[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 23:03:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 [2]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มหาชาติคำหลวง  (อ่าน 8446 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 03 ธันวาคม 2563 19:16:33 »



พระนางมัทรีขอร้องให้พญามฤคราชหลีกทาง ปล่อยให้พระนางเจ้า
กลับไปยังอาศรม  แต่สัตว์ทั้ง ๓ ไม่ยอมปล่อยให้พระนางเจ้ากลับไป
ตามพระราชประสงค์ จนกว่าจะถึงเวลาพระอาทิตย์อัสดงคตลับตาไป 
(เทวบุตรทั้ง ๓ จำแลงเพศเป็นราชสีห์องค์หนึ่ง เป็นเสือโคร่งองค์หนึ่ง
เป็นเสือเหลืององค์หนึ่ง)

กัณฑ์มัทรี (ต่อ)

               ปาโต คตาสิ อุญฺฉาย  .
[๑]คร้นนเช้าก็หิ้วกรนนเช้า ชายป่าเต้าไปหาชาย
ลูกไม้บทนนงายจำงายราชอดยืน แม่ฮา
               กิมิทํ สายมาคตา .
คิดใดคืนมาคํ่า อยู่จรหลํ่าต่อกลางคืน
เพราะเห็นกูโหดหืนแลดูแคลนกูกลใด ด่งงนี้

มทฺทิ ตฺวํ อภิรูปา ปาสาทิกา ดูกรเจ้ามัทรี นางมีโฉมอุดม แล้วก็เป็นที่ชม แห่งโลกยท้งงหลาย โสดแล หิมวนฺเต จ นาม พหู วนจรกา ตาปสวิชฺชาธราทโย วิจรนฺติ ดงงจริงอันว่าพนจร เป็นต้นว่าพิทยาธรแลดาบส นักพรตเดอนสบสถาน ในหิมพานต์นี้ก็มีมากโสด โก ชานาติ กิญฺจิ ตยา กตํ เพื่ออำเพอโทศทุราจาร เป็นการขบถ ด้วยนักพรตพนจร ในพนาดรกลางป่า ใครค่ารู้ใจนางโสดเลอย ตฺวํ ปาโตว คนฺตฺวา นางก็ไปแต่เช้า เข้ายงงป่า ก็ไปล่าเหล้นเต็มใจ แลนอ กิมิทํ สายมาคจฺฉสิ เจ้าอาไศรยแก่อนนใด แลไปแต่เช้าจรหลํ่า ต่อคํ่าคืนจึ่งมา แลมาแส้งใส่กลหาลูกนี้ ทหรกุมาเร โอหาย อรญฺญคติตฺถิโยว นาม ชื่อว่าหญิงท้งงหลายแล เดอนดงแหล่งไหล้ ลลูกไว้ภายหลงงด่งงนี้ สสามิกิตฺถิโย วา อสามิกิตฺถิโย วา เอวรูปา น โหนฺติ แลนางหญิงท้งงหลาย อนนมีผวฺวก็ดี อนนบมีผววก็ดี แล้วร้ายกลกยจกายดุจนางมัทรีนี้ ก็หาบมีโสดเลย กึ นุโข เม ทารกานํ ปวุตฺตึ นางก็บมิรำพึง ด่งงนี้ อันว่าข่าวแห่งสองพงงงา ปานี้เป็นไฉน ดงงนี้ กึ เม วา สามิโก จินฺเตสฺสติ อนึ่งโสด ท้าวธผู้เป็นผววผ่านเผ้า ปานี้เจ้ากูอยู่ฉนนใด กินฉนนใด เป็นเพื่อนใคร โสดสิน เอตฺตกํปิ เตนาโหสิ อันว่าความเท่านี้บร้าง นางจำรำพึงถึงตูพ่อลูกท้งงสามตน รอยกังวลแต่ความอื่นฤๅ ปาโตว คนฺตฺวา จนฺทาโลเกน อสฺสมํ อาคมิสฺสติ นางก็ไปป่าแต่เช้าต่อคํ่า เข้าสนธยา จึ่งค่อยคืนมายงงพระกุฎี ด้วยรัศมีพระจันทรน้นน มม ทุคฺคตภาวํ โทเสน อนนนี้ก็มาเป็นโทษแห่งตน เพราะกูทรพล ไพร่ขับมาอยู่ป่า เมียร้ายลาดูแคลน ดงงนี้ ตชฺเชตฺวา นิพฺพชฺเชตฺวา กเถสิ ท้าวธก็แกล้งใส่กลหาโทษ กล่าวกลโกรธแก่นาง ดงงนี้ ฯ สา ตสฺส กถํ สุตฺวา อาห อันว่าเจ้ามัทรี คร้นนได้ฟังเสาวนี พระมหาบุรุษย์ กล่าวประทุษฐษิดลธา นางพญาก็ทูลดงงนี้ นนุ ตฺวํ สทฺทมสฺโสสิ บพิตรท้าวธยงงได้ยินสยงง สำนยงสัตว์ในป่าฤๅ เย สรํ ปาตุมาคตา สัตวดงงได้เป็นอาทิ์ คือราชสีห์จากถํ้า ไปกินนํ้าในสระน้นน สีหสฺสปิ นทนฺตสฺส สองสิงห์สีห์มี่ก้อง ในที่ท้องหิมวันตประเทศนี้ พฺยคฺฆสฺส จ นิกูชิตํ ท้งงสยงเสือโคร่งคำราม มาอยู่ดามด้อมหน อหุ ปุพฺพนิมิตฺตํ เม บพิตรเป็นต้น วารกลางเข็ญ ก็เกอดมาเป็นแก่กู โสดแล วิจรนฺตฺยา พฺรหาวเน เมื่อข้าเดอนดงใหญ่ เข็ญร้ายใช่สามานย์ก็มี ขณิตฺโต เม หตฺถา ปติโต บพิตร สยฺมใส่ด้ามก็ลุ่ยหลุด พรากพร้าวสุดราวตก แลพ่อฮา อุคฺคีวญฺจาปิ อํสโต กนนเชอหาบโหง ตกจากบ่าพกพลัดพราย แลพ่อฮา ตทาหํ พฺยถิตา ภีตา เมื่อน้นนธกเป็นตรดกตกใจ รรววใครแลจะเห็นในป่าน้นน ปุถุํ กตฺวาน อญฺชลึ ข้าก็ยออัญชุลี ลไล นบนอบไหว้เหนือหวว โสดแล สพฺพา ทิสา นมสฺสิสํ ทุกทิศท่ววบํบวง สันรวงโอนอาราธนแล อปิ โสตฺถิ อิโต สิยา ตยมแต่ข้าคอยไหว้ สวัสดิ์จงได้โสดสํบูรณ แต่ท่านเทอญ มา เหว โน ราชปุตฺโต อนนว่าพระแพศยันดรหน่อเหน้า อนนเป็นเจ้าแห่งตนนิวไส้ หโต สีเหน ทีปินา สีหเสือโคร่งแพดพิด เสือเหลืองหลีกหนีไกล ท่านเทอญ ทารกา วา ปรามฏฺฐา สองสายใจหนุ่มเหน้ากำพร้าแม่มัทรี นิกดี อจฺฉโกกตรจฺฉีภิ แลหมีหมาป่าเสือแผ้ว จงคลาศแคล้วความบยน บยดเทอญ สีโห พฺยคฺโฆ จ ทีปิ จ บพิตร เสือคร่งครืนสิงหสีห เสือเหลืองมีในป่านี้ ตโย วาฬา วเน มิคา ครื้มครเมมร้ายรา ในปวงป่าเป็นเข็ญ ใหญ่แล เต มํ ปริยาวรุํ มคฺคํ สามตววขวางทาง อยู่ข้างทางที่ ทางจะเที่ยวท่องน้นน เตน สายมฺหิ อาคตา ทงงข้ามาเมื่อคํ่า ไทท้าวพรํ่าปรานี หนึ่งรา เอวํ มหาสตฺโต ตาย สทฺธึ เอตฺตกเมว กถํ วตฺวา อันว่าพระมหาบุรุษย์ เมื่อท้าวธทำพุทธโกรธฺ ธก็เบิกพระโอษฐจรรจา ด้วยนางพญา แต่เท่าน้นน ยาว อรุณุคฺคมนา น กิญฺจิ กเถสิ แต่น้นนไปเถองอรุโณไทย ธก็บมิไขพระโอษฐจรรจา ด้วยนางพญาโสดแล ตโต ปฏฺฐาย มทฺที นานปฺปการํ วิลปนฺตี อาห จัมเดิมแต่น้นนเจ้ามัทรี ก็ทรงกรรแสงแครงครํ่ารํ่าไปมาด้วยนาน ประการด่งงนี้ อหํ ปติญฺจ ปุตฺเต จ อันว่ากูบำเรอแก่พณหวว ผู้เป็นผววผ่านเผ้า อีกสองเจ้าราชโอรสแม่นี้ อาจริยมิว มาณโว เงื้อนฝูงสิศยมฤธู อนนบำเรอครูเนืองนิตยน้นน อนุฏฺฐิตา ทิวารตฺตึ กลางคํ่าข้าก็บยืน ท้งงกลางคืนข้าก็บอยู่เลอย ชฏินี พฺรหฺมจารินี ห่อชฎาบุนยบวช ส้างแสวงผนวชในดง ดานนี้ อชินานิ ปริทหิตฺวา นุ่งหนังเสือพักพาด เปลือกไม้คาดคากรอง อีกโสด วนมูลผลหาริยา ย่อมโทนท่ยวแหล่งไหล้ เลมลูกไม้มาถวายแต่ท่านน้นน วิจรามิ ทิวารตฺตึ คํ่าเวรวันบอยู่ ลาแล้วสู่อาศรม บทน้นน ตุมฺหํ กามา หิ ปุตฺตกา เพื่อคำนึงในนารถ อีกสองเจ้าราชเอารสแก่แม่นี้ อิทํ สุวณฺณหลิทฺทํ อนี้เขาหมิ่นไหม้บดทยมทอง แม่เอาแก่สองกษัตรย์แม่นี้ อาภตํ ปณฺฑุเวลุวํ ตูมเหลืองหล่นสุกเอง รุกฺขปกฺกานิ จาหาสึ ผลไม้สุกโสภา แม่เก็บเอามาเพื่อเจ้าแล อิเม โว ปุตฺต กีฬนา ผลไม้มากหลากหลายมี สองโฉมษีประพาศ เล่นแล อิทํ มูฬาลิวตฺตกํ รากบวว ง่าวบววสด โอชารศอร่อยหวาน สาลุกํ จิญฺจเภทกํ กรจับตรการแกมราก รศลางหลากหลายพรรค์ ภุญฺช ขุทฺเทน สํยุตฺตํ เชอญจงฉันสรรพสิ่งนี้ เจือผึ้งวี่หวานวิเสศ สห ปุตฺเตหิ ขตฺติย ข้าแต่ไท้ธิเบศ กับยุพเรศสองสวาดิ์ ปทุมํ ชาลิโน เทหิ พระองค์จงประสาท ประทุมชาติแก่ชาลีเลิศลักษณ์ กุมุทํ ปน กุมาริยา เชอญจอมมิ่งมกุฎ ส่งดวงกมุทให้กัณหา มาลิเน ปสฺส นจฺจนฺเต เธอก็จะเห็นสองสวาดิ์ รับมาลีชาติ์พร้อมน่ากุฎี สิวิ ปุตฺตานิ อวฺหย ข้าแต่จอมสีพีราช จงเรียกนารถดไนยสองมาแล้ว ตโต กณฺหาชินา ยาติ หนึ่งแก้วกัณหา ชินานารถ จักยุรยาตรมาจากที่ไสยา โสดแล นิสาเมหิ รเถสภ พระองค์ผู้เกษมศุขสวัสดิ์บุรินทร์ จะเยือกยินสยงสวัสดิ์ มญฺชุสฺสราย วคฺคุยา แห่งกนิฐนารถนารี สยงเรี่ยรรี่กลม เพราะแล อสฺสมํ อุปยนฺติยา เจ้าดุ่มเดาะเดอนมา สู่ศาลาทิพาวาศน้นนแล สมานสุขทุกฺขมฺหา หนึ่งค่อยข้ากับจอมนารถ ร่วมศุขทุกขสังวาศแต่ก่อนมา รฏฺฐา ปพฺพาชิตา อุโภ บัดนี้สองเจ้าเข้ามาพลัดพราก บพาชนิยกำม์จำจากพระบุรี อปิ สิวิ ปุตฺเต ปสฺเสสิ เชอญมกุฎแก้วสีพีทอดพระเนตร สองเยาวเรศเสน่หา ชาลึ กณฺหาชินํ จุโภ ชาลีกัณหาสองสวัสดิ์ แสนสุดที่รักเจ้าแม่ฮา ตฺยชฺช ปุตฺเต น ปสฺสามิ ชรอยกำม์น้นนมาพูนเพิ่มให้ จึ่งจำพลัดอรไทยเภาพงงงา ชาลึ กณฺหาชินํ จุโภ ชรอยเจ้าชาลีกัณหาแก้วแม่ แม้นม่นนแท้มิยาเลอย ฯ สมเณ พฺราหฺมเณ นูน พฺรหฺมจริยปรายเน อหํ โลเก อภิสฺสปึ สีลวนฺเต พหุสฺสุเต ฯ นูน ด่งงข้าพระบาท สมเณ เคอยบริภาษพระสมณ พฺราหฺมเณ ซึ่งพราหมณ์เถ้าทชี พฺรหฺมจริยา ปรพฤดิพรหมจารียจำเริญวัตร พหุสฺสุเต พหูสูตรศีลสัจบริบูรณ์ ท่ยงแท้แล เอวํ วิลปมานายปิ ตาย สทฺธึ มหาสตฺโต น กิญฺจิ กเถสิ เมื่อสํเด็จพระมัทรีศรีวราราชสมมุติวงษ์ ทรงกรรแสง แครงครํ่ารํ่าไปมาด้วยประการฉะนี้ มหาสตฺโต อันว่าพระมหาสัตว์อุดม บรมราชฤๅษี ก็มิได้ตรัสจำนรรจาด้วยโฉมนางเจ้าเลอย สา ตสฺมึ อกเถนฺเต ในเมื่อพระมหาบุรษย ท้าวธกระทำพุทธโกรธ บมิเบอกพระโอษฐจรรจา กมฺปมานา ส่วนสมเด็จอัคชายามีพระกายกำปนาท อตฺตโน ปุตฺเต วิจินิตฺวา ธก็สรรจรประพาศแสวงหา พระราชโอรสา แห่งพระองค์ เยสุ เยสุ ชมฺพุรุกฺขาทีสุ ฐาเนสุ เต ปุพฺเพ กีฬึสุ พุ่มพนัศพงใดๆ ดาษด้วยหมู่ไม้หวานเป็นต้น สองนฤมลเคอยสำราญแต่กาลก่อน ตานิ ตานิ ฐานานิ ปตฺวา คร้นนบทจรเสาะแสวง ถึงตำแหน่งน้นนๆ ปริเทวนฺตี ธก็ครวญครํ่ารํ่ารำพันไปมา กล่าวพระคาถาดงงนี้ อิเม เต ชมฺพุกา รุกฺขา อนึ่ง ต้นหว้าหวานกรป่ำ ลูกสุกกํ่าแกมใบอยู่แล เวทิสา สินฺธุวาริตา ย่างทรายลัดลำลาว สาขาท้าวเทอญสินธุ โสดแล วิวิธานิรุกฺขชาตานิ อันว่าพฤกษต่างๆ เกอดสรล่างสรหลอนงาม ในที่นี้ เต กุมารา น ทิสฺสเร แต่สองบงงอรท้งงคู่ บมิเห็นปรากฏอยู่ณที่ในหมู่ น้นนแล

อสฺสตฺถา ปนสา เจเม โพพนอมขนุนขนนนอยู่ในอวกาศนี้เห็นงาม โสดแล นิโคฺรธา จ กปิตฺถนา ไซรชรมดงดาษ ขวิดขวนนขาดตกดิน อยู่แล วิวิธานิ ผลชาตานิ ดอกไม้ก้ยวเกษา ลูกไม้ราแรงเสพยนี้ เต กุมารา น ทิสฺสเร แต่สองสร้อยศรีโอรส บมิเห็นปรากฏพุ่มผลเกษสดน้นนแล อิเม ติฏฺฐนฺติ อารามา ใบเพลดพวงกิ่งก้าน มีอยู่ทุกสถาน โสดไส้ ยตฺถสฺสุ ปุพฺเพ กีฬึสุ ทีราแรงประพาศ นํ้าห้วยหาศวงงวล ใหญ่น้นน เต กุมารา น ทิสฺสเร แต่พี่น้องแน่งนฤมล แม่บเห็น นทีห้วยหาศเยนน้นนแล วิวิธานิ ปุปฺผชาตานิ อันว่าสร้อยสรภู่ต่างๆ บานกรช่างแซงใบ อยู่ใส้ อสฺมึ อุปฺริปพฺพเต อยู่จอมด้วยกรกวด กิ่งก้านรวดรยงงามอยู่น้นน ยานสฺสุ ปุพเพ ธารึสุ เคอยกรสองทัดทาน เป็นสังวารวรรวยร อยู่น้นน เต กุมารา น ทิสฺสเร บุษบาบานบโรย สองเอโอยอกเปล่าแล วิวิธานิ ผลชาตานิ ลูกไม้ไหล้เหลืออยู่ ซ่องสรภู่เพศพวง มาศแล อสฺมึ อุปริปพฺพเต บานบนเขาขยวสรด ทงงวงกฏการญ รอบแล ยานสฺสุ ปุพฺเพ ภุญฺชึสุ ลูกไม้เมื่อสองเสวอย รากไม้เคอยสองเสพยแล

