[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 02:43:11 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กินอย่างไร? ไร้โรคา  (อ่าน 1242 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2303


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 มกราคม 2561 12:00:04 »




กินอย่างไร? ไร้โรคา


กินโยเกิร์ตก่อเกิด คนเอวเล็กเอวบาง
การรื้อรายงานผลการศึกษาที่แล้วมาด้วยกัน 22 เรื่อง ขึ้นมาทบทวนใหม่ ทำให้ได้ผลสรุปว่า ผู้ที่กินโยเกิร์ตเป็นประจำ จะมีน้ำหนักในร่างกายน้อย ไขมันในตัวลด และเอวเล็กเอวบาง แต่ก็ไม่พบข้อยืนยันว่าโยเกิร์ตเป็นสาเหตุโดยตรง

นักวิจัยของโรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่อังกฤษ ได้กล่าวว่า โยเกิร์ตมีสารประกอบด้วยสารอาหารรองหลายอย่าง ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ อย่างเช่นแคลเซียม ซึ่งเกี่ยวพันกับการเผาผลาญไขมัน โยเกิร์ตทำโดยการหมักดอง ดังนั้นการที่มันมีผลต่อความอ้วน จึงสงสัยกันว่า อาจเป็นมาจากฤทธิ์เดชของการหมักดอง

ผลของการศึกษาอีกเรื่องหนึ่งก็กล่าวว่า ผู้ที่กินโยเกิร์ตมักจะไม่ค่อยชอบอาหารพวกฟาสต์ฟู้ด มันฝรั่งทอด และอาหารทอดอื่นๆ รวมทั้งอาหารแปรรูป เนื้อแดง พิซซ่า เครื่องดื่มน้ำอัดลม หรือเหล้า ยา ส่วนผู้ที่ยังอยู่ในวัยฉกรรจ์ ก็มักจะเป็นคนคล่องแคล่วว่องไว และไม่ค่อยได้สูบบุหรี่.



ไวน์วันละแก้ว แคล้วสมองเสื่อม
นักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ที่เดนมาร์ก บอกแนะนำผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมว่า ให้ลองดื่มเหล้าไวน์วันละ 1 แก้ว จะสามารถบรรเทาโรคลง ไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิต เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่แตะเหล้าหรือดื่มจนเมาปกติ  เฉพาะในอังกฤษชาติเดียว มีผู้ป่วยมากประมาณ 850,000 คน โดยเฉพาะมีการคาดหมายไว้ว่า จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้น เกินกว่า 1,000,000 คน ในปี พ.ศ.2568 นี้

นักวิทยาศาสตร์ผู้ศึกษาได้เปิดเผยว่า ตัวการของเหล้าไวน์ที่ช่วยทำให้อาการผู้ป่วยเบาบางลงนั้น ไม่ใช่เพราะแอลกอฮอล์ หากเป็นเพราะการได้พูดคุยสนทนากับผู้คนคอเดียวกันในร้านเหล้า ช่วยให้สมองยังคงแข็งแรงดีอยู่

ทางด้านมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ได้ให้ความเห็นว่า ผลการศึกษานี้เป็นที่น่าสนใจ และเป็นหลักฐานยืนยันว่า การดื่มเพียงเล็กน้อยไม่ได้ให้โทษแก่สุขภาพอย่างใด และก็เห็นด้วยว่าตัวการอันแท้จริง ที่ช่วยเยียวยาโรคนั้น ไม่เชิงเป็นเพราะแอลกอฮอล์ เนื่องด้วยเคยมีหลักฐานอันแข็งแรงว่า การได้สนทนาพูดจากับผู้คนจะช่วยป้องกันสมองเสื่อมลงได้อย่างไรก็ดี วารสารการแพทย์อังกฤษได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ยังไม่สามารถที่จะสนับสนุนหรือคัดค้าน การดื่มเพียงสัณฐานประมาณของคนไข้



พริกบอกสมอง ให้ท้องรู้จักอิ่ม
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีลดความอ้วนแบบใหม่ โดยไม่ต้องไปยุ่งกับอาหารการกินโดยตรง หากแต่ใช้พริกเผ็ดๆ มาเป็นเครื่องมือเท่านั้นพวกเขาได้ศึกษาพบมาว่า การกินอาหารมันๆ จะไปทำให้ประสาทรับความรู้สึกที่กระเพาะว่าอิ่ม แล้วเกิดความขัดข้องขึ้นได้

ศาสตราจารย์อแมนดา เพจ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ ได้แจ้งว่า เมื่อเวลาเราอิ่ม พุงจะกาง ซึ่งจะไปกระตุ้นประสาทในกระเพาะ ให้รายงานกับร่างกายว่า กินพอแล้ว และไปค้นพบว่า สิ่งที่ไปกระตุ้นการควบคุมนี้ก็ได้แก่พริกที่มีรสเผ็ดๆนี่เอง.



