[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 เมษายน 2567 17:00:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แผนที่นรกดูซะ กันหลงทาง  (อ่าน 14632 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 18:52:38 »

๏ หน้าที่การงานเกี่ยวกับการศึกษา

พ.ศ. ๒๔๘๓-๒๕๓๐

- เป็นครูสอนปริยัติธรรมทั้งนักธรรม-บาลี ในมหาธาตุวิทยาลัย ได้เป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์ชั้นมูล ๓ ได้นิตยภัตตั้งแต่เดือนละ ๖ บาท ในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ จนกระทั่งสอน ป.ธ. ๗-๘-๙

- เป็นกรรมการตรวจประโยคนักธรรม-บาลี สนามหลวง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๗ ตลอดมาจนมรณภาพ

- เป็นผู้อำนายการแผนกบาลี สำนักเรียนวัดมหาธาตุฯ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๖ เป็นต้นมา


๏ หน้าที่เกี่ยวด้วยพระไตรปิฎก

พ.ศ. ๒๔๙๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทย ในแผนกตรวจสำนวน

พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจทานพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวง

พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการปาลิวิโสธกะ พระอภิธรรมปิฎก ฉบับสังคายนา พ.ศ. ๒๕๓๐

พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานบรรณกรในการพิมพ์พระไตรปิฎก ฉบับสังคายนา พ.ศ. ๒๕๓๐


๏ หน้าที่เกี่ยวกับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

พ.ศ. ๒๔๙๐-๒๕๓๐

- ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการชำระหนังสือธัมมปทัฏฐกถา ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

- เป็นอาจารย์บรรยายวิชาพระพุทธศาสนาในชั้นอุดมศึกษา

- เป็นกรรมการบริหารกิจการ

- เป็นกรรมการพิจารณาหลักสูตรบาลีสำหรับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

- เป็นรองประธานกรรมการฝ่ายวิเทศสัมพันธ์

- เป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย


๏ หน้าที่เกี่ยวกับการบริหารคณะสงฆ์

พ.ศ. ๒๔๘๘-๒๕๓๐

- ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการกรรมการสงฆ์จังหวัดขอนแก่น

- กรรมการสาธารณูปการจังหวัดขอนแก่น

- เจ้าคณะภาค ๑๐

- เจ้าคณะภาค ๙

- พระอุปัชฌาย์ประจำวัดมหาธาตุฯ

- รองเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ

- รองประธานกรรมการสงฆ์บริหารวัดมหาธาตุฯ รูปที่ ๑


๏ หน้าที่งานพิเศษ

- ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการหัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๓

- เป็นหัวหน้าผู้อำนวยการ งานพระธรรมทูตสายที่ ๖

- เป็นอนุกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อร่วมพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหาวัดที่ว่างเจ้าอาวาสเพื่อหาข้อมูล
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 18:53:12 »

๏ งานเผยแผ่พระพุทธศาสนา

- เป็นพระธรรมกถึกทั้งเทศน์คู่และเทศน์เดี่ยว

- เป็นองค์ปาฐกแสดงปาฐกถาธรรม

- องค์บรรยายธรรม

- บรรยายธรรมทางวิทยุเป็นประจำหลายสถานี

- บรรยายธรรมทางสถานีโทรทัศน์

นับว่าท่านเป็นพระสงฆ์มีความเชี่ยวชาญในการบรรยายธรรม ได้รับความนิยมมากจากผู้ฟังทั้งหน่วยราชการและภาคเอกชน ประชาชน เป็นอย่างดี


๏ งานสาธารณูปการและสาธารณสงเคราะห์

พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) มีผลงานด้านสาธารณูปการและสาธารณสงเคราะห์ ปรากฏอย่างกว้างขวางทั้งภายในวัดมหาธาตุฯ และภายนอก ดังมีหลังฐานปรากฏตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๘-๒๕๓๐ ดังนี้

๑) งานสาธารณูปการภายในวัดมหาธาตุฯ

- จัดหาทุนสร้างห้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนในวัดมหาธาตุฯ

- จัดหาเงินสมทบทุนมูลนิธิวิปัสสนากรมฐาน

- สร้างตึกอุดมวิชาในคณะ ๕ วัดมหาธาตุฯ

- เป็นประธานกรรมการหาทุนก่อสร้างตึกมหาธาตุวิทยาลัยอาคารทรงไทย ๔ ชั้น

- เป็นประธานกรรมการหาทุนบูรณะโรงเรียนธรรมมหาธาตุวิทยาลัย และสร้างโรงครัวครูปริยัติธรรม