เต กุมารา น ทิสฺสเร ผลไม้ลูกสุกใส ผลบานใบเอออนนนี้แล อิเม เต หตฺถิกา อสฺสา รูปช้างชลชำนิ รูปม้าที่เห็นยงง อยู่แล พลิพทฺธา จ โน อิเม รูปวววเถลองแถลงอยู่ ปิน้นนเป็นคู่โสดสองกษัตรย์ แก่แม่แล เยหิสฺสุ ปุพฺเพ กีฬึสุ เครื่องบันเลงสองบงงออน เหล้นแต่ก่อนยลอยู่ไส้ เต กุมารา น ทิสฺสเร รูปช้างม้ากล้ากลาด รอยรูปราชตายไป แก่แม่ฤๅ อถสฺสา ปริเทวนฺสทฺเทน เจว ปทสทฺเทน จ มิคปกฺขิโน จลึสุ เมื่อน้นน อันว่าเนื้อแลนก ตื่นตกใจพพร่นน ด้วยสยงนางไห้ สน่นนสรเนาะพาษธารา แลฝีตีนนางเดอนหาลูกน้นน ฯ สา เต ทิสฺวา อาห อันว่านางนาฏ คร้นนเห็นพิหคดาษดยรดง แลมฤคในพงพนมท้งงหลาย นางก็ฟายนํ้าแหบไห้ ถึงลูกไท้ดาบศ กำศรดด้วยพระคาถาดงงนี้ อิเม สามา สโสลูกา อนี้รูป ซรายแดงแลตววต่าย แสรกสรานร่ายรงงรยง อยู่น้นน พหุกา กทลีมิคา เห็นวนนออกอรกนน ตูมตามผนนผังแล่น เล่นแล เยหิสฺสุ ปุพฺเพ กีฬึสุ เป็นเพื่อนเล่นลูกน้อยชมชื่น อวยเอาใจแต่ก่อนไส้ โสดแล เต กุมารา น ทิสฺสเร สัตว์สิงยงง เหลือแหล่ ลูกน้อยแม่ซัดไป แห่งหนใดแก่แม่นี้ อิเม หํสา จ โกญฺจา จ วานนี้หงษาสารสยงก้อง กรยนร่อนร้องรับฝูง อยู่แล มยูรา จิตฺรเปขุณา ยูงทองจับยูงทอง ยางยูงย่องยางโทน อยู่ไส้ เยหิสฺสุ ปุพฺเพ กีฬึสุ สองสายใจโบดก ย่อมชมนกในเถื่อนนี้ เต กุมารา น ทิสฺสเร เห็นแต่หงษลีลาศ สองเจ้าราชลีลาไป แห่งหนใด ดงงนี้

สา อสฺสมปเท ปิยปุตฺเต อทิสฺวา อันว่าเจ้ามัทรี คร้นนบมิเห็น สองกษัตรย์สายสวาดิ์ ในด้าวอาวาศอาศรมบทน้นน ตโต นิกฺขมิตฺวา นางกออกจาก อาศรมบท แห่งท้าวทรงพรตเสด็จอยู่น้นน ปุปฺผิตวนฆฏํ ปวิสิตฺวา เจ้าก็เข้าไปใน ดงดอกไม้ ไห้จรัลหา ที่สองพงงารยงเหล้น อยยวว่าเร้นรอก ซอกซอนอยู่น้นน ตํ ตํ ฐานํ โอโลเกตฺวา อาห เจ้าก็แกล้งแลหา ก็บมิเห็นสองพงางาม ในสนามที่เหล้น น้นนๆ นางก็ซ้นนสวดคาถาดงงนี้ อิมา ตา วนคุมฺพาโย ว่าอันนี้ปาทรสุม ทำทุมไพรพนัศถานนี้ ปุปฺผิตา สพฺพกาลิกา แกมด้วยดอกดวงบาน อนนตรการรอบคอบน้นน ยตฺถสฺสุ ปุพฺเพ กีฬึสุ พระนอมใดดงงเร้น สองย่อมเหล้นหลายสถานทุกแห่งแล เต กุมารา น ทิสฺสเร พระนอมไพรเหลือแหล่ พระน้อยแม่เมื่อใดลูกเอย อิมา ตาโปกฺขรณี รมฺมา อ้าอนี้ไกรพแกมสโรช ชลชวยโบษขรณี สนุกนิน้นน จกฺกวากูปกูชิตา จากพากพิหค พญานกร้องรงม อยู่แล มนฺทาลเกหิ สญฺฉนฺนา บววขมขาวสรดื่น บววเผื่อนชื่นไขขจร มากแล ปทุมุปฺปลเกหิ จ บววหลวงอีกอุบล ทงงจงกลแกมอยู่แล ยตฺถสฺสุ ปุพฺเพ กีฬึสุ สระใดสองทรงโสรจ อนนชื่อโบษขรณี แต่ก่อนน้นน เต กุมารา น ทิสฺสเร บววบานสรอาด หนาบววมาศแม่กบเห็นเลอย ลูกฮา

สา ตตฺถ ปุตฺเต อทิสฺวา อันว่าเจ้ามัทรี คร้นบมิเห็นสองกษัตรียบังอร ในพนานดรประเทศน้นน ปุน มหาสตฺตสฺส สนุติกํ คนฺตฺวา นางก็คืนมายงงสํนักนิ์ พระภรรดาธิราช เล่าแล ตํ ทุมฺมุขํ นิสินฺนํ ทิสฺวา อาห นางก็เห็นพระโพธิสัตว์ ทำบรางมุขยเสด็จ นงมงซังมิจรรจา เจ้าก็สวดคาถาทูลพระกรุณาดงงนี้ น เต กฏฺฐานิ ภินฺนานิ บพิตรท้งงฟืนตองบมิเผามิผ่า มาแต่ป่าทำคยดโสด น เต อุทกมาภตํ ทงงนํ้าในธบมิแต่งมิตัก เมียรักท้าวธกทำคยดโสด อคฺคิปิ เต น หาปิโต ทงงไฟฟืนธก็บมิกองมิก่อ ข้าน้อยพ่อธกทำคยดโสด กินฺนุ มนฺโทว ฌายสิ ดงงฤๅธมิปากมิต้งงด้วยข้า เงื่อนไขชาแลกมงง พ่อฮา ปิโย ปิเยน สงฺคมฺม คนใดเลอยแลจะเป็นที่รักษ ดุจเจ้าจอมจักรรักษ์ หายากแล สมฺโมหํ พฺยปหญฺญติ แม่มีทุกข์ทำงลเท่าฟ้า คร้นนเห็นหน้าราชก็หายทุกข์แล ตฺยชฺช ปุตฺเต น ปสฺสามิ เห็นแต่หน้าธผู้เป็นผววผ่านเผ้า หน้าลูกเต้าก็บเห็นโสดเลอย ชาลึ กณฺหาชินํ จุโภ คือกุมารเภาพงา คือแก้วกัณหาแก่แม่นี้ ตาย เอวํ วุตฺเตปิ มหาสตฺโต ในเมื่อพิลาปลาลดอาดูร แลนางทูลแก่พระราชฤๅษีสิทธิ์น้นน ตุณฺหีภูโตว นิสีทิ อันว่า พระราชฤๅษีบมิติงบมิท้วง เจ้ากบมิอาจล่วงเล็งเห็น ลำเค็ญพระราชหฤไทยท่านได้ โสดเลอย สา ตสฺมึ อกเถนฺเต ในเมื่อท้าวธบมิจรรจา ด้วยนางพญาดงงน้นน โสเกน สลฺลสมปฺปิตา อันว่าเจ้ามัทรี ก็เร่งมีโสกเสมอศรแสลง แลแขนงหฤไทย นางนาฎน้นน ปหฏกุกฺกุฏา วิย กมฺปมานา นางก็มีตนพพร่นน ส่นนรรววดุจตัวไก่ อนนธทระไม้ค้อนไล่ตามทัน รันให้อ่อนน้นน ปุน ปฐมํ วิจริตฏฺฐานานิ วิจริตฺวา นางก็หาสองพงาคืนเล่า ในที่เก่าตนหาก่อนน้นน มหาสตฺตสฺส สนฺติกํ ปจฺฉา อาคนฺตฺวา อาห คร้นนนางบมิเห็นสองกษัตริย์ เจ้ามัทรีก็คืนมายงงพระมหาบุรษย เศร้าสร้อยละห้อยสวดคาถาดงงนี้ น โข โน เทว ปสฺสามิ บพิตรบมิเห็นสองอ่อนน้อย แห่งเราเจ้าค้อยขาดใจตาย ฤๅพ่อฮา เยน เต นีหตา มตา เพื่อสิงสัตว์เข่นข้ยว ลักคาบค้ยวคากิน มิยาเลอย กาโกลาปิ น วสฺสนฺติ กาผู้ผววก็บแขกขานกนน แอกอาสัญรบานี้ มตา เม นูน ทารกา รอยรูปสองตายท่ยง จึงสงบสยงนิ่งเลอย น โข โน เทว ปสฺสามิ หากแต่คํ่า จรลํ่าแล้ว บมิเห็นสูท่านเลย เยน เต นีหตา มตา สองสายใจจอมมิ่ง ยยวสกุณฆ่าทิ้งทอดเสีย มิยาเลอย สกุณาปิ น วสฺสนฺติ นกพู่ผู้ผววบพ้อง นกเมียบร้องนิ่งน้อยนี้ มตา เม นูน ทารกา รอยรูปสองสูญตาย ดงงแม่หมายบมิ ยาเลอย ตาย เอวํ วุตฺเตปิ มหาสตฺโต น กิญฺจิ กเถฺสิ เมื่อสมเด็จพระมัทรีกราบทูลดงงนี้ พระบรมราชฤๅษี บมิตอบพาที ดุศดีภาวนิ่งอยู่แล สา ปุตฺตโสเกน ผุฏฺฐา ปุตฺเต อุปธาเรนฺตี ฝ่ายสมเด็จพระยุพยอดนารี แสนโศกีด้วยพระเยาวเรศ ทนเทวศแสวงหา ตติยวารํ ตานิ ฐานานิ วาตเวเคน วิจริ ตระเวนกลับไปมาสิ้นตติยวาร ในฐานที่น้นนแล ตาย กิร เอกรตฺตึ วิจริตฏฺฐานํ ปริคฺคยฺหมานํ ปณฺณรสโยชนมตฺตํ อโหสิ ดงงได้ยินมา ที่โฉมนางพญา เตรดเตรนตระเวนหา แต่ในราตรีดยว กำหนดทางที่ท้าวธท่ยวตรหลบไปมา ถ้าจะคลี่คลายขยายมรคาออกไปได้สิบห้าโยชน์โดยไกล โสดแล อถ รตฺติ วิภายิ กษณน้นน อันว่าราษราตริน กสุดสิ้นสว่างแล อรุโณ อุทโย ชาโต อันว่าพระอรุโณไทยไขศรี ส่องรัศมีรุ่งกล้าฟ้าแจ้งแล สา ปุนาคนฺตฺวา มหาสตฺตสฺส สนฺติเก ฐิตา ปริเทวิ อันว่าพระมัทรีศรีแผ้ว ไม่พบพระลูกแล้วแลกลับมา ดิษฐาน เฉภาะภักตราพระมหาดิลกโลก ก็ปริเทวกนนแสงโศกร่ำไร ในสำนักนิ์ธแล ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่า พระไตรโลกุตตมพรหมมารทรจุธากประกาศคาถา ให้สราพกท้งงหลายฟงง ดงงนี้ สา ตตฺถ ปริเทวิตฺวา อันว่าพระมัทรี เสวอยพระทุกข์ปริเทว ท่ยวหาในหิมวา ปพฺพตานิ วนานิ จ ทุกสิงขร ขอบแค่คูหาหุบเหวคีรีย์เรืองผาเพองเขา ปุน เทวสฺสมํ คนฺตฺวา จึ่งกลับตนตลบมา สู่สุทสาลาคราญสลดใจ โรทิ สามิกสนฺติเก ก็พิโรธรํ่าไรไห้โหยโรยแรง ในสำนักนิ์แห่งพระสวามีน้นน น โข โน เทว ปสฺสามิ ข้าแต่ราชาธิราชเรืองญาณ ซึ่งสองราชกุมารไม่เห็นหาย เยน เต นีหตา มตา ดงงฤๅราชมฤครานรอนชีพลูก แม่ม้วยมรณ์แม่นถวิล กาโกลาปิ น วสฺสนฺติ จึ่งไก่กาโกกิลแลเค้าเขา บขนนขานคู่เคล้าคลึงคลอ มตา เม นูน ทารกา ชรอยรูปน้อย หน่อนิราศร้างแม่ ตายจากอกแล้วแลหลากนัก น โข โน เทว ปสฺสามิ ข้าแต่ตนตำฤษแรงรน หนีข้อยบยลศรีภาคย์ เยน เต นีหตา มตา สัตว์ใดลุลาภลำเภา ภาพี่น้องนงเยาว์ยินหนอ สกุณาปิ น วสฺสนฺติ ท้งงปักษาสัตว์สงบงอเหงางยบ บโจนจับจยบเจรจา มตา เม นูน ทารกาดงงข้อยคนึงหน้าใจหาย เห็นว่าสองสวาดิ์วางวายชีพแม่นแท้ เทอญ วิจรนฺตี รุกฺขมูเลสุ เมื่อคอยลระท่ยวหา แห่งห้องหิมวา รุกขรายร่มรยงชลาทาน ปพฺพเตสุ คุหาสุ จ ทุกสิงขรพิศาลสานูเนอนเขาคนนทโขดคูหาสวรรค์ น โข โน เทว ปสฺสามิ ข้าแต่สมมุติเทวนนวรบาท ค่อยบยลเยาวราช เลอยพ่อ มตา เม นูน ทารกา ด่งข้อยนึกหน้าหน่อธิราช ขันธขาดชีวาตม่นนแม่น แท้แล อิติ มทฺที วราโรหา ราชปุตฺตี ยสสฺสินี พาหา ปคฺคยฺห กนฺทิตฺวา ตตฺเถว ปติตา ฉมาติ ฯ มทฺที อันว่าพระมัทรีศรีสุนทรที่แล้วเลิศนาง วราโรหา เห็นอุดมรูปสรรพางค์ พิมลภักตร์ ยสสฺสินี มีอุกฤษฐเกียรติยศศักดิสฤงฒาร ราชาปุตฺตี เป็นธิตุท้าว ท่านมัทธราช พาหา ปคฺคยฺห ยกกรค่อนอกอาตมโอ้อาไลย กนฺทิตฺวา กันแสงโศก สุดหฤทัยธดำรง ปติตา สิ้นกำลังล้มลงแลอนาถ สุวณฺณกทลีขณฺฑํ วิย ดุจต้น กทลีมาศ อันดล ฉมา เมาะ ปฐวิยํ เหนือแผ่นพสุธา ดลดาญสลบ ตตฺเถว ปาทมูเล แทบบาทมูลเมิลสยบแสยงเนตร เวสฺสนฺตรสฺส แห่งสมเด็จพระเพศยันดรภัศดา ด้วยประการดงงนี้ แล ฯ อถ มหาสตฺโต มตา มทฺทีติ สญฺญาย กมฺปมาโน กษณนั้น สมเด็จพระมหาสัตว์สุริยวงษ์ มีพระองค์หวาดหว่นนไหว สำคัญว่า มัทรีตักไษยสวรรค์คต อุปฺปนฺนพลวโสโก ทรงพระกำสรด แสนโศก ด้วยชายาวิโยคเป็นกำลงง ก็ต้งงวิตกว่า อฏฺฐาเน วิเทเส มตา มทฺที ว่าแม่มัทรีใช่ถิ่นฐาน ที่มโหฬารประเทศ ฤๅมามรณเดษดยว อนาถา สเจ หิสฺสา เชตุตฺรนคเร กาลกิริยา อภวิสฺส ถ้าทำกาลกิริยา ในเชตุดรมหานครราชฐาน มหนฺโต ปริวาโร อภวิสฺส จะมีมหันตบริวารบำรุงบรมศพ เทว รฏฺฐานิ จเลยฺยุํ พยงพิภพ บันฦๅล่นนสน่นนหนาว ไทท้งงสองบุรีท้าวจะไหวหวาด อหํ ปน อรญฺเญ เอกโกว แลกูอยู่ในอรัญญิกาวาศผู้ดยวด่งงนี้ กินฺนุ โข กฺริสฺสามิ จะทำไฉนดีศพพระมัทรีหนอ สตึ ปจฺจุปฏฺฐเปตฺวา พระบรมหน่อพุทธางกูรต้งงสติ ดำริว่าตายฤๅไฉน ชานิสฺสามิ ตาว จำจะไปดูให้รู้แท้ อุฏฺฐาย เสด็จไปน่งงแค่คยงพระสริโรตมางค์ หทเย ทกฺขิณหตฺถํ ฐเปตฺวา ยกทักษิณหัตถวางอุรางคประเทศ สนฺตาปปวตฺตึ ญตฺวา จึ่งรู้เหตุแห่งสันตปคียงงอุ่นอยู่ ยงงไม่สู่สวรรค์คต กมณฺฑลุนา อุทกํ อาหริตฺวา ทรงพระเต้าสุธารศค่อยประพรม สตฺตมาเส กายสํสคฺคํ อนาปนฺนปุพฺโพปิ กำหนดนิยมแต่ก่อน ทรงบรรพชากรถึงเจ็ดเดือนแล้ว จะได้วี่แววสำผัศ ปริมัชนพระมัทรี หามิได้ พลวโสเกน ปพฺพชิตภาวํ สลฺลกฺเขตฺตุํ อสกฺโกนฺโต วนนน้นนไซร้พระโศกเป็นกำลงง จึงมิอาจต้งงสมฤดี ซึ่งภาวเป็นชีน้นนได้ อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ พระอัศุชลลามไหลฟูมเนตร ตสฺสา สิสํ อุกฺขิปิตฺวา สองพระกรประคองเกษ พระดาบศินี อูรูสุ ฐเปตฺวา ประดิษฐานที่พระเพลา อุทเกน ปริปฺโผสิตฺวา ประพรมพระเจ้า ด้วยชลชาติ์ มุขญฺจ หทยญฺจ ปริมชฺชนฺโต นิสิทิ แล้วประองค์พระภักตรแลอุรปรเทศ คอยทรงสังเกตอัสสาสประสาส มทฺทีปิ โข โถกํ วีตินาเมตฺวา แม้ว่าพระมัทรีสภัพ รงับงยบสงบอยู่น่อยหนึ่ง สตึ ปฏิลภิตฺวา ท้าวธจึงได้สมฤดี หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺฐเปตฺวา แล้วก็มีกลยดกลววบาป อุฏฺฐาย มหาสตฺตํ วนฺทิตฺวา เสด็จอุฐาการกรานกราบพระภัศดา สามิ เวสฺสนฺตร ทารกา เต กุหึ คตาติ อาห ทูลถามว่า ข้าแต่พระแพศยันดรสวามี เจ้ากัณหาชาลีศรีสวาดิ จรจากอาวาศไปถานที่ใด พ่อฮา เทวิ เอกสฺส พฺราหฺมณสฺส ทาสตฺถาย มยา ทินฺนาติ พระบรมโพธิสัตว์ ก็ตรัสพร้องว่า ดูกรท้าวน้องมัทรี เจ้ากัณหาชาลีสายสุดสวาดิ พี่ยกให้เป็นทาษพิฒาจารย์ แต่วนนวานนี้แล้วแล ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่า พระโลกเชษฐาจารย์ ก็มีพุทธโองการพระคาถา ให้กษิณาศรพท้งงหลายฟงง ดงงนี้ ตมชฺฌปตฺตํ ราชปุตฺตึ อุทเกนาภิสิญฺจถ อสฺสตฺถํ นํ วิทิตฺวาน อถ นํ เอตพรฺวิ ฯ มหาสตฺโต อันว่า พระบรมราชฤๅษี ราชปุตฺตึ ทฤษนพระมัทรี ตมชฺฌปตฺตํ ถึงวิสัญญีสลบทอดพระองค์ลง อุทเกน หน้าพระภักตรทรงพระเต้าตักวารีรด อสฺสตฺถํ นํ เห็นอัสสาสวาตปรากฏฟื้นสมฤดี เอตทพฺรวิ จึงตอบวาทีนุชนารถ อถ นํ โดยนัยท้าวประสาทสองศรี แก่ชูชีชกาจารย์ วนนวานนี้แล ตโต ตาย เทฺว ปุตฺเต พฺราหฺมณสฺส ทตฺวา มม สพฺพรตฺตึ ปริเทวิตฺวา วิจรนฺติยา กึ เม ตํ น อาจิกฺขสีติ วุตฺเต สมเด็จพระวรราชมัทรี พจนพาทีตอบสาร เมื่อพระราชสมภารพุทธพงษ์ บพิตรทรงบริจาค สองเพื่อนยากเป็นทาน เหตุฤๅทรมานผู้ข้า ท่ยวทุเรศรํ่าหาสิ้นราษราตรี เพื่อคดีใดพ่อ มหาสตฺโต อาห พระมหาสัตว์ก็ตอบด้วยพระคาถา ดงงนี้ อาทิเยเนว เต มทฺทิ ดูกรมัทรีท้าวน้อง พี่บปราถนาพร้องบอกคดี ทุกฺขํ นกฺขาตุมิจฺฉิสํ แต่เดอมทีเห็นจะอาดูรทุกข์เทวศพูนมาก โสดแล ทลิทฺโท ยาจโก วุฑฺโฒ อ้าแม่จงสดับสาร ยังมีพราหมณ์พฤฒาจารย์ยาจก พฺราหฺมโณ ฆรมาคโต ทุรพลคนทลิทกกำพร้า เซซังมาสู่อาวาศสถานสำนักนิ์เรา โสดแล ตสฺส ทินฺนา มยา ปุตฺตา หนึ่งสองกุมารเพื่อนไร้ เราอุทิษอวยให้แก่ทชี มทฺทิ มา ภายิ อสฺส ดูกรเจ้ามัทรี อย่าทุกข์ทวีแสนโศก นักเลอย มํ ปสฺส มทฺทิ มา ปุตฺเต บนนเทาทุเลารัก พระลูกลง จงเห็นแก่อาตมประสงค์สัพพัญญุตญาณ มา พาฬฺหํ ปริเทวยิ ดูกรพระท้าวน้อง เจ้าอย่ารํ่าปริเทวนาการมากนาน โสดแล ลจฺฉาม ปุตฺเต ชีวนฺตา เรายืนยงงไปจะได้พบพี่น้องนงคนรลักษณ์วิไลย อโรคา จ ภวามเส เจ้าจงหักรานโรคาพยาธิ์ ค่อยครองชีวาตม์ ไปแล ปุตฺเต ปสุญฺจ ธญฺญญฺจ หนึ่งสวิญญาณทรัพย์อนนใดโดยยิ่งบุตรภรรยา ยญฺจ อญฺญิ ฆเร ธนํ อวิญญาณกทรัพย์นับด้วยเข้าเปลือก แลเข้าสาร ทชฺชา สปฺปุริโส ทานํ อย่างพระโพธิสมภารเป็นทางสัปรุษ ตามพระพุทธประเพณี ทิสฺวา ยาจกมาคเต แม้มนุษยกปนาจำนง ขอสิ่งประสงค์ประสาททาน อนุโมทาหิ เม มทฺทิ อ้าแม่จงมีมหันตปรีดาลดูประโยชน์ น้นนแล ปุตฺตเก ทานมุตฺตมํ เจ้าจงอนุโมทนปิยบุตร อนนเป็นมงกุฎบารมี มทฺที อาห พระมัทรีศรีสุดา ปรนตเหนือมกุฎเกษาทูลด้วยพระคาถา ดงงนี้ อนุโมทามิ เต เทว ปุตฺตเก ทานมุตฺตมํ ฯ เทว ข้าแต่บพิตรโพธิพงษ์ อนุโมทามิ ปวรา ข้อยขออนุโมทนา ปุตฺตเก ซึ่งพระปิยบุตรบริจาค เต เมาะ ตยา แห่งพระบรมสากยาภินิหาร ทานมุตฺตมํ ซึ่งพระบรมทานอนนอุดม ทตฺวา จิตฺตํ ปสาเทหิ ให้แล้วปสนาการ เพิ่มผ่องพระทานบารมี โสดแล ภิยฺโย ทานํ ทโท ภว พระไทยทำนองถ่องทวี คูณทางที่จะบำเพ็ญพระโพธิญาณ น้นนแล โย ตฺวํ มจฺเฉรภูเตสุ กมลไม่ตรหนี่ ตามทางพุทธประเพณีแต่อดีตกาลน้นนมา มนุสฺเสสุ ชนาธิป ข้าแต่พระชนาธิเบศูร สองหน่อพุทธางกูรเกอดก่อ พฺราหฺมณสฺส อทา ทานํ ทรงพระประสาทสองสุริยายอดรักษ์ หักให้แก่พราหมณ์ น้นนแล สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒโน อนนจำเริญราชสิพีพหลหรรษา ปราโมชโมทนา น้นนแล ฯ เอวํ วุตฺเตปิ มหาสตฺโต ในเมื่อพระมัทรีทูลฉลองบาท จึงสมเด็จบรมนารถสนองว่า มทฺทิ กินฺนาเมตํ กเถสิ ว่าแม่วิมลสุดาดงงฤๅเจ้ามาพร้อง สเจ หิ มยา ปุตฺเต ทตฺวา จิตฺตํ ปสาเทตุํ นาภวิสฺส ถ้าพี่บำเพ็ญแลบผ่องใสสัทธา อิมานิ เม อจฺฉริยานิ นปฺปวตฺเตยฺยุํ ไหนอัจฉริยายิ่งจะบงงเกอด สพฺพานิ ปฐวินินฺนาทาทีนิ ตสฺสา กเถสิ บพิตรก็ผายเพอดพิธีแถลง สรรพอัศจรรย์แจ้งแจงนาง สิ้นทุกปางแล ตโต มทฺที ตาเนว อจฺฉริยานิ ปริกิตฺเตตฺวา กษณน้นน อันว่าพระมัทรีศรีวรลกษณเลิศนาง ธก็รํ่าปางอัจฉริยานิเทศ ถวายพระเพศยันดรภัศดา อนุโมทนฺตี เอวมาห เมื่อจะอนุโมทนาพระปิยบุตรทาน กโถมนาการด้วยพระคาถา ดังนี้ นินฺนาทิตา เต ปฐวี ข้าแต่พระองค์ทรงสรรพลักษณ์ ปางพระจอมจักรบริจาคทาน สทฺโท เต ติทิวงฺคโต สยงตลอดเมืองอมรมินมโหรณพ จนภวัคคภพพรหมมาน สมนฺตา วิชฺชุตา อาคุํ ท้งงแสงสายอสุนีการ กำเริบรองจักรพาฬน้นนแล คิรีนํ ว ปฏิสฺสุตา ต้องคีรียเขาขอบขันธ ขจายท่ววทิศต่างๆ ตสฺส เต อนุโมทนฺติ เทพยท้งงหลายก็ปราโมช ช่วยอนุโมทนา ด่งงนี้ อุโภ นารทปพฺพตา หนึ่งนารทปรากฏ บรรพตเทวดาท้งงสองช้นนฟ้า น้นนแล อินฺโท พฺรหฺมา จ ปชาปติ ท้งงอินทร์พรหมบรมปชาบดีเดช ท่ววทุกประเทศต่างต่าง โสโม ยโม เวสฺสวณฺโณ จ ราชา ท้งงโสมยมเทเวศเพศวรรณราชา สพฺเพ เทวานุโมทนฺติ ชุลิน้อมนมัสการอนุโมทน์ ซึ่งสองประสาทโสดแสดงผล เพื่อเป็นทศพลภายหน้า น้นนแล ตาวตึสา สอินฺทกา สรรพเทวคณานับ ไตรตรึงษสถิตย์ ท้งงองค์อำมฤตยกฤษดาญ อิติ มทฺที วราโรหา ราชปุตฺตี ยสสฺสินี เวสฺสนฺตรสฺส อนุโมทิ ปุตฺตเก ทานมุตฺตมนฺติ ฯ มทฺที อันว่าพระมัทรีศรีสุนทรางค์ วราโรหา วรรูปารมเยศ เห็นลำเภาเพศพิมลเบญจางค์ ลักษณ์เลิศฟ้า ราชปุตฺตี เป็นบรมราชธิดาอดุลดวงสวาดิ แห่งท้าวมัทธราชชาติเชื้อสมมุติพงษ์ ยสสฺสินี กอปกฤดิบริวารยศยงฦๅเลื่อง ทุกแมนเมืองหมู่กษัตริย์ อนุโมทิ ก็ทรงพระโสมนัศยินดีด้วย ธก็ช่วยอนุโมทนา ปุตฺตเก ซึ่งสองเสนหาบุตรทาน ทานมุตฺตมํ เพื่อพระโพธิญาณอนนวิเสศ เวสฺสนฺตรสฺส แห่งพระเพศยันดรภัสดาด้วยประการด่งงนี้ มทฺทีปิ ตเถว ทานํ วณฺเณตฺวา สมฺโมทมานา นิสีทิ อันว่าพระมัทรี สรรเสริญพระทานบารมีดุจหนหลงง ก็นิสีทนสโมสร ด้วยพระแพศยันดรน้นนแล


