หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม เจ้าตำรับ 'เหรียญพญาเต่าเรือน' อันโด่งดัง

รูปปั้นของหลวงปู่หลิวประทับพญาเต่าเรือน จะอยู่ภายในวิหาร ซึ่งมีความสูงถึง ๘.๕ เมตร

วัดไร่แตงทอง
ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

วัดไร่แตงทอง (Wat Rai Tang Thong) เป็นวัดหนึ่งในจังหวัดนครปฐมที่มีความน่าสนใจให้มาเยี่ยมชม นั่นคือรูปหล่อหลวงปู่หลิวที่นั่งอยู่บนหลังพญาเต่าเรือนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

วัดไร่แตงทอง ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เป็นวัดราษฎร์ มหานิกาย สร้างขึ้นโดยหลวงปู่หลิว ปุณฺณโก อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง พระเกจิดังในจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นผู้มีวัตรปฏิบัติดีงาม น่าเลื่อมใส ท่านได้สร้างวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือเหรียญพญาเต่าเรือน ซึ่งเป็นหนึ่งในทศชาติของพระพุทธเจ้า ที่มีพุทธคุณอย่างครบถ้วนในเรื่องของโชคลาภ การค้าขาย คงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม

หลวงปู่หลิว เกิดที่บ้านหนองอ้อ ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี นามสกุลเดิมแซ่ตั้ง เป็นบุตรคนที่ ๓ ใน ๙ คนของนายเต่งและนางน้อย ครอบครัวมีฐานะยากจน ประกอบอาชีพทำนา บิดาเป็นช่างไม้ ท่านจึงได้ช่วยทำงานทุกอย่างโดยเฉพาะวิชาช่างไม้

และด้วยความสนใจในวิชายาสมุนไพรจึงทำให้ท่านได้เป็นทั้งช่างไม้และหมอยาประจำหมู่บ้าน แต่เมื่อครอบครัวถูกข่มเหงจากโจรผู้ร้ายท่านจึงได้ไปฝึกวิชาอาคมกับอาจารย์ชาวกะเหรี่ยงแล้วกลับมาปราบปรามโจรผู้ร้าย ต่อมาท่านรู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาสจึงได้บวชที่วัดโบสถ์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี แล้วจึงไปศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากพระเกจิอาจารย์หลายท่าน เนื่องจากท่านเป็นช่างจึงได้ไปสร้างกุฏิ โบสถ์ ศาลาการเปรียญตามวัดต่างๆ หลายแห่ง กระทั่งสะสมเงินบริจาคได้มากพอที่จะสร้างวัด จึงได้สร้าง “วัดไร่แตงทอง” ขึ้นที่ตำบลทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน และได้สร้างสำนักสงฆ์ประชาสามัคคีที่บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวมทั้งสถานีอนามัยบ้านไร่แตงทองด้วย จากนั้นท่านจึงกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองอ้อบ้านเกิดและมรณภาพลงเมื่ออายุ ๙๕

เมื่อหลวงปู่มรณภาพไปแล้ว ๕ ปี เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันและสานุศิษย์จึงได้ร่วมกันสร้างรูปเหมือนหลวงปู่หลิวนั่งอยู่บนพญาเต่าเรือนโดยมีวิหารครอบไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งคุณงามความดีของท่าน วัดนี้จึงกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนต่างหลั่งไหลมากราบไหว้ บนบาน และลอดใต้ท้องเต่าด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้มีอายุยืนยาวและหายจากโรคภัยไข้เจ็บ

รูปหล่อหลวงปู่หลิว ปณฺณโก อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่แตงทอง

ระหว่างที่มีชีวิตอยู่นั้น หลวงปู่หลิวขออยู่อย่างพระธรรมดาทั่วไป กุฏิหลวงปู่หลิวไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ไม่มีที่นอนอย่างดี
ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อย่างดีราคาแพง ท่านอยู่แบบสมถะ เป็นที่นับถือของบุคคลทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง มีบุคคลต่างๆ จากทั่วทุกสารทิศมาพึ่งบารมี
ขอพร ขอให้ท่านช่วยคลายทุกข์มากมาย หลวงปู่หลิวมีลูกศิษย์ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน และฮ่องกง
วัตรปฏิบัติของหลวงปู่หลิวนั้นที่ทราบโดยทั่วกันว่า ท่านสมถะไม่หวังในยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นพระพัฒนาทั้งทางธรรมและทางโลกโดยไม่หวัง
สิ่งตอบแทน ฉันอาหารอย่างง่าย อาหารที่ฉันทุกมื้อ คือ ผักต้มนิ่มๆ และมีมะระขี้นกทุกมื้อ น้ำพริกรสไม่เผ็ด แกงเลียง ข้าวต้ม ผัดหมี่ซั่ว
ผลไม้ที่ท่านชอบมากคือทุเรียน นอกจากนั้นท่านชอบฉันหมากเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ในฤดูทุเรียนออกผลเราจะเห็นของแก้บนหลวงปู่หลิว
เป็นทุเรียน ที่เห็นทุกวันคือ แกงเลียง

เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็น‘พญาเต่าเรือน’นามว่า “มหาจิตรจุล”เกิดเหตุพายุเข้าบริเวณเกาะที่อาศัย เรือสำเภาลำหนึ่งอับปาง
ผู้คนที่ว่ายน้ำหนีตายมาอาศัยบนเกาะเป็นจำนวนมาก ต่างขาดอาหารและน้ำ จึงคิดทำร้ายพญาเต่า ในครั้งนั้นพญาเต่าโพธิสัตว์คิดว่า
....เมื่อชาวบ้านต่างเดือดร้อนถึงขนาดต้องคิดฆ่าตัวเราเพื่ออยู่รอด จึงมีจิตอนุเคราะห์กลิ้งตัวจากภูเขาหมายจะบริจาคทานด้วยเลือดและ
เนื้อของตน ผู้คนเหล่านั้นจึงได้อาศัยเนื้อมาบริโภค แล้วเอากระดองทำเป็นพาหนะกลับสู่บ้านเมืองอย่างปลอดภัย ภายหลังผู้คนเหล่านั้น
ระลึกถึงบุญคุณของพญาเต่าเรือน จึงวาดภาพไว้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล กาลต่อมาจึงได้มีการสร้างวัตถุมงคลรูปเต่าลงอักขระ
เลขยันต์ปลุกเสกและบูชาสืบทอดมาถึงปัจจุบันด้วยอานุภาพแห่งมหาทานอันยิ่งใหญ่ในครั้งนั้น” (ที่มา arjanram.com)

การลอดใต้ท้องพญาเต่าเรือนนั้น เชื่อว่าจะทำให้มีอายุยืนเหมือนเต่า ร่างกายแข็งแรง หายจากโรคภัยไข้เจ็บ

คนเข้ามาที่ วัดไร่แตงทอง เป็นจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อของลูกศิษย์ลูกหา และประชาชนที่เคารพบูชาหลวงปู่หลิว
ทั้งเพื่อสักการะหลวงปู่หลิวที่ประทับบนพญาเต่าเรือน และรับวัตถุมงคลจากวัดไร่แตงทอง