กินเจห่างเหจากมะเร็งตับอ่อน
ผลการศึกษาค้นคว้าครั้งใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เปิดเผยว่า ผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติจะได้เปรียบกว่าผู้ที่กินอาหารธรรมดา โดยที่จะไม่ค่อยป่วยเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนและโรคระบบทางเดินหายใจ เพียงแต่ว่าผู้กินอาหารทั้งสองแบบมีอัตราการตายไม่ต่างกันมากเท่าไรนัก การศึกษาซึ่งทำจากรายงานทางแพทย์ของชาวอังกฤษ 60,310 คน ได้พบว่า ผู้ที่กินปลาเป็นหลักจะเป็นมะเร็งได้ยากกว่าคนที่กินอาหารปกติเกือบร้อยละ 20 และผู้กินเจจะไกลห่างจากโรคมะเร็งตับอ่อนกับมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้มากถึงร้อยละ 50  ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกได้เคยแนะนำให้ ประชาชนผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงต่ำให้บริโภคอาหารที่เป็นผักผลไม้มากขึ้น เพื่อป้องกันโรคหัวใจและมะเร็งบางแบบ.



กินผักใบเขียว ลดเสี่ยงโรคต้อหิน
การศึกษากับชาวอเมริกัน ที่เป็นผู้ใหญ่ จำนวน 1 แสนกว่าคน ได้พบความลับว่า ผู้ที่บริโภคผักสีเขียวอย่างเช่น ผักโขม ซึ่งเป็นแหล่งอุดมของไนเตรท จะไม่ค่อยเป็นโรคตาต้อหินตอนแก่น้อยกว่าผู้ที่ไม่ค่อยได้แตะกว่ากันร้อยละ 21

โรคต้อหินที่เป็นกับชาวสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ มากประมาณร้อยละ 1 จะเริ่มด้วยการที่การค่อยสูญเสียการเห็น เนื่องจากมีของเหลวขังอยู่ และประสาทตาเสื่อม เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงน้อยลง ผู้ที่กินผักใบเขียวจะช่วยป้องกันโรคนี้ได้ดีขึ้น เพราะไนเตรทจะแปลงเป็นไนเตรทออกไซด์ในตัวซึ่งช่วยให้เลือดลมดีขึ้น

จักษุแพทย์ชื่อดังได้อธิบายว่า ไนเตรทออกไซด์ เป็นสัญญาณสำคัญของการรักษาระดับการไหลเวียนของเลือด และจากหลักฐานบางอย่างให้เห็นความสำคัญของมันในการรักษาความกดดันในตาให้ต่ำ


เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน
ผู้ที่พยายามหลีกเลี่ยงข้าวเพราะกลัวอ้วน อาจจะแก้ได้ โดยไม่ต้องเปิดหนีเสียเลย หากใช้วิธีหุงแบบใหม่ที่สามารถที่จะลดปริมาณแคลอรีในข้าวให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งได้

นักวิทยาศาสตร์ของศรีลังกาพบว่า หากเอาน้ำมันมะพร้าวใส่ลงในหม้อสัก 2 ช้อนขณะหุง และเมื่อเอาขึ้นให้เก็บใส่ตู้เย็นไว้นาน 12 ชั่วโมง จะสามารถทิ้งปริมาณแคลอรีที่ร่างกายของเราอาจดูดซึมลงได้ตั้งครึ่ง เมื่อมาอุ่นทีหลังก็ไม่ทำให้ด้อยคุณภาพแต่อย่างใด

หัวหน้าคณะนักวิจัยจากวิทยาลัยเคมีศาสตร์ที่กรุงโคลัมโบ ทางภาคตะวันตกของประเทศศรีลังกา ได้กล่าวในการเสนอวิธีรีดปริมาณแคลอรีออกจากข้าว เพราะว่าความอ้วนกำลังเป็นปัญหาของสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตามชาติที่กำลังพัฒนา เราจึงที่จะต้องหาวิธีแก้เอาจากอาหารเป็นหลัก.


