หลวงปู่เท สุธัมโม วัดยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

หลวงปู่เท สุธัมโม
วัดยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส

“หลวงปู่เท สุธัมโม” พระเกจิชื่อดังแดนใต้แห่งวัดยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มีอายุครบรอบ 106 ปี

เป็นพระที่ปฏิบัติดี ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิชื่อดัง จัดสร้างวัตถุมงคลหลายต่อหลายรุ่น

อย่างไรก็ตาม ถึงจะอยู่แดนใต้ แต่ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เพียงหนึ่งเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ของพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งภาคกลาง “หลวงปู่บุญ ขันธโชติ” วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม

มีนามเดิม เท สีบัวงาม เกิดเมื่อวันอังคารที่ 1 พ.ย.2457 ที่บ้านบางกระเบา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

เมื่อครั้งเยาว์วัย ติดตามพระน้าชายของท่านมาเป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดกลางบางแก้ว และมีโอกาสได้คอยอุปัฏฐากรับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่บุญ เจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว ในขณะนั้น

ด้วยความเป็นเด็กน่ารัก ฉลาดหลักแหลม นิสัยดี ไม่เกเร หลวงปู่บุญจึงเมตตาอบรมสั่งสอนการปฏิบัติต่างๆ ยิ่งนานวันไปก็ยิ่งซึมซับการปฏิบัติและวิทยาคมจากหลวงปู่บุญไว้มาก

จนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเตรียมตัวอุปสมบท แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เนื่องจากแม่ป่วย จึงต้องกลับบ้านไปดูแล

ครั้นต่อมา หลวงปู่บุญก็ถึงแก่มรณภาพอีก จึงทำให้การบวชต้องหยุดชะงักไปโดยปริยาย

ชีวิตต้องระหกระเหินเดินทางไปอยู่กับพี่สาวที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ผู้คนส่วนใหญ่ ในอำเภอนี้ ประกอบอาชีพทำการเกษตร แต่ในขณะนั้นหันมายึดอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีภรรยาและครอบครัว แต่คอยช่วยพี่สาวทำมาหากิน โดยไม่ทิ้งการปฏิบัติธรรม กัมมัฏฐาน และวิชาที่ร่ำเรียนจากหลวงปู่บุญ เสกเป่ารักษาผู้คนทั่วไป โดยไม่เคยเรียกร้องค่าตอบแทนแต่อย่างใด

กระทั่งปี พ.ศ.2505 เกิดป่วยหนัก รักษาอย่างไรก็ไม่หาย และนิมิตเห็นหลวงปู่บุญมาบอกให้บวชพระได้แล้ว เมื่อบวชจะได้นำบุญกุศลมาช่วยให้หายจากโรคร้ายนี้ได้

เช้าตื่นขึ้นมา จึงบอกเล่าความฝันให้ญาติฟัง พร้อมกับแจ้งว่าตัดสินใจจะบวช จากนั้นโรคภัยของนายเทก็หายวันหายคืน

เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ส.ค.2505 ที่วัดบางนรา ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส มีพระราชสามนต์โมลี วัดบางนรา เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระวินัยธรแก้ว อาภากโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูจันทรสิริโสภณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา สุธัมโม

จำพรรษาอยู่ที่วัดบางนรา นำแนวการปฏิบัติพระกัมมัฏฐานตามแบบฉบับของหลวงปู่บุญที่ได้ร่ำเรียนมาปฏิบัติ อีกทั้งยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอายุยืนยาวตราบจนปัจจุบัน

ปกติชอบการเดินธุดงค์ปลีกวิเวกไปตามสถานที่ต่างๆ

เป็นพระที่บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เป็นร่มโพธิ์ทองของบรรดาพุทธศาสนิกชน เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวเมืองนราธิวาส เป็นที่ยอมรับและศรัทธาของลูกศิษย์ซึ่งเป็นทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างล้วนเคยเข้ากราบนมัสการ และได้มอบวัตถุมงคลให้พกติดตัวไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย

พระเครื่องวัตถุมงคลส่วนใหญ่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นเสือกินปรอท, มีดนเรศวรปราบหงสา, เหรียญหลวงปู่ทวด 2 หน้า, เบี้ยแก้โพธิสัตว์ ผ้าขาวม้าพัดโบก, เหรียญรุ่นแรก เป็นต้น ซึ่งนำชนวนมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมายจัดสร้างเป็นวัตถุมงคล

นอกจากนี้ ยังได้นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคม เป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมให้ประชาชนทั่วไป ได้ยึดหลักธรรมคำสอนตามแนวทางของพระพุทธศาสนาเป็นวิถีสำคัญในการประพฤติปฏิบัติธรรมและเข้าถึงธรรมะได้อย่างง่าย

ทุกวันนี้ ถึงแม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ท่านยังแข็งแรงและมีเมตตาต่อศิษยานุศิษย์มากมาย

ตั้งปฏิปทาอยู่ในพื้นที่อันตราย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจของทหารและพลเรือนอย่างมุ่งมั่น … ที่มา นสพ.ข่าวสด