[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
25 เมษายน 2567 11:06:05 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แนวทางเจริญวิปัสนาเรื่อง{ความง่วง}จากมูลนิธิบ้านธรรมะ  (อ่าน 1335 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 11.0.696.65 Chrome 11.0.696.65


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 พฤษภาคม 2554 14:13:25 »





๑. ทําสัญญาให้มาก(เช่น ภาวนาพุทโธอยู่ ให้รัวเร่งคําภาวนา)

๒. คิดถึงธรรมะที่ได้เรียนไปแล้วให้มาก

๓. ให้สาธยายธรรม(อ่านธรรมะออกเสียง)

๔. เคะหู เอามือลูบตามตัว

๕. ล้างหน้า แหงนดูดาว

๖. กําหนดความสว่างไว้ในใจ(ข้อนี้ใช่การใช้กสิณหรือไม่)

๗. เดินจงกรม

๘. นอนตะแคงขวา เท้าทั้งสองซ้อนเหลือม




เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไรอยู่ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้เธอพึงทำไว้ในใจซึ่ง

สัญญานั้นให้มากข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้  

สัญญาหรือความจำที่ทำให้ง่วงต้องเป็นสัญญาเจตสิก(เกิดกับจิตทุกดวงที่เกิดกับ

อกุศลจิต มีมิทธะเจตสิก อันหมายถึงความโงกง่วงดังนั้นกุศลธรรมจะง่วงไมได้เลย

เพราะฉะนั้นต้องเป็นอกุศลสัญญา ที่เกิดพร้อมกับจิตที่เป็นอกุศลสัญญาใดที่ทำให้

ง่วง คือสัญญาที่เป็นไปกับอกุศลจิตมี{ถีนมิทธะ}แต่สัญญาใด หรือสิ่งใดที่จำแล้วไม่ทำ

ให้ง่วง พึงระลึกถึงสัญญานั้นที่ไม่ทำให้ง่วงก็จะละความง่วงได้ สัญญาเจตสิกเกิดกับจิต

ทุกดวง ดังนั้นต้องเป็นสัญญาความจำที่ไม่ใช่เกิดกับจิตที่เป็นอกุศล เพราะพระพุทธเจ้า

ย่อมไม่ให้จำเป็นไปในอกุศล ดังนั้นความจำทีเป็นประโยชน์เป็นสิ่งที่ดีคือ อนิจจสัญญา

ความจำหมายด้วยความไม่เที่ยง อนัตตสัญญา ความจำหมายว่าไม่ใช่สัตว์บุคคล มรณ

สัญญา ความจำหมายระลึกถึงความตายขณะนั้นจิตเป็นกุศลเมื่อนึกถึงสัญญานั้นอัน

ประกอบด้วยปัญญา ย่อมไม่ง่วงในขณะนั้นดังนั้นสัญญาจึงไม่ใช่เรื่องการท่องสวด

แต่เป้นสัญญา ความจำทีเป็นกุศล มีอนิจจสัญา เป็นต้น




ถ้าเธอยังละไม่ได้แต่นั้นเธอถึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้สดับ

แล้วได้เรียนมาแล้วด้วยใจข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

เมื่อยังละความง่วงไมได้ก็ให้พิจารณาไตร่ตรองธรรมที่ได้เรียนมาแล้วที่ได้ทรงจำ

ไว้ขณะที่พิจารณาไตร่ตรองในธรรมที่ถูกต้องจิตเป็นกุศลย่อมไม่เป็นถีนมิทธะ

จึงไม่ง่วงในขณะนั้น

3.ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้สดับมาแล้วได้เรียนมา

แล้วโดยพิสดารข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

ถ้ายังละความง่วงไมได้ก็สาธยายธรรม คือ ธรรมใดที่จำได้ก็ท่องธรรมสวดธรรมนั้น

ตามที่ทรงจำได้ อันประกอบด้วยความเข้าใจธรรมตามที่ได้เรียนและทรงจำมา

4.ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัวข้อนี้จะเป็น

เหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ถ้ายังละไม่ได้ข้อนี้เป็นที่เข้าใจ

ซึ่งไมไ่ด้หมายเอามือเคาะหู แต่หมายถึงเอานิ้วยอน แหย่เข้าไปในช่องหูแต่ไม่ได้ลึกนะ

5.ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงลุกขึ้นยืนเอาน้ำล้างตาเหลียวดูทิศทั้งหลาย

แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

ถ้ายังง่วงอยู่ก็เอาน้ำล้างหน้าล้างตาและก็ดูดาวเป็นต้น

6.ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงทำในใจถึงอาโลกสัญญาตั้งความสำคัญในกลางวัน