กินผลไม้สดทุกวัน ห่างไกลอัมพฤกษ์อัมพาต
การศึกษาจากชาวจีนที่เป็นผู้ใหญ่เรือนครึ่งล้าน มานาน 7 ปี ทำให้รู้ว่าผู้ที่กินผลไม้สดเกือบทุกวันแทบจะไม่ต้องกลัวโรคหัวใจวายและอัมพฤกษ์อัมพาตเลย แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้ เทียบกันแล้วจะรับประทานผลไม้สดน้อยกว่าชาวอังกฤษหรือสหรัฐฯ ก็ตาม

ผลไม้เป็นแหล่งอุดมของโพแทสเซียมกากใยอาหารและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และสารประกอบที่เป็นคุณอื่นๆ นอกจากนั้น ยังมีโซเดียมหรือไขมันต่ำด้วย

นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษได้กล่าวว่า คุณประโยชน์ของการบริโภคผลไม้ที่มีต่อการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด พิสูจน์ให้เห็นชัดจากการศึกษาครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ชาวจีนบริโภคผลไม้น้อยกว่ากันแต่ที่จะแตกต่างกันก็คือคนจีนโดยมากจะกินผลไม้กันสดๆ ในขณะที่ชาวตะวันตกจะกินผลไม้ทั้งสดและทั้งที่แปรรูป


กินถั่วกินงา ลดน้ำหนักได้ผล
การเอาอย่างฤๅษีชีไพรด้วยการกินอาหารพวกถั่วงา หรือไม้จำพวกฟัก เช่น ถั่ว กระถิน และทองหลาง เป็นต้น จะสามารถลดน้ำหนักตัวลงได้เล็กน้อยได้จริง

นักวิจัยได้ยืนยันการวิจัยของสถาบันของโรงพยาบาลเซนต์ไมเคิลที่กรุงโตรอนโต ประเทศแคนาดา ได้ศึกษาพิสูจน์เรื่องนี้ ได้พบว่าผู้ที่สามารถกินสิ่งเหล่านี้เป็นอาหารวันหนึ่งประมาณ 3 ใน 4 จะสามารถลดน้ำหนักได้มาก ประมาณ 3/4 ปอนด์ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้กิน ดร.รัสเซล เดอซูซา ได้บอกแนะนำว่า “อาหารที่เป็นไม้จำพวกผักเหล่านี้ เป็นที่รู้สึกกันดีหลายส่วนของโลกอยู่แล้ว นอกจากจะเป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยเส้นใยแล้ว ยังเป็นแหล่งของโปรตีนที่สำคัญอยู่ด้วย” การลดน้ำหนักเป็นของไม่ยาก แต่การที่จะขับมันให้พ้นตัวไปนั้น ยากกว่าหลายเท่านัก.


มะม่วง ต้านมะเร็ง-บำรุงไส้
มะม่วงได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งยิ่งมีสรรพคุณต่อต้านโรคอ้วน โรคมะเร็ง การอักเสบและบำรุงสุขภาพของลำไส้อีกด้วย รายงานผลวิจัยใหม่เมื่อไม่กี่วันมานี้ รายงานต่อที่ประชุมได้กล่าวว่า มะม่วงยังเป็นผลไม้ที่ให้คุณ ช่วยลดโทษภัยของการกินของมันๆ และความอ้วน ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ไขมัน นอกจากนั้นยังพบในการทดลองกับสัตว์ว่าช่วยขัดขวางการลุกลามของมะเร็งเต้านม กับช่วยป้องกันท้องผูกอีกด้วย  ผู้อำนวยการของคณะกรรมการมะม่วงแห่งชาติที่อินเดียได้เสริมว่า มีสำนักศึกษาหลายแห่งที่ศึกษาพบว่าการบริโภคมะม่วงจะช่วยป้องกันความอ้วน มะเร็งบางชนิดได้และการอักเสบได้.


