พริกไทย ทองคำแห่งโลกเครื่องเทศ
http://www.komchadluek.net/detail/20...เทศ.html
คมชัดลึก : คุณวิศิษฏ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เล่าให้ผมฟังว่า จักรพรรดิจีนส่งกองเรือมาหาพริกไทยไกลถึงเอเชียใต้และอินเดีย กษัตริย์หลายประเทศในยุโรป ส่งกองทัพเรือตระเวนหาแผ่นดินที่เป็นแหล่งปลูกเครื่องเทศ โดยเฉพาะพริกไทยที่มีปลูกมากในหมู่เกาะชวา
ในอดีตเมื่อ 400 ปีก่อน พริกไทยจึงเป็นยอดเครื่องเทศ ที่มีมูลค่ามหาศาลเทียบเท่าทองคำ และการส่งกองทัพเรือมาหาพริกไทย จึงเป็นการส่งทหารนักรบมาหาแผ่นดินใหม่ทางด้านตะวันออกของโลก เมื่อมีโอกาสฝรั่งชาติยุโรปจึงเข้ายึดครองแผ่นดินเอเชีย ทั้งอินเดีย จีน มลายู พม่า ชวา รวมถึงแผ่นดินเปอร์เซีย (ประเทศในตะวันออกกลาง)
ทำไมฝรั่งชาติตะวันตกจึงหลงใหลในรสชาติของ พริกไทย มาก ต้องย้อนกลับไปดูอาหารของฝรั่งชาติยุโรป ต้องมีพริกไทยเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพราะฝรั่งนิยมบริโภคเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อกวาง เนื้อเหล่านี้จะมีกลิ่นสาบแรง จึงต้องอาศัยพริกไทยเป็นเครื่องเทศในการดับกลิ่น และทำให้เนื้อที่ย่างหรือทอดแล้ว มีกลิ่นหอมน่ากินยิ่งขึ้น
อีกทั้ง พริกไทย ยังมีคุณสมบัติเป็นยารักษาโรค ในทางการแพทย์แผนไทย นิยมใช้พริกไทยเป็นส่วนผสมของยา ช่วยย่อย แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ลดความดันโลหิตสูง ขับลมในกระเพาะ และเป็นส่วนผสมของยาขับเลือดเสีย ในสตรีที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติ พริกไทยช่วยบำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร
ชาวจีนรู้คุณค่าพริกไทยมากว่า พริกไทยจะช่วยให้หญิงที่คลอดบุตรใหม่ๆ ฟื้นร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ผมยังจำได้ว่า อาม่าเอากระเพาะหมูต้มกับพริกไทยเม็ด แล้วส่งไปให้แม่ที่คลอดน้องคนเล็กกิน เพื่อให้มดลูกเข้าอู่ ร้านหงส์ฟ้าที่อุบลราชธานี เอาพริกไทยเม็ดตุ๋นกับก้ามปู ซดกินร้อนช่วงหน้าหนาว พักเดียวจะร้อนวาบทั้งตัวจนต้องถอดเสื้อหนาวทิ้ง
ฤทธิ์พริกไทย จึงเป็นเครื่องเทศที่มีประโยชน์มหาศาล เอาไปทำอาหารอะไรได้อีก ติดต่อสอบถาม คุณวิภาวดี ลิ้มประนะ ที่ ง่วนสูน พริกไทยตรามือ เล่งบ๊วยเอี้ย โทร.0-2222-5578
ข้าวผัดปู กระเพาะปลา เมืองทอง 1
คุณสมบูรณ์ ปิยทับทิม เป็นผู้รับเหมาสร้างบ้าน ให้กับหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังหลายแห่ง ทำงานด้วยความซื่อสัตย์จนได้รับงานอีกหลายหมู่บ้าน แต่เมื่อเงามืดของวิกฤติเศรษฐกิจครอบคลุมเมืองไทยในปี พ.ศ.2539-2540 บ้านที่สร้างไว้ขายไม่ออก ลูกค้าที่จองไว้ไม่มีแรงผ่อนต่อต้องทิ้งเงินดาวน์หนีตาย กลายเป็นภาระยิ่งใหญ่ของผู้รับเหมา