- เป็นประธานกรรมการจัดหาทุน และก่อตั้งมูลนิธิศรีสรรเพชญ์

- ร่วมสมทบบูรณะคณะ ๘ วัดมหาธาตุฯ

- บริจาคร่วมสร้างพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

- เป็นประธานกรรมการจัดหาทุนสร้างพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

- เป็นกรรมการอุปถัมภ์จัดหาทุนสร้างโรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

รวมงานสาธารณูปการภายในวัดมหาธาตุที่ได้ดำเนินการมา เป็นเงินประมาณ ๑๔,๓๒๕,๐๐๐ บาท (สิบสี่ล้านสามแสนสองหมื่นห้าพันบาท)

๒) งานสาธารณูปการภายนอกวัด

- งานก่อสร้างปฏิสังขรณ์วัดสว่างพิทยา บ้านหนองหลุบ ซึ่งเป็นถิ่นบ้านเกิด

- จัดหาทุนสร้างโรงเรียนปริยัติธรรมวัดธาตุ จังหวัดขอนแก่น ๒ หลัง

- จัดหาทุนสร้างอุโบสถวัดโพธิ์ชัย จังหวัดขอนแก่น

- จัดหาทุนสร้างโรงเรียนประชาบาลบ้านหนองหลุบ ๒

- เป็นประธานจัดหาทุนสร้างวัดพุทธประทีปในระยะเริ่มแรก

- อุปถัมภ์สร้างอาคารเรียน ในโรงเรียนประชาบาลบ้านหนองบัว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี

- เป็นประธานจัดหาทุนสร้างตึกสงฆ์อาพาธสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาสภมหาเถร) ในโรงพยาบาลขอนแก่น

- บริจาคสร้างตึงสยามินทร์ โรงพยาบาลศิริราช

- อุปถัมภ์สำนักวิปัสสนากรรมฐาน ภูระงำ อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น

- หาทุนสร้างสำนักวิเวกอาคม ตำบลบางขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา

รวมงานสาธารณูปการภายนอกวัด เป็นเงินประมาณ ๑๓,๔๕๖,๐๐๐ บาท (สิบสามล้านสี่แสนห้าหมื่นหกพันบาท) รวมเงินที่จัดหาในงานสาธารณูปการ ทั้งภายในวัดมหาธาตุฯ และภายนอกวัด เป็นเงิน ประมาณ ๒๗,๐๘๑,๐๐๐ บาท (ยี่สิบเจ็ดล้านแปดหมื่นหนึ่งพันบาท)
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 18:53:46 »

๏ งานต่างประเทศ

พ.ศ. ๒๔๙๕-๒๕๒๘

- ไปดูงานการพระศาสนาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ณ ประเทศพม่า

- ไปสอนวิปัสสนากรรมฐาน ณ ประเทศอังกฤษ ตามคำอาราธนาของคณะสงฆ์สมาคมแห่งประเทศอังกฤษ

- เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตประจำประเทศอังกฤษ

- ริเริ่มสร้างวัดไทยในประเทศอังกฤษ ปัจจุบันได้สร้างเป็นวัดไทยโดยสมบูรณ์ ชื่อว่า “วัดพุทธประทีป” โดยท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธประทีปรูปแรก

- เป็นกรรมการอำนวยการฝึกอบรมพระธรรมทูตที่จะไปต่างประเทศ

- ไปสอนวิปัสสนากรมฐานที่วัดไทย ในประเทศสหรัฐอเมริกา

- รับชาวต่างชาติปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่วัดมหาธาตุฯ และให้ได้บรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมหาธาตุฯ
แด่พระเดชพระคุณพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)
ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระเทพสิทธิมุนี เมื่อวันที่ ๓ พ.ย. ๒๕๒๘ เวลา ๑๖.๐๐ น.