ว่ากลางวันอย่างไรกลางคืนอย่างนั้นกลางคืนอย่างไรกลางวันอย่างนั้น

เป็นอาโลกกสิณ อันเป็นการเจริญฌาน กำหนดแสงสว่างได้ จิตขณะนั้นเป็น

กุศลและปราศจาก{นิวรณ์} ก็ย่อมละความง่วงได้

7.ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงอธิษฐานจงกรมกำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา

สำรวมอินทรีย์มีใจไม่เปิดไปให้ภายนอก

เป็นการเดินจงกรมแต่ต้องเดินด้วยการสำรวมอินทรีย์คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย

และใจด้วย{สติและสัมปชัญญะ}ด้วยจิตที่เป็นกุศลในขณะนั้น

8.ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงสำเร็จสีหไสยาสคือนอนตะแคงเบื้องหน้าขวา

ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญยะทำความหมายในการนอนความสุขในการ

เอนข้างความสุขในการเคลิ้มหลับ

ถ้ายังละความง่วงไม่ได้ก็ต้องนอนแต่นอนด้วยหวังว่าจะตื่น เพื่ออบรมปัญญาต่อ

เพราะรู้ว่าเป็นการพักให้หายง่วงเท่านั้นเพราะกิจคืออบรมปัญญาต่อนั่นเองจึงมี

สติและสัมปชัญญะอยู่กำหนดหมายที่จะลุกขึ้นเพื่ออบรมปัญญาต่อไปดังนั้นการ

พักของท่านคือพักเพื่อให้หายง่วงและก็อบรมปัญญาต่อไปเมื่อตื่นขึ้นแล้ว




รัก๘.โมคคัลลนสูตร รัก



พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนอาสนะ

ที่ปูลาดแล้วครั้นแล้วได้ตรัสถามทานพระมหาโมคคัลลานะว่า

ดูก่อนโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือก่อนโมคคัลลานะเธอง่วงหรือ

ท่านพระมหาโมคคัลลานะกราบทูลว่าอย่างนั้น พระเจ้าข้า

ดูก่อนโมคคัลลานะเพราะเหตุนั้นแหละเมื่อเธอมีสัญญา

อย่างไรอยู่ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้เธอพึงทำไว้ในใจซึ่ง

สัญญานั้นให้มากข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ถ้า

เธอยังละไม่ได้ แต่นั้นเธอถึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตน

ได้สดับแล้วได้เรียนมาแล้วด้วยใจข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความ

ง่วงนั้นได้ ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้

สดับมาแล้วได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอ

ละความง่วงนั้นได้ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง

เอามือลูบตัวข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ถ้ายังละ

ไม่ได้แต่นั้นเธอพึงลุกขึ้นยืนเอาน้ำล้างตาเหลียวดูทิศทั้งหลาย

แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงทำในใจถึงอาโลกสัญญา ตั้งความ

สำคัญในกลางวันว่า กลางวันอย่างไรกลางคืนอย่างนั้นกลางคืน

อย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ

ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิดข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วง

นั้นได้ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึงอธิษฐานจงกรมกำหนดหมาย

เดินกลับไปกลับมาสำรวมอินทรีย์มีใจไม่เปิดไปให้ภายนอกข้อนี้

จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้ถ้ายังละไม่ได้แต่นั้นเธอพึง

สำเร็จสีหไสยาส คือ นอนตะแคงเบื้องหน้าขวาซ้อนเท้าเหลื่อมเท้ามี(สติ

สัมปชัญญยะ)ทำความหมายในการนอนความสุขในการเอนข้าง

ความสุขในการเคลิ้มหลับดูก่อนโมคคัลลานะ เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล




(:LOVE:)พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย{สัตตกอัฏฐกนวกนิบาต} เล่ม 4 -> หน้าที่ 183 รัก



เพียรระลึกรู้สภาพลักษณะที่กำลังปรากฏ

เพื่อละความยึดมั่นเห็นผิดว่าเป็นตัวตน

สิ่งที่เห็นทางตาทั้งหมดเป็นเพียงสี

เมื่อจำความต่างของสีเป็นรูปร่าง ทำให้คิดนึกเป็นวัตถุบุคคล

ความจริงเป็นแต่เพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นทางตาเท่านั้น

ไปหลง รัก ชอบ ติด ยึดมั่น

ก็เพราะไม่รู้ความจริง

สภาพธรรมเพียงเกิดขึ้นปรากฏแล้วดับไป




http://www.facebook.com/itsariyathanakorn

http://twitter.com/soka45

http://www.forums.212cafe.com/boxser/



......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.........................

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ...............................


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 พฤษภาคม 2554 14:48:34 โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น: ง่วง 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.362 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 11 เมษายน 2567 16:51:19