[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 19:53:02 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: the attitude about the death of the Muslim  (อ่าน 4650 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 25 เมษายน 2553 09:22:59 »



สัจธรรมข้อหนึ่งที่ทุกคนรู้ดี คือ ทุกชีวิตต้องลิ้มรสความตาย แต่ในศาสนาอิสลามนั้น ความตายมิได้เป็นการสิ้นสุดหรือจุดสุดท้ายของชีวิต
หากเป็นจุดเริ่มต้นที่จะก้าวไปสู่ชีวิตที่แท้จริงและเป็นนิรันดร์ อิสลามถือว่าชีวิตในโลกนี้คือการเตรียมตัวสำหรับชีวิตในโลกหน้าอันถาวร
ชาวมุสลิมเชื่อว่า เมื่อมนุษย์เสียชีวิตลง วิญญาณของทุกคนจะไปรวมตัวกันอยู่ในโลกหนึ่งที่เรียกว่า "บัรซัค" อันเป็นโลกที่คั่นกลางระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับการฝังอย่างถูกต้องหรือไม่ก็ตาม จนกระทั่งวันแห่งการสิ้นสุดมาถึง ทุกชีวิตจะถูกทำให้ฟื้นขึ้นเพื่อรอรับการตัดสินการกระทำต่างๆ ที่เขากระทำไว้ขณะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
เมื่อมนุษย์ถูกฝังอยู่ในสุสานหรืออยู่ในโลกของบัรซัค จะมีมาลาอีกะฮ์ (เทวฑูต) 2 ท่าน มาสอบสวนพฤติกรรมของผู้ตาย หากผู้ตายเป็นคนดี ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเคร่งครัด เขาก็จะตอบคำถามของมาลาอีกะฮ์เกี่ยวกับศรัทธาและบทบัญญัติต่างๆ ของศาสนาได้อย่างง่ายดาย หากผู้ตายเป็นคนชั่ว ก็จะหลงลืมคำตอบเสียสิ้น แม้จะเคยรู้คำตอบดีก็ตาม สำหรับผู้ที่ตอบคำถามได้ ระหว่างที่อยู่ในโลกบัรซัค เขาก็จะได้ความสุขสบายดุจอยู่ในสรวงสวรรค์ ส่วนผู้ที่ตอบคำถามไม่ได้ ก็จะถูกมาลาอิกะฮ์ลงทัณฑ์อย่างเจ็บปวดทรมาน




.............................ขั้นตอนพิธีศพ.............................



หลักการปฏิบัติต่อศพของผู้ตาย อันเป็นข้อบังคับที่ศาสนาอิสลามบัญญัติไว้มี 4 ประการ คือ
1) ต้องอาบน้ำให้
2) ต้องห่อศพให้
3) ต้องละหมาดให้
และ 4) ต้องนำศพไปฝัง ดังรายละเอียดต่อไปนี้................................................
1) การอาบน้ำศพ - หากผู้ตายเป็นชาย ผู้อาบน้ำให้ควรเป็นชาย หากผู้ตายเป็นหญิง ผู้อาบน้ำให้ควรเป็นหญิง ทั้งนี้ผู้อาบน้ำศพควรเป็นคนที่เชื่อถือได้
จุดประสงค์ของการอาบน้ำศพคือเพื่อให้ศพสะอาด วิธีการอาบ เริ่มด้วยการชำระล้างสิ่งสกปรก เอาน้ำรดทั่วร่างกาย จากนั้นจึงรดด้วยน้ำใบพุทราสลับกับน้ำสะอาด 3 ครั้ง แล้วใช้พิมเสนรดเป็นน้ำสุดท้าย โดยเริ่มจากด้านขวาก่อน จากนั้นจึงอาบน้ำละหมาดให้ผู้ตาย เสร็จแล้วเอาสำลีหรือผ้า
สะอาดซับน้ำให้แห้ง
2) การห่อศพ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ห่อศพผู้ตายโดยใช้ผ้าสะอาดอย่างน้อยหนึ่งผืนห่อให้มิดชิดตลอดทั้งร่างกาย แต่การห่อศพที่ดีนั้น ศพผู้ชายควรห่อด้วยผ้า 3 ชั้น ส่วนศพผู้หญิงควรห่อด้วยผ้า 5 ชั้น วิธีห่อศพ เริ่มจากปูผ้าลงไป แล้วเอาของหอม เช่น ผงไม้จันทน์ พิมเสน โรยลงบนผ้า เอาผ้าผืนที่สองทับ แล้วโรยของหอมอีกจนครบผ้าทุกชั้น จากนั้นจึงยกศพมาวางบนผ้าโดยให้นอนหงายเหยียดตรง เอามือทั้งสองข้างวางบนอก โดยให้มือขวาทับมือซ้าย เอาสำลีซึ่งคลุกด้วยของหอมแปะไว้ตามซอกหรือข้อพับของร่างกายและที่จมูก แล้วจึงพับผ้าห่อศพโดยตลบชายผ้าด้านซ้ายมาทางขวา และตลบชายผ้าด้านขวามาทางซ้ายทีละชั้น ๆ จนเสร็จ จึงรวบชายผ้าหัวท้ายผูกไว้ทั้ง 2 ด้าน และผู้ระหว่างตัว 2-3 เปลาะ เพื่อไม่ให้เปิดออกขณะนำไปฝัง

