[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 23:22:11 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วันสงกรานต์กับพระพุทธศาสนา{เมาไม่ขับ}  (อ่าน 1647 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 10.0.648.204 Chrome 10.0.648.204


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 09 เมษายน 2554 10:03:48 »


......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.........................

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ......................

................Sometime ที่ พลังจิต................

palungjit.......http://board.palungjit.com/f10/%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2-286915.html#post4573379


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>



(:LOVE:)ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาสาระโดย Sometime ขอสงวนลิขสิืทธิ์ภาพตามกฏหมายอยากได้ไปถ่ายเองน่ะจ๊ะ รัก



.....................สงกรานต์กับความเข้าใจในพระพุทธศาสนา.......................

โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงสงกรานต์ ก็หมายถึงปีใหม่ไทยที่ครอบครัวจะได้มีโอกาส

พบปะ แสดงความกตัญญูกตเวที มีการทำกุศลในวันนั้นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถวาย

อาหารและถวายปัจจัยที่เหมาะควรแก่พระภิกษุสงฆ์ การรดน้ำผู้ใหญ่ อันเป็นอุบายให้

แสดงถึงการให้ระลึกถึงผู้มีอุปการะคุณกับบุตร - หลาน การสรงน้ำพระ ซึ่งควรพิจารณา

ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ - อย่างไรรวมทั้งการเจริญกุศลประการต่าง ๆ

ตามประเพณีสงกรานต์ปัจจุบันอย่างหนึ่งคือการเล่นน้ำและการใช้น้ำเป็นเครื่อง

ประกอบในประเพณีสงกรานต์ เช่น การรดน้ำผู้ใหญ่และการสรงน้ำพระ เป็นต้น

ในสมัยพุทธกาลได้มีประเพณีซึ่งเป็นการละเล่นที่เป็นงานมหรสพของผู้คนในสมัย

นั้นโดยการใช้น้ำเช่นกัน ซึ่งย่อมเป็นไปได้ที่จะสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันในงานประเพณี

สงกรานต์ในปัจจุบัน เพราะทำประจำในเดือน 4 เช่นกันดังข้อความในพระไตรปิฎกที่ว่า

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม 2 ภาค 3 ตอน 3 - >หน้าที่ 31

ก็สมัยนั้นมหาชนพากันเล่นมหรสพในอุตตรผัคคุณีนักขัตฤกษ์ปลายเดือน 4 ทุก ๆ  ปี  

กระทำพิธีสรงน้ำที่ท่าใกล้แม่น้ำคยาด้วยเหตุนั้นชนทั้งหลายพากันเรียกมหรสพนั้น

ว่า {คยาผัคคุณี} ดังนี้......................................

ในการละเล่นที่ใช้น้ำในสมัยพุทธกาลที่เรียกว่า คยาผัคคุณี มีการใช้น้ำเป็นหลักด้วย

ความเชื่อของบุคคลสมัยนั้นว่า   น้ำคือสิ่งที่ชำระล้างบาป อกุศลธรรมที่ได้ทำไว้ได้  แต่

พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระธรรมให้มหาชนมีความเข้าใจถูกว่าน้ำไม่สามารถชำระล้าง

กิเลสได้ แต่ปัญญา กุศลธรรมประการต่างๆเท่านั้นที่จะชำระล้างกิเลสที่สะสมมาจนหมด

สิ้นได้ ดังข้อความพระไตรปิฎกที่ว่า............................

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม 1 ภาค 1 -> หน้า 463

บทว่า สทา ผคฺคุ ได้แก่แม้งานนักษัตรประจำเดือน ที่มีเป็นประจำ ได้ยินว่า

พราหมณ์นั้นมีทิฏฐิอย่างนี้ว่าในเดือน 4 ผู้ใดอาบน้ำในวันข้างขึ้นเดือน 4 ผู้นั้นย่อมชำระ

บาปที่ตนกระทำตลอดปีได้เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงคัดค้าน

ทิฏฐิของพราหมณ์นั้นจึงตรัสว่าสำหรับผู้บริสุทธิ์แล้วเดือน  ๔  มีอยู่ทุกเมื่อสำหรับผู้หมด

กิเลสแล้วนักษัตรประจำเดือน 4 มีประจำห้วงน้ำนอกนี้ จักชำระล้างได้อย่างไรดังนี้.................

น้ำในพระธรรมวินัยของพระอริยเจ้าที่เป็นความเห็นถูกก็อย่างหนึ่งน้ำตามความ

เข้าใจของปุถุชนผู้ไมได้สดับ ไมได้ฟังอีกอย่างหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงแสดงความจริงที่

เป็นสัจจะให้ผู้ที่มีความเห็นผิด ได้มีความเห็นถูกในความเข้าใจเรื่องการละกิเลส การดับ

กิเลสว่าน้ำไม่ใช่เหตุให้ละกิเลสได้ หากเธอจะอาบน้ำเพื่อละกิเลส เธอจงอาบน้ำนี้ซึ่ง

สามารถละกิเลสได้น้ำที่พระองค์ทรงแสดงจึงไม่ใช่น้ำที่เราเข้าใจกันแต่เป็นน้ำคือ.....................................

อริยมรรคที่มีความเห็นถูกเป็นหัวหน้า ให้เข้าใจความจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมที่ไม่เที่ยง

และไม่ใช่เรา นี่คือน้ำในพระธรรมวินัยที่จะชำระล้างกิเลสที่สะสมมาที่เป็นความไม่รู้ ไม่รู้

ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ปัญญาเท่านั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกิเลส ไม่ใช่น้ำที่จะชำระล้างกิเลส

ได้พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม 1 ภาค 1 -> หน้าที่ 464

บทว่า อิเธว สินาหิ ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเธอจง

อาบน้ำในศาสนาของเราตถาคตนี้แล

ท่านกล่าวอธิบายไว้อีกว่า ถ้าเธอปรารถนาจะล้างมลทิน คือ{กิเลส}ภายในไซร้  

จงอาบด้วยน้ำคือมรรคมีองค์ ๘ ในศาสนาของเราตถาคตนี้นั่นแล. เพราะว่าในที่อื่น

น้ำคือมรรคมีองค์ ๘ เช่นนี้ไม่มีดังนี้...................................


.....................ไว้จะมาลงรายละเอียดต่อน่ะจ๊ะ....................



เมตตาเป็นสภาพธรรมที่ตรงข้ามกับโทสะ

ขณะที่ขุ่นเคืองใจ

ถ้าสติและปัญญาเกิดจะเห็นโทษของความโกรธ

จะเกิดเมตตาบุคคลที่ท่านกำลังขุ่นเคืองใจ

นี่เป็นหนทางที่จะระงับจิตใจให้สงบขึ้น

เพราะถ้าวันหนึ่ง ๆ เต็มไปด้วย โลภ โกรธ หลง ไม่สงบเลยทั้งวัน

ขณะใดที่ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ก็สงบขึ้น

นี่คือสมถภาวนาในชีวิตประจำวัน





http://facebook.com/itsariyathanakorn

http://twitter.com/sok45

http://forums.212cafe.com/boxser/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 เมษายน 2554 12:24:43 โดย 時々sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 10.0.648.204 Chrome 10.0.648.204


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 เมษายน 2554 23:21:55 »

ฮ่า ๆ ๆ ๆ

ไอ้รถที่จารย์ถ่ายมา

แถวบ้านผมเรียกรถขังหมา

มันเหมือนรถที่เค้าจับหมาจรจัดไปใส่

ต่างกันที่หมาที่เข้าไป เป็นหมานักเลง หมาขี้เหล้า หมาขี้ยา

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: สงการานต์ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.4 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 19 กุมภาพันธ์ 2567 19:38:54