[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 11:25:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทายาท “จิราธิวัฒน์”โดดร่วมอาสาสมัคร “ฉือจี้” ช่วยเพื่อนร่วมโลกเตรียมทาบ “เจ้าสัว  (อ่าน 1825 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 02 กรกฎาคม 2554 17:07:27 »

   
   
 
นักธุรกิจจากตระกูลจิราธิวัฒน์ ลงทุนลงแรงรับเป็น “อาสาสมัคร”ของมูลนิธิพุทธฉือจี้ที่โด่งดังสุดๆในไต้หวัน ระบุเริ่มเข้ามาเผยแผ่ในไทยแล้ว 17 ปี เน้นคำสอนตามหลักของพรหมวิหาร4 พร้อมเน้นช่วยเหลือ 4 ด้าน ทั้งผู้ประสบภัยพิบัติ โรงพยาบาล การศึกษาและเผยแผ่ศาสนา
     
      ทุกครั้งที่เกิดปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั่วโลกจะเห็นองค์กร มูลนิธิต่างๆจากทั่วโลกระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยเหลือหนึ่งในองค์กรที่ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องคือมูลนิธิพุทธฉือจี้ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไต้หวันและที่สำคัญเพราะองค์กรนี้มีสาขากระจายอยู่ถึง 200 แห่งทั่วโลก
     
      นักธุรกิจชื่อดัง
      โดดเป็นอาสาสมัคร
     
      วัฒน์ จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัทเซ็นทรัล บอกกับ “ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์” ว่า ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเพื่อเรี่ยไรเงินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยในครั้งนั้นเกิดความรู้สึกว่าคนที่ทุกข์ร้อนจากภัยธรรมชาติมีมากมายแต่เราในฐานะมนุษย์ร่ววมโลกและไม่มีปัญหาดังกล่าวจะช่วยเหลือเขาได้อย่างไร จุดนี้กลายเป็นคำถามที่เราต้องการจะหาคำตอบมาก
     
      ล่าสุดได้มีโอกาสเดินทางไปดูงานที่มูลนิธิพุทธฉือจี้ที่ประเทศได้หวัน ปรากฏว่ามูลนิธินี้เขาได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มานานโดยเฉพาะผู้ประสบภัยพิบัติจึงเกิดความศรัทธาและเมื่อกลับมายังเมืองไทยซึ่งก็มีสาขาของมูลนิธิอยู่ด้วยจึงอาสาเข้าไปช่วยงานโดยในตอนแรกอาจจะช่วยเป็นอาสาสมัครและงานแรกที่ได้ทำคือการเป็นอาสาสมัครเพื่อเรี่ยไรเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่น จากนั้นก็เรี่ยไรเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
     
      “ผมว่ามูลนิธินี้เขาทำงานเป็นระบบมีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่าจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในช่วงที่เดินทางไปไตหวันมีโอกาสได้เข้าไปกราบท่านธรรมาจารย์เจิ้งเอี๋ยน ผู้ก่อตั้งมูลนิธินี้แล้วท่านก็สอนหลักการใช้ชีวิตว่าควรเมื่อเรามีมากกว่าคนอื่นๆก็ควรที่จะหยิบยื่นโอกาสให้กับคนที่เขาเดือดร้อน ซึ่งมูลนิธิฉือจี้ได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ใน 4 ด้านหลักๆคือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทั่วโลก การช่วยเหลือเรื่องการรักษาพยาบาลซึ่งที่นี่เขามีโรงพยาบาลที่ใหญ่มาก การช่วยเหลือเรื่องการศึกษาและการเผยแผ่ศาสนาพุทธนิกายมหายานที่เน้นการใช้หลักพรหมวิหาร 4 คือมีเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาเป็นหลักใหญ่”
     
      วัฒน์ อธิบายต่อว่า เมื่อมีโอกาสใช้หลักพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา การให้ความสุขโยไม่มีการแบ่งแยกเชื้อชาติและศาสนา กรุณา คือการปลดทุกข์ด้านการรักษาพยาบาลกล่าวคือความเจ็บป่วยคือบ่อเกิดแห่งความยากจน มุทิตา คือความยินดีในธรรมะและความสงบสุขที่ปลูกฝังสู่สังคมและ อุเบกขา คือการเกิดปัญญายินดีเสียสละแบบไม่หวังผลตอบแทน ทำให้รู้สึกว่าหนทางแห่งความสุขกับการช่วยเหลือผู้คนทั่วโลกมันทำให้เราเกิดความสุขไปด้วยจึงเห็นว่าน่าจะชักชวนเพื่อนๆในแวดวงการค้า และการศึกษาโดยฌแพาะในกลุ่มนักเรียน วปอ.เข้าร่วมด้วยเพราะนี่คือการเสียสละมากเพราะไม่มีค่าตอบแทนแต่เราทำเพราะอยากให้คนอื่นพ้นทุก เพื่อนๆจำนวนหนึ่งตอบรับและกำลังจะเข้ามาสมัครเป็นอาสาสมัครในมูลนิธินี้ด้วย
     