๏ งานนิพนธ์

พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) เป็นพระมหาเถระที่เชี่ยวชาญแตกฉานในพระไตรปิฎก และมีความทรงจำเป็นเลิศ สามารถบอกเรื่องราวต่างๆ ว่าอยู่ในเล่มใด และบางครั้งบอกหน้าหนังสือเล่มนั้นด้วย และท่านยังเป็นนักประพันธ์ที่นิพนธ์เรื่องทางศาสนาได้รวดเร็ว และได้นิพนธ์ไว้มากมายหลายเรื่อง เฉพาะที่หาข้อมูลได้ แยกบทนิพนธ์ของท่านเป็นประเภท ดังนี้

๑) ประเภทวิปัสสนากรรมฐาน มีหนังสือประมาณ ๒๑ เรื่อง เช่น เรื่องความเป็นมาของวิปัสสนากรรมฐาน, คำบรรยายวิปัสสนากรรมฐาน จำนวน ๙ เล่ม ฯลฯ

๒) ประเภทพระธรรมเทศนา มีหนังสือประมาณ ๔ เรื่อง เช่น เรื่องเทศน์คู่อริยสัจ ฯลฯ

๓) ประเภทวิชาการ มีหนังสือประมาณ ๘ เรื่อง เช่น อภิธัมมัตถสัคหะปริเฉทที่ ๑-๙ ฯลฯ

๔) ประเภทสารคดี มีหนังสือประมาณ ๒๐ เรื่อง เช่น เรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์นรก ฯลฯ

๕) ประเภทตอบปัญหาทั่วไป มีหนังสือประมาณ ๕ เรื่อง เช่น ตอบปัญหา เรื่องบุญบาปและนรกสวรรค์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีคำขวัญ คำอนุโมทนา คติธรรม เพื่อลงตีพิมพ์ในหนังสืออนุสรณ์ต่างๆ ที่มีผู้ขอมา


๏ สมณศักดิ์

วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ (อายุ ๓๖ พรรษา ๑๕) ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ (สป.วิ) ในพระราชทินนามที่ “พระอุดมวิชาญาณเถร”

วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ (อายุ ๔๔ พรรษา ๒๓) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในพระราชทินนามที่ “พระราชสิทธิมุนี ศรีปิฎกโกศล วิมลปัสสนาจารย์ อุดมวิชาญาณวิจิตร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”

วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ (อายุ ๕๒ พรรษา ๓๑) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในพระราชทินนามที่ “พระเทพสิทธิมุนี สมถวิธีธรรมาจารย์ วิปัสสนาญาณโสภณ ยติคณิศสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”

วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ (อายุ ๖๙ พรรษา ๔๘) ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ในพระราชทินนามที่ “พระธรรมธีรราชมหามุนี คัมภีรญาณวิมล โสภณธรรมานุสิฐ ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 18:54:36 »

๏ อวสานชีวิต

พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) ได้ถึงแก่มรณภาพลงด้วยอาการอันสงบ ในอิริยาบถนั่งเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ขณะไปทำการสอนวิปัสสนากรรมฐานที่บ้านโยมอุปัฏฐาก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๑ เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา รวมสิริอายุได้ ๗๐ ปี ๒ เดือน ๑๕ วัน นำความเศร้าโศกแสนเสียดายอาลัยมาสู่คณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง ขออำนาจบุญกุศลทั้งปวงได้โปรดดลบันดาลให้พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) ประสบสันติสุขในสัมปรายภพทุกประการ ดังสุนทรโวหารที่ท่านได้นิพนธ์ในสุดท้ายแห่งชีวิต ดังนี้

“เตรียมสร้างทางชอบไว้ หวังกุศล
ตัวสุขส่งเสริมผล เพิ่มให้
ก่อนแต่มฤตยูดล เผด็จชีพ เทียวนา
ตายพรากจากโลกได้ สถิตด้าว แดนเกษม”

.............................................................

คัดลอกมาจาก ::   http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=19975&start=0&st=0&sk=t&sd=a&sid=36294e504ac4e6ffa9269f3a11c63f1e

บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #24 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 18:55:25 »

จากหนังสือเรื่อง ตายแล้วอยากไปไหน พระมาลัยลงไปโปรดสัตว์นรก
หากว่าใครมีโอกาสได้ผ่านสำนักท่านยมราช (ไม่ได้แช่งนะครับ)เพื่อความไม่ประมาท

