หลวงพ่อบุญเรือง ฐานทัตโต วัดสว่างวารี อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

หลวงพ่อบุญเรือง ฐานทัตโต
วัดสว่างวารี อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

พระสารคามมุนี หรือ หลวงพ่อบุญเรือง ฐานทัตโต เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของมหาสารคาม เป็นที่นับถือศรัทธาจากสาธุชนในเขต อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม มาอย่างยาวนาน

ปัจจุบัน สิริอายุ 75 ปี พรรษา 55 ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าอาวาสวัดสว่างวารี อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม

มีนามเดิมว่า บุญเรือง เนื่องวรรณะ เกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2487 ที่บ้านท่าขอนยาง ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

หลังจบการศึกษาชั้น ป.4 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ได้ออกมาช่วยงานครอบครัวทำไร่ทำนาอยู่หลายปี กระทั่งเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดจันทอุทัย ต.เขื่อน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม มีพระครูพิสาลสิริเวท เจ้าคณะอำเภอโกสุมพิสัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาประยงค์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ทองบ่อ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาที่วัดบ้านสว่างวารี ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม มุมานะศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้น ตรีและโท ที่สำนักเรียนวัดสุวรรณวาส อ.กันทรวิชัย

ต่อมาได้เดินทางไปศึกษาธรรมและบาลี ณ สำนักเรียนวัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และพ.ศ.2524 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค

จบการศึกษาภาษาอังกฤษชั้นปลาย รวมทั้งผ่านการอบรมหลักสูตรครูพระฝ่ายศาสนศึกษา รุ่นที่ 1 และสำเร็จหลักสูตรศาสนศาสตรบัณฑิต สาขาศาสนาและปรัชญาจากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในระหว่างจำพรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดาราม ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง แผนกธรรม

พ.ศ.2534 ตัดสินใจเดินทางกลับอีสาน จำพรรษาที่วัดสว่างวารี บ้านเกิด และเมื่อตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส

เป็นพระนักพัฒนา ท่านได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาวัดสว่างวารี ก่อสร้างถาวรวัตถุอย่างมากมาย อาทิ เมรุเผาศพ ศาลาบำเพ็ญกุศล ซุ้มประตู กำแพงแก้ว กุฏิ อุโบสถ หอระฆัง เป็นต้น

ด้านการศึกษาสนับสนุนพระภิกษุ สามเณร ที่ตั้งใจเรียนและเรียนดี โดยจัดหาทุนมอบให้ทุกปี ทั้งบริจาคปัจจัยแก่นักเรียนโรงเรียนท่าขอนยางวิทยาคม โรงเรียนเขวาใหญ่วิทยาคม และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่พระครูสิริปริยัติโสภิต พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก

พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ พระสารคามมุนี

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2536 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2542 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย

พ.ศ.2557 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้หลวงพ่อบุญเรืองมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาวมหาสารคามอย่างรวดเร็ว ในวันธรรมดาและวันสำคัญทางศาสนาจะมีญาติโยมเดินทางมานมัสการรับฟังธรรมจากท่านอย่างล้นหลาม

เนื่องจากทำเลที่ตั้งของวัดสว่างวารีและชุมชนบ้าน ท่าขอนยางอยู่ติดกับลำน้ำชี ซึ่งมีปัญหาการกัดเซาะของน้ำทำให้ตลิ่งพัง สร้างความเสียหายแก่ชุมชนมาโดยตลอด หลวงพ่อบุญเรืองเป็นหัวแรงใหญ่ในการจัดหาทุนก่อสร้างพนังกั้นน้ำจนเสร็จ ทำให้ปัญหาตลิ่งลำชีถูกกัดเซาะหมดไป

ท่านยังสนับสนุนให้ชุมชนช่วยกันอนุรักษ์ลำน้ำชี โดยไม่ทิ้งสิ่งของหรือปล่อยน้ำเน่าเสียลงไปยังแม่น้ำชี ปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในวันสำคัญทางศาสนายังพาชาวบ้านปล่อยสัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลา สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศใน ลำน้ำชีทุกปี

ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ ความไม่ประมาท ให้อยู่ในศีลธรรมอันดี เป็นคนที่มีความละอายต่อบาป มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณ ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ ร่วมโลก

เป็นเพชรแท้ของวงการสงฆ์มหาสารคามอีกรูป

อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์