หลวงพ่อชุบ ปัญญาวุโธ วัดวังกระแจะ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

หลวงพ่อชุบ ปัญญาวุโธ
วัดวังกระแจะ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

“พระครูอดุลพิริยานุวัตร” หรือ “หลวงพ่อชุบ ปัญญาวุโธ” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดวังกระแจะ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี สิริอายุ 91 ปี พรรษา 69

เป็นพระเกจิสืบสายวิชาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ด้วยการร่ำเรียนวิชาจากอาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว ทำให้ได้สืบทอดวิชาการสักยันต์ เด่นรอบด้านรวมทั้งวิทยาคม การทำตะกรุดและเครื่องรางของขลัง อีกทั้งยังสืบทอดวิชาสายหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จากพระมหาสิทธิการทอง วัดเพชรสมุทร จ.สมุทรสงคราม ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อครั้งจำพรรษาอยู่ที่วัดเพชรสมุทร (วัดบ้านแหลม)

เกิดวันศุกร์ที่ 25 มี.ค.2469 ตรงกับแรม 8 ค่ำ เดือน 4 ปีขาล มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 5 คน

ในช่วงวัยเยาว์ มีความสามารถด้านศิลปะวาดเขียนมากกว่าเด็กอื่นๆ ในวัยเดียวกัน ในช่วงวัยรุ่นท่านฝากตัวเป็นศิษย์และได้รับการถ่ายทอดวิชาการสักยันต์และวิทยาคมต่างๆ จากอาจารย์รื่น นิลแนบแก้ว เมื่อครั้งที่อาจารย์รื่นท่านเปิดสำนักสักยันต์ที่ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

ทั้งนี้ อาจารย์รื่น เป็นศิษย์ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองไทย และอาจารย์รื่นยังเป็นพระสหายกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2491 ที่วัดคู้สนามจันทร์ ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม มีหลวงพ่อกลึง ธัมมโชติ วัดสวนแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเจียม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการปิ่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาอยู่วัดคู้สนามจันทร์ 4 พรรษา จากนั้นย้ายไปจำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดเพชรสมุทร และยังศึกษาสรรพวิชาเพิ่มเติมจากพระมหาสิทธิการทอง วัดเพชรสมุทรด้วย โดยพระมหาสิทธิการทอง เป็นศิษย์หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม

เริ่มออกท่องธุดงค์ไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น นครศรีธรรมราช ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี

พ.ศ.2505 เดินธุดงค์มาที่ จ.กาญจนบุรี และได้เดินทางจนมาถึงถ้ำละว้า มีญาติโยมนิมนต์ให้มาพักที่บ้านวังกระแจะ และสร้างกุฏิให้อยู่เป็นไม้ไผ่มุงแฝก 1 หลัง จากนั้นได้สร้างกุฏิไม้แบบถาวรให้ 1 หลัง

เพื่อหาปัจจัยมาสร้างวัดวังกระแจะตามที่ชาวบ้านศรัทธาท่าน ขอให้ท่านสร้างวัดให้เป็นวัดประจำหมู่บ้าน หลวงพ่อชุบถือสัจจะเป็นใหญ่ เมื่อท่านรับปากชาวบ้านวังกระแจะว่าจะสร้างวัดให้ ท่านก็ดำเนินการสร้างวัดวังกระแจะจนสำเร็จ

พ.ศ.2511 ได้ตั้งเป็นวัดอย่างเป็นทางการ พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.2533 ทำพิธีผูกพัทธสีมาอุโบสถ

หลวงพ่อชุบ ได้รับตำแหน่งหน้าที่ปกครอง พ.ศ.2513 เป็นเจ้าอาวาสวัดวังกระแจะ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พ.ศ.2517 เป็นเจ้าคณะตำบลท่าทุ่งนา และต่อมาได้ย้ายมาเป็นเจ้าคณะตำบลวังกระแจะ พ.ศ.2522 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2526 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค พ.ศ.2549 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอไทรโยค

งานด้านการศึกษา หลวงพ่อชุบท่านได้รับตำแหน่ง ดังนี้ พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม พ.ศ.2499 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจข้อสอบธรรมสนามหลวง พ.ศ.2501 ได้รับการแต่งตั้งเป็นครูสอนบาลี พ.ศ.2513 เป็นเจ้าสำนักเรียนประจำสำนักเรียนวัดวังกระแจะ

งานสาธารณูปโภค ที่หลวงพ่อชุบช่วยสงเคราะห์ พ.ศ.2516 สร้างอุโบสถ พ.ศ.2519 สร้างกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ หอฉัน หอสวดมนต์ ห้องน้ำ พ.ศ.2534 สร้างเมรุ ศาลาฌาปนสถาน และห้องน้ำใหม่ พ.ศ.2547 สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่

งานเผยแผ่พุทธศาสนา พ.ศ.2524 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตเผยแพร่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (อินเดีย)

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนาม “พระครูอดุลพิริยานุวัตร”

ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอไทรโยคและเจ้าอาวาสวัดวังกระแจะ

อริยะโลกที่ 6
ข่าวสดออนไลน์