ปู่ศรีจันทร์ ฐิตธัมโม วัดป่าศุภมิตรสิทธาราม ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

ปู่ศรีจันทร์ ฐิตธัมโม
วัดป่าศุภมิตรสิทธาราม ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

พระครูสถิตสิทธิคุณ หรือ หลวงปู่ศรีจันทร์ ฐิตธัมโม ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลตลาดเขต 1 และเจ้าอาวาสวัดป่าศุภมิตรสิทธาราม ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม พระเถระที่มีวัตรปฏิบัติดี

ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งของเมืองมหาสารคาม สืบสายธรรมจาก "หลวงปู่สมุห์คำมุง อหิงสโก" อดีตเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์สุทธาวาส อ.เมือง จ.มหาสารคาม

ปัจจุบัน สิริอายุ 87 ปี พรรษา 63

มีนามเดิม ศรีจันทร์ ถาลี เกิดเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2475 ณ บ้านสุขเกษม ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม

หลังเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดสระพังทอง ออกมาช่วยงานครอบครัวทำไร่ไถนา จนถึง พ.ศ.2499 อายุล่วงเข้าสู่วัยหนุ่มใหญ่ มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม

อุปสมบท ที่วัดท่าดอกแก้วเหนือ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีพระครูสันธานพนมเขต อดีตเจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน วัดท่าดอกแก้วเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการจันดี จิตฺตสนฺโธ วัดจอมแจ้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระอธิการแก้ว วัดบ้านคำพอก เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาอยู่ที่วัดสระพังทอง ต.นาทราย จนถึงปี พ.ศ.2511 ด้วยความที่ท่านมุ่งมั่นอยากศึกษาพระธรรมวินัย จึงเดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าศุภมิตรสิทธาราม ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม หลังจากมุมานะศึกษาพระปริยัติธรรม ในปี พ.ศ.2516 ก็สอบได้นักธรรมชั้นเอก

นอกจากนั้นยังให้ความสนใจด้านปฏิบัติกัมมัฏฐาน โดยเข้าฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่สมุห์คำมุง วัดเครือวัลย์บ้านค้อ โดยศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน รวมทั้งศึกษาวิทยาคมซึ่งหลวงปู่สมุห์คำมุงก็เมตตาถ่ายทอดให้จนหมดสิ้น ทำให้หลวงปู่ศรีจันทร์มีความรู้แตกฉานทั้งธรรมวินัย วิปัสสนากัมมัฏฐาน ด้วยเป็นพระที่ปฏิบัติดี ตามหลักพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ในแต่ละวันจะมีญาติโยมเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม รวมทั้งขอประพรมน้ำพุทธมนต์ที่เข้มขลังของท่านอย่างล้นหลาม

ให้ความสำคัญด้านการศึกษา เพราะผู้บวชเรียนส่วนใหญ่มาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา มีฐานะที่ยากจน ท่านจึงตั้งสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรม-บาลีขึ้น ณ วัดป่าศุภมิตรสิทธาราม ท่านเป็นเจ้าสำนัก และเป็นครูสอนปริยัติธรรม รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดป่าศุภมิตรสิทธาราม

ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการอำนวยการสอบธรรมสนามหลวงประจำสนามสอบวัดศรีสวัสดิ์ ต.ตลาด อ.เมือง รวมทั้งมีผลงานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอีกมากมาย อาทิ เป็นวิทยากรบรรยายธรรมโครงการครอบครัวอบอุ่นด้วยธรรมะ และเคยได้รับโล่รางวัลจากสถาบันวิจัยศิลปวัฒนธรรมอีสาน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในฐานะเป็นบุคลากรที่มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม อีสาน ฯลฯ

พ.ศ.2518 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าศุภมิตรสิทธาราม อุทิศตนปฏิบัติงาน ในหน้าที่อย่างเข้มแข็ง พ.ศ.2521 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูสถิตสิทธิคุณ (จร.ชท.) และในปีเดียวกันยังได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะตำบลตลาด เขต 1

พ.ศ.2538 เป็นพระวิปัสสนาจารย์เขต จ.มหาสารคาม พ.ศ.2548 ได้รับแต่งตั้งจากกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ในสังฆราชูปถัมภ์ ให้เป็นพระวิปัสสนาจารย์หัวหน้าจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

ได้ชื่อว่าเป็นพระนักพัฒนามีความชำนาญด้านการก่อสร้าง เสนาสนะภายในวัดท่านจะออกแบบและควบคุมการก่อสร้างด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ยังปรับปรุงพื้นที่ป่าภายในวัดให้มีแต่ความร่มรื่น หลวงปู่จะพาภิกษุสามเณร และญาติโยมปลูกต้นไม้เพิ่มทุกปี ก่อให้เกิดความสงบวิเวกเหมาะกับการเจริญภาวนาและปฏิบัติธรรมของสงฆ์ยิ่งนัก

แต่สิ่งที่พยายามพร่ำสอนแนะนำญาติโยมมาตลอด คืออยากให้คนทุกเพศทุกวัยเข้าวัด จะเข้าวันละกี่นาที กี่ชั่วโมงก็ดีทั้งนั้น ส่งเสริมให้เป็นผู้มีจิตใจอ่อนโยนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อสรรพสัตว์ร่วมโลก ซึ่งจะทำให้สังคมพานพบแต่สันติสุข

ถึงสังขารท่านเริ่มโรยราไปตามวัยแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรรคต่อการปฏิบัติศาสนกิจ

อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์