[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 13:56:48 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความงามตามอุดมคติของผู้หญิง ที่มากับอันตราย, บาดเจ็บ และถึงตาย  (อ่าน 659 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2319


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 04 มกราคม 2564 11:17:26 »



(ซ้าย) The Corset หรือเสื้อยกทรงรัดรูป (ขวา) ผลกระทบจากสวมใส่ที่ทำให้กระดูกผิดรูป, กล้ามเนื้อและอวัยวะถูกบีบรัด จนทำให้บาดเจ็บ และบางรายถึงเสียชีวิต

ความงามตามอุดมคติของผู้หญิง ที่มากับอันตราย, บาดเจ็บ และถึงตาย
   
มนุษย์วัยเจริญพันธุ์ล้วนต้องการมีเรือนร่างหรือเครื่องประดับดึงดูด ขณะสัตว์ตัวเมียโดยมากเพียงแต่สร้างฟีโรโมน (Pheromone) ดึงดูดให้เพศตรงข้ามเข้าหา ทำนองเดียวกับค่านิยมของมนุษย์เพศหญิงในปัจจุบันบางกลุ่มที่ทดแทนฟีโรโมนโดยการนุ่งน้อยห่มน้อย เขียนคิ้วทาปาก ส่วนเพศชายจำนวนไม่น้อยเน้นสร้างกล้ามเนื้อให้ล่ำสัน ในรายที่มีต้นทุนก็อาจใช้เครื่องแต่งกายดูดีมีราคา รถยนต์หรู ก็สามารถทดแทนฟีโรโมนดึงดูดได้ดีไม่แพ้กัน

ความงามตามอุดมคติของมนุษย์แต่ละกลุ่มชนแตกต่างกัน และมักเป็นข้อตกลงกลายๆ ภายในกลุ่ม ซึ่งคนต่างกลุ่มอาจมองเห็นเป็นอื่นได้

ในที่นี้จะกล่าวถึงความงามตามอุดมคติของผู้หญิงซึ่งต้องใช้ศิลปะและชั้นเชิง (approach) อันซับซ้อนมากกว่าผู้ชายในการเป็นผู้ถูกเลือก ความงามตามอุดมคติของผู้หญิงในแต่ละกลุ่มชนย่อมต่างกัน บางกลุ่มต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดทรมานเพื่อให้ความงามต้องตาบุรุษ แม้ไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นความงามอย่างที่บุรุษเรียกร้องต้องการ หรือเป็นจินตนาการของสตรีที่เชื่อว่าบุรุษจะเห็นว่าแบบที่ตนนำเสนอนั้นงาม

ข้อนี้อาจถูกตั้งข้อสังเกตจากชาวสตรีนิยม (Feminism) ได้ว่าเป็นการใช้เรือนร่างในฐานะวัตถุทางเพศ ขณะที่กลุ่มรื้อสร้าง (deconstruction) อาจแย้งได้เช่นกันว่า เป็นการใช้อำนาจโดยอ้อมของสตรีในการควบคุมบุรุษ
เช่นนั้นแล้วลองพิจารณาไปด้วยกันว่า ความงามตามอุดมคติที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้หญิงกลุ่มชนต่างๆ มีการใช้เรือนร่างของตนในฐานะวัตถุทางเพศ หรือใช้มันในฐานะอำนาจโดยอ้อมของสตรีในการควบคุมบุรุษอย่างไรกันบ้าง



ลักษณะเท้าของหญิงจีนที่ถูกรัดให้เล็ก

ผู้หญิงจีน ในอดีตเมื่อราวศตวรรษที่ 8 ผู้หญิงจีนนิยมผูกเท้าตัวเองให้ผิดรูป ฝรั่งถึงกับมองเป็นของประหลาด เรียกขานด้วยศัพท์เฉพาะว่า “ฟุตไบน์ดิ้ง (Foot Binding)” ที่หมายถึงการมัดเท้า เป็นการพันเท้าผู้หญิงให้เป็นรูปดอกบัว นิยมว่ายิ่งเล็กยิ่งดี ดูจุ๋มจิ๋มน่ารัก แสดงถึงความเป็นผู้ดี ต้องตาชายหนุ่ม หากปล่อยให้เท้าโตจะหาสามียาก เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความงามตามอุดมคติของผู้หญิงจีนทุกระดับชนชั้น เพราะผู้หญิงจีนชนชั้นล่างที่วันทั้งวันอยู่ขลุกอยู่แต่ในไร่นาหรือหน้าเตาไฟจะทำงานที่ครอบครัวหรือแม่สามีมอบหมายได้สะดวกด้วยเท้าที่เล็กจิ๋วอย่างนั้นได้อย่างไร