พระมาลัย. ถ้าเช่นนั้นก็เป็นการดีแล้วมหาบพิตร คำว่า "เทวทูต" นี้แปลว่าอย่างไร ขอให้อธิบายวิธีซักถามกะสัตว์นรกในเทวทูต ๕ ประการอันเป็นวินัยหรือกฎหมายของมหาบพิตร ต่อไปดูซิ อาตมาจะคอยฟัง

ยมราช. คำว่า "เทวทูต" แปลว่าผู้ที่เทวดาส่งมา โดยวิเคราะห์ว่า เทเวน เปสิยเตติ เทวทูโต เทวทูต ได้แก่ คนใช้ของเทวดานั่นเอง ส่งมาเพื่อให้มนุษย์ พิจารณาแล้วไม่ประมาท รีบพากเพียรพยายามทำความดีต่อไป โยมได้ซักถามเขาเป็นข้อๆ ไป ดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๑ โยมได้ซักถามเขาว่า เธอได้เห็นเด็กอ่อนที่นอนเกลือกมูตรคูถอยู่บนผ้าอ้อมนั้นหรือไม่? เมื่อเขาตอบว่า ได้เห็น โยมจึงถามเขาต่อไปอีกว่า เธอได้พิจารณาหรือไม่ว่า เรามีความเกิดเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเกิดไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้พิจารณา โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๒ โยมได้ซักถามเขาว่า เมื่อเธออยู่ในมนุสสโลกได้เห็นเทวทูตที่ ๒ ไหม? เมื่อเขาตอบว่า ไม่ได้เห็น จึงถามเขาต่อว่า เธอไม่ได้เห็นคนแก่บ้างหรือ? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น เมื่อได้เห็นแล้ว เธอได้พิจารณาหรือไม่ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด ไม่ได้พิจารณาเลย จึงตรัสว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๓ ครั้นโยมซักถามยมทูตข้อที่ ๒ จบลงแล้ว โยมจึงได้ซักถามเทวทูตข้อที่ ๓ ต่อไปว่า เธอได้เห็นคนเจ็บบ้างไหม ? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น จึงถามเขาว่า เมื่อเธอได้เห็นแล้ว เธอคิดไหมว่า เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๔ ครั้นโยมซักถามยมทูตข้อที่ ๓ จบลงแล้ว โยมจึงได้ซักถามเทวทูตข้อที่ ๔ ต่อไปว่า เมื่อเธออยู่ในมนุสสโลก เธอได้เห็นนักโทษที่ถูกจองจำ เฆี่ยนตี บีฑ์โบยและตัดศีรษะบ้างไหม? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น โยมจึงถามเขาว่า เมื่อเธอได้เห็นแล้ว เธอคิดไหมว่าพวกนี้ได้ทำความชั่วไว้จึงได้รับโทษต่างๆ ในชาตินี้เห็นปานนี้ไม่ต้องพูดถึงชาติหน้า เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๕ ครั้นโยมซักถามยมทูตข้อที่ ๔ จบลงแล้ว โยมจึงได้ซักถามเทวทูตข้อที่ ๕ ต่อไปว่า เมื่อเธออยู่ในมนุสสโลก เธอได้เห็นเทวทูตข้อที่ ๕ ไหม? เมื่อเขาตอบว่าไม่ได้เห็น โยมจึงถามเขาว่า เธอไม่เห็นคนตายบ้างหรือ? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น โยมจึงถามเขาว่า เมื่อเธอได้เห็นแล้ว เธอได้คิดไหมว่า เราก็มีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

ครั้นพญายายมราชทรงซักถามเทวทูต ทั้ง ๕ ข้อ จบลงแล้ว พวกนายนิรยบาลจึงกรูกันเข้าไปจับผู้นั้น นำตัวไปลงโทษ ดังที่ได้แสดงมาแล้วนั้น
ถ้าตอบได้สักข้อใดข้อหนึ่ง โยมก็ปล่อยไปสวรรค์ ถ้าสัตว์เหล่านั้นทำกรรมอันลามก หมิ่นประมาทคำสอนของนักปราชญ์ก็ระลึกไม่ได้ เมื่อระลึกไม่ได้นายนิรยบาลก็จับสัตว์นั้น นำตัวไปลงโทษตามยถากรรม โยมนี้มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ เหมือนมารดาบิดามีเมตตากรุณาต่อบุตรธิดาฉะนั้น
เมื่อพระคุณเจ้าไปยังมนุสสโลกแล้ว ขอนิมนต์พระคุณเจ้าช่วยเทศนาสั่งสอนเหล่ามนุษย์ ให้หมั่นพิจารณาเทวทูตทั้ง ๕ นี้เป็นเนื่องนิตย์ด้สย เพื่อจะได้เกิดสังเวชสลดใจ คิดหาอุบายทำตนให้พ้นจากกิเลสและกองทุกข์ ถึงความสุขสำราญเบิกบานใจ ตามนัยที่โยมได้แสดงมานี้เถิด พระคุณเจ้าผู้เจริญ

http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=33026
บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
sithiphong
ชมรมพระวังหน้า
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 918


