[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 21:40:54 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “พระตำรับแก่กล่อน” ตำราทางเพศหายากแบบไทย  (อ่าน 502 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2325


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 87.0.4280.141 Chrome 87.0.4280.141


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 25 มกราคม 2564 12:15:52 »


ภาพประกอบเนื้อหา - ภาพกิจกรรมเชิงสังวาสแบบชาวบ้าน จิตรกรรมที่วัดหนองยาวสูง จังหวัดสระบุรี

“พระตำรับแก่กล่อน” ตำราทางเพศหายากแบบไทย
เปิดเคล็ดปรุงยา-ทำนายลักษณะนารี

ที่มา - ศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ - วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ.2564

ตำราเพศศาสตร์จากหลายแห่งในเอเชียเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทั้งจากอินเดีย จีน และญี่ปุ่น สำหรับของไทยเองก็มีตำราเพศศาสตร์เช่นกันแต่ตำราจากยุคจารีตส่วนหนึ่งไม่ค่อยหลงเหลือสืบทอดมาถึงยุคหลังมากนัก จะมีเพียงการค้นพบตำรับตำราตามแหล่งต่างๆ บ้าง ในบรรดาตำราเหล่านี้มีต้นฉบับที่พบในชื่อ “พระตำรับแก่กล่อน” รวมอยู่ด้วย

สำหรับผู้ที่ศึกษาเกี่ยวกับตำรับตำราโบราณในไทยน่าจะคุ้นเคยกับตำราหลายฉบับตั้งแต่ตำรานรลักษณ์ ตำราตรีภพ หรือผูกนิพพานโลกีย์ แต่หากพูดถึงความเป็นมาโดยรวมแล้ว ศาสตราจารย์สุกัญญา สุจฉายา อธิบายในหนังสือ “ไขความลับวรรณกรรมตำราเพศศาสตร์” ว่า ไม่พบตำราเพศที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

แต่ในอีกความหมายสำหรับนักวิชาการแล้วพิจารณาได้ว่า ก่อนหน้านั้นอาจมีก็เป็นได้แต่ไม่พบหลักฐานหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ที่พบกลับเป็นวรรณคดีที่เป็นเสมือนบันทึกห้วงอารมณ์พิศวาสโดยเจ้านายชายถึงภรรยาด้วยภาษาสัญลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกรัญจวนใจจาก “โคลงทวาทศมาส” อันเป็นวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้น มีเนื้อหาบอกเล่าถึงความคำนึงเรื่องการร่วมรักระหว่างชายและหญิงโดยใช้สัญลักษณ์เปรียบเปรย “งูใหญ่ แมลงภู่” แทนอวัยวะเพศชาย “บัวทอง สระ ดอกไม้” แทนอวัยวะเพศหญิง “ถนำทึก นพนิต” แทนน้ำกาม

ส่วนตำราเพศลักษณะทำนองแบบกามสูตรที่เป็นลายลักษณ์ของไทยกลับไม่เป็นที่รู้จักอย่างเปิดเผย ตามความเห็นของศาสตราจารย์สุกัญญา มองว่า ตำราเพศศาสตร์ของไทยเริ่มเป็นที่รู้จักกันเมื่อการพิมพ์เป็นหนังสือในระบบโรงพิมพ์เริ่มปรากฏในยุครัชกาลที่ 7

ขณะที่ตำราวรรณกรรมเพศศาสตร์ซึ่งเชื่อว่าอยู่ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์เล่มที่น่าสนใจอีกเล่ม คือ พระตำรับแก่กล่อน โดยพิสดาร ฉบับที่ค้นพบและนำมาศึกษานั้นอยู่ในรูปแบบ “สมุดฝรั่ง” ได้มาจากกรุงเทพมหานคร บุญเตือน ศรีวรพจน์ ผู้ตรวจสอบต้นฉบับวรรณกรรมเพศศาสตร์ อธิบายว่าต้นฉบับเป็นสมุดฝรั่ง ที่มาที่ไปของรูปแบบของการบันทึกนั้น ผู้ตรวจสอบตั้งข้อสังเกตว่าตำรากลุ่มนี้เคยมีทั้งที่จารลงใบลานและบันทึกในสมุดไทย เมื่อกระดาษสมุดฝรั่งแพร่หลายถึงมีการคัดลอกลงสมุดฝรั่ง


สำหรับพระตำรับแก่กล่อนฉบับนี้ บริเวณหัวกระดาษพิมพ์รูปตราอาร์ม หรือตราแผ่นดินที่ใช้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื้อหาคัดด้วยเส้นหมึกตัวบรรจง เนื้อหาในเล่มเล่าถึงพระราชกุมารสองพี่น้อง เป็นพระราชโอรสของ “ท้าวยักขพิมล” แห่ง “เหมะวะดีมะหานคร” ราชกุมารพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า “พระราชกุมารวิเชียร” พร้อมสมเด็จพระน้องยาไปเรียนศิลปศาสตร์กับพระอาจาริย์ สำนักทิศาปาโมกข์ในเมือง “ตักสิลาก์”

พระเชษฐาเรียนศิลปศาสตร์การคบเพื่อน “ผูกสันฐวะรักใคร่ ให้ร่วมจิตร์เจริญใจ” ส่วนผู้น้องเรียนเรื่องลักษณะแห่งหญิงและชาย ประเวณีลักษณะ ราคะลักษณะ การประกอบยารักษาอาการบกพร่องเกี่ยวกับประเวณี ในตำราตอนท้ายยังมีมีเนื้อหาส่วนเศษนารี ทำนายลักษณะของนารี