มทฺทีปพฺพํ นิฏฺฐิตํ
๙๐ พระคาถาบริบูรณ์.

[๑] ที่ตรงนี้ มีในจินดามณี ยกไปเป็นตัวอย่างลำนำ ๑๑ ถ้อยคำผิดเพี้ยนกันไปบ้าง ข้างไหนจะถูกกับของเดิมก็ไม่ทราบคัดมาไว้สำหรับนักปราชญ์พิจารณา ดังนี้

ครั้นเช้าก็หิ้วเช้า       ชายป่าเต้าไปตามชาย
ลูกไม้จึ่งครันงายจำงายราชอดยืน
เป็นใดจึ่งมาค่ำ อยู่จรหลํ่าต่อกลางคืน

http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/15842572144336_kan09_01_1_Copy_.jpg
มหาชาติคำหลวง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03 ธันวาคม 2563 19:22:27 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2563 15:42:39 »




ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) จำแลงเป็นพราหมณ์มาขอพระนางมัทรี เพื่อให้
ท้าวเธอได้ลุถึงยอดบารมี  เมื่อได้รับพระราชทานแล้วก็ทูลถวายคืนพระมัทรีแก่
พระเวสสันดร ทั้งขอไว้ไมให้่พระเวสสันดรฤๅษียกพระมัทรีให้ใครอีกต่อไป แล้ว
แสดงพระองค์ว่าเป็นท้าวสักกเทวราช ทูลให้พระมหาสัตว์เจ้าทรงเลือกพร ๘
ประการ และประสาทพร ๘ ประการ แล้วเลื่อนลอยขึ้นสู่อากาศ มีโอภาสรัศมี
สว่างไสวเหมือนกับแสงอาทิตย์แรกอุทัยฉะนั้น.

กัณฑ์สักรบรรพ
๑. ท้าวสักกเทวราช ทรงแปลงเพศเป็นพราหมณ์มาทูลขอพระนางมัทรี พระเวสสันดรก็ทรงบำเพ็ญทานบริจาคให้แก่พราหมณ์
๑.เมื่อท้าวเธอได้รับพระราชทานพระนางมัทรีแล้วก็ถวายคืน แล้วทูลว่าพระองค์เป็นท้าวสักกเทวราช มาเพื่อประทานพรแด่พระองค์ ขอพระองค์จงเลือกอัฐวราพร
๑.พระเวสสันดร ขอพรแปดประการแด่ท้าวสักกเทวราชช มีปรากฏในกัณฑ์ สักกบรรพนี้

๏ เอวนฺเตสุ อญฺญมญฺญํสมฺโมทนียํ กเถนฺเตสุ ในเมื่อสองไท้ ราชดาบส ษาพิมตไปมากล่าวแก้วททานราชเอารส สองราชเวนแก่ชูชกแล้ว จึ่งไท้ชมธรรม ด่งงนี้ สกฺโก เทวราชา จินฺเตสิ เมื่อนั้นท้าวพันตา พระญาไตรตรึงษ์ ก็รำพึงด่งงนี้ อยํ เวสฺสนฺตรมหาราชา หิยฺโย ชูชกสฺส มหาปฐวิ อุนฺนาเทตฺวา ทารเก อทาสิ อันว่า พระเพศยันดรราชฤๅษี ยังปถพีธให้พินาศ เมื่อประสาทสองรักราชกุมาร แก่ ชูชกาจารย์ในวันวานนี้ โสดแล ฯ อิทานิ โกจิ หีนปุริโส นํ อุปสงฺกมิตฺวา ในกาลบัดนี้โสด อันว่าชายโหจผู้ใด ก็จะตั้งใจเข้าไปสู่ ถึงที่ไท้ธเสด็จอยู่นั้น สพฺพลกฺขณสมฺปนฺนํ สีลวตึ มทฺทึ ยาจิตฺวา ก็จะขอเจ้ามัทรีอันมีศีลอันชอบ กอปรด้วยสรรพลักษณ์ แก่เจ้าจอมจักรโสดแล ราชานํ เอกกํ กตฺวา ก็จะให้ไท้ธอยู่ลิงโลจ ตรอมตรโมจพระองค์ ในไพรพงพนเวศนั้น มทฺทึ คเหตฺวา คจฺเฉยฺย ชายนั้นก็จะพาเจ้ามัทรี ดาบษศินีนักยศ อันมีประดิพรตแด่ราช เทียรแคล้วคลาศคลาไป โสดแล ฯ ตโต เอส อนาโถ นิปฺปจฺจโย ภเวยฺย เมื่อนั้นเจ้าจอมจักร ก็จะหาที่ พำนักนิบมิได้ ไท้ธก็จะอยู่เอกาดม ในอาศรมอาศนาจลนั้น ยนฺนูนาหํ พฺราหฺมณวณฺเณน นํ อุปสงฺกมิตฺวา อันว่ากูจะไปสู่ ถึงที่อยู่พระดาบศด้วยพรตอันเป็นพราหมณ์นั้น มทฺทึ ยาจิตฺวา กูจะขอเจ้ามัทรี แด่พระราชฤๅษี สรรพเพชญ์นั้น ปารมิกูฏํ คาหาเปตฺวา ก็จะให้พระราชฤๅษี ยกยอดบารมีทาน เพิ่มสมภารที่จะเป็นพระพุทธนั้น กสฺสจิ อวิสชฺชนียํ กตฺวา ก็จะไว้นางพระยาให้รักษาจอมราช อย่าให้ธประสาทแก่ผู้ใด ใครผู้หนึ่งนั้น ปุน นํ ตสฺเสว ทตฺวา อาคมิสฺสามีติ ครั้นกูถวายเจ้ามัทรีแด่พระราชฤๅษีแล้วเสร็จ กูจะเสร็จสู่พิมานสถานไตรตรึงษคืนเล่าเทอญ ฯ

