[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 04:23:00 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: if we are search oneself  (อ่าน 1310 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 21:19:34 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>





ในครั้งพุทธกาล เมื่อพระเจ้ามหากัปปินะทรงสละราชสมบัติ เสด็จออกจากรัฐของพระองค์ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทรงขออุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ประทานอุปสมบทให้เป็นภิกษุแล้วฝ่ายพระเทวีของพระองค์มีพระนาม ว่าอโนชา ได้เสด็จติดตามไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทรงสอดส่ายพระเนตรหาพระราชาว่าจะประทับอยู่ไหน ในหมู่พระพุทธสาวกที่นั่งแวดล้อมพระพุทธองค์อยู่นั้น เมื่อไม่ทรงเห็น ก็กาบทูลถามพระพุทธองค์ว่า ได้ทรงเห็นพระราชาบ้างหรือ พระพุทธองค์ได้ตรัสถามว่า ทรงแสวงหาพระราชาประเสริฐ หรือว่าแสวงหาพระองค์เอง(ตน)ประเสริฐพระนางจึงทรงได้สติกราบทูลว่าแสวงหาตนประเสริฐ ทรงสงบพระทัยฟังธรรมได้ ครั้งทรงสดับธรรมไปก็ทรงเกิดธรรมจักษุคือดวงตาเห็นธรรมที่เรียกว่าธรรมจักษุนี้ มีแสดงไว้ในที่อื่นว่า คือเกิดดวงตาเห็นธรรมขึ้นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา ได้แก่เห็นธรรมดาที่เป็นของคู่กันคือเกิดและดับ จะกล่าวว่าเห็นความดับของทุกสิ่งที่เกิดมาก็ได้ จะกล่าวว่าเห็นความดับของทุกสิ่งที่เกิดมาก็ได้ ชีวิตนี้เรียกได้ว่าเป็นความเกิดสิ่งแรก ซึ่งเป็นที่เกิดของสิ่งทั้งหลายในภายหลัง ก็ต้องมีความดับ สิ่งที่ได้มาพร้อมกับชีวิตก็คือตนเอง นอกจากตนเองไม่มีอะไรทั้งนั้น สามีภริยา บุตร ธิดา ทรัพย์สิน เงินทอง ไม่มีทั้งนั้นเรียกว่าเกิดมาตัวเปล่า มาตัวคนเดียว พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ตนแลเป็นคติ
(ที่ไปหรือการไป)ของตนในเวลาดับชีวิต ก็ตนเองเท่านั้นต้องไปแต่ผู้เดียวตามกรรม ทิ้งทุกสิ่งไว้ในโลกนี้ แม้ชีวิตร่างกายนี้ก็นำไปด้วยไม่ได้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า บุคคลผู้จะต้องตายทำบุญและบาปทั้งสองอันใดไว้ในโลกนี้ บุญบาปทั้งสองนั้นเป็นของผู้นั้น ผู้นั้นพาเอาบุญบาปทั้งสองนั้นไป บุญบาปทั้งสองนั้นติดตามผู้นั้นไปเหมือนอย่างเงาที่ไม่ละตัว ก็เมื่อตนเองเป็นผู้มาคนเดียวไปคนเดียว เมื่อมาก็มาตามกรรม เมื่อไปก็ไปตามกรรมเมื่อไปก็ไปตามกรรม ถึงผู้อื่นก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น คือจะเป็นสามี ภริยา เป็นบุตรธิดา เป็นญาติมิตร หรือแม้นเป็นศัตรู ต่างก็มาคนเดียวตามกรรม ไปตามกรรม ฉะนั้นก็ควรที่ต้องรักตน สงวนตนแสวงหาตนมากกว่าที่จะรักจะสงวนจะแสวงหาใครทั้งนั้น คำว่าแสวงหาตน เป็นคำมีคติที่ซึ้งคิดพิจารณาให้เข้าใจให้ดี จะบังเกิดผลดียิ่งนัก แต่ที่จะเริ่มแสวงหาตนได้ก็ต้องได้สติย้อนมานึกถึงตนในทางที่ถูกที่ควร และคำว่าแสวงหาตนหาได้ความหมายว่าเห็นแก่ตนไม่ เพราะผู้ดีเห็นแก่ตน หาใช่ผู้ที่แสวงหาตนไม่ กลายเป็นแสวงหาสิ่งที่มิใช่ตนไปเสีย
คำสอนของพระพุทธเจ้าบางคำ ผู้ที่ขาดความไตร่ตรองอาจฉวยเอาไปในทางผิด ดังเช่นที่ตรัสสอนให้แสวงหาตนว่าดีกว่าแสวงหาใครอื่นฉะนั้น ท่านจึงสอนให้พิจารณาให้รู้ทั่วถึงอรรถ(ความหรือผล)ให้รู้ทั่วถึงธรรม(ข้อธรรมหรือเหตุ)แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านสอนไว้อย่างรอบคอบดังนี้จึงควรทำความเข้าใจกันว่า คำว่า แสวงหาตน มีอรรถมีธรรมอย่างไร ที่แรกควรจะแยกคำออกไปก่อนว่า คำนี้ประกอบด้วยคำสองคำคือ