      “ผมไม่อยากให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับที่ไหนๆในโลกนี้แต่เราจะหลีกเลี่ยงได้หรือไม่เป็นเรื่องของอนาคตแต่หากถ้าเกิดขึ้นแล้วมีคนเดือดร้อนผมจะเป็นผู้ชักชวนเพื่อนๆใกล้ชิดและคู่ค้าทางธุรกิจเข้ามาช่วยเหลือที่ทำได้ดีที่สุดคือการร่วมกับมูลนิธิเป็นอาสาสมัครลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่แล้อาจจะมีการถือกล่องบริจาคทรัพย์ตามแหล่งธุรกิจการค้าซึ่งผมกำลังติดต่อกับคุณธนินทร์ เจียรวนนท์ เพื่อให้ร่วมโครงการนี้ด้วย”
     
      ระบุนักธุรกิจไต้หวัน
      แห่เป็นอาสาสมัครเพียบ
     
      อย่างไรก็ตามในเมืองไทยถือว่ามูลนิธินี้ไม่ค่อยจะเป็นที่รู้จักนักเพราะไม่ได้เน้นการประชาสัมพันธ์แต่ถ้าอยู่ในประเทศไต้หวันแล้วมูลนิธินี้ใหญ่มากๆเป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ และที่สำคัญการดำเนินงานที่ผ่านมานั้นได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชนชาวไต้หวันรวมไปถึงนักธุรกิจชั้นนำที่มีชื่อเสียงของประเทศไต้หวัน บางรายถึงขั้นเปิดสถานีโทรทัศน์เพื่อให้มีการเผยแผ่ธรรมะ บางรายบริจาคเงินและทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
     
      วัฒน์ อธิบายต่อว่า มูลนิธิพุทธฉือจี้ไต้หวัน เป็นมูลนิธิการกุศลที่วางรากปักฐานที่มณฑลไต้หวันและได้แผ่กิ่งก้านสาขาไปยังทั่วทุกมุมโลก ก่อตั้งโดยท่านธรรมจารย์เจิ้งเอี๋ยน ที่อำเภอ “ฮวาเหลียน” มณฑลไต้หวัน ระยะเวลากว่า45 ปี ได้ให้บริการแก่สังคม ก่อสร้างโรงพยาบาล ก่อสร้างโรงเรียน และงานปณิธานด้านวัฒนธรรมสังคม เป็นต้น เงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของ “ฉือจี้” นั้นได้มาจากการบริจาคของประชาชน อาสาสมัคร "ฉือจี้” นั้น ก็คือผู้ปฏิบัติงานให้บริการตามกิจกรณีที่แตกต่างกัน ดังนั้น การใช้จ่ายเงินบริจาคนั้นจะได้รับการควบคุมตรวจสอบโดยละเอียด จึงได้รับความไว้วางใจและสนับสนุนจากผู้คนภายในและต่างประเทศชาว “ฉือจี้” ที่พำนักยังต่างประเทศก็ยังได้นำเอางานปณิธานของ “ฉือจี้” ติดตามไปที่ประเทศนั้น ๆ พร้อมยังรวมน้ำใจร่วมพลังกับผู้คนเจ้าของประเทศ ผลักดันงานด้านการกุศลบรรเทาภัยขึ้น ปัจจุบันมีสาขาและสาขาย่อย จุดประสานงานของ “ฉือจี้” กระจายอยู่ 60 ประเทศทั่วโลก และให้ความช่วยบรรเทาทุกข์แล้วกว่า 65 ประเทศ
     
      ขณะที่ประเทศไทยมูลนิธิแห่งนี้ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2537 และได้ดำเนินกิจกรรม 4 ประการหลักอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการให้อาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือตามโรงพยาบาลต่างๆหลายแห่ง การให้ทุนการศึกษากับนักเรียนยากจนและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทั่วทุกภาคของประเทศ
     
      “เราไม่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเดียวแต่เรายังซ่อมสุขภาพด้วยการฟื้นฟูจิตใจจากทีแพทย์อาสาสมัครที่ตอนนี้มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ และสอนให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยการส่งเสริมให้มีการปลูกผัก ปลูกพืชเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ฝึกอาชีพเพื่อหารายได้เสริมเป็นต้น”วัฒน์กล่าวในที่สุด

http://www.manager.co.th/mgrWeekly/ViewNews.aspx?NewsID=9540000076560

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 12.0.742.112 Chrome 12.0.742.112


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 04 กรกฎาคม 2554 03:08:11 »

โมทนาสาธุครับ

ทำแล้วขอให้ทำให้ตลอดครับ

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.324 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 23 กันยายน 2566 10:00:52