๏ โส สุริยุคฺคมนเวลายํ ตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ ในกาลเมื่อ ท้าวพันแสง เสด็จครแลงเลออากาศ อันว่าเจ้าฟ้าราชอมร ยังสำนักนิภูธรทานเหง้า แห่งสอง เจ้าราชดาบศเสด็จ อยู่นั้น ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระไตรโลกยครู สวยมภูญาณนายก ดิลกรัตนจุทา ก็บันทูลคาถาแก่สราพกทงงหลาย ด่งงนี้ ฯ ตโต รตฺยา วิวสาเน สุริยสฺสุคฺคมนํ ปติ สกฺโก พฺราหฺมณวณฺเณน ปาโต เนสํ อทิสฺสถาติ ฯ ภิกฺขเว ดูกรขศิณาสรพภิกษุทงงหลาย ตโต รตฺยา วิวสาเน เมาะ ตาย รตฺติยา อจฺจเยน ในเมื่อราษราตรี สายสารศรีสิ้นสาง กระซ่างฟ้าเห็นกัน ฯ โส สกฺโก อันว่าจอมสวรรค์ฟอกฟ้า ถ้วนหน้าเรียกพันตา สุริยสฺสุคฺคมนํ ปติ ท้าวธ อาไศรยแก่พันแสง เสด็จครแล่งเลอเวหาศ ฯ อทิสฺสถ เมาะ อตฺตานํ อทิสฺสถ ธก็แกล้งประกาศให้เห็นองค์ ฯ ปุรโต เนสํ ทฺวินฺนํ ขตฺติยานํ ดูยันยงคโอภาษ ต่อหน้าราชท้งงสอง ปาโต เมื่อรงงรองตารุ่งมุ่งตาฟ้า พฺราหฺมณวณฺเณน เมาะ พฺราหฺมณเวเสน พลิกหน้าเพศมาเป็นพราหมณ เสงี่ยมสารงามกว่าชื่นแล ฯ

๏ วตฺวา จ ปน ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห อันว่าอินทร พราหมณ์จะทำปราไศรยเสน่หา ด้วยพระญาใจธรรม ก็ทูลด้วยพระคาถาด่งงนี้ กจฺจิ นุ โภโต กุสลํ บพิตร อันว่าความไข้เจ็บเหน็บเหนื่อย มล้าเมลื่อยเจ้ากูยงงมี โสดฤๅ ฯ กจฺจิ โภโต อนามยํ อันว่าความสนุกนิศุกสานต์ สำราญราชยงงมีฤๅนาท้าว ฯ กจฺจิ อุญฺเฉน ยาเปถ เลี้ยงเนื้อเกื้อตน ด้วยแสวงหาผลยงง ง่ายฤๅ ฯ กจฺจิ มูลผลา พหู ลูกหมากรากไม้ ยงงมีแด่ไท้ธภอฉัน มากฤๅ กจฺจิ ฑํสา มกสา จ ริ้นร่านห่านยุง ยงงคาสคุงใจราชฤๅ ฯ อปฺปเมว สิรึสปา งูเงี้ยว เขี้ยวขอนอนาทรธ ยงงมี โสดฤๅ ฯ วเน วาฬมิคากิณฺเณ ป่าพงดงกว้าง แกว่นหมู่ช้างเสือสีห์ สัตว์สิงฤๅ ฯ กจฺจิ หึสา น วิชฺชติ หิงษาพาโทษแห่งสัตว์นั้น โสด ยงงมีแก่ท่านฤๅ ฯ เอวํ วุตฺเตปิ มหาสตฺโต เตน สทฺธึ ปฏิสนฺถารํ กโรนฺโต อาห ในเมื่ออินทพราหมณ์ ทูลความปราไศรยแล้วเสร็จ สมเด็จพระมหาบุรุษราช ก็มีพระสาศนสนองพราหมณ์คืน ด่งงนี้ กุสลญฺเจว โน พฺรหฺเม ดูกรพราหมณ์ อันว่า ความพยาธิปวดแห้ง ก็บแกล้งเกิดแก่เรา โสดแล อโถ พฺรหฺเม อนามยํ สำราญ บานใจ ก็มีในเราทุกเมื่อไส้ อโถ อุญฺเฉน ยาเปม รักษาพยาบาลด้วยผลาหารยงงง่ายไส้ ฯ อโถ มูลผลา พหู ส้มสูกลูกไม้ ยงงค่อยได้ครันฉันมากแล อโถ ฑํสา มกสา จ ยุงขบดิ้นริ้นขบแขงเหลือบแยงใจก็บมีสักสิ่งโสด อปฺปเมว สิรึสปา งูพิศม์เขี้ยวเงี้ยวพิศม์เขน ก็บเปนอันตกแก่เรา โสดเลย วเน วาฬมิคากิณฺเณ ป่าดงพงใหญ่สัตว์ร้ายใช่สามาญย์ ก็บมี หึสา มยฺหํ น วิชฺชติ ยายีบีทา แห่งคณาสัตว์ทงงหลายก็บมี โสดแล ฯ อปิจ ปน มหาพฺราหฺมโณ อาห หนึ่งพระโพธิสัตว์ก็ท่าว กล่าวแก่พราหมณ์คืน ดงงนี้ ฯ สตฺต โน มาเส วสตํ อรญฺเญ ชีวโสกินํ ฯ โภ พฺราหฺมณ ดูกรพราหมณ์ พฺราหฺมโณ นาม ชื่อว่าพราหมณ์พิเศษ โน เมาะ อมฺเหหิ แลตูผู้ท้าวนิรเทศ จากเมืองมิ่ง วสตํ เมาะ วสนฺตานํ อันสิ่งสังวาศแสวงผล อิมสฺมึ อรญฺเญ ในไพรสนฑ์ นิเปนเรือน สตฺต โน มาเส สิ้นเจ็ดเดือนจรลํ่า ที่ตูสร้างศีลลสาธ นานนินชี อิทํปิ ทุติยํ ปสฺสามิ เราเมื่อลชีมีชาติ ยลเปนทุติยบาท โสด ฯ พฺราหฺมณํ เทววณฺณิตํ เราเห็นพราหมณ์ งามเงื่อนดงงพรหม มาเปนศรมณเปนสาธุโสด ฯ

๏ อาทาย เวลุวํ ทณฺฑํ เท้าไม้ผากไม้ไผ่ เพียงตูมไข่ตูมขวิด จะแจ่มแล ธาเรนฺตํ อชินกฺขิปํ ทรงอัคคนีโหมอัคคนีหุตร ธรรมสาศ ลีลาดำเนอรมาดูมลากแล อโถ เต อทุราคตํ ธมาไกลดุจใกล้เพียงพ่างให้ภอเห็นดงงนี้ อนฺโต ปวิส ภทฺทนฺเต ธมาภบมาพางไกล นํ้าอางอํ้าอบออมอยู่นี้ ปาเท ปกฺขาลยสฺสุ เต เชอญธชำรชำราบ ด้วยน้ำอาบน้ำอบองค์นี้ ติณฺฑุกานิ ปิยาลานิ หมากหวดแลหมากหาด ลูกพลับดาษพลอง ดงมากแล ฯ มธุเก กาสมาริโย ลูกซางลูกซองแม้ว ม่วงขอแนวม่วงไข่ แตงกวาไร่ แตงแกวมากโสด ผลานิ ขุทฺทกปฺปานิ ลูกไม้เอมไม้อ้อย เงื้อมผึ้งน้อยผึ้งนิ่มนั้น ภุญฺช พฺรหฺเม วรํ วรํ ลูกไม้งอนไม้งอม เชอญชีถนอมกินถนัดจงอิ่มเทอน อิทํปิ ปานิยํ สีตํ นํ้าเย็นเฉื่อยเยนฉํ่า ตักแต่คํ่าไว้แรมคืน มากแล อาภตํ คิริคพฺภรา นางตักตรองตั้งแต่ง ที่ทุกแห่งเหวเขาใหญ่นั้น ตโต ปิว มหาพฺรหฺเม ลูกไม้ลูกมันมาก แต่ภอปากภอเปนภักษนั้น สเจ ตฺวํ อภิกงฺขสิ เชอญธกลืนธ กล้ำรศแห่งนํ้าแห่งใน จงโดยใจ ท่านเทอน เอวญฺจ ปน มหาสตฺโต อาห อันว่า พระมหาสัตว์ครั้นกะทำปราไศรยด้วยอินทพราหมณ์แลเสร็จ พระสรรเพ็ชญ์ก็กล่าวคาถา ด่งงนี้ ฯ

๏ อถ ตฺวํ เกน วณฺเณน ดูกรพราหมณาจารย์ เพื่อประการกลใดนิ้วสิ้น เกน วา ปน เหตุนา เห็นทองเหตุฉันใด แลธต้งงจงใจครโครนี้ อนุปฺปตฺโตสิ พฺรหารญฺญํ จึ่งมาลุไพรพงดง แหล่งไหล้ ที่ตูสองไท้กทำกรรมในป่านี้ ตํ เม อกฺขาหิ ปุจฺฉโต ดูกรพราหมณ์ กูถามธบอกแจ้ง รักแกล้งกล่าวจงเห็นหนึ่งรา ฯ

๏ สกฺโก อาห อินทพราหมณ์ก็ทูลพระกรุณาแก่พระมหาบุรุษขึ้นด่งงนี้
   

ยถา วาริวโห ปูโรสพฺพกาลํ น ขียติ
เอวนฺตํ ยาจิตาคจฺฉึ ภริยํ       เม เทหิ ยาจิโต ฯ

โภ เวสฺสนฺตร ข้าแต่พระเพศยันดรราชฤๅษี ยถา วาริวโห เมาะ ยถา อุทกวาโห ด่งงฤๅ ด่งงนทีแท้ ท้าวกล่าวคลายคคก อันมิรู้บกรู้บ้าง ชีวมาโน อันมีรอดบ้าง คคลาน ปญฺจสุ มหานทีสุ ในแม่นํ้าน่านห้าประการ คงฺคา ยมุนา อจิรวตี สรภู มหีมหานทีสงฺขาเตสุ อันธกล่าวคือประวาลคงคายมุนาอจิรวะดีสรภู มหิมหานที เที่ยงมั่น แลแม่น้ำนั้นโสด ปูโร เมาะ อุทเกน ปูโร อันโจษจรร ด้วยอุทกอันอธึก สนฺทมาโน อันฦกไหลหลั่งแถมถั่งมาบมิขาด อโนตตฺตาทิโต อันมีแต่อาทิอัฎอา สมญาชื่ออโนตัตต์ ชเนหิ แลทวยสัพสัตว์ฝูงคน ปิปาสิเกหิ อันครหนครหาย เครื่องจะตายลำบาก อดปากแห้งนักหนา ตํ นทึ อาคนฺตวา ก็มายงงแม่น้ำนั้นมิน้อย นับด้วยร้อยด้วยพัน อุทกํ โอสิญฺจิตฺวา โกยกันตักเต็มใจ นทีใส สุทธชาติ หตฺเถหิ วา ด้วยมือสาจเสนงโบยก็ดี ภาชเนหิ วา ด้วยให้โกยกัลออม บ้างก็แชชอมโชรมอาบ ปีวมาโน กินหลายคาบหลายครา น ขียติ ก็บมิรู้คลารู้คลาศ ก็บมิรู้แปลนหาดเห็นชาย สพฺพกาลํ กินต่อตายก็บมิรู้สิ้นรู้สุด ตุวํ อันว่าท้าวธผู้จะ หวังเปนพระพุทธ ใจบริสุทธิหน่อไท้ น ขียติ ก็บมิรู้ไร้รู้ร้อย ก็บมิรู้ถอยรู้ถด แลฦๅพระยศด้วยพระทาน ให้ด้วยหาญโจมจ่าย ให้ด้วยง่ายบมิคิด สพฺพกาลํ เนานองนิตย์ทุกเมื่อ เพื่อฤๅแลว่าด่งงนั้น ตุยฺหํ สทฺธาย ปริจิตตฺตาย เหตุหมั่นหมั้น กรรุณา เอวํ ดุจนั้นแลมหาราช อหํ อันว่าข้าผู้เถ้า เชื้อชาติชีพราหมณ์ อิทํ การณํ มญฺญมาโน คิดความงามด่งงนี้เที่ยง อาคจฺฉึ ขวัญเกี่ยงได้เปนดี ผี้ชักชวนมาสู่ ตว สนฺติกํ ถึงที่อยู่พณเกล้า ยาจิตุํ เพื่อข้าเถ้าท่านมาขอ ภริยํ ซึ่งเมียกษัตรพอใจ ราช ตํ ตุวํ แดพระบาทเจ้าใจธรรม ภริยํ เม เทหิ ยาจิโต ฯ ตฺวํ อันว่าท้าวผู้จะ หวังปองโปรดสัตว์สู่สวรรค์ฟากฟ้า ยาจิโต มยา แลข้ามาขอเปนลาภ ภริยํ ซึ่งเมียท้าวธคาบนี้จงได้ เทหิ อย่าไว้เลอยณพ่อ เร่งเกื้อก่อการธรรม์ ให้ด้วยพลันทันแคลน เม แก่ข้าผู้มาถึงแดนดงใหญ่ คืออันใฝ่ฝันเห็นพระบาทนี้ ฯ

๏ ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต โสมนสฺสปฺปตฺโต หุตฺวา อันว่าพระมหาสัตว์ ครั้นได้ยินคำพราหมณ์ด่งงนั้น ก็อันชื่นชมมโนภิรมย์ โสดแล ฯ ปสาริตหตฺเถ สหสฺสตฺถวิกํ ฐเปนฺโต วิย พระโพธิสัตว์ ดุจชายหนึ่งเปนดี มีอัทยาไศรยจะใคร่ให้ทาน ก็ประดิษฐานถุงทองพันหนึ่ง ยื่นซึ่งมือผู้มาขอ พึงภอใจกว่าชื่น แล ฯ ปพฺพตปาทํ อุนฺนาเทนฺโต อาห ท้าวธก็จะให้นินนาท ก็เกรือกบาทบรรพต เซิง พระยศปองป่าซาพระยศปองปือ ฦๅพระยศทั่วสองสวรรค์ ทัลบาดาลบดล ท้าวธก็นิพนธคาถาแถลงท่าวกล่าวแก่พราหมณ์พฤฒาจารย์ ด่งงนี้ ฯ


ททามิ น วิกมฺปามิยํ มํ ยาจสิ พฺราหฺมณ
สนฺตํ นปฺปฏิคูหามิ             ทาเน เม รมเต มโน ฯ

๏ โภ พฺราหฺมณ ดุกรพราหมณ์นักสิทธิ อหํ อันว่ากูผู้มีจิตรใจธรรม ททามิ ก็บมิครรหิตให้แล มม ภริยํ ซึ่งเมียท้าวแท้ทานทางธรรม ตสฺส ตุยฺหํ แก่ท่านผู้มาแส้งสมพองใจขอ อหํ อันว่ากูผู้จะยอยอดทานบารมีทั่วฟ้า ทั่วเหล่งหล้าเมืองคน น วิกมฺปามิ เมาะ น ผนฺทามิ ใจกูก็บมิจินต์จลสักสิ่ง ตสฺมึ ภริเย ในที่จะให้เมียมิ่งยอดสงสาร โส ตฺวํ อันว่าท่านผู้เปนพฤฒาจารย์ผู้เถ้า นย เมาะ นยาหิ เชอญชีคอยเคร่าครองเอาไปดั้งดงใหญ่คลายคล้อย ยถา อชฺฌาสยํ โดยสมพองแห่งพฤฒาจารย์อันค่ามกันดารมาถึงเรานี้ท่วน ฯ

๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระสาศดาบพิตร จะ ปกาสิตคาถา แก่กษิณาศรพยทงงหลาย ด่งงนี้ มทฺทึ หตฺเถ คเหตฺวาน ธก็กุม เบื้องหัดถาไท้มหิษี อันมีลักษณะเชื้อชาติบวรวงษ์นั้น อุทกสฺส กมณฺฑลุํ ธก็ทาย กุณฑีอันเต็มด้วยนํ้าทักษิโณทก ยกยอมาเมื่อนั้น พฺราหฺมณสฺส อทา ทานํ ท้าว ธจับจ่ายเปนทาน ให้ด้วยหานด้วยหื่น ให้ด้วยชื่นด้วยชม บปรารมปรารพยเลย สิวีนํ รฏฐวฑฺฒโน จำเรอญราษฎรสบกเษตร ทุกประเทศเมืองเกษม เปรมประชา ศุขสานติ์ ในเมื่อกาลกัษณนั้น ตทาสิ ยํ ภึสนกํ ในเมื่อธให้พระมัทรีเปนทาน ทั่ว จักรพาฬพึงกลัวกว่าชื่นแล ตทาสิ โลมหํสนํ แม้มนุษย์ตื่นเต้น ก็มาเส้นแสยงหัว โสดแล มทฺทึ ปริจฺจชนฺตสฺส ในเมื่อไท้ธประสาท เมียรักราชเปนทานน้นน เมทนิ สมกมฺปถ แผ่นดินดานไหวหวั่นร้องก้องปรั่นประดิรพยทั่วแล เนวสฺส มทฺที ภกุฏี โฉมเหง้าเยาวยิ่งพนิดา ดวงภักตราไปนิ่วน้อย คำรนถ้อยบโทษไท้ นั้นเลย น สนฺธียติ น โรทติ ห่อนฤๅไข้ควรมารยาษกรรุณา โศกาใจดูไทผู้บาล ท้าวอวยทานทำเทียมทาษ แดประดาษอินทรพราหมณ์นั้น เปกฺขเตวสฺส ตุณฺหิยา เยียว่าดวงวร ยุพเยาว์ เมอลภักตรท้าวผู้สวามินทร์ จงจิตรพร้อมถวิล โสดแล เอส ชานาติ ยํ วรํ นางท้าวธบวิจก จอมดิลกไตรโลกย์ รอยอาโภคหันเหตุการิยอำนวยทาน ด่งงนี้ อมฺโภ พฺราหฺมณ มทฺทิโตปิ เม สตคุเณน สหสฺสคุเณน สตสหสฺสคุเณน ฯ

