26 เมษายน 2567 19:54:46
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
สยาม ในอดีต
.:::
ความในใจของ “หม่อมคัทริน” ถึง “หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส”
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ความในใจของ “หม่อมคัทริน” ถึง “หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส” (อ่าน 1381 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2325
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
ความในใจของ “หม่อมคัทริน” ถึง “หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส”
«
เมื่อ:
18 มกราคม 2564 16:05:04 »
Tweet
หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส และหม่อมคัทริน
ความในใจของ “หม่อมคัทริน” ถึง “หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส”
หลังชีวิตสมรสล่มสลาย
ที่มา - ศิลปวัฒนธรรม ฉบับมีนาคม 2557
ผู้เขียน - ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย
เผยแพร่ - วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2563
“…
ความทุกข์ทรมานที่ฉันได้รับจากเด็กสาวคนนี้ได้หวนกลับมารบกวนจิตใจฉันอีกครั้ง ฉันเกิดความรู้สึกสองด้านที่ขัดแย้งกัน ด้านหนึ่งก็สงสารที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคร้าย อีกด้านก็รู้สึกสะใจที่ในที่สุดพระเจ้าก็ลงโทษความเห็นแก่ตัวของเธอ
…”
เป็นข้อความตอนหนึ่งในสมุดบันทึกรายวันของหม่อมคัทริน ชายาชาวรัสเซียของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ที่เลิกรากันไปแล้ว คำว่า “เด็กสาวคนนี้” หม่อมคัทรินหมายถึงหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส ซึ่งเธอปลงใจเชื่อแน่ว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตสมรสของเธอและสมเด็จเจ้าฟ้าชายต้องล่มสลายลง
ชีวิตสมรสของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ฯ กับหม่อมคัทริน ซึ่งพบรักและอภิเษกสมรสกันที่รัสเซีย ขณะเสด็จไปทรงศึกษาวิชาการทหารบกที่ประเทศนั้น ทั้งคู่เริ่มต้นชีวิตสมรสด้วยการต้องต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งความแตกต่างของเชื้อชาติ วัฒนธรรม และแม้แต่ภูมิอากาศ อุปสรรคที่สำคัญที่สุดของทั้งคู่ขณะนั้นคือ ความไม่พอพระราชหฤทัยและการไม่ยอมรับสะใภ้ต่างชาติของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ แต่ทั้งคู่ก็ได้ใช้ความรักอันยิ่งใหญ่ล้นเหลือ ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งปวงจนสำเร็จ
หม่อมคัทริน พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรส
และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
หม่อมคัทรินสามารถปรับตัวปรับใจให้เข้ากับความแตกต่างต่าง ๆ จนเป็นที่ยอมรับของพระมหากษัตริย์และพระบรมราชินีนาถตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์แห่งสยาม ประกอบกับการให้กำเนิดพระโอรสคือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ อันเป็นเสมือนโซ่ทองคล้องพระทัยทุกพระองค์ ทั้งคู่ได้รับการยกย่องว่าเป็นคู่สมรสที่มั่นคงซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียว แต่โดยที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อน ชีวิตสมรสของทั้งคู่ต้องมีอันสิ้นสุดลงหลังจากที่ครองรักกันยาวนานถึง 13 ปี