ที่มาที่ไปของพระตำรับนี้ บุญเตือน ศรีวรพจน์ ตั้งข้อสังเกตว่า ที่หน้าปกระบุชื่อผู้เขียนว่า “พิสดาร” มีข้อความว่า “ลักษณแห่งกุศลแลอกุศลนำมาปฏิสนธินั้นเป็นตราพระราชสีห์ตีประทับมาตั้งแต่ปถมวิญญาณ” ซึ่งข้อความส่วนที่อ้าง “ตราพระราชสีห์ตีประทับ” เป็นส่วนที่พบเห็นได้จากผลงาานกวีนิพนธ์ของนายมี หรือหมื่นพรหมสมพัตสร กวีที่มีชื่อเสียงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวหลายเรื่อง เช่น “ศรีสวัสดิ์วัด”

การอ้างตราพระราชสีห์นี้ใช้กันแพร่หลายสมัยรัชกาลที่ 3 ทำให้สันนิษฐานได้ว่า พระตำรับแก่กล่อน โดยพิสดาร น่าจะแต่งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ และคัดลอกต่อกันมากระทั่งเกิดระบบพิมพ์เผยแพร่

เนื้อหาในพระตำรับส่วนแรกว่าด้วยเรื่องทำนายชะตาจากลักษณะภายนอก มาจนถึงประเวณีลักษณะ ทำนายนิสัยจากลักษณะอวัยวะของสตรี เนื้อหาส่วนนี้ยกตัวอย่างได้เป็นบางข้อ ดังนี้

“หญิงใดโยนีดังกีบกวาง แลหัวเล็กข้างบนยาวก็ดี เรียวๆแลดูหัวไหล่หลุบ หญิงนั้นมักแพ้ผัว ชายพึงเว้นเสียแล

หญิงใดโยนีดังกระบานหาที่พึ่งมิได้ ชายใดจะสมเสพย์ ถ้าทำถึงใจมันจึงรัก ถ้าทำไม่ถึงใจมันคิดจะหาใหม่แล

หญิงใดโยนียาวแลหน้ายาว ขายาว มือยาว หญิงนั้นมีใจรักจะใคร่ลองเล่นลองดูซึ่งผัวเขาอื่น หญิงนั้นคิดอยู่เนืองๆ จะเอาผัวเขาแล…”

ส่วนต่อมาว่าด้วย “ราคะลักษณ” เล่าด้วยการตอบคำถามของฤาษี ว่าด้วยข้อแนะนำในการปฏิบัติกิจทางเพศ ตามมาด้วยการประกอบยารักษาอาการบกพร่องทางประเวณี ใจความส่วนหนึ่งกล่าวไว้ว่า

“ถ้าชายใดลึงค์หดอ่อนไปไม่แขง ท่านให้เอารากละหุ่งดำ 1 ราก ละหุ่งแดง 1 รากละหุ่งขาว 1 บดทาลึงค์ทั้งใหญ่ทั้งแขงดีนักแล

ถ้าเอาไม่ทน ท่านให้เอากระเทียมบดกับเนยกินเถิดกำลังมากเอาทนดีแล…”

และส่วนสุดท้ายคือวิธีคิดเศษทำนายลักษณะอวัยวะของสตรีโดยเอาวันเดือนปีมาบวกกันแล้วหารด้วยแปด ให้นับปีชวดเป็นที่หนึ่ง ให้นับเดือนห้าเป็นที่หนึ่ง และนับวันอาทิตย์เป็นวันที่หนึ่ง เอาจำนวนที่นับได้มาบวกรวมกัน แล้วหารด้วยแปด จะได้เศษมา เนื้อหาคำทำนายส่วนหนึ่งที่ใช้ยกตัวอย่างมีดังนี้

“เศษหนึ่งตำราท่านว่ามี รูปโยนีเท่าใบพลูไม่สู้ใหญ่ หนทางเข้านั้นขยับจะคับไป ขนก็ไม่มีรกปิดปกรู พิเคราะห์ดูสินทรัพย์อาภัพครัน แต่ว่าขันหมากจนคนไม่สู้ ชะตาแรงหนักหนาตำราครู จะมีคู่เลือกเอาเองไม่เกรงใคร

เศษสองท่านทายทำนายว่า โตเท่าฝ่ามือกางอย่างใหญ่ๆ ทั้งขนดำนั้นรกดกกะไร เนื่องขึ้นไปจนถึงหนอกดูออกดำ อนึ่งว่าอาภัพอัประลักษณ์ ทั้งยศศักดิ์เสื่อมทรามแม่งามขำ ทรัพย์สมบัติก็หาอุตส่าห์ทำ กว่าจะปล้ำตัวได้เหื่อไหลเปาะ…”

พระตำรับฉบับนี้ย่อมเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในรูปแบบบันทึกโบราณซึ่งยากจะพบเห็น และหาผู้วิเคราะห์มาเพื่ออธิบายอีกแง่มุมของพัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรมให้คนรุ่นต่อไปได้เข้าใจ ที่สำคัญคือการรับรู้เรื่องภูมิปัญญาของคนไทยในด้านเพศศาสตร์ ดังที่ประเทศอื่นในแถบเอเชียรับรู้ถึงผลงานทางวัฒนธรรมโบราณของประเทศตัวเองซึ่งกลายเป็นตำราทรงอิทธิพลแพร่กระจายไปสู่หลายภูมิภาคทั่วโลกและสืบทอดกันมาจนถึงวันนี้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.282 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 02 ตุลาคม 2566 20:07:35