ชมรมพระวังหน้า

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #25 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 18:56:05 »

พระธรรมเทศนา โดย พระธรรมธีรราชมหามุนี
โชดก ญาณสิทธิเถร ป.ธ.๙

พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิเถร ป.ธ.๙)

อดีตอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ราชวรมหาวิหาร แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
สำนักงานกลางกองการวิปัสสนาธุระ (คณะ ๕ )

http://watpathumkongka.com/html/sound_chodok.html

-*----------------------------------------------------*-

พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทธิเถร ป.ธ.๙)

อดีตอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์

วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ ราชวรมหาวิหาร แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

รวมพระธรรมเทศนา (เป็นลิงค์)

http://ecurriculum.mv.ac.th/ebhuddis...chodok.php.htm

-*----------------------------------------------------*-

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

 


http://www.paktho.ac.th/learning/sch...dic/mcu6d.html

วิปัสสนากรรมฐาน
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้นถือว่าเป็นการศึกษาและการฝึกอบรมจิตใจของคนและพระให้ดียิ่งขึ้น ตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน ไว้อย่างชัดเจนในพระไตรปิฎก ซึ่งว่าด้วย "มหาสติปัฏฐานสูตร" โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้พุทธบริษัท ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาได้ทำจิตใจให้บริสุทธิ์จากอุปกิเลส เครื่องเศร้าหมองทั้ง ๒ ประการ คือ :
๑. คันถธุระ การศึกษาเล่าเรียนตามตำรา
๒. วิปัสสนาธุระ การศึกษาด้วยการปฏิบัติ

ด้วยเหตุแห่งความสำคัญของการวิปัสสนาธุระ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจึงได้พัฒนาสถาบันวิปัสสนาธุระควบคู่กับความเป็นเลิศด้านวิชชาจรณะ และการปฏิบัติ เพื่อที่จะสามารถ นำความรู้ในพระไตรปิฎก และวิชาการชั้นสูงมาประยุกต์ใช้ เพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องในด้านจิตวิญญาณแก่สังคม อีกงยังเป็นผู้เผยแผ่หลักธรรม การปฏิบัติเพื่อประโยชน์แก่มหาชน

ประวัติความเป็นมา
สถาบันวิปัสสนาธุระ เดิมเรียกว่าสำนักงานกลางกองวิปัสสนาธุระ อยู่ภายใต้การบริหาร งานของวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุ สมัยที่ดำรงตำแหน่งสังฆมนตรีว่าการปกครอง เป็นผู้ก่อตั้งขึ้น และจุดประสงค์เพื่อการศึกษาด้านวิปัสสนาธุระของวัดมหาธาตุ

การดำเนินงานในเบื้องต้น ได้อาราธนาพระภาวนาภิรามเถร (สุข ปวโร) ผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ความสามารถในทางวิปัสสนาธุระแห่งวัดระฆังโฆสิตามราม กรุงเทพมหานคร มาเป็นอาจารย์ฝึกสอนวิปัสสนากรรมฐานที่พระอุโบสถวัดมหาธาตุ มีพุทธบริษัททั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้ความสนใจเข้ามาฝึกปฏิบัติมิได้ขาด และบรรพชิตที่เข้ารับการฝึกปฏิบัติรุ่นแรก ๒ รูป คือ พระมหาโชดก ญาณสิทธิ ป.ธ. ๙ (พระธรรมธีรราชมหามุนี) วัดมหาธาตุ และพระครูสังวรสมาธิวัตร วัดเพลงวิปัสสนา