"เห็ดขี้ควาย"แก้ซึมเศร้าเคล้าวิตกกังวล
เห็ดขี้ควาย ซึ่งเป็นสิ่งเสพติดให้โทษชนิดหนึ่ง ถูกพบว่าสารพิษซิโลไซบิน ที่มีอยู่ สามารถใช้รักษาบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งไม่อาจรักษาให้หายได้ ในผู้ป่วย 8 คน ที่ทดลองพบว่า มีผู้ป่วยที่รักษาหายมาได้นาน 3 เดือนแล้วถึง 5 คน  นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังบอกเตือนว่า ผลการรักษาทำให้เกิดความหวังและควรจะให้มีการทดลองในขนาดที่ใหญ่กว่านี้

องค์การอนามัยโลกเคยประมาณไว้ว่า มีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทั่วโลกมากถึง 350 ล้านคน เป็นอาการที่เกิดขึ้นของผู้ที่สูญเสียคนรัก ผู้ที่รู้สึกผิดหวัง อาการนี้ทำให้นอนไม่ค่อยหลับ เบื่ออาหาร ไร้สมาธิ ในการบำบัดรักษา ปรากฏผลว่า มีอยู่ประมาณร้อยละ 20 ที่ไม่หาย บ่อยครั้งมักเกิดอาการข้างเคียงกับผู้ป่วยได้  สำหรับเมืองไทยเรายังถือว่าเป็นพืชชนิดหนึ่งที่จัดเป็นสิ่งเสพติดให้โทษ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 และฉบับแก้ไข  ปี พ.ศ.2532 จัดให้เห็ดขี้ควายเป็นสารเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทคล้ายกับพืชกระท่อม.


เม็ดมะม่วงหิมพานต์ช่วยต้านมะเร็ง
แนะนำผู้ชายให้นิยมบริโภคถั่วต่างๆ ตั้งแต่ถั่วอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วพิสตาชิโอ และเม็ดวอลนัท จะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาพิษภัยของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก อันเป็นโรคมะเร็งที่ผู้ชายทั่วไปเป็นกันมาก อันดับ 2 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลหญิง เมืองบอสตัน ของอเมริกา กล่าวว่า โรคมะเร็งของต่อมลูกหมาก ต้องถือว่าเป็นโรคร้ายแรงโรคหนึ่ง เพราะมีผู้ชายป่วยด้วยโรคนี้กันมากขึ้นทางโรงพยาบาลได้ทำการทดลองในเรื่องนี้ โดยให้คนไข้บริโภคถั่วอาทิตย์หนึ่งไม่ต่ำกว่า 5 มื้อ เมื่อนำไปเทียบเคียงผลกับผู้ป่วยที่ไม่ได้เป็น ปรากฏว่ามันช่วยให้ผู้ป่วยที่กินถั่วได้หนีห่างกับการเสียชีวิตลงถึงร้อยละ 34  แพทย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า เพียงแต่กินถั่วปริมาณสัก 1 ใน 3 ของถ้วยทุกวัน จะให้ผลดีอย่างยิ่ง ถั่วที่กิน 3 ชนิด ยังจะช่วยให้อาการดื้ออินซูลิน และความเสี่ยงกับโรคเบาหวาน และโรคหัวหัวใจลดน้อยถอยลงอีกด้วย เนื่องจากถั่วเหล่านี้ ล้วนแต่มีสารอาหาร อย่างเช่น ไขมันที่เป็นโปรตีนคุณภาพสูง ตลอดจนวิตามิน เกลือแร่ แต่ละอย่างล้วนแต่มีสรรพคุณป้องกันโรคหัวใจ ต่อต้านโรคมะเร็ง และมีคุณสมบัติต่อต้านของการอักเสบอย่างอื่น.

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
กินอย่างไร แก่แล้วจะได้ไม่ลืม
สุขใจ อนามัย
sati 2 2498 กระทู้ล่าสุด 03 มกราคม 2554 18:10:26
โดย หมีงงในพงหญ้า
กินอย่างไร-ไร้โรคภัย
สุขใจ อนามัย
Kimleng 6 3265 กระทู้ล่าสุด 26 กันยายน 2555 20:05:48
โดย Kimleng
กินอย่างไร ช่วงอาหารแพง
สุขใจ จิบกาแฟ
Compatable 0 1749 กระทู้ล่าสุด 27 พฤศจิกายน 2555 03:01:51
โดย Compatable
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.377 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 18 มีนาคม 2567 23:52:02