[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 21:11:29 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

สุขใจในธรรม
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน


.:::

หลวงพ่อพระมหาผ่อง สะมะเลิก วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

:::.
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อพระมหาผ่อง สะมะเลิก วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว  (อ่าน 1377 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2303


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 24 มกราคม 2560 15:05:52 »




หลวงพ่อพระมหาผ่อง สะมะเลิก
พระสังฆราชแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์

วันพุธที่ 7 ต.ค.2558 เวลา 17.11 น. หลวงพ่อพระมหาผ่อง สะมะเลิก พระสังฆราชแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์ ประธานองค์การพุทธศาสนสัมพันธ์ สปป.ลาว ละสังขารอย่างสงบ

ภายหลังอาพาธและเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลมโหสถ ในกรุงเวียงจันทน์ สิริอายุ 100 ปี 6 เดือน พรรษา 81

พระมหาผ่อง เป็นพระเถระ 2 แผ่นดิน หรือ 2 ฝั่งโขง ด้วยเกิดที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2459

อายุ 14 ปี ย้ายจากบ้านเดิมไปอยู่บ้านโพนทอง เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก ประเทศลาว

อายุครบ 20 ปี กลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ศรี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นวัดโพธิ์สระประทุม) บ้านกุศกร ต.กุศกร อ.ตระการพืชผล จ.อุบล ราชธานี เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2479 โดยมีพระฤทธิ์ หรือพระครูโสภิตพิริยคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ชู พระอาจารย์สวน พระอาจารย์พูน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และอนุสาวนาจารย์ ตามลำดับ (สำนวนล้านช้างคือพระอาจารย์สูตร) พร้อมด้วยพระสงฆ์อีก 41 รูป

ภายหลังอุปสมบท อยู่จำพรรษาที่วัดบุรีรัตน์ บ้านกุงน้อย อ.ตระการพืชผล เป็นเวลา 6 เดือน เมื่อถึงวันที่ 8 เม.ย.2480 ย้ายไปศึกษาอยู่ที่วัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อครั้งที่พระสุเมธมุนี (ลับ สังกิจโจ) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม

เนื่องจากญาติพี่น้องสำทับว่า หากไม่ได้เป็นมหาเปรียญ อย่าได้กลับ จ.อุบลราชธานี ท่านจึงทุ่มเทเรียนปริยัติธรรมที่วัดชนะสงครามอย่างเต็มที่ สอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค เข้ารับพระราชทานพัดเปรียญจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ในปี พ.ศ.2489

นอกจากนี้ พระมหาผ่อง เคยเรียนบาลีชั้นประโยค ป.ธ.5 ร่วมห้องเรียนเดียวกับ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นสหธรรมิกที่มีความสนิทสนม

ภายหลังเรียนจบชั้นเปรียญธรรม 6 ประโยค ทำหน้าที่สอนพระปริยัติธรรมที่วัดชนะสงคราม 6 ปี รวมเวลาที่เป็นนักเรียนและครูที่วัดชนะสงคราม 16 ปี หลังจากนั้นเข้าร่วมขบวนปลดปล่อยประเทศลาวอย่างเต็มตัว และอยู่ฝั่ง สปป.ลาว นับแต่ปี พ.ศ.2495 เป็นต้นมา

ก่อนที่จะเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ลาว ท่านได้เคลื่อนไหวร่วมกับเสรีไทยช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา เพื่อต่อต้านการยึดครองของญี่ปุ่น ต่อมาเดินทางไปภาคอีสาน พบกับเจ้าเพชรราช มหาเสนาบดีลาว (วีรบุรุษของลาว ผู้จัดตั้งรัฐบาลลาวอิสระปลดแอกจากการปกครองของฝรั่งเศส) เมื่อปี พ.ศ.2489 ในช่วงนั้นได้พบกับโฮจิมินห์ หรือประธานโฮ ตอนนั้นพระมหาผ่องอายุ 35-36 ปี

พ.ศ.2495 กลับไปจำพรรษาที่วัดหลวงปากเซ เขตประเทศลาว จนกระทั่ง พ.ศ.2498 ได้รับอาราธนาให้ไปสอนหนังสือที่วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์

พ.ศ.2500 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะเมืองโพนทอง ครั้นถึงปี พ.ศ.2515 ได้เลื่อนเป็นเจ้าคณะแขวงจำปาสัก

พ.ศ.2519 ดำรงตำแหน่งรองประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว ประจำ ณ วัดพระเจ้าองค์ตื้อ นครหลวงเวียงจันทน์ ณ ที่แห่งนั้น ท่านได้สร้างผลงานโดดเด่นขึ้นมาในโลกพระพุทธศาสนา คือการประสานงานรอมชอมพระสงฆ์ 2 นิกาย อันได้แก่ มหานิกายและธรรมยุติกนิกาย ซึ่งแตกแยกมานานนั้นให้สมานฉันท์ ยินยอมพร้อมใจกันรวมนิกายเข้าเป็นหนึ่งเดียว รวมทั้งยุบเลิกสมณศักดิ์และตำแหน่งทั้งปวง พระสงฆ์ลาวทั้งสองนิกายพร้อมใจกันทำสังฆสามัคคีอุโบสถ ณ นครหลวงเวียงจันทน์ ในวันแรม 3 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก (ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 1 มิ.ย.2523) ณ บัดนี้ ไม่มีนิกายสงฆ์ในลาวอีกต่อไปแล้ว มีแต่พระสงฆ์ลาวเท่านั้น

พ.ศ.2553 ญาท่านพระมหาวิจิตร วีรญาโณ (สิงหะราช) ประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว รูปที่ 3 ได้ถึงแก่มรณภาพพระมหาผ่องจึงได้รับการยกย่องขึ้นดำรงตำแหน่งประธานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว เป็นรูปที่ 4 ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวเทียบเท่ากับตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชของไทย

พระมหาผ่องเดินทางมาประเทศไทยเป็นนิจ เพื่อกิจการคณะสงฆ์สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณะสงฆ์ไทยกับคณะสงฆ์ลาว มีความสัมพันธ์ทางด้านการปกครอง-การศึกษา-การเผยแผ่ด้วยดีเสมอมา ส่งพระภิกษุสามเณรเข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ ไทย ทั้งมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก จบการศึกษาแล้วกลับไปพัฒนาบุคลากรชาวลาวต่อไป


อริยะโลกที่ 6

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
หลวงพ่อพระมหาผ่อง สมาเลิก
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
ใบบุญ 0 1540 กระทู้ล่าสุด 18 ตุลาคม 2558 07:31:08
โดย ใบบุญ
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.257 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 20 มีนาคม 2567 06:40:45