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2553 10:30:54 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 เมษายน 2553 09:28:59 »



3) การละหมาดศพ - อิหม่ามหรือผู้นำละหมาดควรเป็นญาติใกล้ชิดทางสายโลหิตของผู้ตาย วิธีการเริ่มจาก นำผู้ตายไปวางยังที่จะทำพิธีละหมาดญะนาซะห์ ศพ โดยวางศพตามขวางกับทิศอันเป็นที่ตั้งของเมืองมักกะฮ ประเทศซาอุดิอารเบีย ศพผู้ชายให้หันศีรษะไปทางทิศใต้ ศพผู้หญิงหันศีรษะไปทางทิศเหนือ ข้อบังคับในการละหมาดญะนาซะห์ มี 7 ประการ คือ (1) ยืนตรงหันหน้าไปทางศพ (2) ตักบีร คือกล่าวว่า อัลลอฮผู้ยิ่งใหญ่ ครั้งที่ 1 พร้อมเนียต ตั้งเจตนา (3) อ่านบิสมิ้ลลาและฟาติฮะห์จนจบ (4) ตักบรีครั้งที่ 2 แล้วอ่านซอละวัตนาบี คำสรรเสริญศาสดามุฮัมมัด (5) ตักบีรครั้งที่ 3
แล้วอ่านดูอา ขอพร (6) ตักบรีครั้งที่ 4 แล้วอ่านดุอาอีก (7) กล่าวสลาม เมื่อเสร็จพิธีละหมาดแล้วรีบนำศพไปฝังที่กุโบร์ สุสาน
4) การฝังศพ - การฝังนั้นต้องขุดหลุมให้ลึกพอที่จะระงับกลิ่นที่จะมีในภายหลัง และป้องกันสัตว์ร้ายมาคุ้ยเขี่ยศพ โดยปกติจะขุดหลุมลึกประมาณ 2 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร วิธีการฝัง ให้ญาติพี่น้องใกล้ชิดเป็นผู้นำศพลงหลุม โดยวางนอนตะแคงขวา หันหน้าไปทางทิศอันเป็นที่ตั้งของเมืองมักกะฮ
หลักการใหญ่ ๆ ของพิธีศพมี 4 ข้อดังกล่าวข้างต้นเท่านั้น แต่ในสังคมมุสลิมเองก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจหลักการใหญ่ๆ ของพิธีศพ ทำให้มีการปฏิบัติที่แตกต่างหลากหลาย มีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป
สำหรับการไปร่วมงานศพของคนต่างศาสนานั้น ชาวมุสลิมสามารถทำได้ในเงื่อนไขที่ว่า ไปเพื่อปลอบทุกข์หรือแสดงความเห็นใจแก่ครอบครัวหรือญาติของผู้ตาย แต่จะร่วมทำพิธีกรรมทางศาสนาไม่ได้




................................กรณีศพที่ไม่ได้เสียชีวิตตามปกติ........................



