[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 16:43:37 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมในอดีต โดย ท.เลียงพิบูลย์  (อ่าน 3580 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553 11:43:14 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/24.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/24.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/24.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>




เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ เราพร้อมด้วยผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายได้ช่วยกันนำเทียนพรรษาไปถวายที่ โบสถ์วัดตะเคียนทอง จังหวัดนครนายกเราออกรถแต่เช้ามีผู้ที่ร่วมไปในงาน วันนั้นประมาณสามสิบกว่าคน มีท่านที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือจำนวนไม่น้อยเราได้ใช้เวลาเดินทาง
สนทนากันตลอดเวลา ในเช้าวันนั้นได้มีเพื่อนรุ่นพี่ที่ได้ถูกเคราะห์กรรมถูกไฟไหม้บ้านในคราวที่ไฟไหม้ฝั่งธนฯ ก่อนหน้าเราเดินทางไปถวายเทียนเข้า
พรรษาวัดตะเคียนทอง เพียงอาทิตย์เดียวคุณพี่ผู้ชายนั้นใจเย็นคิดตก ไม่รู้สึกยินดียินร้ายที่ได้รับเคราะห์กรรมในครั้งนี้ ต้องเสียทรัพย์สินไปมากมาย
คิดว่าเป็นผลแห่งกรรม ส่วนคุณพี่ผู้หญิงยังน้อยใจตัวเองว่า ครอบครัวเขาไม่เคยทำบาปกรรมอะไรเลยทำไม ถึงได้รับเคราะห์กรรมหนักเช่นนี้ เราได้ทำแต่ความดีนับแต่เริ่มรับราชการตลอดมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริตที่ดินก็เช่าที่วัดอยู่ไม่ได้มีทรัพย์สินเกินฐานะที่ได้รับราชการมาจนเกษียณอายุเคยมีตำแหน่งที่คนเข้าใจว่าร่ำรวยมากมาย แต่เราทำงานตรงไปตรงมาจึงได้แต่สบายใจเรา ทำงานด้วยจิตใจเป็นธรรม มีความสุจริตไม่เคยมีชื่อเสียงในทาง
ไม่ดีมีประวัติขาวสะอาดเป็นที่ภูมิใจแม้ไม่ร่ำรวย ก็สร้างความสบายใจให้แก่ตนเองพวกเราต่างก็ช่วยกันชี้ให้เห็นกรรม เป็นของมีแน่นอนและย่อมได้ผลแตกต่างกันตามแต่กรรมนั้นจะเป็นอย่างไรแต่แล้วก็มีท่านผู้รู้ใจศรัทธาผู้หนึ่ง ได้เล่าเป็นนิทานคล้ายจะเป็นวรรณคดีจีนเมื่อข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังก็รู้สึกว่าเป็นคติ แม้จะเป็นนิทานโบรมโบราณของจีนก็เป็นเรื่องที่น่าคิดน่ารู้จึงได้ถ่าย ทอดมาเล่าสู่กันฟังว่าเมื่อครั้งโบราณ มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง สามีเป็นคนใจบุญประกอบแต่การกุศล มีเงินเท่าใดก็สร้างแต่กุศลภรรยาก็ ห้ามว่าอย่าทำบุญมากมายนักเลย แต่ภรรยาห้ามเท่าใดก็ไม่ยอมฟังที่สุดก็ยากจนลง
สามีจึงบอกภรรยาว่า บัดนี้เราก็ยากจนลงแล้วไม่อยากให้เจ้าได้รับความลำบากกับเรา เพราะเจ้ายังสาวสวยยังมีความแข็งแรงพอที่จะทำงานให้เขาได้ เราจะนำเจ้าไปขายให้เป็นคนใช้เขาดีกว่าจะอยู่กับเราเพื่อเจ้าจะได้อยู่ ดีกินดีมีความสุขสบาย เจ้าอยู่กับเรานั้นไม่มีความสบาย มีแต่ความยากลำบากจนตาย
ทั้งเราก็จะนำเงินที่ขายเจ้าไปทำบุญสร้างกุคล เพื่อเกิดใหม่เราจะได้มีความสุขสบายด้วยกัน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤษภาคม 2553 12:12:06 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553 11:48:27 »