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๕ พระพิมลธรรมได้ส่งพระมหาโชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙ ไปศึกษา ดูงานวิปัสสนาธุระที่สำนักศาสยิสสา เมืองแรงกูน ประเทศพม่า ซึ่งเป็นสำนักวิปัสสนาที่มีชื่อเสียงของพม่าเป็นเวลา ๑ ปี เมื่อครบกำหนดแล้วจึงได้กลับคืนสู่ประเทศไทย พร้อมกันนี้พระมหาโชดก ยังได้นิมนต์พระวิปัสสนาจารย์ชาวพม่าผู้ชำนาญ(ตามคำขอของรัฐบาลไทยต่อรัฐบาลพม่า) จากประเทศพม่ามาด้วย ๒ รูป คือ พระอาจารย์อาสภเถร ประธานกัมมัฏฐานาจาริยะ และพระอาจารย์อินทวังสะ มาเพื่อช่วยฝึกสอนวิปัสสนาธุระในประเทศไทยด้วย ซึ่งการได้นิมนต์พระเถระทั้งสองมาก็เป็นไปตามดำริของพระพิมลธรรม

ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ พระมหาโชดก ญาณสิทฺธิ และพระครูประกาศสมาธิคุณ ได้เป็นกำลัง สำคัญในการฝึกสอนวิปัสสนกรรมฐานในวัดมหาธาตุ ซึ่งนับวันจะมีผู้สนในปฏิบัติกรรมฐานเพิ่มจำนวนมากขึ้นโดยลำดับ พระสังฆาธิการ ผู้บริหารคณะสงฆ์ก็ให้ความสนใจได้จัดส่งครูสอนพระปริยัติธรรมเข้ามาฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐานแล้วกลับไปเสนอพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ภายในเขตปกครองของตน จนปรากฏว่าสำนักวิปัสสนากรรมฐานได้เกิดขึ้นทั่วประเทศ แม้แต่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จมาสมาทานพระวิปัสสนากรรมฐาน ที่พระอารามแห่งนี้ และพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) ก็ได้มาศึกษาวิปัสสนากรรมฐานแบบนี้และรับรองว่า สำนักนี้ปฏิบัติถูกต้องตามแนวทางสติปัฏฐาน ๔

วิปัสสนากรรมฐานในต่างประเทศ
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ได้ส่งคณะพระวิปัสสนาจารย์ นำโดยพระราชสิทธิมุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) และพระมหาวิจิตรติสฺสทตฺโต พธ.บ. แห่งวัดมหาธาตุ ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศภาคพื้นยุโรป ได้ปฏิบัติศาสนกิจสอนวิปัสสนากรรมฐานและพักอยู่ที่พุทธวิหารแฮมพ์สเตท ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา ๓ เดือน ต่อมาได้แต่งตั้งจากคณะสงฆ์แห่ง ประเทศไทยเป็นหัวหน้าฝ่ายพระธรรมทูตสายต่างประเทศและได้ขยายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปถึงประเทศเยอรมัน ฮอนแลนด์ ฟิลแลนด์ สหรัฐอเมริกา และแคนนาดา โดลำดับ ได้มีผู้สนใจจำนวนมากเข้ามาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีพระสงฆ์ไทยเป็นผู้ทำหน้าที่ฝึกสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานและสืบมาจนถึงปัจจุบันนี้

การพัฒนาการสถาบันวิปัสสนาธุระ
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ สภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงากรณราชวิทยาลัย ได้พิจารณาเห็นว่าการศึกษาในด้านวิปัสสนาธุระโดยเปิดสำนักงานกลางวิปัสสนาธุระที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร สมควรจะได้รับการฟื้นฟูขยายการบริหารงานในรูปแบบที่มีองค์กรหลักมารองรับ จึงได้ มีมติอนุมัติให้สำนักงานกลางวิปัสสนาธุระที่วัดมหาธาตุ กรุงเทพมหานคร เป็นสถาบันวิปัสสนากรรมฐานของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยมีพระพิมลธรรม (สมเด็จพระพุฒาจารย์ : อาจ อาสภมหาเถร) เป็นผู้ลงนาม

ปัจจุบัน สถาบันวิปัสสนาธุระยังให้การบริการในด้านวิปัสสนากรรมฐานเพื่อสืบทอด จรรโลงสืบต่อกันมาอย่างไม่ขาดสาย จึงเกิดเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานแบบ "ยุบหนอ พองหนอ" ทั้งนี้ ก็เพราะการมองการณ์ไกลของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) อดีต สภานายกมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