ที่กล่าวมีข้างต้นเป็นพิธีศพของศพที่เสียชีวิตตามปกติ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตที่ไม่ปกติขึ้น เช่น กรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มัสยิดกรือเซะ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 หรือกรณีผู้เสียชีวิต 85 ศพจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมประท้วงที่ตากใบเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน หรือกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มอันดามันเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ซึ่งกว่าจะพบศพ เวลาก็ล่วงเลยไปหลายวัน กรณีเหล่านี้นำไปสู่คำถามเกี่ยวกับหลักการพิธีศพของชาวมุสลิมในกรณีที่ศพไม่ได้เสียชีวิตตามปกติ
ผู้บรรยายกล่าวว่า ตามหลักศาสนาอิสลามไม่สามารถผ่าศพเพื่อชันสูตรได้ เพราะอิสลามถือว่าร่างอันไร้วิญญาณนั้นยังคงมีเกียรติยศแห่งความเป็นมนุษย์ อย่างสมบูรณ์อย่างไรก็ดี บางสำนักคิดในศาสนาอิสลามมีการอนุโลมในกรณีการผ่าศพสตรีมีครรภ์เพื่อช่วย ชีวิตทารก หรือผ่าศพเพื่อเอาทรัพย์สินคืนแก่เจ้าของ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงคุณประโยชน์จากการช่วยชีวิตทารกและปกป้องมิให้ทรัพย์สูญ เปล่า ซึ่งมีความสำคัญกว่าความเสื่อมเสียเกียรติแห่งความเป็นมนุษย์ของศพ ดังนั้น ในกรณีผู้เสียชีวิต 85 ศพจากเหตุการณ์ที่ตากใบ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดนั้น ผู้บรรยายเห็นว่า น่าจะอนุโลมให้มีการชันสูตรศพได้ เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2553 09:58:36 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 เมษายน 2553 09:34:20 »



ในช่วงท้ายของการบรรยาย มีการเปิดให้ผู้ฟังร่วมอภิปรายและแสดงความคิดเห็น ผู้ฟังท่านหนึ่งได้ถามเกี่ยวกับเรื่อง ชะฮีด
หรือการพลีชีพเพื่อศาสนา อันสืบเนื่องจากกรณีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์กรือเซะ และตากใบ ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิตหลายคนไม่ได้อาบน้ำศพให้ เพราะถือว่าเป็นการตาย ชะฮีด ในเรื่องนี้วิทยากรอธิบายว่า การตายชะฮีด หมายถึง การตายในการต่อสู้เพื่อแนวทางของพระเจ้า ตายในสนามรบเพื่อปกป้องศาสนาซึ่งตามหลักแล้วไม่ต้องอาบน้ำศพ เพราะถือว่าสะอาดแล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์กรือเซะนั้น
วิทยากรกล่าวว่า เป็นเรื่องที่นักวิชาการไม่กล้าตัดสิน ไม่กล้าฟันธงลงไปว่า คนเหล่านี้ตายในวิถีทางชะฮีดหรือไม่ เพราะแต่ละสำนักคิดในศาสนาอิสลามก็วินิจฉัยหรือตีความเรื่องนี้แตกต่างกัน



<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/01.%20Track%201.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/01.%20Track%201.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/01.%20Track%201.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>



credit from.......................http://av.sac.or.th/Subdetail/seminar/sum_of_seminar/seminar50.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2553 11:26:47 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
Of Death... ว่าด้วย ความตาย
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
เงาฝัน 15 25270 กระทู้ล่าสุด 11 มีนาคม 2553 14:50:39
โดย เงาฝัน
Beauty in Death แปลว่า อะไร ?
ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
時々๛कभी कभी๛ 0 2224 กระทู้ล่าสุด 05 กรกฎาคม 2554 14:07:56
โดย 時々๛कभी कभी๛
เตรียมตัวตาย...พุทธวิธีทิเบต ( Death & Dying...Tibetan Wisdom ) จาก สายใยพันดารา
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 3 6872 กระทู้ล่าสุด 14 สิงหาคม 2555 14:04:56
โดย เงาฝัน
Death Road ทางสายมรณะ - เส้นทางสายอันตรายที่สุดในโลก
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
ใบบุญ 0 194 กระทู้ล่าสุด 27 มีนาคม 2566 20:13:26
โดย ใบบุญ
Death Cleaning ทิ้งก่อนตาย ( พื้นที่ชีวิต )
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
มดเอ๊ก 0 293 กระทู้ล่าสุด 21 ธันวาคม 2566 13:00:20
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.29 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 01 มีนาคม 2567 13:38:48