ผู้หญิงเมี่ยน (เย้า) ในอดีตเมื่อไม่นานมานี้เอง ผู้หญิงเมี่ยนจะ “ถอนขนคิ้ว” ออกเหลือเพียงบางๆ หรือหมดเกลี้ยง แม้ว่าขนคิ้วจะมีประโยชน์ในการป้องกันเหงื่อจากหน้าผากไม่ให้ไหลเข้าตา แต่เพื่อความงามตามแบบอุดมคติของผู้หญิงเมี่ยน พวกเธอยินดีที่จะถอนมันออกมากกว่าจะคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่ร่างกายมนุษย์สร้างให้ แต่จะว่าไปก็ไม่ได้ต่างจากผู้หญิงจำนวนมากในปัจจุบันที่ถอนคิ้วออกแล้วเลือกที่จะเขียนด้วยสีหรือสักถาวรด้วยหมึกเป็นคิ้ว 3-4 มิติ

ผู้หญิงกะยัน หรือกะเหรี่ยงคอยาว (ปาดอง) ในปัจจุบันยังคงนิยม “ใส่ห่วงทองเหลืองที่คอ” ว่ากันว่า ผู้หญิงที่มีห่วงพันคอมากรอบเท่าใดก็ยิ่งเป็นที่หมายปองของผู้ชายมากเท่านั้น แม้ในทางการแพทย์จะยืนยันว่า คอของพวกเธอไม่ได้ยาวขึ้น เป็นเพราะห่วงนั่นแหละที่กดให้ไหล่ลู่ต่ำลง แถมยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่พวกเธอจำนวนไม่น้อยยังยินดีที่จะใส่มันอยู่ทุกวันนี้ ประการสำคัญภาครัฐในแต่ละประเทศที่มีชนเผ่านี้อาศัยอยู่กลับเห็นดีเห็นงาม สนับสนุนพวกเธอในฐานะวัตถุของการท่องเที่ยว

ผู้หญิงมอญ ในอดีตนั้นเด็กผู้หญิงมอญเกิดมาได้ไม่นาน ก่อนหัวกะโหลกจะเริ่มแข็งก็ต้องเจ็บตัวกันแล้ว เจ็บตัวครั้งแรกเพื่อความงาม แม่ของเด็กจะเอาข้าวสารใส่ถุงผ้าหนักพอประมาณ วางทับตรงหน้าผาก คลึงย้ำทุกวันๆ เพื่อให้หน้าผากแบน แป้น เพื่อเวลาเกล้าผมมวยจะได้งามแบบมอญ ต่อมาเมื่อเด็กผู้หญิงอายุได้สัก 3-4 ขวบก็ต้องเจ็บตัวอีกครั้ง ด้วยการเจาะหู สำหรับใส่ต่างหู หลังโกนจุกก็ไว้ผมยาว ผูกมัดรวบง่ายๆ ต่อเมื่อเริ่มสาว ในการออกงานแต่ละครั้งต้องใช้เวลากันไรผมนานพอดู

ผู้หญิงยุโรปสมัยกลาง ในยุคเรอเนอซองซ์ มองว่าผู้หญิงที่งามนั้นต้องอวบอั๋น เรือนร่างอุดมสมบูรณ์พร้อมที่จะมีลูกเหมือนวีนัส ออฟ วิเลนดอร์ฟ (Venus of Villendorf) ว่าให้ชัดก็คือ อย่างน้อยต้องมีน้ำมีนวลเหมือนนางเอกเรื่อง ไททานิค และความงามตามอุดมคติของผู้หญิงยุโรปสมัยกลางที่อาจทำให้เจ้าของเรือนร่างถึงแก่ชีวิตได้มีหลายประการ เป็นต้นว่า