นอกจากนี้ การวิปัสสนาธุระสำหรับชาวต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดตั้งศูนย์วิปัสสนานานาชาติขึ้น (The International Buddhist Meditation Center (I.B.M.C.)) เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ โดยจัดให้มีการบรรยายธรรมเป็นภาษาอังกฤษ และสอนภาค ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอันเป็นแนวทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และวัฒนธรรมไทย เพื่อศึกษาและวิจัยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และเพื่อให้ชาวต่างประเทศได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมเข้าใจหลักธรรมอย่างแท้จริง

บันทึกการเข้า

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #26 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 20:18:28 »




สาธุ สาธุ สาธุ ขอบพระคุณ คุณหนุ่มสำหรับการแบ่งปันค่ะ

http://i194.photobucket.com/albums/z32/jatikanont/24b4c35f.jpg
แผนที่นรกดูซะ กันหลงทาง


 
บันทึกการเข้า
Sweet Jasmine
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 503


Knowledge is not wisdom.

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 4.1.249.1059 Chrome 4.1.249.1059


ดูรายละเอียด
« ตอบ #27 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 20:24:20 »

สาธุ ๆ
จากไตรภูมินั่นเอง
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 20:42:23 »


จากหนังสือเรื่อง ตายแล้วอยากไปไหน พระมาลัยลงไปโปรดสัตว์นรก
หากว่าใครมีโอกาสได้ผ่านสำนักท่านยมราช (ไม่ได้แช่งนะครับ)เพื่อความไม่ประมาท

พระมาลัย. ถ้าเช่นนั้นก็เป็นการดีแล้วมหาบพิตร คำว่า "เทวทูต" นี้แปลว่าอย่างไร ขอให้อธิบายวิธีซักถามกะสัตว์นรกในเทวทูต ๕ ประการอันเป็นวินัยหรือกฎหมายของมหาบพิตร ต่อไปดูซิ อาตมาจะคอยฟัง

ยมราช. คำว่า "เทวทูต" แปลว่าผู้ที่เทวดาส่งมา โดยวิเคราะห์ว่า เทเวน เปสิยเตติ เทวทูโต เทวทูต ได้แก่ คนใช้ของเทวดานั่นเอง ส่งมาเพื่อให้มนุษย์ พิจารณาแล้วไม่ประมาท รีบพากเพียรพยายามทำความดีต่อไป โยมได้ซักถามเขาเป็นข้อๆ ไป ดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๑ โยมได้ซักถามเขาว่า เธอได้เห็นเด็กอ่อนที่นอนเกลือกมูตรคูถอยู่บนผ้าอ้อมนั้นหรือไม่? เมื่อเขาตอบว่า ได้เห็น โยมจึงถามเขาต่อไปอีกว่า เธอได้พิจารณาหรือไม่ว่า เรามีความเกิดเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเกิดไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้พิจารณา โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๒ โยมได้ซักถามเขาว่า เมื่อเธออยู่ในมนุสสโลกได้เห็นเทวทูตที่ ๒ ไหม? เมื่อเขาตอบว่า ไม่ได้เห็น จึงถามเขาต่อว่า เธอไม่ได้เห็นคนแก่บ้างหรือ? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น เมื่อได้เห็นแล้ว เธอได้พิจารณาหรือไม่ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด ไม่ได้พิจารณาเลย จึงตรัสว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๓ ครั้นโยมซักถามยมทูตข้อที่ ๒ จบลงแล้ว โยมจึงได้ซักถามเทวทูตข้อที่ ๓ ต่อไปว่า เธอได้เห็นคนเจ็บบ้างไหม ? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น จึงถามเขาว่า เมื่อเธอได้เห็นแล้ว เธอคิดไหมว่า เรามีความเจ็บเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๔ ครั้นโยมซักถามยมทูตข้อที่ ๓ จบลงแล้ว โยมจึงได้ซักถามเทวทูตข้อที่ ๔ ต่อไปว่า เมื่อเธออยู่ในมนุสสโลก เธอได้เห็นนักโทษที่ถูกจองจำ เฆี่ยนตี บีฑ์โบยและตัดศีรษะบ้างไหม? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น โยมจึงถามเขาว่า เมื่อเธอได้เห็นแล้ว เธอคิดไหมว่าพวกนี้ได้ทำความชั่วไว้จึงได้รับโทษต่างๆ ในชาตินี้เห็นปานนี้ไม่ต้องพูดถึงชาติหน้า เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