เมื่อหมดหนทางทำมาหากิน สมบูรณ์ไม่ยอมอยู่นิ่งดิ้นหาทางเอาชีวิตรอด นึกถึงเวลาที่เก็บเงินค่างวดก่อสร้างได้ จะพาลูกน้องไปกินไปเลี้ยงในภัตตาคารอาหารจีน อาหารชั้นอ๋องสำหรับฮ่องเต้ เช่น หูฉลาม หมูหัน เป๋าฮื้อน้ำแดง ซีฟู้ดสดๆ กุ้งมังกร เคยกินกันไม่อั้น แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ ข้าวผัดปู ผัดแห้งๆ ใส่เนื้อปูก้อนสดๆ
กระเพาะปลาน้ำแดง ใช้กระเพาะปลาหลอดอย่างดีกิโลกรัมละ 3,000 กว่าบาท ตุ๋นกับน้ำซุปหูฉลาม ใส่เนื้อปูก้อนโรยด้วยพริกไทยป่นให้หอม อาหารทำง่ายๆ อย่างนี้แหละกินอร่อย และยังพอหากินได้ในยามทุกข์ยากอย่างนี้ จึงกลับไปที่ภัตตาคารจีนที่กินประจำ ขอเข้าไปดูการทำ ข้าวผัดปู กระเพาะปลาน้ำแดง
กลับมาฝึกทำ ข้าวผัดปู กระเพาะปลาน้ำแดง จนเชี่ยวชาญดีแล้วจึงเช่าที่ใน ซอยแจ้งวัฒนะ 14 เมืองทอง 1 เปิดขาย ข้าวผัดปู กระเพาะปลาน้ำแดง ขายราคาถูกๆ จานละ 30 บาท แต่รสชาติอร่อยระดับภัตตาคาร ปรากฏว่า ข้าวผัดปู กระเพาะปลาน้ำแดง ได้รับความนิยมจากนักกินที่ชอบของดีราคาถูก กินกันจนแน่นร้าน
ไม่น่าเชื่อว่าร้านที่ขายอาหารเพียงสองอย่าง จะได้รับความนิยมจากนักกินจนโต๊ะเก้าอี้ไม่พอนั่ง คุณสมบูรณ์ต้องขยายพื้นที่เพื่อรองรับลูกค้า และเพิ่มเมนูอาหารอีก 2 อย่างคือ สุกี้ยากี้แห้ง และ กุ้งอบวุ้นเส้น ให้ลูกค้าได้สั่งกินคู่กับข้าวผัดปู อาหารทั้งสองจานก็ขายดีจนทำไม่ทัน ต้องฝึกเด็กรุ่นใหม่ให้ขึ้นมาทำแทน
วันนี้ ข้าวผัดปู กระเพาะปลาน้ำแดง สุกี้แห้ง(เนื้อไก่ เนื้อวัว ซีฟู้ด) ทุกอย่างจานละ 35 บาท แต่ กุ้งอบวุ้นเส้นหม้อละ 100 บาท บางคนยกมากินกันทั้งครอบครัวพ่อแม่ลูก อิ่มแล้วไม่ต้องทำกับข้าวที่บ้านให้เสียเวลา ลูกค้าบางคนกินอิ่มแล้วยังสั่งกลับไปฝากคนที่บ้านครั้งละ 2-10 กล่อง ขายดีจนชื่อเสียง ร้านข้าวผัดปู โด่งดังไปทั่วกรุงเทพฯ
คุณสมบูรณ์ เล่าว่า วิธีการผัดข้าวผัดปูห้ามใส่ผักและมะเขือเทศมาก เพราะจะทำให้ข้าวผัดแฉะกินไม่อร่อย เวลาผัดต้องใช้ไฟเร่งแรงๆ ใส่น้ำมันน้อยๆ และเติมเนยมาการีนลงไปหน่อย ผัดให้ข้าวสวยสัมผัสกับก้นกระทะ จนมีกลิ่นหอมไหม้กระทะนิดๆ พอข้าวรวนดีแล้วจึงโรยพริกไทยป่นตรามือ ใส่ต้นหอมซอยลงไปอีกหน่อย กลิ่นต้นหอมและพริกไทยจะช่วยให้ข้าวผัดหอมน่ากินยิ่งขึ้น จึงใส่เนื้อปูก้อนสดๆ ลงไปผัดให้เข้ากับข้าว
ข้าวผัดปู กระเพาะปลา เมืองทอง 1 ขายอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 1 หมู่บ้านเมืองทองธานี 1 โทร.0-2982-7925, 08-1646-3296 สาขา 2 เกษตร-นวมินทร์ 0-2553-0486-7, 08-1348-7080 และจะเปิดสาขา 3 ถนนลาดพร้าว ระหว่าง ลาดพร้าว 85-87
"อ.ไชยแสง กิระชัยวนิช"