สาเหตุของการล่มสลายของชีวิตสมรสครั้งนั้นน่าจะมีหลายสาเหตุ สาเหตุลึก ๆ ที่ไม่ใคร่มีผู้ใดนึกถึงเพราะเป็นสาเหตุที่ค่อย ๆ เกิด แม้คู่สมรสเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใดนานเท่าใดแล้ว เป็นเสมือนสนิมที่ค่อย ๆ กร่อนกินความรักทีละน้อย นั่นคือ ความเบื่อหน่าย เมื่อแรกเริ่มชีวิตคู่ สมเด็จเจ้าฟ้าประทานความรักและความเอาพระทัยใส่พระชายาทั้งด้วยความสนิทเสน่หาและพระเมตตาเป็นพิเศษ อันเนื่องมาแต่มีพระดำริเห็นใจพระชายาที่ต้องพลัดพรากจากบ้านเมืองมาโดยลำพังปราศจากญาติมิตร ต้องเผชิญกับความแตกต่างจากสิ่งที่เคยชิน จึงน่าจะมีทั้งความทุกข์ความว้าเหว่หงอยเหงา
ในส่วนพระชายาซึ่งมีแนวคิดวิถีการดำเนินชีวิตตามขนบวัฒนธรรมของชาวตะวันตก และใช้แนวคิดนี้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตคู่ คือสามีจะต้องปฏิบัติต่อภรรยาเช่นเดียวกับการปฏิบัติตัวของสามีชาวตะวันตก คือจะต้องดำเนินชีวิตเคียงคู่กันในทุก ๆ ด้าน เช่น รับประทานอาหารร่วมกัน ดื่มน้ำชาเวลาบ่ายร่วมกัน ขับรถเที่ยวหรือไปเที่ยวพักผ่อนร่วมกัน ออกงานสังคมเคียงคู่กัน ปรึกษาหารือในเรื่องเกี่ยวกับอนาคตร่วมกัน และประการสำคัญคือ ซื่อสัตย์จริงใจไม่นอกใจกัน ตลอดระยะเวลา 13 ปี สมเด็จเจ้าฟ้าชายชาวสยามได้ปฏิบัติพระองค์ตามแนวทางดังกล่าว
เมื่อความรักลดน้อยลงสิ่งที่เหลือคือหน้าที่ความผูกพันและความเคยชิน สมเด็จเจ้าฟ้าชายทรงล่วงรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของพระองค์ ครั้งที่หม่อมคัทรินขอประทานพระอนุญาตกลับไปพักผ่อนและเยี่ยมญาติพี่น้องที่ประเทศบ้านเกิดเมืองนอน ทำให้พระสวามีต้องประทับอยู่กับพระโอรสตามลำพังที่วังปารุสกวัน หลังจากที่ทรงดำเนินพระชนมชีพตามแบบสามีภรรยาชาวยุโรปอย่างเคร่งครัดมาเป็นเวลานาน
เมื่อหม่อมชายาไม่อยู่และทรงมีโอกาสพบปะกับพระญาติวงศ์ ได้ทรงสนทนา มีกิจกรรมบันเทิงร่วมกัน ทำให้ทรงรู้สึกเสมือนผ่อนคลายความเคร่งเครียดและเหงาหงอย โดยเฉพาะเมื่อทรงได้พบกับพระญาติสาว หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส พระธิดากรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระเชษฐาต่างพระมารดา หม่อมเจ้าหญิงมีพระคุณสมบัติตรงข้ามกับหม่อมคัทริน ซึ่งพระสวามีทรงบรรยายถึงอุปนิสัยไว้ว่า เอาแต่ใจตัวเอง เชื่อมั่นในความคิดของตนเองว่าถูกเสมอ ต้องการให้ทุกคนเห็นด้วยและปฏิบัติตาม
“…ความไม่พอใจ ของแคทยาในเรื่องราวจุกจิกมากมายหลายเรื่อง คราใดที่เธอเกิดไม่พอใจเรื่องอะไรขึ้นมาก็จะมาลงเอาที่ฉันทุกครั้ง เป็นเรื่องยากที่จะเอาใจเธอให้เธอมีความสุข… เธอไม่เพียงต้องการให้ทุกคนทำอย่างที่เธอต้องการแต่ยังให้ทุกคนต้องคิดอย่างที่เธอคิดด้วย…”