๏ โภ พฺราหฺมณ ดูกรพฤฒาจาริยใจจำเริญ อรสเทอนทวยลออ ย่อมพึง ภอจิตรเห้า แต่บเท่าดวงสร้อยสรัพ ได้ร้อยเท่า แสนส่วรแล ฯ สพฺพญฺญุตญาณเมว ปิยตรํ อิทํ เม ทานํ สพฺพญฺญุตญาณปฏิเวธสฺส แต่ตูร่ำรักพระโพธิญาณ เหตุการณ์โสดจุงเจาะใจ อำนวยให้แท้ที่รัก เปนบรมัตถอัคคทาน ด่งงนี้ ฯ

๏ วุตฺตํปิ เจตํ เหตุการณ์นั้นเที่ยงแท้ พระผู้แปรปราบพลมาร จึ่งแสดงสารแก่สราพกทงงหลาย ด่งงนี้ ชาลึ กณฺหาชินํ ธีตํ คือชาลีลํ้าโลก กัณหาโยคเยาวยศ พ่อนั้น มทฺทึ ปติพฺพตํ ทงงพนิดาดวงบริจาค ผู้เพื่อนยากยิ่งปฏิทาน แล จชฺชมาโน น จินฺเตสึ อำนวยทานทางพุทธพงษ์ บลางหลากพระไทรุมรอนในพายหลังท่านแล โพธิยาเยว การณา ปราถนายังสมบัติอื่น ฤๅเรืองรื่นใจจิตร ท่านแล ฯ น เม เทสฺสา อุโภ ปุตฺตา ส่วนสองตรุณน้อยหน่อทงงคู่ เปนที่ชูชื่นจิตร ท่านแล มทฺที เทวี น อปฺปิยา อีกโฉมนางผู้เพื่อนลำเคญ เทียรย่อมเปนที่รักท่านไซ้ สพฺพญฺญุตํ ปิยํ มยฺหํ แต่ตูรํ่ารักพระโพธิญาณ ยกยอดเยาวโยค อันจะได้ปัทโมกขนฤพานนั้นแล ฯ ตสฺมา ปิเย อทาสหํ เหตุการณ์นั้นโสดจุงเจาะใจ อำนวยให้แท้ที่รักเป็นบรมทานโสด อถ มหาสตฺโต สมเด็จพระมหาสัตว์ เลงทัศนทั่วภักตรนาง ยังอางขนางปางฤๅ โสดแล ฯ สา กึ มํ เทว มุขํ โอโลเกสิ สมเด็จพระมัทรีมีพระเสาวนีทูลท่านไท้ เยียไฉนแลเลงภักตร์ ทรงลักษณ์ก็ประกาศ ด้วยพระคาถาดงงนี้ ฯ


โกมารี ยสฺสาหํ ภริยาสามิโก มม อิสฺสโร
ยสฺสิจฺเฉ ตสฺส มํ ทชฺชา       วิกฺกีเณยฺย หเนยฺย วา ฯ

สามิโก ข้าแต่พระผู้นั่งเกล้า อหํ อันว่าข้อยข้าเค้าแต่เยาวมาล อิสฺสโร จอมอิศราจอมอิศเราผู้ข้าควรแล อิจฺเฉ ตสฺส อ่าองค์จงปราถนา อำนวยข้าแก่ ยาจกได้ ขอองค์ไท้ให้นั้นเทอน วิกฺกีเณยฺย หเนยฺย วา แม้พราหมณ์พรํ่าปราถนา ลำมังษาธนาสรรพ์ จงทรงธรรม์ขายข้า เอามังษาทรัพย์ให้พราหมณ์ตามท่าน เทอน อก สกฺโก เตสํ ตสฺส ถุตึ อกาสิ กัษณนั้นท่านท้าวพันตา ทราบอัทยาว่า ดาบศสอง ควรคำพร้องสร้องสรรเสอญแด่ท่านนั้น ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงจตุปาริสุทธศีล สตฺถา อันว่าพระมุนีมหิษรีสาศดา ก็บันทูลคาถาด่งงนี้ เตสํ สงฺกปฺปมญฺญาย แจ้งปราถนาแห่งสองไท้ อันทรงพระราชศรัทธาเสมอกันโสดแล เทวินฺโท เอตทพฺรวิ สมเด็จอำมรินทรเจ้าฟ้าจึงไขวรอรรถแก่ท่านด่งงนี้ สพฺเพ ชิตา เต ปจฺจุหา อันว่าปรปักขมัจฉิริยัน จอมทรงธรรม์ปราศจากได้นั้นแล เย ทิพฺพา เย จ มานุสา อันว่าปรจามิตรหมู่ประจุหา คือมัจฉิริยายิ่งโลพัน พวกเกียจกันสวรรคสมบัติโลกายศอีกมนุษย์นั้น แล นินฺนาทิ ตา เต ปฐวี พื้นแผ่นวสุนธรา จอมโลกาให้หวั่นไหว ทั่วโลกธาตุ โสดแล สทฺโท เต ติทิวงฺคโต ศรัทสรรเสริญท้าว ตรหลอดด้าวพรหมโลกย์ ทั่วทุกแห่งนั้น แล สมนฺตา วิชฺชุตา อาคู สายฟ้าใช่รดูกาลก็บันดาลสว่างวาบ รอบหิมเวษ ด่งงนี้ คิรีนํว ปฏิสฺสุตา เสียงพันฦกกึกก้อง ในห้องท้องพนมมาศ ก็ประกาศปรากฏด่งงนี้ ตสฺส เต อนุโมทนฺติ สร้องสาธุการประกาศ แก่จอมราชทานเจ้าก็จักรพาฬโสดแล อุโภ นารทปพฺพตา ฝ่ายฝูงอมโรภาษ อันวินาศในพนมพนานั้นแล อินฺโท จ พฺรหมา จ ปชาปติว จ ท้าววชิราเปนสวามินท์อนงคสุชาดา ทงงท้าวประชามหาพรหม นั้นแล โสโม ยโม เวสฺสวณฺโณ จ ราชา ทงงท้าวพระญายมโสมราช มีเป็นอาทิ์อิศเวศสุวรรณโสดแล สพฺเพ เทวานุโมทนฺติ พร้อมเพรียงสรรเสริญทานท้าว ช่วยอนุโมทนาทานทั่วจักรพาฬ ด่งงนี้ ทุกฺกรํ หิ กโรติ โส สมเด็จพระเพศยันดร ดวงดิลก ธยอมยกพระมหิษรี แก่วชิรพราหมณ์ นั้นแล ฯ ทุทฺททํ ททมานานํ อันว่าบุตรทานบริจาค บุคคลยากจะอวยได้ ยอยกไว้แต่ท่านนั้น ทุกฺกรํ กมฺมกุพฺพตํ องคอริยสรัปบุรุษ อันสัมปยุตด้วยปรีชามาน ปราถนาพวงโพธิญาณ เทียบเทียม ปานหนึ่งจอมหล้านั้นแล อสนฺโต นานุกุพฺพนฺติ อสรัปบุรุษชาติ ฤๅห่อนอาจทำได้ เหมือนท่านไท้ บรมเพศยันดรโสดแล สตฺํ ธมฺโม ทุรนฺนโย มูลธรรมแห่งสรัปบุรุษ ตนพาลสุดจะยงงยากนักแล ตสฺมา สตญฺจ เหตุนั้น อันสรัปบุรุษวิเสศ อิกบุคเลศ อสรัปบุรุษ ครั้นตนสิ้นสุดสกลด่งงนี้ นานา โหติ อิโตคติ มีที่ดลบเดียวกัน ครั้นตนผลสิ้นสุด จากมนุษยโลกา ก็ไปสู่ทิศาต่างกันแล อสนฺโต นิรยํ ยนฺติ ส่วนว่าฝ่ายอสันตชาติ ครั้นม้วยชีวาตม์ ก็ดลนรกานั้นแล สนฺโต สคฺคปรายนา อันว่าประยุรสรรพสรัปบุรุษ อาสันสุดเมือเมืองฟ้าเล่าแล ยเมตํ กุมาเร อทา พระผู้เป็นจอมอิศวราช ทรงประสาทสองเอารศ เพียงพิมกดในวันทวารนั้น ภริยํ อทา วเน วสํ ฤๅซ้ำทานบถดถอย เติมนิ่มน้อยในวันนี้ ปรีดิ์เปรม พรัศถานธอยู่นั้น พฺรหฺมยานมโกกฺกมฺม กุศลทวีปเกรงกริ่ง เปนญาณยิ่งยงงอาตมา สัตว์จตุรารอดกันดารนั้น สคฺเค เต ตํ วิปจฺจตุ โดยเดชทานให้ศุภผล เมือเมืองบลเบื้องดุสิต จอมโมลิศลุประมาณในอาสานสุด โพ้นแล เอวมสฺส สกฺโก อนุโมทนํ กตฺวา สมเด็จท้าววรวชิรา อุโฆษนาในปิยทาน ไท้ผู้บาลเพศยันดรด่งงนี้ อิทานิ มยา อิเธว ปปญฺจํ อกตฺวา อิมํ อิมสฺเสว ทตฺวา คนฺตุํ วฏฺฏตีติ จินฺเตตฺวา อาห อาจช้าอยู่ฤๅได้ จวนจวบถงายเบื้องวรพร แดอดิษรราชฤๅษรี ดำริด่งงนี้พนุภาคย์ ในแปลวากยไขด้วยสารคาถาด่งงนี้ ททามิ โภโต ภริยํ ข้าแต่พระผู้จอมโมลีสร้อย มหิษรีมีลักษณา ตูผู้ข้าขอเวนไว้ แดท่านไท้ด่งงเก่าแล มทฺทึ สพฺพงฺคโสภิณึ ทรงนามอนงคมัทรี กัลยาณีดีล้วนเลิศสรรพางคแล ตฺวญฺเจว มทฺทิยา ฉนฺโน พระผู้ยอดยศโภคัย คู่ควรไทอรเทพี ยศเลิศแล มทฺที จ ปตินา สห ส่วนสร้อยนาถมัทรี นามวรศรีสมบูรรณพงษ์ กับเทวองคอรรคสวามินทร ทานแล อุโภ สมานวณฺณิโน อันว่าธรรมชาติทงงสอง บริสุทธิผ่องเพียงสามรรถแล ยถา ปโย จ สงฺโข จ คือ สังขตประโยธรชาติ สมามาศมีฉันใดโดยธรรมดาแล เอวํ ตุวญฺจ มทฺที จ พระผู้ยอดยศโภคัย คู่ควรไท้อรเทพี เทพอับษรสัตรีนั้นแล สมานมนเจตสา แต่ดวงจิตรมีพระราชศรัธา เสมอกันดุจนั้นแล อวรุทฺเธตฺถ อรญฺญสฺมึ ฝูงทวยราษฎร์นิรเทศไท้ มาเนาในอรัญทุเรศ เขตไกรพระนครนั้นแล อุโภ สมฺมถ อสฺสเม ท้าวทงงสองสมบูรณชาติ เนื่องนิราศในอาศรม เทพรงงสรรถวายพระพร ด่งงนี้ ขตฺติยา โคตฺตสมฺปนฺนา อันอดิษรเสมอกัน ยิ่งประยุรพันธุพงศ์ขัติเยศประกอบแล สุชาตา มาตุเปตฺติโต ทงงพันธุ์เผ่าจอมปิตุราช อิกอรรคราชมารดรของท่านแล ยถา ปุญฺญานิ กยิราถ สองพระองคทรงสร้างสม พึ่งนิยมก่อเกื้อการ ส่วนแก่นสารพูนเพิ่มใน อย่าเคล้อมใจไท้ทงงสองท้าวแล ททนฺตา ปราปรํ ให้เกือบกองภินโยยิ่ง กว่าทานสิ่งซึ่งผ่องแผ้ว ในกองแก้วเขตอุดรอุดมแล ฯ อถ สกฺโก มหาสตฺตสฺส มทฺทึ ปฏิจฺฉาเทตฺวา กษณนั้นท่านท้าวพันตา เวนวรชายาแด่ท่านไท้ เมื่อจะให้แจ้งอาตมา เพื่อวราวรถวายพร จึ่งอนุษรแสดงโดยพระคาถา ด่งงนี้

สกฺโกหมสฺมิอาคโตสฺมิ ตวนฺติเก
วรํ วรสฺสุ ราชิสิ               วเร อฏฺฐ ททามิ เต ฯ

๏ โภ ตาปส ข้าแต่พระดาบศผู้จอมใจอาริย์ ผู้ฆ่ามารมันทเทเวศ อมรวิเสศไตรตรึงษา ตวนฺติเก เมาะ ตว สนฺติเก เคียมค่อยมาดลสำนักนิ์ จอมจักรนักไทธรรม วรํ เมาะ อฏฺฐวเร พระองค์พงษเชฐเชฐา อัฐวราเริงรับไว้บัดนี้ ททามิเต ผู้ข้ามาหวังจะถวาย พรแดไท้แปดประการ แก่ท้าวจอมจักร สกฺโกปิ จอมอมรเทพไท้เทพี กเถนฺโตเยว ไขวากยมธุราเพราพร้อง สุริโยว วิย โอภาษด่งงดรุณสุริเยศ อากาเส ธก็สถิตย์ปรทับท้อง แห่งห้องพนาไลย โพธิสตฺโต อาห อันว่าพระมหาสัตว์ จะรับพระพรแปดประการ จากท้าวมัฆวาน ก็ซั้นสวดคาถาด่งงนี้

วรญฺเจ เม อโท สกฺก สพฺพภูตานมิสฺสร ฯ

อโท สกฺก บพิตรไท้เทเพนทรผ่านเผ้า เกล้าสุรโลกยเมาลี อิสฺสร อันเปนอธิบดีษรี อิศร สพฺพภูตานํ เมาะ เทวสงฺขาตานํ แห่งภูตนิกรอมรแมนเมืองฟ้า ตฺวํ อันว่า เจ้าข้าผู้เป็นจอมนารถ เจ อโท ผิไท้ธประสาทประสิทธิ ตํ วรํ พรพิพิธมงคล อฏฺฐวิธํ ประการดลแปดสิ่ง เม เมาะ มยฺหํ แก่เราผู้ดาบศอันพลัดพระนครมานี้ ปิตา มํ อนุโมเทยฺย สมเด็จอัคเรศบิดร ฤๅให้อ่อนเคลื่อนคลายโกรธ ปรีดิปราโมทย์ ออกมารับบทข้าบาทแล อาสเนน นิมนฺเตยฺย พึ่งอาราธนาประสาทให้เรือง ราไชอัยถวัลยา เล่าเทอญ อิโต ปตฺตํ สกํ ฆรํ แก่ตูข้าเข้ามาดล ยงงไพรชนสักกถานา จากเผือป่านั้นแล ปฐเมตํ วรํ วเร อันว่าเสาวภาพเราอ้อนวอน ขอบวรพรนั้นเป็นที่พึ่ง เที้ยรธนับหนึ่งแล วชฺฌํ วธมฺหา โมเจยฺยํ อันว่าข้าขอโปรด นักโทษเทียรทุจริตนั้น อปิ กิพฺพิสการกํ ผู้บงงอาจอหังการ ในสถานเที่ยวโจรกรรม ผู้กระทำประทาน ล่วงโองการท่านไท้แล ปุริสสฺส วธํ น โรเจยฺยํ การพิฆาฏมนุษยชาติ โดยที่สุดดิรฉานา ขอข้อยอย่าแซรมใจเลย ทุติเยตํ วรํ วเร อันว่าเสาวภาพปิ่นอมรพมพร้อง เปนพรคำรบสองสิ่งแล เย จ วุฑฺฒา เย จ ทหรา เข็ญใจตนหนุ่มไซ้อิกชรา ขออย่ามีแก่ตูข้าเล่าเลอย เย จ มชฺฌิมโปริสา ฝูงมัธยมยาจกายากไร้ จองอาไศรยแก่ตูข้า เล่าเทอญ มเมว อุปชีเวยฺยุํ อาไศรยชึ่งอาตมาชูชีพ ศุขาอยู่ศุขสำราญ ด่งงนี้ ตติเยตํ วรํ วเร อันว่าเสาวภาพ ขอแก่ไท้เที่ยงแท้ เราจะกทำตาม เปนพรคำรบสามสิ่งแล ปรทารํ น คจฺเฉยฺยํ อันว่า เสาวภาพเมียชายอื่น อย่าได้หันหื่นมิจฉา กามเมถุนแก่ท่านแล สทารปสุโต สิยํ สันโดดฐแต่เจ้ามัทรี อรรคมหิษรีค่อยไซ้ นั้นเทอญ ถีนํ วสํ น คจฺเฉยฺยํ ข้าขออย่าลุวษายิ่งหญิงอื่น ขอเราชมชื่น แด่เจ้ามัทรี นั้นเทอญ จตุตฺเถตํ วรํ วเร อันว่าทรงนาม เพศยันดรยอดไท้ ข้าขอได้ถ้วนถี่ เปนพรคำรบสี่ สิ่งแล ปุตฺโต เม สกฺก ชาเยถ ข้าแด่ท้าวเทพินทรราช ชาลี ชาติเอารสา แห่งผู้ข้าวิปโยคไป ขอเพอนได้สโมสร เล่าเทอญ โส จ ทีฆายุโก สิยา อันว่ากุมารตนชาลี เกิดก่อทวีชิวาตมา จงฑีมายุ สืบสงสารโสดแล ธมฺเมน ชิเน ปฐวึ ให้ได้ผ่านวพื้นภูวดล มารกระมลแม่นเทศธรรม มีไชยชนทั่วผู้ท้าว สุดแดนดาวชมพูชีพแล ปญฺจเมตํ วรํ วเร อันว่าข้าขอแก่ไท้ จงฦๅสายในแหล่งหล้า เปนพรคำรบห้าประการ โสดแล ตโต รตฺยา วิวสาเน ในเมื่อสว่างสายสาราษราตรี ศรีสางกระซางฟ้าเห็นกันแล สุริยสฺสุคฺคมนํ ปติ ทิวากราเสร็จจรจรด เบื้องบรรพตยุคุนธร เชรอดแล ทิพฺยา ภกฺขา ปตุภเวยฺยุํ พลาหกรหัดถ์แก้วเจ็ดประการ เทียรบันดาลตกซ่าซู่ แมนมั่นทิพย์แล ฉฏฺฐเมตํ วรํ วเร อันว่าเสาวภาพพรคำรบหก ไท้ธยอยกแก้ข้า โสดแล ททโต เม น ขีเยถ สิ่งทรัพย์ซึ่งเราจำแนกแก่ยาจก อย่ารู้บกเสียแล ทตฺวา นานุตเปยฺยหํ ตนตูทานทำเสร็จแล้ว อย่าสอดแคล้วร้อนเดือด ในพายหลังแล ททํ จิตฺตํ ปสาเทยฺยํ กระมลในฤๅไทยตู โสมนัศชูแช่มชมทาน อดีตแล สตฺตเมตํ วรํ วเร บัดนี้ข้าขอพรประสิทธิ์เสร็จ เปนพระคำรบเจ็ดสิ่งแล อิโต วิมุจฺจมานาหํ ตนเราครั้งปลงเปลื้องปลิด จะจุติจิตรจากโลกามนุษย์แล สคฺคคามี วิเสสคู จงครรไลเมือเมืองฟ้าดลวิเสศ ทั่วผู้แล อนิพฺพตฺตี ตโต อสฺสํ เมื่อมุตรคลาเคลื่อนฟ้า เฉพาะลงมาเกิดเมืองคนเมื่อสำฤทธิสรรเพชญ์สัพพัญญู ฟูเฟื่องธรรมาแก่ฝูงสัตว์ โสดแล อฏฺฐเมตํ วรํ วเร อันว่าเสาวภาพเราขอแดพรผู้ผจญแทตย์ เปนพรคำรบแปดประการ โสดแล ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระสาศดา มหาบรมไตรภพนารถ ปกาเสนฺโต ธจะประกาศพรรณา ตํ อตฺถํ อรรถาทิกนิกร อันมีในพระเพศยันดรชาติชาฎก พระดิลกก็บันทูล จตุวิธปริสานํ แก่จัตุรพิธบรรพษัทยทงงหลายด่งงนี้ ฯ


ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวาเทวินฺโท เอตทพฺรวิ
อจิรํ วต เต ตาโต             ปิตา ตํ ทฏุฐเมสฺสติ ฯ

ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร มฆวา อันว่าไท้เทพนายก ยินคำขอ ท้าวผู้เกื้อก่อ บรเมศนั้น อพฺรวิ สมเด็จท้าวพันตา ถ้อยวัจนาต่อพระเพศยันดร ท่านเจ้าแล อจิรํ สมเด็จพระชนกชนกาจร จรมาสู่ผู้เจ้าแล ปิตา อันว่าสมเด็จบรมเชฐบิดร มีกระมลคลายเคลื่อนโยธา ทฏฺฐุํ เพื่อปราถนาจะใคร่ยลพระองค์ดลจากภารา เอสฺสติ จักจรมาดลกุฎี กลับมอบศรีเสวตรฉัตรไชย ห้อมแห่ไคลครนิทร ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระมุนีมเหษรีสาสดา ก็บันทูลคาถา ด่งงนี้

อิทํ วตฺวาน มฆวาเทวราชา สุชมฺปติ
เวสฺสนฺตเร วรํ ทตฺวา           สคฺคกายํ อปกฺกมีติ ฯ

๏ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุแสนขลาดไภยในสงสาร มฆวา อมรแมนมิงไท้วชิรา เทวราชา เปนผู้อิศวราเทพแท้ สุชมฺปติ เปนสวามิศรสุชาดาดวงสวาดิ อิทํ วตฺวาน โอวาทถวายท่านแหล้ ด่งงนี้ควรครอง วรํ ทตฺวา ถวายพรสุดสิ้นแปดประการ เวสฺสนฺตเร เมาะ เวสฺสนฺตรสฺส แด่พระสิทธิสมภารเพิ่มไว้ อปกฺกมิ ธก็เหาะ คัคณานต์ โดยอิศราแฮ่ สคฺคกายํ ประเวศยงงถิ่นไท้แห่งห้องหิมยนต์ ท่านแล ฯ

สกฺกปพฺพํ นิฏฺฐิตํ
๔๓ พระคาถา


http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33886004736026_kan10_1_640x480_.jpg
มหาชาติคำหลวง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 ธันวาคม 2563 19:34:01 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2563 15:52:06 »




ชูชกพาสองพระกุมารเดินทางกลับไปหานางอมิตตดาที่เมืองกลิงคราษฎร์
ในเวลาที่พระอาทิตย์ตกต่ำถึงค่ำคืนแล้ว ชูชกก็ผูกสองกุมารให้บรรทมอยู่
ณ พื้นปฐพี  ส่วนเฒ่ากาลีก็ขึ้นไปนอนอยู่บนค่าคบไม้  ด้วยเกรงอันตราย
จากสัตว์ร้าย   เทพยดาจำแลงเพศเป็นพระเวสสันดร และพระนางเจ้ามัทรี
มาอภิบาลสองกุมารเป็นอันดี และให้เสวยทิพยโภชนาหารด้วยเมตตา

กัณฑ์มหาราช
๑. ชูชกพาสองกุมารเดินทาง เวลาคํ่าตาแกก็ผูกเปลนอนเหนือค่าคบไม้ เทพยเจ้าก็ช่วยอภิบาลบำรุงรักษาสองกุมาร.
๑.ล่วงมรรคาได้หกสิบโยชน์ ก็ลุถึงกรุงพิชัยเชตุดรนครหลวงแห่งสีวิรัฐ ชูชกพาสองกุมารผ่านมาตรงหน้าพระที่นั่ง.
๑.พระเจ้ากรุงสญชัย ให้พาพราหมณ์ชูชกมาเฝ้า ทราบความแล้ว ทรงไถ่พระเจ้าหลานทั้งสองด้วยพระราชทรัพย์.
๑.พระเจ้ากรุงสญชัย ยกพยุหแสนยากรไปรับพระเวสสันดร พระชาลีเป็น มัคคุเทศน์ นำพลไปยังเขาวงกฏ.
 

๏ โพธิสตฺโต จ มทฺที จ สมฺโมทมานา สกฺกทตฺติเย อสฺสเม วสึสุ ฯ อันว่าพระโพธิสัตว์ก็ดี เจ้ามัทรีก็ชื่นชม ในอาศรมอนนอดิสูรปรสาท สองปรียาตม์ไปมา เมื่อน้นน ฯ ชูชโกปิ กุมาเร คเหตฺวา ส่วนชูชกาจารย์ ก็เอาราชกุมารท้งงสองภาไปโสดแล สฏฺฐีโยชนมคฺคํ ปฏิปชฺชิ ก็ไปโดยหนทางบมิโหจ หกสิบประโยชน์ ประมาณมีด่งงนี้ ฯ เทวตา กุมารานํ อารกฺขํ กรึสุ อันว่าเทพยดาก็รักษาสองราช ให้นฤพยาธินฤไภยทุกอนน โสดแล ฯ ชูชโกปิ สุริเย อตฺถงฺคมิเต อันว่าชีชูชก ในเมื่อตวันตกตํ่าคํ่าแล้ว ในเมื่อน้นน กุมาเร คจฺเฉ พนฺธิตฺวา มนนก็จำนองสอง กษัตริย์ไว้ แทบทำทุมต้นไม้ตํ่าน้นน ภูมิยํ นิปชฺชาเปตฺวา ก็ให้สองกษัตริย์กลิ้งเกลือกนอน เหนือดินดอนบราบน้นน สยํ จณฺฑพาฬมิคภเยน รุกฺขํ อารุยฺห ส่วนชีชูชกเหตุตระดกอยู่ววาน กลววมฤคพาลพาธ เถ้าก็ผาดลคึก ปีนป่ายพฤกษ อยู่น้นน สาขาวิฏปพฺภนฺตเร สยติ ก็นอนในแมกไม้ผฝ่อ ผ้าผูกห่อตนติด อยู่โสด ฯ ตสฺมึ เอโก เทวปุตฺโต เวสฺสนฺตรวณฺเณน อาคนฺตฺวา ในตรบัดน้นน อันว่าเทพบุตรตนหนึ่ง จึงนฤมิตรบิดเพศมา ดุจพระมหากษัตริย์น้นน เอกา เทวธีตา มทฺทีวณฺเณน อาคนฺตฺวา อันว่าเทพธิดาองค์หนึ่งผู้พิเศษ ก็มาด้วยเพศอนนเป็นเจ้าภควดีมัทรี โสดแล กุมาเร โมเจตฺวา ก็มาสำรายราชกุมารท้งงสอง จากจำนำจำนองพราหมณ์น้นน หตฺถปาเท สมฺพาหิตฺวา ก็นวดฟ้นนค้นนตีนมือสองกำพร้า ที่เมลื่อยล้าพราหมณ์มัดผูกน้นน นฺหาตฺวา มณฺเฑตฺวา ก็ให้สองเอารสสระสรง เสร็จสมลงกฏวิภูษิตแลแล้ว ทิพฺพโภชนํ โภเชตฺวา ก็ให้สองราชกุมาร เสวยอาหารอนนทิทพยน้นน ทิพฺพสยเน สยาเปตฺวา ก็ให้สองกษัตริย์ไสยาศน์ ในเหนือ อาศนอนรรฆ์ อนนนีรมิตรมาแต่สวรรค์ โสดแล ฯ อรุณุคฺคมกาเล พทฺธากาเรเนว นิปชฺชาเปตฺวา ในเมื่อพระฮามยาม อรุโณไทย ก็ให้สองดไนยนงพาล อยู่โดย อาการ ก่อนน้นน อนฺตรธายึสุ เทพยดาก็กำบงงรุบาการ อันดรธานไป โสดแล เอวนฺเต เทวตาสงฺคเหน อโรคา หุตฺวา คจฺฉนฺติ อันว่าสองกุมารก็นีรทุกข์นีรโศก บมิโรคบมิร้อนสักอนน เพราะเทพในสวรรค์มาบริรักษ์ โสดแล ฯ

๏ ชูชโกปิ เทวตาวิคฺคหิโต หุตฺวา อันว่าชูชกใจฉกรรจ์ เทพยก็มาอัศจรรย์แก่ใจมนน โสดแล อิทานิ กลิงฺครฏฺฐํ คมิสฺสามีติ มนนก็รำพึงว่ากูจะไป ยังกาลึงคราษฎร์น้นน อฑฺฒมาเส เชตุตฺตรนครํ ปตฺโต เหตุเทพยดามาอาเพศให้แคล้วคลาศ ถ้วนอัฒมาศก็มาถึง พระนครเชดุดรแดนจักราน้นน ฯ ตํทิวสํ ปจฺจูสกาเล สญฺชโย สิวิมหาราชา สุปินํ ปสฺสิ ในวนนน้นนเมื่อปัศจาศสมยยาม พ่างพระฮามอรุโณไทย อันว่ากรุงสญไชยนรินทร์ ก็เสวยพระสุบินด่งงนี้ เอวรูโป สุปิโน อโหสิ อันว่าฝนนบงงควรดงงนี้ ชี้ให้เห็นเปนปรตยักษ์แก่พระองค์ บพิตรน้นน รญฺโญ มหาวินิจฺฉเย นิสินฺนสฺส ในเมื่อกรุงสญไชยราช เสด็จเหนือรัตนสิงหาศน์ที่ธารคำนรร มนตรีคัลคับค่งงน้นน เอโก ปุริโส กณฺโห เทฺว ปทุมานิ อาหริตฺวา อันว่า กระไทยชายผู้หนึ่งดำคมึกลคึก ถือดอกบววหลวง ท้งงสองดวงมาในที่น้นน รญฺโญ หตฺเถ ฐเปสิ ก็มาประดิษฐานในพระกร แห่งพระภูธรบพิตรน้นน ราชา คเหตฺวา ทฺวีสุ กณฺเณสุ ปิลนฺธิ อันว่ากรุงสญไชยราชก็ทัดทานวาริชโกมล ในพระกรรณยุคลท่านน้นน เตสํ เรณุ ภสฺสิตฺวา รญฺโญ อุทเร ปตติ อันว่าบางสุบงกชก็โบกใบไพโดรเสร็จสุดรุสรังเคาะ ฉะเพาะนะพระอุทรแห่งท้าวเชตุดรน้นน โส ราชา ปพุชฺฌิตฺวา อันว่ากรุงสญไชยราช ก็ตื่นในไสยาศนบรรยงก์ แห่งพระผทมองค์บพิตรน้นน ปาโตว พฺราหฺมเณ ปาฐเก ปุจฺฉิ คร้นนเช้าธก็ให้หาบโรหิต ท้งงพราหมณ์พฤทธิมามาก ท้าวธก็มีพระภาคโองการสารถาม ความกูฝนนจะเปน ฉนนใด โสดสิ้น จิรปฺปวุฏฺฐา เต เทว พนฺธวา อาคมิสฺสตีติ พฺยากรึสุ อันว่า พราหมณ์ท้งงหลายก็ทำนายโดยทำนูล บพิตรพระนเรสูรทำเนอ อํเพอพระญาติ พระญา คลาศคลาไปหึง ก็จะมาถึงพระบาท มิยาเลอย โส ปาโตว สสํ นฺหาตฺวา คร้นนอรุโณไทย พระบาทสญไชยก็ชำระ กริตยภิษิตสรรพางค์ ทรงพระสำอาง อาภรณ์ คนธกำจรบรัส ทรงพระพัตรพิจิตรพิพิธ แลแล้ว นานคฺครสโภชนํ ภุญฺชิตฺวา ธก็เสวอยพระโภชนาหาร อนนนานับประการต่างต่างน้นน อตฺตานํ อลงฺกริตฺวา แล้วท้าวก็ประดับพระองค์พระภูธร ด้วยสรรพาภรณวิภูษิต แลแล้ว มม วินิจฺฉเย นิสีทิ จึ่งท้าวธเสด็จในตรีมุขยมณฑล แสนสามลคัลค่งงน้นน เทวตา พฺราหมฺณํ กุมาเรหิ สทฺธึ อาเนตฺวา อันว่าเทพยดาก็พาพราหมณ์ แลสองนงรามหลานราช เดอรโดยมารควางมาซซ่องแล ราชงฺคเณ ฐฺปยึสุ ก็มาประดิษฐาน พระราชกุมาร ในพ่างพระลาญไชยท่านน้นน ตสฺมึ ขเณ ราชา มคฺคํ โอโลเกนฺโต ในกษณน้นนบ้นนพระบาท ก็ทอดพระราชทฤษฎี ยงงพิถียพระพลาญเลอศน้นน กุมาเร ทิสฺวา อาห พระสญไชยราชเจ้าจอมกษัตริย์ ตรบัดบงพระเนตร เห็น กุมาเรศสองราช อนนมีพิลาศลีลา ท้าวธก็ทักด้วยคาถาเปนประถม สรรเสริญชม ด่งงนี้ ฯ กสฺเสตํ มุขมาภาติ เหมํวุตฺตตฺตมคฺคินา ฯ โภนฺโต อมจฺจา ดูกรชาวเจ้า เหง้ายุพราช อีกอมาตยลูกขุน กสฺส กุมารสฺส เพื่อดรุณเด็กใด เอตํ มุขํ อนนมีภักตรนั้นใสตระศักดิ์ อาภาติ เมาะ วิโรจติ งามพึงรักพึงชม โฉมอุดมเรืองรอง เหมํ อิว เมาะ สุวณฺณพิมฺพํ วิย ดูประดุจรูปทองธเกลา สุวณฺณกาเรน แลช่างทองเหลาหล่อแล้ว อุตฺตตฺตํ เมาะ ตาปิตํ แผ้วเผาราคีเรืองไร อคฺคินา ด้วยแสงไฟบเศร้า อาภาติ เมาะ วิโรจติ ดูรุ่งเร้าชัชวาล โอ่ไปดูตรการแก่ตาเรา กว่าชื่น แล นิกฺขํว ชาตรูปสฺส อุกฺกามุขปหํสิตํ ฯ ปหํสิตํ แลภักตรากุมารน้นนโสดงามด่งงฤๅ นิกฺขํ อิว เมาะ สุวณฺณฆฏิกา วิย สุวณฺณปฏิมา วิย ฯ สุวณฺณฆฺฏิกา วิย คือแท่งทองธโกรษธเกลา สุวณฺณปฏิมา วิย คือดุจรูปทองธเหลาธหล่อ ปหํสิตํ เมาะ ชาติมตํ ปภสฺสรํ พิโลญล่อแสงใส อุกฺกามุเข ในปากเบ้าแสงจรัส โฉมบรัสรูจี โหติ ก็มีอำไพรูดูงาม ในพระราชสนามเราด่งงนี้ อุโภ สทิสปจฺจงฺคา สองโสภาพระแต่ง พิศพยงแพ่งพิมพ์ดยวดุจน้นน อุโภ สทิสลกฺขณา สองสุภลักษณ์เลงเลอศนี้ โฉมประเสรอฐเสมอกัน บแปลกเลอย ชาลิสฺส สทิโส เอโก ชายดยวดุจดไนยนารถ ชาลีราชหลานรักแล เอกา กณฺหาชินา ยถา หญิงดยวดุจธิดา ราชกัณหาหลาน ราชน้นน สีหา วิลาว นิกฺขนฺตา พิศดำเนอรลีลา เมื่อสองราลีลาศ ดุจสีหราชร้างคูหา หาภักษน้นน อุโภ สมฺปตฺติรูปกา มีรูปโฉมโนมพรรณ สองเสมอกนนช้า ช่อน ขาวดด่อนดูยงยิ่งนี้ ชาตรูปมยาเยว ดุจรูปทองท้งงแท่ง ภักตราแบ่งบงกช ใสสดอยู่รองรอง อิเม ทิสฺสนฺติ ทารกา ต้งงตาแลลืมพรับ สองงามสับพรรพางค์ เพื่อลูกขุนนางนามใดด่งงนี้ ฯ เอวํ ราชา ตีหิ คาถาหิ กุมาเร วณฺเณตฺวา อันว่า พระบาทก็สรรเสริญสองราชกุมาร ด้วยคาถาสามประการด่งงนี้แลแล้ว เอกํ อมจฺจํ อาณาเปสิ ธก็ใช้อมาตย์ผู้หนึ่ง จึงบันทูลด้วยพระราชโองการด่งงนี้ คจฺฉ ตฺวํ พฺราหฺมณํ ทารเกหิ สทฺธึ อาเนหีติ ดูกรอมาตย์เร่งลุกฉับ มึงไปรับสองกุมารกุมารี แลชีพราหมณ์มานี้ทวัน โส เวเคน คนฺตฺวา ตํ อาเนสิ อันว่าอมาตย์นายมหาดไทย ไปจูงมือพรามหณ์มาด้วยด่วนแล อถ พฺราหฺมณํ ราชา อาห อันว่าสมเด็จบรมนนทลาธิบดี ธจะมีพระบรมราชโองการแก่ชีชูชกาจารย์ ไท้ธก็บรรหารคาถาด่งงนี้ กุโต นุ ตฺวํ ภารทฺวาช ดูกรภารทวาช มึงมาแต่ราษฎร์ด้าวแดนใด ด่งงนี้ อิเม อาเนสิ ทารเก เหตุใดแลชีเถ้าเอาสองเจ้าจยรจรมาในที่นี้ อชฺช รฏฺฐมนุปฺปตฺโต ก็มาลุถึงราษฎ์วาสี บุรีเราในวนนนี้นชี กุโต อาคจฺฉสิ พฺราหฺมณ ดูกรชูชกาจารย์ มึงมาแต่สถานใด ด่งงนี้ ชูชโก อาห ชูชกก็ทูลพระกรุณาแด่นราธิราชสัญชัยคืน ด่งงนี้ มยฺหนฺเต ทารเก เทว บพิตร อันว่าพระราชกุมารท้งงสอง ข้าสํพองเอามานี้ฤๅนท้าว ทินฺนา วิตฺเตน สญฺชย แลพระแพศยันดรดาบส ให้สองราชเอารสนี้แก่ตูด้วยชอบไส้ อชฺช ปณฺณรสา รตฺติ บพิตร แต่ข้าได้ไคลคราศ ถ้วนอัฒมาศก็มาถึงบัดนี้ แลณท้าว ยโต ลทฺธา เม ทารกาติ กาส แต่ได้สองเจ้า นับควบเท้าถึงวนนนี้แล พ่อฮา ฯ ราชา อาห อันว่าสํเด็จไอสวรรยาธิปัตย์ก็กล่าวแก่กลึงครัษฎวาสี ชีชูชก คืนด่งงนี้ เกน วา วาจเปยฺเยน ดูกรชูชกาจารย์ ชิวหาหวานมึงกล่าว ท้าวใดท่าวทำโดยมึง ด่งงนี้ สมฺมา ญาเยน สทฺทเห ใครจะชิดจะเชื่อ คำมึงเพื่อการใด แลมา ต้งงใจจงกล่าวนี้ เตตํ ทานมททา ดูกรชีคนใดมีมามาก ใครต้งงตยาคแก่มึงด่งงนี้ ปุตฺตเก ทานมุตฺตมํ ฤๅอาจให้ลูกรัก ลำนักเนตรเปนทานใจแลไปหารบานี้ ฯ ชูชโก อาห อันว่าภารทวาช ก็สนองพระสาสนไทมูรธาษภิษิต สํเด็จบพิตรคืนด่งงนี้ โย ยาจตํ ปติฏฺฐาสิ อันว่าพระแพศยันดรตนใดตนหนึ่ง เปนที่พึ่งแก่ยาจกน้นน ภูตานํ ธรณีริว ดุจแผ่นดินอนนกว้าง สัตว์ท่ววท้างอาไศรยทุกแห่ง แล โส เม เม เวสฺ สนฺตโร ราชา ท้าวธนั้นแลเลอศ นี้ตายเกอดข้าขอเห็น ท่านน้นน ปุตฺเตทาสิ วเน วสํ ธเสด็จอยูในวรวงกฏ ให้สองราชเอารสนี้แก่กูด้วยชอบไส้ โย ยาจตํ คติ อาสิ บพิตรท้าวตนใดใจดี ชาวสีพีสรวมสู่น้นน สวนฺตินํว สาคโร ดุจสาครควิวคว่าง ทางน้ำหล่งงไหลถึง ทุกแห่งน้นน โส เม เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่า พระแพศยันดรตนน้นน ธหากฝนนฝงงธรรม ท่าวแล ปุตฺเตทาสิ วเน วสนฺติ ธเสด็จอยู่ด้วยอารญยก ธให้สองโบฎกนี้แก่กูแล ณ พ่อฮา ฯ

