สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภัททจารี) วัดสุทัศนเทพวราราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภัททจารี)
วัดสุทัศนเทพวราราม แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (วีระ ภัททจารี) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม

เป็นพระเถระที่มีศีลาจารวัตรงดงาม เป็นที่ประจักษ์แก่คณะศิษยานุศิษย์ ทำหน้าที่ในฐานะแห่งนักปกครองที่เอาใจใส่ดูแลความเป็นไปของวัดสุทัศนเทพวรารามอย่างดียิ่ง

มีนามเดิมว่า วีระ รอดบำเรอ เกิดเมื่อ วันที่ 26 ม.ค.2473 ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านป่าฝ้าย หมู่ที่ 4 ต.เขาแร้ง อ.เมือง จ.ราชบุรี

จบชั้นประถมศึกษา เข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนพรเพิ่มวุฒิ ในเมืองราชบุรี

สมัยที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา บิดานำไปฝากเป็นศิษย์ให้อยู่ในความปกครองของพระครูวิสุทธิสมณวัตร เจ้าอาวาสวัดท้ายเมือง ต.พงสวาย แต่ในปี พ.ศ.2486 เกิดภัยสงคราม จึงไม่ได้เรียนต่อ

ต่อมาบรรพชาที่วัดเขาวังสะดึง อ.เมือง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2488 โดยมีเจ้าอธิการวงศ์ ธัมมปาโล เจ้าคณะตำบลเกาะพลับพลา-เขาแร้ง เป็นพระอุปัชฌาย์

ศึกษาพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี ในปี พ.ศ.2489 พระครูวิสุทธิสมณวัตร เจ้าอาวาสวัดท้ายเมือง นำไปฝากไว้ที่วัดเทพธิดารามวรวิหาร อยู่ในปกครองพระวิสุทธิวงศาจารย์ เจ้าอาวาสและเจ้าคณะภาค 14

เริ่มการศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งแผนกธรรมและบาลี สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอกและสอบเปรียญธรรม 6 ประโยค

อายุครบ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 6 พ.ค.2494 ที่พัทธสีมาวัดเทพธิดาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมีพระมงคลธรรมรังสี เจ้าอาวาสวัดเทพธิดาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระราชธรรมเสนานี วัดมหาธาตุ เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระวิสุทธิโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสระเกศ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พ.ศ.2504 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักเรียนวัดเทพธิดาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ และได้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ที่สำนักเรียนวัดสามพระยา เพื่อแบ่งเบาภาระเจ้าสำนักเรียนตามกำลังความสามารถ และร่วมงานชำระหนังสือปฐมสมโพธิกถา ฉบับสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส กับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม ในสมัยที่ยังเป็นพระเปรียญ 9 ประโยค เป็นที่ชอบพออัธยาศัยกันมาก

ถูกขอตัวจากวัดเทพธิดาราม ให้มาช่วยสอนหนังสือและช่วยงานพระศาสนาที่วัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งท่านก็ยินดีที่จะช่วยปฏิบัติกิจพระศาสนาตามกำลังความสามารถ

ครั้นถึงวันที่ 5 ก.ค.2507 ย้ายมาอยู่วัดสุทัศนเทพวราราม ในความปกครองของพระครูพิพัฒน์บรรณกิจ

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2513 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2517 เป็นเจ้าคณะภาค 4 พ.ศ.2527 เป็นเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่พระราชเมธี

พ.ศ.2523 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพเวที พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมปิฎก

พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ที่พระวิสุทธาธิบดี

และวันที่ 5 ธันวาคม 2553 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์

ด้วยอายุขัยที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราภาพ สุขภาพไม่แข็งแรงดังเดิม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป่วยอาพาธเป็นประจำ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง

ทั้งนี้ เจ้าประคุณสมเด็จฯ เข้ารับรักษาอาการอาพาธด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองแตก เมื่อปี 2551 จากนั้นเป็นต้นมา ท่านเข้า-ออก รักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลกรุงเทพอยู่เป็นประจำ และมาช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดมีโรคแทรกซ้อนทั้งโรคมะเร็งในลำไส้และโรคไต

ท้ายที่สุดมรณภาพอย่างสงบ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 เม.ย.2559 ด้วยวัย 86 ปี พรรษา 64 ข่าวสดออนไลน์