หลวงปู่เสาร์ สิริจันโท วัดศรีสุข ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

หลวงปู่เสาร์ สิริจันโท
วัดศรีสุข ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

"หลวงปู่เสาร์ สิริจันโท" อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสุข ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีเมตตาธรรม มักน้อยถือสันโดษ มีวัตรปฏิบัติที่เสมอต้นเสมอปลาย จึงยังอยู่ในศรัทธาของพุทธศาสนิกชนตราบจนปัจุจุบัน

มีนามเดิม เสาร์ เหล่าทับ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2456 ณ บ้านเลขที่ 8 บ้านศรีสุข ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน ของพ่อสายและแม่เคน เหล่าทับ และหนึ่งในจำนวนน้องๆ คือ หลวงปู่สิงห์ คัมภีโร พระเกจิชื่อดัง

ครอบครัวของหลวงปู่เสาร์ มีอาชีพทำไร่ทำนาฐานะค่อนข้างยากจน หลังจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 หลวงปู่เสาร์ ต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง

ต่อมาบิดา-มารดาเสียชีวิต ทำให้ต้องแบกรับภาระดูแลน้อง 6 คน

พ.ศ.2478 พี่น้องของท่านสามารถช่วยเหลือตนเองได้แล้ว นายเสาร์ วัย 23 ปี จึงเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสระทอง บ้านทัน ต.นาสีนวล อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม โดยมีเจ้าอธิการชม โสภโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระอธิการจุฬา วัดโพธิ์ศรี บ้านลาด เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลังเข้าพิธีอุปสมบท ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีสุข 3 พรรษา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะศึกษาพระธรรมวินัยให้ลึกซึ้งถึงแก่น จึงเดินทางไปศึกษาจากหลายสำนัก เช่น สำนักวัดแห่เหนือ อ.โกสุมพิสัย, สำนักวัดสระทอง บ้านทัน จ.มหาสารคาม มุมานะสอบได้นักธรรมตรีและโท

จากนั้น สอบได้นักธรรมเอก ที่สำนักวัดบ้านหนองผือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น

ศึกษาวิทยาคมจาก 2 พระเกจิอาจารย์ชื่อดังภาคอีสาน คือ หลวงปู่ศรีธรรมศาสน์ วัดใต้โกสุม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เจ้าตำรับวิชาแคล้วคลาด คงกระพัน และหลวงปู่ป้อ วัดบ้านเอียด ต.เขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม ต้นตำรับน้ำมนต์อันเข้มขลัง

จำพรรษาวนเวียนอยู่ในวัดหลายแห่งในภาคอีสาน สุดท้ายได้รับแต่งตั้งไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดแห่เหนือ อ.โกสุมพิสัย

จนถึง พ.ศ.2496 จึงกลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีสุข และได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอธิการ

ท่านได้พัฒนาก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัดให้มีความเจริญรุ่งเรือง พร้อมกับปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีแต่ความร่มรื่นสวยงาม โดยการปลูกไม้ผล ไม้ประดับไว้เต็มบริเวณวัด ทำให้ทั่วบริเวณมีแต่ความสงบวิเวกเหมาะสมกับการเจริญภาวนา

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญด้านการศึกษาปริยัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง โดยรับหน้าที่ครูสอนพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดบ้านศรีสุข และสำนักวัดสระทอง บ้านทัน

ทุกปีหลังออกพรรษา หลวงปู่จะออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาในพื้นที่ภาคอีสาน ข้ามไปไกลถึงประเทศลาว มุ่งแสวงหาความหลุดพ้น ต้องผจญกับภูตผีปีศาจ รวมทั้งสัตว์ร้ายนานาชนิด หลวงปู่ต้องสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตาจิตให้สัตว์โลกที่เกิดแก่เจ็บตาย ทำให้ไม่มีสิ่งใดเข้ามา กล้ำกรายทำลายสมาธิ

ช่วงหลังปี พ.ศ.2504 วัดบ้านศรีสุข มีความเจริญรุ่งเรือง จากวัดบ้านนอกธรรมดาเริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น เมื่อหลวงปู่สิงห์ คัมภีโร พระผู้น้องเดินทางกลับมาจากการไปศึกษาพระสูตร พระวินัยและวิปัสสนากรรมฐาน รวมทั้งวิชาแพทย์แผนโบราณจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามมหาวิหาร และมาจำพรรษาอยู่วัดบ้านศรีสุข ช่วยงานหลวงปู่เสาร์

ซึ่งหลวงปู่สิงห์ ศึกษาร่ำเรียนไสยเวทจาก หลวงปู่ศรีธรรมศาสน์ ทำให้ชื่อเสียงของหลวงปู่ทั้ง 2 ขจรขจายไปไกล

ในวันธรรมดาหรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จะมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังเทศน์และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่วัดอย่างไม่ขาดสาย

หลวงปู่เสาร์ เป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดศรีสุข มาจนถึงปี พ.ศ.2521 ด้วยความไม่เที่ยงแห่งสังขาร

มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 68 ปีพรรษา 45

อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์