๏ ตํ สุตฺวา อมจฺจา อันว่าอมาตยคร้นนได้ยินความ แห่งพราหมณ์ทูลใน สนาม ด่งงนี้ เวสฺสนฺตรํ ครหมานา อาห ก็จะนินทาพระมหาบุรุษราช ทยรประกาศคาถา ด่งงนี้ ทุกฺกฏํ วต โภ รญฺญา ดูกรชาวพ่อมนตรีมุข ท้าวธหุกเห็น จริง ด่งงนี้ สทฺเธน ฆรเมสินา เปนฤๅษีมีเมีย ศรัทธาเสียสันโดษน้นน กถํ นุ ปุตฺตเก ทชฺชา ดงงฤๅแลมาให้ลูกเต้าต่างตา แก่พราหมณ์พาชูชกนี้ อรญฺเญ อวรุทฺธโกเขาขับหนีไปป่า เร่งร่ายกว่ากินเมือง เมื่อแก่น้นน อิมํ โภนฺโต นิสาเมถ ดูกรฝูงมนตรีไพร่ฟ้า ท่ววหน้าเร่งรัดฟงงกล่าวนี้ ยาวนฺเตตฺถ สมาคตา ฝูงลูกขุนเท่าใด มาชุมในตรีมุขนี้ กถํ เวสฺสนฺตโร ราชา ท้าวฤๅษีน้นนโสด มาฉุกโฉดฉนนใดด่งงนี้ ปุตฺเตทาสิ วเน วสํ อยู่เปนชีชาวป่า มาล่าให้สองกษัตริย์นี้ชอบฤๅ ทาสํ ทาสิญฺจ โส ทชฺชา อันว่าพระแพศยันดรเปนเจ้า ควรครอกเค้าเปนทานชอบไส้ อสฺสํ จสฺสตรีรถํ หนึ่งควรให้ม้าสามาญ ม้าโยงยานรฐรวศน้นน หตฺถิญฺจ กุญฺชรํ ทชฺชา ช้างชำนิพลายสาญ ควรเปนทานแก่ยาจกไส้ กถํ โส ทชฺช ทารเกติ เหตุใดแลท่านเจ้า มาให้ลูกเต้าสองสงวนชอบฤๅ ฯ

ตํ สุตฺวา กุมาโร ปิตุครหํ อสหนฺโต อันว่าเจ้าชาลี กรษัตรีย์ชาติ คร้นนฟงงคำคณอมาตย บมิอาจอดความทรยศอนนเขานินทาภมาน ออกยาพระราชกุมารได้ โสดเลอย วาตาภิหตสฺส สิเนรุโน อตฺตโน พาหุนา อุปตถมฺเภนฺโต วิย อิมํ คาถมาห เจ้าก็จะกล่าวกนนพระราชบิดา จากความพ้นโลกาประภาษ ดุจด่งงพระมหาบุรุษราชผู้มีฤทธิ์ เงื่อนพระพิศณุเอาพระพาหุดำรง ให้คงพระเมรุราช อนนอาจให้ย้งงอยู่ อนนลมพัดพยู่หพนนฦก เจ้าก็ลคึกผดุงบให้เซร ก็ผเดคืนบให้ ซรวด ก็สวดคาถาทูลแด่พระไอยกาธิบดี ภูมีศวรคืน ด่งงนี้ ยสฺส นาสฺส ฆเร ทาโส อสฺโส จสฺสตรีรโถ หตฺถี จ กุญฺชโร นาโค กึ โส ทชฺชา ปิตามหาติ ฯ โภ ปิตามหา ข้าแต่พระไอยกาธิบดี ศรีสญไชยผ่านหล้า ทาโส วา อันว่าข้าชายช่วงใช้ใกล้ตีนมือก็ดี ทาสี วา อันว่าข้าหญิงคือพระกำนรรก็ดี อสฺโส วา อันว่าม้าเห็จหรรลาเล่ง อสฺสตรีรโถ วา อันว่าม้าเร็วเร่งรถไกว หตฺถี วา อันว่าช้างวางไพรแปลงปลอก นาโค วา อันว่าช้างสารออกมรรมท กุญฺชโร เมาะ เสฏฺโฐ อนนอาจสาหสหาญยิ่ง อสฺส เมาะ เอกํเสน น อตฺถิ ก็บมีสักสิ่งสักอนน สบกำนรรจริง แล ณ ท้าว ฆเร ในที่ย้าวอยู่กลางดง ยสฺส ปิตุโน แห่งพระองค์พระราชบิดาตนใด วเน วสนฺตสฺส อนนอยู่ในไพรพระหิมพานต์ กลางกันดารพนาสณฑ์ โส ปิตา คือพระราชบิดาตนตูข้านี้ แล ณพ่อ ทชฺชา เมาะ ทเทยฺยาสิ อนนจะพึงเกื้อก่อกรุณาทยาทานเต็มใจ กึ นาม ธนํ แลจะมีสิ่งสินใดภายนอก พฺราหฺมณสฺส แลจะให้แก่พราหมณ์เถ้าผอกหงอกหลง สนองต่างองค์ตูนี้ณท้าว ฯ ราชา อาห อันว่าสมเด็จนฤเบนทราธิบดีตรีภูวนารถ ก็มีพระราชโองการ อนนกัลเว้า แก่พระเจ้าจอมกษัตริย์คืน ด่งงนี้ ทานมสฺส ปสํสาม ดูกรราชผู้เปนหลาน ทานพ่อเจ้ากูสรรเสริญทุกเมื่อไส้ น จ นินฺทาม โปตกา เราบห่อนนินทาทาน ท้าวใจอารยอุดมน้นน กถํ นุ หทยํ อาสิ หววใจออกญาเจ้า ยงงโศกเศร้าฉนนใด ด่งงนี้ ฯ ตุมฺเห ทตฺวา วนิพฺพเกติ เมื่อธให้สูสองราช เปนข้อยขาดแก่พราหมณ์นี้ กุมาโร อาห อันว่าเจ้าชาลีผู้ฉลาด ก็สนองพระสาศนพระไอยกา ปู่พญาคืน ด่งงนี้ ทุกฺขสฺส หทยํ อาสิ ข้าแต่ท้าวผู้ปู่ ลูกท้าวอยู่เปนทุกข์ ใจบศุขสักอันเลอย พ่อฮา อโถ อุณฺหํปิ อสฺสสิ อนึ่ง ท้าวธถอยใจใหญ่ ใคร่ใจหลวงระลวง คือไฟฟอกน้นน โรหณีเหว ตมฺพกฺขี อันว่าพระเนตรทงงสอง บัดนี้หมองดูแดง ดุจแสงดาวโรหินี แลณท้าว ปิตา อสฺสูนิ วตฺตยีติ อันว่าพระราชบิดามีนํ้าตาไหลหล่งง พ้ยงนํ้าคร่งงแสงฉนน แลพ่อฮา ฯ อิทานิ ตํ กณฺหาชินาย วจนํ ทสฺเสนฺโต อาห อันว่าพระราชโปดกก็จะสำแดง คดีแจงโดยดำเนอรกัณหา ก็ทูลแด่พระมานุชาธิบกศรีบมินาน ด่งงนี้ ยนฺตํ กณฺหาชินาโวจ บพิตร อันว่าเจ้ากัณหา ยงงทูลแด่พระราชบิดา ด่งงนี้ อยํ มํ ตาต พฺราหฺมโณ เผือข้าข้อยประดาบ พราหมณ์ร้ายราบภาไป แลณท้าว ลฏฺฐิยา ปฏิโกเฏติ ตีด้วยเชือกเขาแขง ไม้ท้าวแทงจำแล่นแล ฆเร ชาตํว ทาสิยํ ตามตีตูสรงงเสรอด พ้ยงข้าเกอดกลางเรือนมนน โสดไส้ น จายํ พฺราหฺมโณ ตาต มนนนี้ ใช่ชีพราหมณ์ มีใจลามใจโลภน้นน ธมฺมิกา โหนฺติ พฺราหฺมณา ฝูงพวกพราหมณ์มีมา ย่อมกรุณาแก่คนสิ้นท้าว ยกฺโข พฺราหฺมณวณฺเณน รอยปีศาจสางยักษ์ แปรเพศมลักมาเปนพราหมณ์กมัง ขาทิตุํ ตาต เนติ โน ภาตูไปเปนเหญื่อ เถ้าแร้งเรื่อก็จะกิน ตูแล นียมานา ปีสาเจน บพิตร ท้าวธบเอ็นดูตูผู้ลูก ละผีผูกเผือไป บอยู่เลอย กินฺนุ ตาต อุทิกฺขสีติ มนนตีตูอนาถ ด่งงฤๅราชเลงดู อยู่นี้ ฯ อถ เต พฺราหฺมณํ อมุญฺจนฺเตเยว ทิสฺวา ราชา คาถมาห อนนดับน้นน สํเด็จรัชชาธิเบศ เห็นสองกุมาเรศบมิคลาส ปราศจากพ้นมือพราหมณ์ ท้าวธก็ยกคำงาม กล่าวแก่เจ้าพญานัดดาบพิตรคืนด่งงนี้ ราชปุตฺตี จ โว มาตา อันว่าชนนีสองเจ้า ย่อมหน่อเหน้านามกษัตริย์ ประเสรอฐไส้ ราชปุตฺโต จ โว ปิตา ทงงพระชนกสองราช ย่อมเชื้อชาติ์วรวงษ์ กษัตริย์ไส้ ปุพฺเพ เม องฺกมารุยฺห เมื่อก่อนน้นนสองเจ้า มาน่งงเฝ้าพระปู่ไส้ กินฺนุ ติฏฺฐถ อารกาติ ด่งงฤๅสองเจ้ามาจำงาย ให้กัลหายอกปู่นี้ ฯ กุมาโร อาห อันว่าพระราชกุมาร ก็สนองสารพระบาทมรรตยาธิราชคืน ด่งงนี้ ราชปุตฺตี จ โว มาตา บพิตร อันว่าพระมารดาตูข้า ใช่ช้าชาติจอมกษัตริย์จริง แลพ่อฮา ราชปุตฺโต จ โน ปิตา ท้งงพระราชบิดาตูข้าก็ดี เผ่ากษัตรีย์สูงศักดิ์ไส้ ทาสา มยํ พฺราหฺมณสฺส เพื่อจะให้ตูข้า เปนช่วงช้าพราหมณ์นี้ ตสฺมา ติฏฺฐาม อารกาติ ห้ยมตูไกลพระปู่ เพราะอยู่เงื้อมมือพราหมณ์นี้ ฯ ราชา อาห อันว่า สมเด็จธิบดินทร์ คร้นนได้ยินคำเจ้าชาลีหลานราช ท้าวธก็มีพระสาศนสนองคืน ด่งงนี้ มา สมฺเมวํ อวจุตฺถ ดูกรชายชาลีอย่ากล่าว คำนี้ท่าวทับแดปู่แล ฑยฺหเต หทยํ มม คำหลานแก้วกูว้า พยงไฟฟ้าเผาแดปู่ไส้ จิตกายํว เม กาโย ตนปู่นี้พยงพ่าง เขาไว้หว่างเชอรฉกร แลนาเจ้า อาสเน น สุขํ ลเภ นับอยู่อาศนไอสวรรย์ ศุขอนนใดแลจะมี แก่ปู่นี้ มา สมฺเมวํ อวจุตฺถ หลานรักราชอย่าพร้อง คำคยดข้องขัดใจ ปู่นี้ ภิยฺโย โสกํ ชเนถ มํ ฟงงสูสองปรทยด เร่งร้อนสยดแสลงใจ ปู่แล นิกฺกิณิสฺสามิ ทพฺเพน ไว้ปู่จะไถ่สูทงงสอง ด้วยเงินทองทายาทแล น โว ทาสา ภวิสฺสถ ปู่บให้สูสองราช เปนข้อยขาดแก่พราหมณ์นี้ กิมคฺฆิยํ หิ โว ตาต พ่อออกสูอ่อนไท้ ขัดข้าไว้ฉนนใด ด่งงนี้ พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา เมื่อออกญาสู่ส่งให้ เปนช่วงใช้ชีพราหมณ์นี้ ยถาภูตํ เม อกฺขาถ บอกแก่ปู่จงแจ้ง อย่าแกล้งกล่าวเปนนาน หนึ่งเลอย ปฏิปาเทนฺตุ พฺราหฺมณนฺติ ปู่จะใช้ชาวคลงง สิ่งสินตรังตราส่ง แล ฯ กุมาโร อาห อันว่าเจ้าชาลี หลานราช ก็สนองพระสาศนพระไอยกา ปู่พญาคืน ด่งงนี้ สหสฺสคฺฆํ หิ มํ ตาต บพิตร โดยลูกท้าวธว่า ตนข้าค่าทองพนนหนึ่งแล พฺราหฺมณสฺส ปิตา อทา จึงให้ ข้าเปนข้อย แก่พราหมณ์พรอกพร้อยเพรา ช่องชาวนี้ อถ กณฺหาชินํ กญฺญํ ส่วน อ่อนน้อยกัณหา น้องพงาหลานราชนี้ หตฺถิอาทิสเตน จ แลสิ่งแลร้อยทรัพย์อ้าง คิดค่าช้างเปนเดอม ก่อนแล ฯ ราชา อาห อันว่าพระชนินทราธิราช ก็ประกาศกลางพลไพร่ เพื่อจะให้ไถ่สองหลาน ท้าวธก็มีพระราชโองการแก่เสนาบดี ศรีสมุหนายก ด้งงนี้ อฏฺเฐหิ กตฺเต ตรมาโน เวอยนายนักการเฮอย เร่งลุกเร็วนิทวัน พฺราหฺมณสฺส อวากริ สิ่งสินซึ่งให้แก่พราหมณ์ ทาสีสตํ ทาสสตํ ค่าร้อยหนึ่ง ขยุมหญิงชาย ควํ หตฺถูสภํ สตํ แสะแนะโคคโชสภ แลสิ่งแลร้อยหนึ่ง ชาตรูปสหสฺสญฺจ ทองพนนหนึ่งกองแก่พราหมณ์ โป ตานํ เทหิ นิกฺกยํ ให้ช่วงใช้แทนสนองหลานกู ตโต กตฺตา ตรมาโน นายนักการผายผนนแล่น พฺราหฺมณสฺส อวากริ นับทรัพย์มาให้แก่พราหมณ์ ทาสีสตํ ทาสสตํ ทงงหญิงชายผชุม แก่พราหมณ์ ควํ หตฺถูสภํ สตํ กาษรสารพังพลาย แลสิ่งแลร้อยหนึ่ง ชาตรูปสหสฺสญฺจ คำพนนหนึ่งหนำใจพราหมณ์ โปตานํทาสิ นิกฺกยํ สิ่งสินเวนเคนมาก อย่าให้ยากใจพราหมณ์ สักสิ่งเลอย ฯ พฺราหฺมณสฺส สพฺพสตญฺจ นิกฺขสหสฺสญฺจ กุมารานํ นิกฺกยํ อทาสิ        