ส่วนภรรยาเมื่อได้ยินสามีพูดเช่นนั้นก็ร้องไห้ไม่ยอมไปขายตัวจะยากจนก็จะยอมอยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายจากกันสามีเห็นกิริยาและได้ ยินเช่นนั้นก็สงสาร แต่ต้องทำเป็นโกรธตัดพ้อว่าเจ้าเป็นภรรยาจะต้อง เคารพและมีความกตัญญูต่อเราผู้เป็นสามี หากสามีประสงค์อย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามไม่มีทางเลือกหรือคัดค้านจึงจะ เป็นภรรยาที่ดี เราขายเจ้าเมื่อได้เงินแล้วเราก็มิได้ไปหาความสุขอย่างไรเราจะเอาเงินที่ข้าพเจ้าได้ไปทำบุญต่อไป
ภรรยาอ้อนวอนว่า ท่านนี้จะนำข้าพเจ้าไปขาย ตกเป็นทาส ข้าพเจ้าก็จะไม่ว่าท่านจะยอมให้ท่านขายแต่ขอให้ท่านนำเงินมาใช้บำรุง ความสุข อย่านำไปทำบุญเลย บุญไม่เคยช่วยเราให้ได้ดีเลแต่สามีไม่ได้ เชื่อฟังคำภรรยา เมื่อได้นำภรรยาไปขายให้เป็นคนรับใช้ของภรรยาท่านเศรษฐีผู้หนึ่ง
ได้ เงินมาจึงได้นำเงินมาทำบุญสร้างกุศลต่อไป โดยไม่ได้คิดถึงความสุขส่วนตัวเวลานั้นร้อนไปถึงเทพเจ้าชั้นผู้ใหญ่ที่ดูแลทุกข์สุขในโลกมนุษย์
ต่างมองเห็นชายผู้นี้ตั้งหน้าประกอบกรรมทำดีตลอดมาได้ยากจนลงและต้องเอาภรรยาไปขายเป็นทาสเมื่อได้เงินมาก็นำมาทำบุญสร้างกุศล ต้องยากจนลงอีกจึงประชุมเทพเจ้าทั้งหลายเมื่อได้พูดถึงเหตุใดชายผู้นี้ มีใจบุญสร้างแต่กุศล ทำไมจึงได้รับความทุกข์ยากจนเช่นนี้ทำไมเทพเจ้า ผู้คอยช่วยเหลือมนุษย์ที่ประกอบกรรมคุณความดี ไม่ช่วยให้ชายผู้นี้ได้รับความสุขเมื่อเข้าประชุม เทพเจ้าก็สั่งให้เปิดบัญชีดูกรรมใดจึงให้ชายผู้นี้ได้รับความทุกข์ยาก
เมื่อเปิดบัญชี เทพยดาผู้น้อยผู้รักษาบัญชีจึงบอกว่าอันชายผู้นี้ชาติก่อน ๆ สร้างกรรมไว้หนักจะต้องใช้หนี้ถึงสามชาติจึงจะพ้นกรรมในชาตินี้
จะต้องตายเพราะความอด อยากยากจน และชาติต่อไปก็จะต้องถูกฟ้าผ่าตายและต่ออีกชาติก็จะตายด้วย ถูกเสือกัดตาย จะต้องใช้หนี้กรรมอีกสามชาติจึงจะพ้นทุกข์ยากเทพเจ้าชั้นผู้ใหญ่ได้พิจารณาเห็นเป็นกรรมของชายผู้นี้หนัก ต้องใช้หนี้กรรมต่อไปถึงสามชาติจึงจะพ้นกรรมทั้งมองเห็นว่าในชาตินี้ ฝ่ายผู้นี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างแต่กรรมดี มิได้สนใจในความสุขส่วนตัวต้อง ทนทุกข์ทรมานเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ก็เกิดเมตตาสงสาร คิดว่าสมควรที่จะพิจารณาลงโทษให้เพื่อสนองในการสร้างกรรมดีตลอดมาตกลง เทพเจ้าชั้นผู้ใหญ่ก็ประชุมตกลงกันให้กรรม ที่จะต้องรับทุกข์ทรมานถึงสามชาตินั้น
ให้รวมมารับกรรมเพียงชาติเดียวในชาตินี้ต่อไปก็ให้กรรมดีตามสนองตกลงพร้อมกันแล้วก็สั่งให้ เทพเจ้าผู้ดูแลทุกข์สุขในโลกมนุษย์จัดการไปตาม
เทวบัญชา ที่ได้ตกลงกันตามความเห็นชอบของเทพเจ้าชั้นผู้ใหญ่ชายผู้ได้ขาย ภรรยาได้เงินมาก็นำไปสร้างกุศลที่สุดก็ยากจนลง อดอยากลำบาก
กำลังจะรอ ความตายอยู่ในป่านอกเมืองทันใดนั้นฝนตกใหญ่ ฟ้าก็ผ่าลงมาต้องตัวชายผู้เคราะห์ร้ายซึ่งกำลังจะอดอาหารตายจนสลบทันใดนั้นมีเสือใหญ่ตัวหนึ่งโดดออกมากัดคอชายผู้นั้นจนขาดใจตายแล้วก็หลบหนีเข้าป่าไป......................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤษภาคม 2553 12:10:47 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553 11:53:33 »




