[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 18:52:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ งดงามหนึ่งเดียวในไทย และยิ่งใหญ่ในโลก  (อ่าน 805 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 07 กันยายน 2563 11:37:52 »


พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ปางโปรดพระพุทธมารดา แกะสลักกับหน้าผาของภูเขา  มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน
โดย พระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง สิรินันโท) เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นผู้ริเริ่ม และเริ่มสร้างเมื่อวันที่
๑ มีนาคม ๒๕๕๗ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑


พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง)
ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” หรือ หลวงพ่ออู่ทองคือ ชื่อของพระพุทธรูปแกะสลักกับหน้าผาของภูเขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอาเซียน อยู่ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี  พระพุทธรูปองค์นี้ เป็นปางโปรดพระพุทธมารดา หรือ ปางกตัญญูกตเวที ที่มีขนาดหน้าตักกว้าง ๒๕ เมตร สูง ๓๕ เมตร เฉพาะพระเกศมาลา (บัวตูม) มีน้ำหนัก ๘ ตัน แกะสลักอยู่กับหน้าผาของภูเขาใกล้กับวัดเขาทำเทียม ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

บริเวณก่อสร้างพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ กรมศิลปากรยืนยันว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งมีหลักฐานทางโบราณคดีข้อพิสูจน์ได้ว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย ได้ส่งพระธรรมทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๙ สาย สายที่ ๘ ส่งทรงพระโสณะและพระอุตตรเถระ เข้ามาดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ ๓ ซึ่งปรากฏร่องรอยพระพุทธศาสนาในอู่ทอง  และเมื่อกว่า ๒๐ ปีมาแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นเขตสัมปทานระเบิดภูเขาทำโรงโม่หินเมื่อปี ๒๕๑๔-๒๕๓๔ จากนั้นไม่มีการต่อสัญญา กลายเป็นเหมืองร้าง หน้าผาแห่งนี้มีเนื้อที่โดยรอบบริเวณหน้าผากว่า ๑๐๐ ไร่ เป็นหน้าผาที่เกิดจากการระเบิดหิน หลังหมดสัมปทานได้ถูกปล่อยไว้เป็นที่รกร้าง

พระธรรมพุทธิมงคล (เจ้าคุณสอิ้ง) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี มองหาสถานที่เพื่อสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดได้มาพบเข้า จึงทำเรื่องขอใช้สถานที่จากกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อใช้ประโยชน์ทางด้านพระพุทธศาสนา

หลังได้รับการอนุมัติ การดำเนินการได้เริ่มต้นขึ้นทันที ซึ่งจากการสำรวจบริเวณหน้าผาพบว่า ตรงจุดกึ่งกลางที่ยื่นออกมาและจะใช้เป็นจุดแกะสลักพระ ลักษณะเหมือนหัวมังกร ขณะที่ส่วนโค้ง ๒ ด้านที่โอบล้อมเข้ามาเหมือนปีกนก

๕ ปีเต็มกับความเพียรพยายามของ “เจ้าคุณสอิ้ง” ด้วยความร่วมมือของพุทธศาสนิกชน ส่วนราชการ คณะสงฆ์ทั้งใน จ.สุพรรณบุรี จากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงคณะสงฆ์จากต่างประเทศ ส่วนผู้รับจ้างแกะสลักคิดราคาแบบร่วมทำบุญด้วย

มาถึงวันนี้ “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” องค์นี้สำเร็จเสร็จสิ้นด้วยความสวยสดงดงามจนสุดบรรยาย หลังจากองค์พระที่มีความยากลำบากในการแกะสลักด้วยหินของตัวภูเขาเอง ซึ่งจะมีความคงทนถาวรไปจนชั่วฟ้าดินสลายเสร็จสิ้น

สำหรับการสร้าง “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” พระแกะสลักกับภูเขาในลักษณะที่ “เจ้าคุณสอิ้ง” สร้างไว้องค์นี้ถือเป็นพระแกะสลักกับภูเขาเป็นองค์ที่ ๓ และยุคที่ ๓ ของโลก

ยุคแรก เป็นพระพุทธรูปแกะสลักกับภูเขาแบบพระยืน ๓ องค์ที่ เขาบาบียัน ประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งมีขึ้นในพุทธศตวรรษที่ ๙ แต่ถูกระเบิดทำลายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๔

ยุคที่สอง เป็นการแกะสลักพระกับภูเขาที่ริมแม่น้ำหมินเจียง เมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน มีขึ้นในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๐ ที่ใช้เวลาแกะสลักนานถึง ๙๐ ปีจึงสำเร็จ

นอกจากนี้ด้านหลังองค์พระยังมีการเจาะภูเขาเป็นถ้ำ มีความกว้าง ๒๐ เมตร ยาว ๕๐ เมตร เพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ เช่น การเวียนเทียนรอบพระใหญ่ในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ และการปฏิบัติธรรมของพุทธบริษัท ๔ ด้วย

“อาตมาสร้างพระองค์นี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นมรดกโลกต่อไปในอนาคต ถือเป็นหนึ่งเดียวในไทย ยิ่งใหญ่ในโลก มรดกคู่ฟ้าดิน เพราะเป็นพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และยังเพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของชาวพุทธ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย” เจ้าคุณสอิ้ง กล่าว

นับว่างดงามหนึ่งเดียวในไทย และยิ่งใหญ่ในโลกจริงๆ.










ขอขอบคุณเว็บไซต์ ไทยรัฐออนไลน์ และ .suphan.biz (ที่มาข้อมูล)

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน 2563 11:39:45 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.255 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 11 เมษายน 2567 11:48:27