ฟุตไบน์ดิ้ง (Foot Binding) ผู้หญิงยุโรปสมัยกลาง โดยเฉพาะฝรั่งเศสก็ไม่ได้ต่างจากผู้หญิงจีนโบราณ ที่มีการมัดเท้า ทั้งที่ชาติยุโรปเมื่อไม่นานมานี้เองที่เป็นผู้ป่าวร้องว่า มันคือวัฒนธรรมแห่งการกดขี่ผู้หญิงในสังคมคนจีน

ครีโนลาย (Crinoline) กระโปรงทรงสุ่ม โครงด้านในทำจากขนม้า ป่าน หรือเหล็ก การสวมกระโปรงอย่างนี้ก็เหมือนกับกางร่มเดินต้านลม เมื่อถูกลมพัดแรงๆ บางคนพลัดตกจากที่สูงเสียชีวิต บางรายถูกลมพัดแรงจนโครงเหล็กรัดตัวจนกระดูกหัก บางรายกระโปรงเกี่ยวเข้ากับรถม้าลากตัวถูลู่ถูกังไปตามท้องถนน ที่เลวร้ายที่สุดคือกระโปรงนี้ติดไฟง่าย เคยเกิดเรื่องเศร้าในเมืองซานติเอโก้ ประเทศซิลี เมื่อปี 1863 เมื่อเกิดไฟไหม้โบสถ์ ขณะที่ผู้คนต่างพยายามหนีตายวิ่งออกจากประตู แต่ด้วยความกว้างและถอดออกยากทำให้ผู้สวมใส่กระโปรงชนิดนี้ รวมทั้งผู้ชายที่ไม่ได้สวมกระโปรงแต่วิ่งตามหลังมาไม่สามารถออกจากประตูได้ ถูกไฟคลอกเสียชีวิตไปกว่า 2,000คน



ขั้นตอนการใส่กระโปรงทรงสุ่ม

เดอะ คอร์ซิท (The Corset) เสื้อยกทรงรัดรูปหรือชุดชั้นในผู้หญิง เป็นที่ (ถูกบังคับให้) นิยมในช่วงศตวรรษที่ 19 ด้วยมีจารีตที่กำหนดให้ผู้หญิง “ดี” โดยเฉพาะผู้หญิงชั้นสูงในสังคมฝรั่งเศสเมื่อศตวรรษที่ 19 ต้องสวมเพื่อให้สะโพกและหน้าอกเข้ารูป อกตั้ง เอวคอดกิ่วตามความนิยม ไม่เช่นนั้นจะถือว่าหญิงผู้นั้นสกปรก ต่ำต้อย ไร้มารยาท ขาดศีลธรรม ซึ่งการใส่คอร์ซิทต้องรัดแน่นขนาดทำให้ผู้สวมใส่ปวดชา กระดูกผิดรูป อวัยวะเครื่องในจะถูกเคลื่อนย้ายลงมาถึงก้น ทั้งเป็นสาเหตุให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายผิดปกติ ในปี 1903 มีผู้หญิงที่เสียชีวิตทันทีจากการสวมเสื้อชนิดนี้ที่ทำจากเหล็กซึ่งกระแทกหัวใจ ก่อนที่จะถูกดัดแปลงให้เหมาะสมมาเป็นชุดชั้นอย่างในยุคปัจจุบัน

 

ทรงผมฟองตางเก (The Fontange) เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงชั้นสูงของฝรั่งเศสเมื่อราวศตวรรษที่ 17-18

ผมทรงฟองตางเก (The Fontange) ลักษณะเป็นการเกล้าสูงกลางศีรษะ มัดโบเล็กๆ หลายอันด้านหน้า จากนั้นประกบด้วยลูกไม้จีบและมัดมวยผมเป็นแผง 3-4 ชั้น วนไล่ขึ้นไปเป็นยอด ด้านหลังกับด้านข้างทิ้งปอยหยิกห้อยและผูกโบว์ยาว ยิ่งสูงยิ่งดี แสดงถึงเป็นผู้มีฐานะ ผมทรงนี้นิยมในฝรั่งเศสเมื่อราวศตวรรษที่ 17-18 ก็เพราะบนศีรษะเต็มไปด้วยโบว์และลูกไม้ที่เป็นเชื้อไฟอย่างดีนี่เองทำให้เกิดเหตุถึงแก่ชีวิต โดยเฉพาะในงานราตรีที่มีโคมไฟเชิงเทียนระยิบระยับ จึงมีโอกาสติดไฟได้ง่ายแต่ดับได้ยาก ในรายที่ถูกเล่าขานกันไม่รู้จบรู้สิ้นคือ Angelique de Fontanges ชู้รักคนโปรดของกษัตริย์อังกฤษพระองค์หนึ่งที่ต้องเสียชีวิตด้วยกรณีดังกล่าวมา