ชาวบ้านได้เห็นชายผู้เคราะห์ร้ายนี้ไปนอนตายอยู่ในป่าต่าง ก็โจษกันเป็นเรื่องใหญ่ที่ชายผู้นี้ต้องรับกรรมสามต่อคือ อดอยากอาหาร กำลังจะตายยังต้องฟ้าผ่าช้ำอีกแต่แล้วยังไม่พอยังถูกเสือใหญ่มากัดที่คอ นับว่าเป็นผู้ที่เคราะห์ร้ายที่สุดเมื่อเรื่องได้โจษจันรู้ไปถึง ภรรยาของชายผู้เคราะห์ร้ายผู้นี้พอนางทราบข่าวสามีได้ตายลงอย่างทุกข์ทรมานก็ มีความโศกเศร้าเสียใจ จัดแจงขออนุญาตนายผู้หญิง ซึ่งเป็นภรรยาเศรษฐีไปดูศพสามี
รำพันถึงชีวิตที่ได้รับความทุกข์ยาก เพราะไม่เชื่อคำตักเตือนว่า การทำบุญไม่ได้เกิดผลดีอะไรให้เกิดขึ้นเลยได้ แต่รับเคราะห์กรรมความลำบากตลอดเวลา ภรรยาจึงได้จัดการทำศพตามประเพณีก่อนที่จะนำศพใส่โลงนำไปฝังนั้นหญิงผู้เป็นภรรยาได้กัดนิ้วชี้ของตัวเองจนเลือดไหลเอานิ้วเขียนเป็น หนังสือไว้ที่หน้าผากศพชายผู้เคราะห์ร้ายสามคำมีใจความว่า บุญไม่ช่วย แล้วนำเอาศพไปฝัง ตามประเพณีต่อมาพระเจ้าแผ่นดินได้เกิดทารก ซึ่งเป็นรัชทายาทกับพระมเหสี เด็กที่คลอดออกมานั้นเป็นชายบนหน้าผากมี ตัวอักษรอยู่สามคำว่า บุญไม่ช่วย นับแต่ทารกได้คลอดออกมาก็เอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลา
ไม่มีใครสามารถจะทำให้ ทารกหยุดร้องไห้ได้ ทำให้พระเจ้าแผ่นดินมีความร้อนพระทัยมากจึงปิด ประกาศและตีฆ้องร้องเป่าไปตามที่ต่าง ๆ ว่าถ้าใครสามารถจะทำให้ทารกหยุด ร้องไห้ได้จะขออะไรให้ทุกอย่างไม่ขัดข้อง ทั้งบอกลักษณะทารกมีตัวอักษรสามคำอยู่ที่หน้าผากด้วยหญิงผู้เป็นภรรยาเก่าของชายผู้เคราะห์ร้าย เมื่อได้ทราบเรื่องการเป่าร้องและประกาศหาผู้รู้จะทำให้รัชทายาทที่จะ หยุดร้องไห้ และลักษณะของทารกที่จะเป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต่อไป มีตัวอักษรบนหน้าผากก็นึกรู้ว่าสามีของตนได้มาเกิดจะเป็นผู้สูงศักดิ์ ต่อไป ก็รับอาสาว่าเป็นผู้สามารถจะจัดการให้ทารกผู้สูงคักดิ์นั้นหายจาก โรคร้องไห้ไม่หยุดได้ พระเจ้าแผ่นดินและพระมเหสีทรงมีความยินดีที่มีคนรับอาสาเช่นนั้นจึงได้ นำทารกชึ่งกำลังร้องไห้ มาให้หญิงผู้เป็นภรรยาเก่าของชายเคราะห์ร้ายผู้นั้นรักษาทันใดนั้น เมื่อเห็นตัวอักษรบนหน้าผาก ก็แน่ใจว่าสามีของนางได้มาเกิดเป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์แล้ว
จึงอธิษฐานแล้วเอามือลูบตัวหนังสือที่หน้าผากเจ้าชายทารก พลางพูดว่าบัดนี้บุญได้สนอง ท่านแล้ว หนังสือสามตัวนี้ไม่จำเป็นที่จะอยู่ต่อไป
เมื่อมือลูบไปถูกตัวหนังสือก็หายไปสิ้นจากหน้าผาก ทันใดนั้นเจ้าชายทารกก็หยุดร้องไห้ทันทีพระเจ้าแผ่นดินและพระมเหสี ดีพระทัยมากได้รับสั่งกับหญิงผู้รักษาทารกให้หยุดร้อง และทำให้ตัวหนังสือที่หน้าผากที่น่าเกลียดหายไปว่าเจ้าต้องการสิ่งใด เราจะประทานให้ทุกอย่าง หญิงผู้นั้นก็กราบทูลกับพระเจ้าแผ่นดินและพระมเหสีว่าจะไม่ขออะไร ขอเพียงได้เป็นพระพี่เลี้ยงได้อยู่ใกล้ชิดกับเจ้าชายตลอดไป ก็เป็นที่พอใจแล้วพระเจ้าแผ่นดินดีพระทัยทรงอนุญาตให้ตามคำขอ และทรงแต่งตั้งให้เป็นพระพี่เลี้ยงผู้สูงศักดิ์และพระราชทานแก้วแหวน เงินทอง ข้าทาสหญิงชายบ้านเรือนที่ดินมากมายเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า แผ่นดินและพระมเหสี มีอำนาจเข้าเฝ้าได้ทุกเวลาทั้งเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ และนางพระพี่เลี้ยงก็ได้รับความสุขด้วยกันตลอดมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤษภาคม 2553 12:11:16 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553 11:58:35 »




