ความจนเป็นทุกข์

ความจนเป็นทุกข์

คนเรามีความแตกต่างกันทางด้านร่างกายและจิตใจ บางคนร่างกายแข็งแรง จิตใจเข้มแข็ง บางคนร่างกายอ่อนแอ จิตใจอ่อนไหว ที่เป็นเช่นนี้ เพราะบุญนำกรรมแต่งให้ดีและให้ชั่ว บางคนเกิดในตระกูลร่ำรวย มีสมบัติมากมาย แต่บางคนเกิดในตระกูลยากจน ไร้ทรัพย์

จนภายนอกไม่เท่าไร แต่อย่าจนภายในคือคุณธรรมความดี คนมีศีลธรรม คบหาคนดี ขยัน รู้จักเก็บ รู้จักใช้ ก็มีทรัพย์มาก

คนที่มีทรัพย์ภายในสมบูรณ์ ก็หาทรัพย์ภายนอกได้ไว ทรัพย์ภายในนี้ เป็นทรัพย์สำคัญและสามารถนำติดตัวไปในโลกหน้าได้ ใครมีสมบูรณ์ จัดว่า ไม่ยากจน

ทรัพย์ภายในคือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ สุตะ จาคะ และปัญญา เรียกว่าอริยทรัพย์

อริยทรัพย์นี้มีอยู่แก่ผู้ใด ผู้นั้นพระพุทธองค์ตรัสเรียกว่าเป็นคนไม่ยากจน

ความเชื่อ ท่านสอนให้เชื่อ 4 อย่าง คือ เชื่อกรรมและเชื่อผลของกรรม คนจะดีหรือชั่ว มีสุขหรือทุกข์ ก็เพราะการกระทำขอตนเอง คนที่เกิดมามีโรคมาก ยากจน ก็เพราะผลของกรรมที่ตนทำไว้ ทำอย่างไรก็ได้ผลเช่นนั้น หลีกเลี่ยงไม่ได้

เชื่อว่ากรรมเป็นสมบัติของสัตว์ทั้งหลาย ใครทำกรรมอย่างไรไว้ กรรมนั้นก็จะติดตามไปทุกภพทุกชาติ และเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้จริงด้วยพระองค์เอง เมื่อมีความเชื่อมั่นอย่างนี้แล้วก็สามารถจะทำคุณงามความดีให้แก่ตนและผู้อื่นได้อย่างแน่นอน

คนที่รักษาศีล 5 ได้ จะเป็นคนไม่ยากจน มีคนเคารพนับถือ และช่วยเหลือให้มีหน้าที่การงานมีทรัพย์สมบัติได้ ไม่ยากจน ด้วยเหตุนี้ ควรรักษาศีลไว้ให้มั่นคง จะได้เป็นที่พึ่งของตนและคนอื่นด้วย

คนที่มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ไม่กล้าทำชั่ว ทั้งต่อหน้าคนและลับหลังคน จัดเป็นเทวดาในมนุษย์ เพราะคนที่มีความละอายชั่วกลัวบาปนี้ จัดเป็นคนดีมีคุณธรรม น่าเคารพนับถือ เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้โดยสนิทใจ

คนที่สนใจในการฟัง ย่อมได้ความรู้ความเข้าใจถูกต้อง และย่อมได้ปัญญา ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า คนที่ไม่ประมาท มีความเห็นแจ้งชัด ฟังด้วยดี ย่อมได้ปัญญา

ความเสียสละให้ปันแก่ผู้อื่น การสละมี 2 อย่างคือ สละทรัพย์ สละกิเลสภายในใจ การสละทรัพย์ บางคนสละได้ยาก บางคนก็สละได้ง่าย เรื่องนี้อยู่ที่ปัญญาของคนที่สร้างสมมามากน้อยแตกต่างกัน การให้ชื่อว่าได้เปรียบ การไม่ให้จัดว่าเสียเปรียบ

คนที่มีปัญญาชื่อว่ามีแสงสว่างอยู่ในตัว เป็นแสงสว่างในโลก ดังพุทธภาษิตว่า ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก คนมีปัญญาย่อมมีศรัทธา รักษาศีล มีความละอาย ความเกรงกลัว ชอบฟัง ชอบเสียสละให้แก่ผู้อื่นได้ง่าย คนผู้มีปัญญามีความรู้ดี ทำถูกต้องต่อเหตุการณ์ย่อมหาทรัพย์ได้ เป็นที่พึ่งของตนและคนอื่นได้ เพราะผู้มีปัญญาความรู้ดี ย่อมทำตนให้พ้นจากทุกข์ และช่วยผู้อื่นให้ประสบสุขได้

คนมีปัญญาควรรีบแก้ไขตนเองให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม 7 ประการ คือ เชื่อในบุญบาป รักษากายวาจาให้เรียบร้อย ละอายต่อความชั่ว เกรงกลัวต่อผลของบาป สนใจฟังให้เกิดปัญญา เสียสละให้ปันแก่ผู้อื่น และรอบรู้ในกองสังขารให้เห็นว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์และไม่มีตัวตน

พระศรีศาสนโมลี (สุทธิวัฒน์ ภูริญาโณ ป.ธ.9) วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร