หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ วัดป่าสุคะโต อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ
วัดป่าสุคะโต ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ

หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ พระเถระ นักปฏิบัติ ที่ชาวเมืองชัยภูมิเลื่อมใสศรัทธาดำเนินตามรอย หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ พระวิปัสสนาอาจารย์ชื่อดัง วัดป่าพุทธยาน จ.เลย

เกิดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2479 ที่บ้านหนองเรือ ต.หนองเรือ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น

บรรพชาเมื่ออายุ 15 ปี ที่วัดหนองแก แต่ภายหลังไม่มีใครช่วยดูแลครอบครัว จึงต้องลาสิกขา อย่างไรก็ตาม ท่านได้รับการยกย่องจากคนในหมู่บ้าน ด้วยวิชาการรักษาคนเจ็บป่วยจนชาวบ้านเรียกขานว่าเป็นหมอธรรม

พ.ศ.2501 แต่งงานมีครอบครัว แต่ยังคงมุ่งมั่นรักษาศีลฝึกสมาธิและเป็นหมอธรรม

พ.ศ.2509 เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ วัดป่าพุทธยาน จ.เลย เพื่อศึกษาปริยัติธรรม โดยหลวงพ่อเทียนได้ถ่ายทอดและฝึกอบรมวิปัสสนากรรมฐานขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงขั้นสูงตามลำดับ ทำให้นายคำเขียนเกิดความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า

พ.ศ.2510 ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดป่าพุทธยาน โดยมีพระราชวีรมุนี เจ้าคณะจังหวัดเลย เป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่จำพรรษาที่วัดป่าพุทธยาน และติดตามหลวงพ่อเทียนไปเผยแผ่ธรรมตามจังหวัดต่างๆ

พ.ศ.2512-2514 กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าพุทธญาณ โดยในปี พ.ศ.2512 ท่านเดินทางไปร่วมก่อตั้งวัดป่าสุคะโต ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ

พ.ศ.2515 ช่วยงานหลวงพ่อเทียนในการเผยแผ่ธรรมใน จ.ขอนแก่น และจำพรรษาที่วัดโมกขวนาราม ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น

พ.ศ.2518 หลวงพ่อคำเขียนได้ติดตามหลวงพ่อเทียนไปเผยแผ่ธรรมในเมืองกรุงเป็นครั้งแรก โดยจำพรรษาที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นับเป็นจุดเริ่มต้นที่แนวคำสอนของหลวงพ่อเทียนได้แผ่มาสู่สังคมเมือง โดยเฉพาะกลุ่มปัญญาชนคนรุ่นใหม่

พ.ศ.2519 หลังจากเดินทางกลับจากวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ก่อนช่วงเข้าพรรษา หลวงพ่อคำเขียน กราบลาหลวงพ่อเทียนย้ายไปจำพรรษาที่วัดสุคโต ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ

พ.ศ.2520-2525 ใช้ชีวิตคลุกคลีกับชุมชน ประสบพบเห็นความยากลำบากของชาวบ้าน ที่ไม่มีเวลาคอยดูแลบุตรหลานจากการไปทำงานหาเลี้ยงชีพ เกิดนึกสงสารเด็กจับใจ หลวงพ่อจึงตัดสินใจมาอยู่กับชาวบ้านที่บ้านท่ามะไฟหวาน ซึ่งห่างจากวัดป่าสุคะโต ประมาณ 5 กิโลเมตร ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง และจัดตั้งศูนย์เด็กเล็กขึ้น เพื่อเป็นสถานที่รับฝากเด็กไว้ยามพ่อแม่เข้าไปทำงาน โดยมีพระภิกษุช่วยกันอบรมสั่งสอน

หลวงพ่อคำเขียนเดินทางไปมาระหว่างวัดภูเขาทองและวัดป่าสุคะโต เนื่องจากมีคนมาปฏิบัติธรรมที่วัดป่าสุคะโตไม่ขาดสาย พ.ศ.2533 คณะกรรมการศาสนาเพื่อการพัฒนา (ศพพ.) มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป อาราธนาพระสงฆ์ที่ทำงานร่วมกับชาวบ้าน ด้วยการเป็นที่พึ่งทางจิตใจและสติปัญญาสร้างความเข้มแข็งและการพึ่งพิงตนเองให้ชุมชนรากหญ้า อาทิ พระครูพิพิธประชานาถ (หลวงพ่อนาน) พระครูสุภาจารวัฒน์, พระครูเกษมธรรมรังสี (หลวงพ่อดำ), พระครูพิทักษ์นันทคุณ และพระครูบรรพตสุวรรณกิจ เป็นต้น เพื่อประชุมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานช่วยเหลือสังคม

หลายท่านเห็นพ้องว่าพระสงฆ์ที่ทำงานในลักษณะนี้ ควรรวมตัวเป็นเครือข่าย เพื่อเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน อันจะทำให้การประยุกต์ใช้หลักศาสนธรรมกับชีวิตและสังคม มีความยั่งยืนและสามารถเป็นกลุ่มร่มเงาให้กับสังคมต่อไป จึงได้พร้อมใจกันก่อตั้ง "กลุ่มเสขิยธรรม" ขึ้น เพื่อจุดมุ่งหมายสำคัญคือ ส่งเสริมการประยุกต์ใช้หลักศาสนธรรมทำให้เกื้อกูลหนุนต่อการพัฒนาตนเอง สังคม และธรรมชาติ ให้ก้าวพ้นวิกฤตทั้งหลากหลายเป็นรูปธรรม

ถือเป็นพระนักปฏิบัติโดยแท้ เน้นทำเฉพาะที่จำเป็นต่อปฏิบัติธรรมจริงๆ วิถีชีวิตจึงดำรงอยู่ด้วยความเรียบง่าย สำหรับหลักธรรมคำสอน บรรดาคณะศิษย์หลวงพ่อได้มีการรวบรวมคำสอนจัดทำเป็นหนังสือจำนวนหลายเล่ม โดยบันทึกเทปก่อนนำไปถอดเทปและจัดพิมพ์เป็นตำราพร้อมกับนำเนื้อหาบางส่วนพิมพ์ลงไว้ในเว็บไซต์เผยแพร่ไปทั่วโลก

เช้ามืดวันเสาร์ที่ 23 ส.ค.2557 หลวงพ่อเขียนละสังขารด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่วัดป่าสุคะโต บ้านใหม่ไทยเจริญ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ สิริอายุ 78 ปี พรรษา 46 ข่าวสดออนไลน์