ลีด เมคอัพ (Lead Makeup) แฟชั่นหน้าขาวด้วยเครื่องสำอางนี้มีต้นกำเนิดมาจากกรีกโบราณกว่า 2,000 ปีมาแล้ว และมานิยมในฝรั่งเศสเมื่อราวศตวรรษที่ 14-19 เป็นการทำให้หน้าขาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยในสังคมชั้นสูงถือว่าคนหน้าตากระดำกระด่างเป็นคนไม่มีเงิน เครื่องสำอางที่ว่านี้มีส่วนผสมมาจากสารตะกั่ว ขี้ผึ้ง ไขมันสัตว์ น้ำมัน และไข่ขาว ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าสารตะกั่วนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างยิ่ง ทำให้เบื่ออาหาร ท้องไส้ปั่นป่วน มึนงง มือเท้าชา อาจตาบอด และอาจเป็นมะเร็งได้ บางรายอาจเสียชีวิต

ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าในปี Marie Gunning สตรีชั้นสูงชาวไอริชได้ตกเป็นเหยื่อรายแรกของการใช้สารตะกั่วในปี 1760 และ Madame Rachel ก็เสียชีวิตเพราะพิษของตะกั่วจากเครื่องสำอางหน้าขาวนี้เช่นกันในปี 1878 แต่ผู้หญิงใน พ.ศ. นี้ทั่วโลกรวมทั้งเมืองไทยจำนวนไม่น้อยไม่ได้อ่านประวัติศาสตร์ เลือกที่จะละเลงสารตะกั่วบนใบหน้าตนเองเพื่อให้ขาวใสใน 7 วัน โดยไม่เกรงใจเครือญาติที่ต่างก็เกิดมามีหน้าสีเดียวกัน

แม้ในวันนี้ แบบแผนจารีตของสังคมประเภทขู่เข็ญบังคับอย่างผู้หญิงในสังคมโบราณจะมีให้เห็นน้อยแล้ว ทว่าแฟชั่นความงามตามอุดมคติของผู้หญิงทุกชนชาติทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาก็ยังคงยึดสโลแกนว่า “เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย” ในเมื่อทำบุญสะสมไว้ชาติหน้าไม่ทันใจ บ้างคนก็เลือกสวยมันด้วยมีดหมอเสียชาตินี้


ข้อมูล/ภาพ นิตยสารศิลปวัฒนธรรม

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
19 กค. 53 รถไฟ ชนกัน ที่ อินเดีย ตาย 61 บาดเจ็บ 125
รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
หมีงงในพงหญ้า 0 3083 กระทู้ล่าสุด 21 กรกฎาคม 2553 01:27:49
โดย หมีงงในพงหญ้า
[ข่าวด่วน] - กระบะคณะผู้บริจาคสิ่งของตกเหวที่เชียงใหม่ บาดเจ็บ 3 ราย
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 221 กระทู้ล่าสุด 07 กุมภาพันธ์ 2565 03:46:03
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวด่วน] - คนร้ายลอบบึ้มทหารพรานยะลา บาดเจ็บ 4 นาย
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 221 กระทู้ล่าสุด 11 มีนาคม 2565 02:25:32
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - ฝนตกถนนลื่น รถตู้เทศบาลนครนนทบุรี พลิกคว่ำที่บางสะพาน บาดเจ็บ 5
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 171 กระทู้ล่าสุด 03 พฤษภาคม 2565 01:22:16
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - คนขับเก๋งคนหัวร้อน แทงหนุ่มปิกอัพไส้ทะลัก บาดเจ็บ 2 มีเรื่องกันในซอย
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 143 กระทู้ล่าสุด 03 กรกฎาคม 2565 10:47:44
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.405 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 23 มีนาคม 2567 05:45:24