ในภาพ

เล็มพากำลังพลของเขา ขับรถถังบุกยึดสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเวียดนามใต้่่้ในโฮจิมินห์
ที่มีที่พักของครอบครัวตำรวจอยู่ด้วย และจัดการสังหารโหด ผู้พัน "เหงียน ทวน" และทั้งครอบครัวของเขา
อันได้แก่ ภรรยา ลูกๆทั้ง 6 คน และแม่อายุ 80 ด้วยการเชือดคอ มีเพียงบุตรชายวัย 10 ขวบเพียงคนเดียว
ที่รอดชีวิตมาได้ แต่ก็บาดเจ็บสาหัส

ทีมของเขา สังหารโหดผู้คนที่อยู่ที่นั่นอีก 34 ชีวิตด้วยวิธีการเดียวกัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง ครอบครัวตำรวจ
ที่มีเด็กเล็กๆ อีก 3 คน

ภายหลังเล็มถูกจับได้ และถูกพาตัวมาต่อหน้านายพลเหงียน เขาพูดอย่างภาคภูมิใจไม่สะทกสะท้าน
ที่สามารถฆ่าคนพวกนี้ได้อย่างเลือดเย็น จึงถูกนายพลเหงียนยิงศีรษะทิ้งในทันที...

แล้วภาพประวัติศาสตร์ภาพนี้ก็ถูกถ่ายขึ้น




บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 54.0.2840.71 Chrome 54.0.2840.71


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2559 11:18:55 »



ภาพนี้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือต่อต้านสงคราม

โลกสงบสุข... แต่ชีวิตนายพลเหงียนพังทลาย




แม้จะได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ แต่อดัมส์ก็รู้สึกผิดต่อนายพลเหงียนอย่างยิ่ง

ภายหลังเขาไปหาท่านนายพลที่ร้านพิซซ่า แต่ก็ไม่พบ
พบแต่เพียงข้อความถูกเขียนอยู่บนผนังร้านว่า "กูรู้ว่ามึงเป็นใคร ไอ้แม่เย็ด" ("We know who you are, fucker")


อดัมส์เขียนลงในนิตยสาร Time ว่า

อ้างถึง

"มีคนสองคนที่ตายในภาพนี้ คือ ผู้รับกระสุน และนายพลเหงียน ง่อก โลน
ท่านนายพลฆ่าเวียดกง แต่ผมฆ่าท่านนายพลด้วยกล้องของตัวเอง..."


ภาพถ่าย เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดบนโลกใบนี้ ผู้คนเชื่อมันอย่างหมดใจ แม้ว่าจะถูกมันหลอกลวง หรือยังมีความจริงอีกครึ่งนึง
ที่ไม่ถูกบอกเล่า

สิ่งที่ภาพถ่ายไม่ได้บอก คือ "แล้วคุณจะทำอย่างไร ถ้าคุณเป็นท่านนายพลในเวลานั้น ในวันที่เดือดที่สุดของสงครามอันโหดร้าย
และคุณสามารถจับฆาตกรที่สังหารคนบริสุทธ์เป็นจำนวนมากได้"

ภาพถ่ายนี้ ทำลายชีวิตของเขา แต่เขาไม่เคยกล่าวโทษผม เขาบอกแต่เพียงว่า แม้คุณจะไม่ถ่ายมัน แต่ก็จะมีคนอื่นทำอยู่ดี

แต่ผมรู้สึกผิดต่อเขาและครอบครัวเขาเสมอมา ผมส่งดอกไม้ไปให้ เมื่อได้ยินว่าเขาเสียชีวิตแล้ว และเขียนว่า

"ผมเสียใจ และร้องไห้อย่างสุดซึ้ง"



เมื่อนายพลเหงียนเสียชีวิต อดัมส์ได้ไปร่วมงานศพเขา และได้เขียนถ้อยคำสดุดีว่า...


อ้างถึง

"คนนี้ คือ วีรบุรุษที่แท้จริง
ชาวอเมริกันควรจะร่ำไห้ให้เขา
ผมรู้สึกเจ็บใจที่มันกลายเป็นอย่างนี้ โดยที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย
นอกจากเพียงในภาพภาพเดียวเท่านั้น"


เทียบระหว่างก่อนอ่านกับหลังอ่านแล้ว ลองถามตัวเองว่าความคิดของคุณเปลี่ยนไปหรือเปล่า ?

นั่นแหละครับ พลังทำลายล้างของภาพถ่าย 1 ภาพ








ที่มาเฟสบุ๊ค Rungroj Prachyakoon
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.187 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 18 มีนาคม 2567 14:42:46