นิทานเรื่องนี้แฝงไว้ด้วยคติธรรมเป็นเรื่องน่าคิด อาจจะแก้ปัญหาของผู้ที่เคยบ่นทำดีไม่ได้ดีบ้างไม่มากก็น้อยข้าพเจ้า อดคิดไม่ได้ว่าเรื่องนี้แม้จะเป็นนิทานโบราณแต่ข้าพเจ้าก็เคยรู้ มีเรื่องจริงเกิดขึ้นแล้วในเมืองไทยเกี่ยวกับตายแล้วเกิด คือเมื่อสมัยข้าพเจ้าอยู่ในวัยเด็กมีสามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่กันมาด้วย ความสงบสุข ต่อมาภรรยาตั้งท้องเมื่อครบกำหนดก็คลอดลูกออกมาเป็นผู้ชายสอง สามีภรรยาได้พยายามเลี้ยงดูลูกของตนอย่างดี แต่พออายุได้เพียง 3 เดือนก็ตายเป็นที่เศร้าโศกของสามีภรรยายิ่งนัก ต่อมาภรรยาก็ตั้งท้องอีก พอครบกำหนดก็คลอดออกมาเป็นชายและอยู่ได้เพียง 3 เดือนก็ตายต่อมาก็ตั้งท้องเช่นเดียวกันและอยู่ได้ 3 เดือนก็ตายฝ่ายสามีรู้สึกโกรธแค้นมากที่มาหลอกให้ท้องแล้วให้เลี้ยง เพียง 3 เดือน พอเด็กคนที่ 3 ก่อนจะใส่หม้อไปฝังจึงเอาสันมีดโต้สับตรงหัวแม่มือซ้ายให้แบนเป็นเครื่องหมายว่ามันจะเกิดอีกไหม มันจะเป็นคนเก่ามาเกิดหรือไม่
และต่อมาภรรยาก็ตั้งท้องอีกเมื่อครบกำหนด ก็คลอดออกมาเป็นชาย แต่หัวแม่มือซ้ายนั้นแบนเหมือนสันมีดทุบได้เติบโต ขึ้นมาอย่างแข็งแรงมีสุขภาพ
ดีพวกเด็กรุ่นเดียวกันในสมัยนั้นเรียกเด็กคนนี้ว่า อ้ายแบน จะมีชื่อจริงอะไรจำไม่ได้เข้าใจว่าปัจจุบันนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อสมัยข้าพเจ้ายังเด็ก ๆ วันนั้นเรา ได้รับความสนุกสนานได้แลกเปลี่ยนการสนทนากันตลอดเวลาแม้ฝนจะเทลงมาบ้าง ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการร่วมบุญกุศลถวายเทียนเข้าพรรษาในวันนั้นเรากลับ ถึงบ้านด้วยความสบายใจ ด้วยความอนุเคราะห์จากท่านผู้ที่ข้าพเจ้านับถือและ เป็นผู้เล่านิทานที่เกิดประโยชน์ทางใจและท่านผู้นี้กับท่านที่เคยสร้าง วิหารหลวงพ่อสุริยะมุนี ที่หน้าสถานีรถไฟ จ.พระนครศรีอยุธยาเป็นคนคนเดียวกัน




.......................จากหนังสือกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม 4.................................


ที่มาของ กฏแห่งกรรม จาก............................. http://www.dhammajak.net
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พฤษภาคม 2553 12:11:42 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2553 05:11:24 »




บุญหาไม่ช่วยไม่

 รัก   เหงื่อตก   รัก
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.341 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 31 มีนาคม 2567 08:37:34