[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 16:31:26 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขันติบารมี  (อ่าน 1517 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1006


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 56.0.2924.87 Chrome 56.0.2924.87


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 มีนาคม 2560 13:15:11 »



ขันติบารมี

ขันติ ความอดทน เป็นบารมีอย่างพิเศษ คือเป็นผู้ที่สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนเองให้อยู่ในอำนาจเหตุผล เมื่อถูกกระทบด้วยสิ่งอันพึงปรารถนา หรือไม่พึงปรารถนา มีความมั่นคงหนักแน่น เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงสุด

งานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กน้อย หรืองานใหญ่ก็ตาม ที่สำเร็จขึ้นมาได้นอกจากจะอาศัยปัญญาเป็นตัวนำแล้ว ต้องอาศัยธรรมคือขันติเป็นพื้นฐาน ถ้าขาดขันติเสียแล้วจะไม่มีความสำเร็จได้เลย เพราะขันติเป็นธรรมสำหรับต่อต้านความท้อถอย ขับเคลื่อนให้เกิดความขยัน และทำให้เห็นอุปสรรคต่างๆ เป็นเครื่องท้าทายความสามารถ

จึงกล่าวได้ว่า ขันตินำความสำเร็จของงานทุกอย่างทั้งทางโลกและทางธรรมมาให้ พระพุทธองค์ตรัสว่ายกเว้นปัญญาแล้วเราสรรเสริญขันติเป็นคุณธรรมอย่างยิ่ง

ลักษณะของความอดทนที่ถูกต้อง มีความอดกลั้น เมื่อถูกคนพาลด่า ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน เมื่อเห็นอาการยั่วยุ ทำเหมือนกับว่าไม่ได้เห็น

เป็นผู้ไม่ดุร้าย คือ สามารถข่มความโกรธไว้ได้ ไม่ทำร้ายใครด้วยอำนาจแห่งความโกรธนั้น ผู้ที่โกรธง่ายแสดงว่ายังขาดความอดทน

มีใจเบิกบานแจ่มใสอยู่เป็นนิจ คือ ไม่โทษโชคชะตา หรือโทษใครๆ ทั้งนั้น พยายามอดทนทำงานทุกอย่างด้วยใจเบิกบาน บางคนขี้เกียจทำงาน บางคนขี้เกียจเรียนหนังสือ พอมีผู้ว่ากล่าวตักเตือนก็เฉยเสีย แล้วบอกว่าตนเองกำลังบำเพ็ญขันติบารมี อย่างนี้เป็นการเข้าใจผิด ตีความหมายของขันติผิดไป ขันติไม่ได้หมายถึงการตกอยู่ในสภาพใดก็ทนอยู่อย่างนั้น

ลักษณะสำคัญยิ่งของขันติ คือ อดทนถอนตัวหรือหลีกเลี่ยงความชั่วให้ได้ อดทนทำความดีต่อไป และอดทนรักษาใจไว้ไม่ให้เศร้าหมอง

ประเภทของความอดทน 3 ประการ คือ

ประการแรก อดทนต่อความยากลำบาก อดทนต่อทุกขเวทนาที่เกิดจากความเจ็บไข้ ซึ่งทำให้เสียเวลาทำงาน เสียเงิน เมื่อเกิดทุกขเวทนาควรใช้ความอดทน ไม่แสดงอาการทุรนทุราย ควรสร้างกำลังใจให้เข้มแข็ง โดยการพิจารณาถึงธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ควรพิจารณาเนืองๆ ถึงความแก่ ความเจ็บและความตายว่าเป็นของธรรมดา ไม่สามารถล่วงพ้นไปได้

ประการที่ 2 อดทนต่อความตรากตรำ หมายความว่า อดทนต่อความทุกข์ยากจากการทำงาน เพราะคนทุกคนจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะอาศัยอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ซึ่งผู้ที่จะได้สิ่งเหล่านี้มาเป็นเครื่องเลี้ยงชีวิต จะต้องขยันทำงาน

และการทำงาน ย่อมประสบปัญหาและอุปสรรค ความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากไม่มากก็น้อยเป็นธรรมดา ไม่ควรทอดทิ้งหรือท้อถอย ควรใช้ความอดทนเป็นเบื้องหน้า การงานที่ได้มุ่งหวังตั้งใจไว้ จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ประการที่ 3 อดทนต่อความเจ็บใจ หมายความว่า อดทน ต่อความโกรธที่จะมากระทบกระทั่ง เพราะทุกคนจะอยู่ลำพังเพียง ผู้เดียวไม่ได้ ต้องอาศัยการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ

การอยู่ร่วมกัน บางครั้งอาจมีความกระทบกระทั่งกัน ทะเลาะวิวาทกันบ้าง เพราะต่างมีกิเลสด้วยกันทั้งนั้น ถ้าหากฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งขาดความอดทนแล้ว ความทะเลาะวิวาทจะแผ่ขยายกว้างออกไป เกิดความแตกแยก เสื่อมเสียชื่อเสียง เสียหน้าที่การงาน

ความอดทนนี้ เป็นธรรมที่ทำให้ผู้ปฏิบัติมีความงดงาม ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิต


ขันติ คือ ความอดทนสะสมความดีอย่างพิเศษเป็นขันติบารมี เพื่อบรรลุจุดหมายอันสูงสุด เมื่อถูกกระทบกระทั่งด้วยสิ่งอันพึงปรารถนา หรือไม่พึงปรารถนา สามารถใช้สติปัญญาควบคุมตนเองให้อยู่ในอำนาจเหตุผล มีความหนักแน่นมั่นคง เหมือนแผ่นดินซึ่งไม่หวั่นไหว เมื่อมีคนทิ้งของสกปรก หรือของหอม ลงไป

ต้นหญ้าเป็นพืชเล็กๆ เพราะมีความทรหดจึงสามารถแพร่พันธุ์ขยายได้ฉันใด คนเราแม้มีความรู้ ความสามารถ และทรัพย์สมบัติ เพียงน้อยนิด แต่ถ้ามีความอดทนแล้ว ย่อมสามารถฝึกฝนอบรมตนให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ได้ฉันนั้น

พระพุทธองค์ตรัสว่า บุคคลอดทนต่อคำพูดของผู้สูงกว่าได้เพราะความกลัว อดทนถ้อยคำพูดของผู้เสมอกันได้ เพราะเหตุแห่งความดี ส่วนผู้ใดในโลกนี้อดทนต่อคำพูดของคนเลวกว่าได้ สัตบุรุษทั้งหลายกล่าวว่า มีความอดทนสูงสุด

วิธีฝึกความอดทน ให้คำนึงถึงความละอายและเกรงกลัวต่อบาป อดทนเพื่อยอมละเว้นความชั่ว และรักษาคุณธรรม ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลไว้มิให้เสื่อมเสีย

วิธีจัดการกับอารมณ์ที่มากระทบ ยกตัวอย่างเรื่องพระปุณณะ เดิมเป็นชาวสุนาปรันตะ เดินทางไปค้าขาย ระหว่างทางได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้ว เกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงออกบวช ครั้นบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติธรรมแต่ไม่ได้ผล เพราะไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ท่านคิดว่าภูมิอากาศที่บ้านเดิม เหมาะกับตัวท่านมากกว่า จึงทูลลาพระพุทธเจ้า

พระพุทธองค์รับสั่งถามว่า เธอแน่ใจหรือปุณณะ คนชาวสุนาปรันตะนั้นดุร้ายมากนัก ทั้งหยาบคายด้วย เธอจะทนได้หรือ

พระปุณณะ กราบทูลว่า อดทนได้ พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ปุณณะ ถ้าคนพวกนั้นเขาด่าเธอ เธอจะมีอุบายอย่างไร

พระปุณณะ กราบทูลว่า ข้าพระองค์จะคิดว่า เขาด่าก็ยังดีกว่าเขาตีต่อย พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ถ้าเขาตีต่อยเธอล่ะ ปุณณะ

พระปุณณะ กราบทูลว่า ยังดีกว่าเขาเอาก้อนดินขว้าง พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ถ้าเขาเอาก้อนดินขว้างล่ะ เธอจะมีอุบายอย่างไร

พระปุณณะ กราบทูลว่า ข้าพระองค์จะคิดว่ายังดีกว่าเขาเอาไม้มาตี พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ถ้าเขาเอาไม้มาตีล่ะ เธอจะมีอุบายอย่างไร

พระปุณณะ กราบทูลว่า ยังดีกว่าถูกแทงหรือฟันด้วยหอกดาบ พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ถ้าคนพวกนั้นเขาจะฆ่าเธอ ด้วยหอกด้วยดาบล่ะ

พระปุณณะ กราบทูลว่า ข้าพระองค์จะคิดว่า เป็นการดีเหมือนกัน พระเจ้าข้า

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ดีอย่างไรหรือ ปุณณะ

พระปุณณะ กราบทูลว่า คนบางคนที่คิดอยากตาย ต้องเสียเวลาแสวงหาศัสตราวุธมาฆ่าตัวเอง แต่ข้าพระองค์โชคดีที่ไม่ต้องเสียเวลาไปเที่ยวหาศัสตราวุธอย่างเขา

พระพุทธองค์ ตรัสว่า ดีมาก ปุณณะ เธอคิดได้ดีมาก ตกลงเราอนุญาตให้เธอไปพำนักทำความเพียร ที่ตำบลสุนาปรันตะได้

พระปุณณะกลับไปเมืองสุนาปรันตะแล้ว ตั้งใจทำความเพียรปฏิบัติธรรม มีความเจริญก้าวหน้า ในไม่ช้า ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

ผลดีของความอดทน คือ ทำให้กุศลธรรมทุกอย่างเจริญขึ้นได้ ทำให้เป็นคนมีเสน่ห์ เป็นที่รักของคนทั้งหลาย ตัดรากเหง้าแห่งความชั่วทั้งหลายได้ ทำให้อยู่เย็นเป็นสุข


พระศรีศาสนโมลี (สุทธิวัฒน์ ภูริญาโณ ป.ธ.9)
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.286 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 10 ชั่วโมงที่แล้ว