เทวทูต ข้อที่ ๕ ครั้นโยมซักถามยมทูตข้อที่ ๔ จบลงแล้ว โยมจึงได้ซักถามเทวทูตข้อที่ ๕ ต่อไปว่า เมื่อเธออยู่ในมนุสสโลก เธอได้เห็นเทวทูตข้อที่ ๕ ไหม? เมื่อเขาตอบว่าไม่ได้เห็น โยมจึงถามเขาว่า เธอไม่เห็นคนตายบ้างหรือ? เมื่อเขาตอบว่าได้เห็น โยมจึงถามเขาว่า เมื่อเธอได้เห็นแล้ว เธอได้คิดไหมว่า เราก็มีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ เราจะต้องรีบทำความดีด้วยกาย วาจา ใจ ? เมื่อเขาบอกว่า ไม่ได้คิด โยมจึงบอกว่า เธอประมาทเสียแล้ว ที่ไม่ทำความดีไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ทำแต่ความชั่ว ความชั่วของเธอนั้น มิใช่บิดามารดาทำให้ มิใช่พี่ชายน้องชาย พี่หญิงน้องหญิงทำให้ มิใช่มิตรอำมาตย์ ญาติสายโลหิตทำให้ มิใช่สมณพรามณ์และเทวดาทำให้ เธอทำเอง เธอจักได้รับผลความชั่วของตัวเองดังนี้

ครั้นพญายายมราชทรงซักถามเทวทูต ทั้ง ๕ ข้อ จบลงแล้ว พวกนายนิรยบาลจึงกรูกันเข้าไปจับผู้นั้น นำตัวไปลงโทษ ดังที่ได้แสดงมาแล้วนั้น
ถ้าตอบได้สักข้อใดข้อหนึ่ง โยมก็ปล่อยไปสวรรค์ ถ้าสัตว์เหล่านั้นทำกรรมอันลามก หมิ่นประมาทคำสอนของนักปราชญ์ก็ระลึกไม่ได้ เมื่อระลึกไม่ได้นายนิรยบาลก็จับสัตว์นั้น นำตัวไปลงโทษตามยถากรรม โยมนี้มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ เหมือนมารดาบิดามีเมตตากรุณาต่อบุตรธิดาฉะนั้น

เมื่อพระคุณเจ้าไปยังมนุสสโลกแล้ว ขอนิมนต์พระคุณเจ้าช่วยเทศนาสั่งสอนเหล่ามนุษย์ ให้หมั่นพิจารณาเทวทูตทั้ง ๕ นี้เป็นเนื่องนิตย์ด้วย เพื่อจะได้เกิดสังเวชสลดใจ คิดหาอุบายทำตนให้พ้นจากกิเลสและกองทุกข์ ถึงความสุขสำราญเบิกบานใจ ตามนัยที่โยมได้แสดงมานี้เถิด
พระคุณเจ้าผู้เจริญ

http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=33026


   
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิค่ะ คุณหนุ่ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 เมษายน 2553 05:37:12 โดย เงาฝัน, เหตุผลที่แก้ไข: เน้นข้อความที่สำคัญค่ะ » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #29 เมื่อ: 29 เมษายน 2553 21:29:40 »

http://img695.imageshack.us/img695/4062/61926091.gif
แผนที่นรกดูซะ กันหลงทาง


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า..................................

ถ้าสัตว์เหล่าใด

ไม่มีหิริและโอตตัปปะในกาลทุกเมื่อไซร้

สัตว์เหล่านั้นมีสุกธรรมเป็นมูลปราศไปแล้ว

เป็นผู้ถึงชาติและมรณะส่วนสัตว์เหล่าใด

เข้าไปตั้งหิริและโอตตัปปะไว้โดยชอบในกาลทุกเมื่อ

สัตว์เหล่านั้นมีพรหมจรรย์งอกงาม

เป็นผู้สงบมีภพใหม่สิ้นไปแล้ว




佛說阿彌陀經 一 The Amitabha Sutra 1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 เมษายน 2553 21:40:23 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า:  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.584 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 02 เมษายน 2567 07:17:41