แต่สําหรับหม่อมเจ้าหญิงสาว ซึ่งมีพระชันษาเพียง 15 ปี มีพระอารมณ์แจ่มใสร่าเริงอยู่เป็นนิตย์ ทรงสำราญกับการเล่นสนุกอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เสียงใสประดุจเด็กน้อย ทำให้บรรยากาศและผู้คนรอบข้างพลอยสดชื่นแจ่มใสไปด้วย โดยเฉพาะสมเด็จเจ้าฟ้าชาย ทรงรู้สึกเป็นสุขและเพลิดเพลินพระทัย ถึงกับทรงบันทึกไว้ว่า “…มาในคราวนี้ที่แคทยาไม่อยู่ ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างดีขึ้น…” อย่างหนึ่งที่ดีขึ้นคือ ความใกล้ชิดสนิทสนมกับหม่อมเจ้าหญิงสาวและเปลี่ยนแปลงเป็น “…เราสองคนต่างเข้าใจและชอบพอกันและกันมากขึ้น…”
จนเมื่อถึงเวลาที่หม่อมคัทรินกลับเมืองไทย ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ก็กลายเป็น “การผูกพันอย่างลึกซึ่ง” จนไม่อาจที่จะทรงแยกจากหม่อมเจ้าหญิงได้ และไม่ว่าหม่อมคัทรินจะขอร้องอ้อนวอนให้ทรงคิดถึงความหลัง ความรักความผูกพัน หรือแม้กระทั่งให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับปรุงอุปนิสัยไม่ดีบางประการของตนเอง เพื่อที่จะได้กลับมาเริ่มต้นชีวิตรักกันใหม่
ส่วนความสัมพันธ์กับหม่อมเจ้าหญิงนั้นขอให้เป็นเพียงความสัมพันธ์กันฉันญาติสนิท คือยังคงติดต่อคบหาสมาคมกันได้ แต่ขอเพียง “…ฝ่าบาทจะต้องทรงให้สัญญากับหม่อมฉันว่า จะไม่ทรงลักลอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับหญิงอื่น…” เป็นคำขอที่พระสวามีมิอาจทรงปฏิบัติได้ เพราะทรงมีความคิดเห็นเช่นเดียวกับชายไทยทั่วไปในสมัยนั้นว่าการที่ผู้ชายจะมีภรรยากี่คนก็ไม่แปลกหากสามารถที่จะให้ความสุขแก่ภรรยาทุกคนได้อย่างทั่วถึง
เมื่อเธอแจ้งความประสงค์อย่างเด็ดเดี่ยวว่าจะเป็นฝ่ายเดินออกจากชีวิตสมรสนั้น หัวใจของเธอสลายแล้วโดยสิ้นเชิง และเธอปลงใจเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าหม่อมเจ้าหญิงผู้นั้นคือต้นเหตุแห่งการล่มสลายในชีวิตคู่ของเธอ
หม่อมคัทรินและหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสได้แยกทางการดำเนินชีวิตอย่างเด็ดขาด จนเมื่อ 13 ปีผ่านไป ใน พ.ศ. 2475 ชีวิตของทั้งคู่ได้เวียนมาพบกันอีกครั้งที่ปารีส ครั้งนี้หม่อมเจ้าหญิงอยู่ในฐานะชายาของหม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ ซึ่งได้ทรงสมรสกันหลังการเสด็จทิวงคตของสมเด็จเจ้าฟ้าชายพระสวามี หม่อมเจ้าหญิงกำลังประชวรด้วยโรคร้าย ต้องเสด็จมารักษาพระอาการประชวรที่ยุโรป หม่อมคัทรินบรรยายสภาพของหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสไว้ว่า
“…
เธอซีดไปทั้งร่างเหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว แล้วก็ไม่ยอมเสวยอะไร ผอมเหลือแต่กระดูก หมอที่รักษาอยู่บอกว่าไม่มีความหวังอะไรมากนัก
…” จากสภาพหม่อมเจ้าหญิงที่ปรากฏขณะนั้นทำให้หม่อมคัทรินหวนรำลึกถึงเรื่องราวหนหลังโดยเฉพาะความเจ็บช้ำที่เธอได้รับจากสตรีผู้นี้
ดังปรากฏความในใจของเธอในบันทึกส่วนตัวตอนหนึ่งว่า “…ความทุกข์ทรมานที่ฉันได้รับจากเด็กสาวคนนี้ได้หวนกลับมารบกวนจิตใจฉันอีกครั้ง ฉันเกิดความรู้สึกสองด้านที่ขัดแย้งกัน ด้านหนึ่งก็สงสารที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคร้าย อีกด้านก็รู้สึกสะใจที่ในที่สุดพระเจ้าก็ลงโทษความเห็นแก่ตัวของเธอ…”
หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส และหม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...