"พุทธทาสจักอยู่ไปไม่มีตาย"

"พุทธทาสจักอยู่ไปไม่มีตาย"

มองนอก ... ดูใน
ประจำวันที่ ๑๗ พฤาภาคม ๔๙
พุทธทาสจักอยู่ไปไม่มีตาย

เมื่อบ่ายวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา พระพรหมมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) ได้เมตตามาเยี่ยมเยียน...การก้าวย่างแห่งการเรียนรู้สู่ปีที่ 20 ของเสถียรธรรมสถาน...โดยมาเป็นประธานในการอัญเชิญประติมากรรม “นั่งร่วมด้วยช่วยชี้แจง”ของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ โดยฝีมือของอาจารย์ประเทือง ธรรมรักษ์ มาประดิษฐาน ณ สวนศิลป์-สวนธรรม บริเวณลานโรงเรียนพ่อแม่

ในวาระนี้พระพรหมมังคลาจารย์ได้เมตตาแสดงธรรมเกี่ยวกับท่านอาจารย์พุทธทาสไว้ในฐานะสหายทางธรรม แม้จะเป็นการแสดงธรรมเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ทว่าจะสดอยู่ในความทรงจำของผู้ที่มีโอกาสได้เข้าฟังในครั้งนี้...

“ชีวิตของท่านเรียกได้ว่าทำแต่ประโยชน์เท่านั้น เป็นพระที่เกิดมาเพื่อฟื้นฟูหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ชาวโลกได้เกิดปัญญา เกิดความรู้ความเข้าใจ ไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่เลื่อมใส แม้องค์การยูเนสโกก็เห็นความสำคัญของท่าน จึงได้ยกย่องว่าเป็นพระชั้นเลิศ ในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ จะจัดงานฉลองให้ท่าน...ทุกประเทศก็ว่าได้ เมืองไทยก็ฉลองทุกแห่ง

อาตมาก็เข้าไปช่วยเหลือ พิมพ์หนังสือที่ยังไม่เคยพิมพ์ แจกจ่ายให้คนได้อ่าน ได้ศึกษากันต่อไป ชีวิตของท่านคืองาน งานคือชีวิตของท่าน ท่านอยู่กับงานตลอดเวลา ชีวิตของท่านพุทธทาสยู่กับงานตลอดเวลา ท่านจึงได้แต่งเพลง...พุทธทาส ไม่ตาย ตายแต่เพียงร่างกาย แต่ว่าคุณงามความดี หลักธรรมที่สอนไว้ ไม่ได้ตายไปไหน ยังอยู่ตลอด ไปขุดคุ้ยขึ้นมาศึกษาเล่าเรียน ก็เหมือนได้นั่งคุยกับท่าน ได้อ่านทำความเข้าใจ...คนที่อยู่ในสวนนี้ วันไหนได้หนังสือท่านพุทธทาสมานั่งอ่านตรงลานธรรม อ่านแล้วคิด คิดแล้วอ่าน ถ้าไม่เข้าใจก็จะรู้เอง เพราะท่านค่อยชี้ชวนบอกให้เราเข้าใจในเรื่องที่เราไม่เข้าใจ ถ้าใครไปหา ขออะไรแปลก ๆ ท่านไม่ให้ มีคนคนหนึ่งมาขอหวย

ท่านก็บอกไปว่าถ้าเรื่องหวยให้ไปถามสมภาร พอคนคนนั้นถามว่าสมภารอยู่ไหน ท่านก็ว่านอนอยู่นั่น...นอนอยู่นั่น...หมานั่นเอง ไอ้เจ้านั่นหายไปเลย...ถ้าไปถามเรื่องไสยศาสตร์ ท่านก็บอกว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนเรื่องอย่างนี้ สอนเรื่องวิธีแห่งการพ้นทุกข์...เมื่อไม่ถาม ก็ไม่บอก ถ้าบอกว่าไปเที่ยว ท่านไม่หยุดคุยด้วย ท่านก็นั่งเฉย แต่พอบอกว่าไปศึกษาธรรมะ ท่านก็พูดสนทนา เที่ยงคืนดึกดื่นก็ได้ ไม่เบื่อไม่หน่ายในการสอนการอบรม เพราะ ชีวิตของท่านเป็นธรรมะ ธรรมะเป็นชีวิตของท่าน ท่านทำอะไรที่ไหน ก็เอาธรรมะไปด้วย ท่านเดินไปด้วยธรรมะ นั่งด้วยธรรมะ นอนด้วยธรรมะ พูดจาเป็นธรรมะ ใครอยู่ใกล้ก็ได้เห็นธรรมะจากสิ่งที่ปรากฏออกมา...

นี่คือชีวิตของท่านพุทธทาส ท่านได้ทำสิ่งอันประเสริฐซึ่งเราทั้งหลายควรภูมิใจว่า...พระองค์นี้เป็นพระชั้นหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง ควรจะเคารพบูชา แล้วชวนกันทำตามคำสอนที่ท่านสอนไว้ อย่าละเลยการปฏิบัติ อย่าเพิกเฉย อย่าไปไหว้รูปว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะรูปท่านไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์อะไร ธรรมะก็เป็นเครื่องเตือนจิตสะกิดใจให้รู้ว่าท่านเป็นพระผู้นำชีวิตของชาวโลก เรามานั่งใกล้ก็เหมือนคอยศึกษาธรรมให้เกิดปัญญา เกิดความรู้ความเข้าใจ นึกถึงท่านเมื่อไรก็นึกถึงพระธรรม นึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วถามตัวเราเองว่า เรามีธรรมะขนาดไหน เราประพฤติดี ประพฤติชอบขนาดไหน ถ้าไม่ได้ประพฤติธรรม เขาเรียกเสียชาติที่ได้เกิดมาเป็นไทย เป็นมนุษย์ พบอาวุธศาตราไม่ได้เรื่องอะไร ต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ทำตนให้สมกับเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง จึงจะเป็นความถูกชอบ

ขอพี่น้องทั้งหลายช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันปฏิบัติตามแนวทางอย่างนี้ เท่ากับว่าไม่ทำให้ท่านตาย ท่านยังอยู่กับพวกเราต่อไป เราไปไหนก็พาท่านไปด้วย พาไปบอกใคร ๆ ว่า...ท่านพุทธทาส ยังอยู่ อยู่ในโลก อยู่ทุกหนทุกแห่ง ที่เราคิดถึงและปฏิบัติตาม แต่ถ้าเราไม่คิดถึง ไม่ปฏิบัติตาม ก็เรียกว่าท่านตายหมด ถ้าท่านตาย โลกก็จะมืดมน ไม่มีแสงสว่าง เดี๋ยวนี้โลกมันก็มืดพออยู่แล้ว”…

ฉะนั้น หากต้องการให้โลกนี้เป็นสุขสงบสืบไป ก็คงจะถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนจะช่วยกันรักษาความสว่างที่ท่านพุทธทาส ทิ้งไว้ ให้อยู่กับพวกเราตลอดกาล
ธรรมสวัสดี

Credit by : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=1105497&month=06-2007&date=08&group=10&gblog=2
Pics by : Google

ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย
อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