แสวงหาคำหนึ่งตน
อีกคำหนึ่ง คำว่า ตน มีอรรถคือความหมายอย่างไร ตนหมายถึงตัวเราเองของทุก ๆ คน และหมายถึงสิ่งที่เป็นของตน หรือเนื่องอยู่กับตนด้วย
เช่นตัวเรานี้เกิดมามีชาติตระกูลเป็นอย่างนี้ ได้เล่าเรียนศึกษามีวิชาความรู้อย่างนี้ได้ทำการงานมีฐานะตำแหน่งอย่างนี้ ได้ทำกรรมดีเป็นคนดีอย่างนี้
หรือได้ทำกรรมชั่วไม่ดีเป็นคนไม่ดีอย่างนี้ ตนหมายถึงตัวเราในตัวอย่างนี้ ส่วนชาติตระกูล วิชาความรู้ ฐานะตำแหน่งการงาน กรรมดีหรือชั่วที่ทำ
เป็นสิ่งที่เป็นของตน หรือเนื่องกับตน ในสัปปุริสธรรมข้ออัตตัญญุตา(ความเป็นผู้รู้จักตน)ก็มีอธิบายโดยนัยดังกล่าวว่าคือรู้จักตนโดยชาติ
ตระกูลเป็นต้นว่าเรามีชาติตระกูล เป็นต้น อย่างนี้ ๆ คำว่า แสวงหา ก็คือพยายามเสาะหาค้นหาให้พบให้ได้ เพื่อที่จะเข้าใจคำว่า แสวงหาตน ให้ดีก็ควรคิดถึงเรื่องที่เป็นเหตุให้ตรัสคำนี้ สอนเรื่องหนึ่งก็คือนางอโนชาเทวี เสด็จติดตามแสวงหาพระราชสวามี อีกเรื่องหนึ่งเมื่อต้นพุทธกาล ภัททวัคคีย์กุมาร
30 คน เที่ยวติดตามหญิงบำเรอคนหนึ่ง ที่ลักห่อของมีค่าหนีไป พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้แสวงหาตนทั้งสองเรื่อง และบุคคลในเรื่องทั้งสองก็ได้สติรับรองขึ้นทันทีว่าแสวงหาตนประเสริฐว่า จิตก็ถอนจากความผูกพันไขว่คว้าในบุคคลอื่นสิ่งอื่นกลับมาตั้งสงบอยู่ได้ใน ทางธรรม และก็จะได้พบตัวเอง ที่มีความสุขอันเกิดจากความมีจิตสงบนั้น ข้อว่าในธรรมจะเป็นในธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หรือในธรรมเทศนาคือคำแสดงอธิบายธรรม
หรือในทางที่ถูกที่ชอบตามเหตุผลแม่ที่เคยทราบก็ได้ เพราะถ้าจิตไม่สงบตั้งมั่นจะฟังจะอ่านธรรมหาได้ไม่ พอจิตตั้งสงบลงได้ก็จะอ่านจะฟังได้
และจะได้ปัญญาในธรรม
จะมองเห็นสัจจะในตนเอง ทั้งที่เป็นตัวทุกข์ ทั้งที่เป็นตัวเหตุเกิดทุกข์ คือความปรารถนายึดถือนี้แหละเป็นความรู้ธรรมในข้อว่า รู้ทั่วถึงธรรม
รู้ขึ้นดังนี้เมื่อใด จิตจะสงบลงได้เมื่อนั้น และการปฏิบัติทุกอย่างที่เป็นไปในทางข่มใจให้สงบตั้งมั่นธรรม ให้ได้ปัญญาในธรรม เรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมทุกอย่างแสวงหาตน จึงหมายถึงแสวงหาธรรม ที่จะเป็นที่พึ่งดับทุกข์ของตนลงได้แล




............................................แสวงหาตน...................................



พระนิพนธ์................สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



พิมพ์ลงในนิตยสาร ธรรมจักษุ ปีที่ 89 ฉบับที่ 6 มีนาคม 2548

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2553 21:33:30 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553 02:45:21 »




 ยิ้ม   ยิ้ม   ยิ้ม
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
don't control oneself if the mind wants to think 0.1
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
sometime 1 1845 กระทู้ล่าสุด 20 มีนาคม 2553 14:23:22
โดย sometime
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.312 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 05 มีนาคม 2567 04:01:05