    
๏ เมื่อน้นนพระบาทไท้   จอมจักร
จะไถ่หลานรักสนอง       ช่วงไช้
ทองพนนสิ่งสินชักประสาท
แลสิ่งแลร้อยให้       แก่เถ้าชูชก โสดแล ฯ

สตฺตภูมิกญฺจ ปาสาทํ อทาสิ แล้วท้าวธก็ประสาทปราสาทเจ็ดช้นน ขาดแก่ พราหมณ์น้นน อีกโสด พฺราหฺมณสฺส ปริวาโร มหา อโหสิ พราหมณ์ก็มี วววม้าค่า คน อำพลด้วยสิ่งสินพิลพั่ง เถ้าก็มั่งมีเปนดี มากแล ฯ โส ธนํ ปฏิสาเมตฺวา อันว่าเถ้าขี้ไร้ไส้เปรต บ่บงงเหตุก็ลำดับ นับเงินทองของแก้ว คแคล้วอยู่นักหนา ที่จะเอาไปฝากอมิดดาเมียมนน โสดแล ฯ ปาสาทํ อภิรูหิตฺวา เถ้าก็ขึ้นโดยบรรไดไลลีก ก็ว่าเวอยพาเด็กเล็กหลีกกูผู้เถ้า แลกูจะเข้าไปในปราสาทนี้ สาธุรสโภชนํ ภุญฺชิตวา พราหมณก็กินโภชนาหาร อนนนานับประการต่างต่างแล มหาสยเน นิปชฺชิ พราหมณ์ก็กล่าวอลูภูอล้าว ชศอคร้าวอิงหมอนนอนอยู่แล ฯ ราชา กุมาเรปิ นฺหาเปตฺวา ส่วนพระบาท ก็ให้เอาพระราชกุมารทงงสองไปโสรดสรง ชำระพระองค์ ด้วยกมนทโลทก อีกอามลก โสดแล โภเชตฺวา อลงฺกริตฺวา ก็ให้สองเจ้าเสวอยพระโภชนาหารแลแล้ว ก็ประดับด้วยแก้วกัณฐีมณีกร สรรพาภรณวิภูสิตน้นน เอกํ อยฺยโก เอกํ อยฺยิกาติ เทฺว อุจฺฉงฺเก อุปเวเสสุํ ส่วนพระบาทสญไชยก็อุ้มเจ้าชาลี ออกนางสบรรษดีก็อุ้มเจ้ากัณหา ชมพงาหลานรักษ น่งงเหนือตักพระองค์ท่าน แล ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่า พระสาศดาก็จะสำแดงอรรถนุสนธิ์ พระทศพลก็บันทูลคาถา ดงงนี้ นิกฺกิณิตฺวา จ นฺหาเปตฺวา โภชยิตฺวาน ทารเก สมลงฺกริตฺวา ภณฺเฑหิ อุจฺฉงฺเก อุปเวสยุํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรอาริยกุลบุตร อนนพิสุทธศีลสัตย์ เทฺว ขตฺติยา อนนว่าเหง้าสองกระษัตริย์สุริยพงษ์ นิกฺกิณิตฺวา คร้นนแลท้าวธปลงทรัพย์ไถ่แล้ว เทฺว ทารเก สองอ่อนแก้วหลานรักษ เอตฺตเกน ธเนน ด้วยสินศักดิ์จอมราช เทฺว ทารเก ยงงท้าวน้อยนารถทงงสอง นฺหาเปตฺวา ธก็แส้งสํพองสรงสระ คนฺโธทเกน ด้วยนํ้าสระเสาวคนธ์ อนนเต็มในกมนทลาภิเศก อติเรกด้วยสหรธารา เรืองรจนามณฑลพิธี โภชยิตฺวา เมาะ สุทฺธสาลีนโมทเนน สิริวจฺช สชฺชาเปตฺวา แล้วธก็ให้เบอกบายศรีบอกมิ่ง สาลีนโมทเนน ด้วยเข้าต้นสิ่งสาลี อนนมีรศตระการ สุจิมํสูปเสจเนน ด้วยมางษมัสยาหารรศรวว หอมเทาท่ววทุกพาย สมลงฺกริตฺวา เทฺว ทารเก แลท้าวธก็ให้ประดับ สายใจจอมราชทงงสอง ภณฺเฑน เมาะ อุตฺตเมน อลงฺการภณฺเฑน ด้วยเครื่องทองพิจิตร พิพิธสรรพาภรณ์ต่างต่าง อุปเวสยุํ เมาะ นิสีทาเปสุํ ท้าวธ ก็บให้ห่างหลานรักษ อัญเชอญชักเอาอาศน์ อุจฺฉงฺเก เมาะ อตฺตโน อุจฺฉงฺเก เหนือตักราชราชา ไอยกาธิปอัยเกศ อนนเปนปิ่นเกล้าเชตุดร เมืองมิ่งน้นน สีสํ นฺหาเต สุจิวตฺเถ ยงงสองศรีสระแล้ว ทรงผ้าแก้วจิตรพรัดพราย เพรอดน้นน สพฺพาลงฺการภูสิเต แล้วประดับด้วยเครื่องอาภรณ์เภณี แก้วกัณฐีถนิมมาศน้นน ราชา องฺเก กริตฺวาน น่งงเหนือตักท่านไท้ โลมลูบไล้หลานรักษ ฤๅอิ่มเลอย อิทํ วจนพฺรวิ ยังรศราชโองการ อยฺยโก ปริปุจฺฉถ ท้าวธพระชนนีชนก แห่งสองโบดกด้วยเสน่หน้นน กุณฺฑเล ฆุสิเต มาเล ทรงกุณฺฑลทัดธาร ดอกไม้มาลจวงจันทร์ คลาศแล สพฺพาลงฺการภูสิเต แล้วประดับด้วยสร้อยสังวารวรมาศ สรเอ้งคาดคับควรงาม ชื่นแล ราชา องฺเก กริตฺวาน ท้าวธกระโบบ หลานรัก อุ้มใส่ตักชมเชย ฤๅอิ่มเลอย อิทํ วจนมพฺรวิ ยงงรศราชโองการ กล่าวแก่เจ้าพระญาหลาน ท่านน้นน กจฺจิ อุโภ อโรคา เต ดูกรราชนัดดา สองพระญายงงค่อยอยู่ฤๅ ชาลิ มาตาปิตา ตว อนนเปนพระราชบิดามารดร แห่งสองบงงอรเอารศ ปู่นี้ กจฺจิ อุญฺเฉน ยาเปนฺติ สองดาบศลูกไท้ ยงงค่อยได้ผลภักษ์ ง่ายฤๅ กจฺจิ มูลผลา พหู ลูกไม้ยงงมีมาก รากไม้ภาคพอฉนน ฤๅณเจ้า กจฺจิ ฑํสา มกสา จ ยุงแยงใจขบดิ้น เหลือบร่านริ้นขบแขง โสดฤๅ อปฺปเมว สิรึสปา ฝูงทฤรฆชาติ์ร้ายร่า ในป่วงป่าเปนเข็ญ โสดฤๅ วเน วาฬมิคากิณฺเณ มหิงษาสีหเสือแรด ช้างผู้แผดเพราะชะโมร มากฤๅ กจฺจิ หึสา น วิชฺชติ ขแถกแทงทอท่ยว เขาส้ยมส่ยว สาหสยงงมี ฤๅนาเจ้า ฯ กุมาโร อาห อันว่า เจ้าชาลีก็ทูลแด่พระบาท ราชธานีศวรคืนดงงนี้ อโถ อุโภ อโรคา เต บพิตร อันว่าศุขสวัสดิ์ แห่งสองกษัตริย์ลูกไท้ธก็มี แลพ่อฮา เทว มาตาปิตา มม อนนบงงเกอดตูข้า สองปิ่นหล้าเอารสท่านน้นน อโถ อุญฺเฉน ยาเปนฺติ อนึ่งท้าวธเสวอยศุขภาพ ด้วยลุลาภอาหาร มากแล อโถ มูลผลา พหู ลูกไม้ค่อยครนนเสวอย รากไม้เคอยครนน เสพยไส้ อโถ ฑํสา มกสา จ ยุงร้ายร่านก็บขบ เหลือบเหลือตบก็บตอม โสดเลอย อปฺปเมว สิรึสปา งูมีพรรณก็บติด งูมีพิศม์ก็บตอด โสดเลอย วเน วาฬมิคากิณฺเณ สัตว์ในด่านก็ดูยง สัตว์ในดงก็ดูยิ่งแล หึสา เนสํ น วิชฺชติ จะพาทธก็บมา จะพาทาก็บมี มากโสด ขณนฺตาลุกนมฺพานิ บพิตร ออกนางตูขุดรากบววแลเหง้าบวว แม่ณหววก็บอยู่เลอย วิฬานิ ตกฺกลานิ จ ทงงมนนอ้อนมนนอ่อน มนนพร้าวล่อนมนนไพร มากแล โกลํ ภลฺลาตกํ เพลฺลํ หมากกอกกับพีเนา พัทราเทาเลมล่าแล สา โน อาหจฺจ โปสติ เก็บมาเปนอาหาร ล้ยงลูกหลานพระบาทนี้ ยญฺเจว สา อาหรติ ลูกไม้ใดตระการ รากไม้หวานหวงงเสพยนี้ วนมูลผลหาริยา ลูกไม้ผลไม้ใหญ่ ออกนางใฝ่เอามา มากแล ตํ โน สพฺเพ สมาคนฺตฺวา น่งงปตูตูเต้าไท้ โลมเล้าให้เสวอย ภักษ์น้นน รตฺตึ ภุญฺชาม โน ทิวา ออกนางเดอรคืนคํ่า รุ่งเช้าพรํ่าอดกิน อยู่ไส้ อมฺมา จ โน กิสา ปณฺฑุ บพิตร ออกนางตูโตรดตรอม บัดนี้ผอมเหลือง หลากแล อาหรนฺตี ทุมปฺผลํ เพราะเพื่อแสวงหาลูกไม้ มาถวายแด่ไท้ทรงธรรม บพิตรน้นน วาตาตเปน สุขุมาลี ปทุมํ หตฺถคตมิว ฯ เทว บพิตร ท้าวผู้ผ่านเจ้าอยู่หัว ปทุมํ อิว เมาะ ยถา ปทุมํ ดั่งฤๅ ดงงดอกบววบานแบ่ง ขึ้นแข่งนํ้าเรืองไร มาณเวน แลกรไทชายมาณพนายผู้หนึ่ง หตฺถตเล ปริมทฺทิตํ แลเอามาคลายเคล้นซึ่งมือมนน บงามฉรรแสงเศร้า ทุวณฺณมิลาตํ บัดนี้ เห็นห่ยวเศร้าหายสรด โหติ ก็มีในดอกบงกช น้นนโสด สา อมฺมา อันว่าออกนางนงโพธไท้เทพี แม่มัทรีตูข้าน้อยนารถ สุขุมาลี อันมีสมบูรณ์ใสสระอาจสุขุมาลย์ เนื้อรุหาญทองแท่ง ทุวณฺณมิลาตํ อ้าบัดนี้ ก็เห็นห่ยวแห้งแห่งพระองค์ วาตาตเปน ด้วยลมลงดงแดด เดอรแจ้งแจดจำงาย โหติ ก็มีหลายคราหลายคาบ ดูประดาบสาหส เอวเมว ดุจดอกบงกชบววมาศ แลมา ลุอำนาจในมือชาย อยู่มนนทายมนนทัดถือเหล้น อยู่มนนเคล้ามนนคลี่ไปมา ให้ห่ยวแล อมฺมาย ปตนู เกสา อันว่าเกสานิลพยงพู่ ข้องพฤกษอยู่ดูบาง แลนาท้าว วิจรนตฺยา พฺรหาวเน บุกป่าดงพงกว้าง โดยด่านช้างชรงมไพ วเน วาฬมิคากิณฺเณ ดงใดพาฬมฤคมาก เนื้อเบื้อหลากหลายพรรค์อยู่แล ขคฺคทีปินิเสวิเต เล็บงอนงามอเน่ง เขาข้ยวเปล่งเปลวแสงส่องแล เกเสสุ ชฏํ พนฺธิตฺวา บพิตร ออกนางตูเปนเจ้า ย่อมห่อเกล้าชฎาธาร ทุกเมื่อไส้ กจฺเฉ ชลฺลมธารยิ มีเสทาทงงสอง รักรงงรองหมองหม่นแล จมฺมวาสี ฉมา เสติ นุ่งหนงงเสือนอนแผ่น ใบไม้แท่นปูอาศน์แล ชาตเวทํ นมสฺสติ ไหว้พระเพลองอรเอก เงื่อนปรตเยกสํพุทธเลอศน้นน ฯ เอวํ มาตุ ทุกฺขิตภาวํ กเถตฺวา อันว่าเจ้าชาลี ก็ทูลคดีออกนางพญาตน ด้วยประการกลด่งงนี้ อยฺยกํ โจเทนฺโต อิมํ คาถมาห เจ้าก็จะโจทย์อัยกาธิราช พ้อพระบาทจักราธิบดี ก็มีพระเสาวนีสนองคืน ด่งงนี้ ปุตฺตา ปิยา มนุสฺสานํ บพิตร ชื่อว่าลูกหญิงลูกชาย อนนจะสืบสายสันดานท่านนี้ โลกสฺมึ อุทปชฺชิสุํ ย่อมเปนที่เสนหา ในโลกากรไส้ น หิ นูนมฺหากํ อยฺยสฺส ด่งงจริงใจไอยเกษ เหง้านเรศไอยกาธิบดี ปุตฺเต สิเนโห อชายถ บเห็นที่ท้าวจะเสน่หา แก่พระราชบิดามาตยตูนี้ นาท้าว ฯ

๏ ตโต ราชา อตฺตโน โทสํ อาจิกฺขนฺโต อาห อันว่าพระสุเรศวรราชก็จะสำแดงโทษแห่งเทหเลหด่งงน้นน ก็ซ้นนมีพระราชโองการ แก่เจ้าพญาหลานคืน ด่งงนี้ ทุกฺกฏญฺจ หิ โน โปต ดูกรหลานอำเภอใดแลท้าวพญาอาธรรม โทษทุษฐกรรมปู่ก็ทำเอง แลนาเจ้า ภูนหจฺจํ กตํ มยา อนนอำเภอไชยสวัสดิ์ ปู่เปนกษัตริย์ก็ทำโทษน้นน โยหํ สิวีนํ วจนา กูผู้อาจยินอยู่ไพร บดานใดตามธรรมอนนชอบน้นน ปพฺพาเชสึ อทูสกํ พ่อออกเจ้าท้าวนิรโทษ ขับหนีโสดนฤเทศน้นน ยํ เม กิญฺจิ อิธ อตฺถิ เครื่องใดอนนพิเสศ ในด้าวเชตุดรเมืองมีนี้ ธนํ ธญฺญญฺจ วิชฺชติ ท้งงสิ่งสีนสุรเกษตร พ่อก็จะถวายแก่ท้าวเชษฐเอารส ปู่แล เอตุ เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าพระแพศยันดร จงมาเสวอยพระนครคืนเล่าเทอญ สิวิรฏฺเฐ ปสาสตูติ จงเจ้ามารักษาราษฎร์สืบเชื้อชาติสุริยาวงษ์น้นน ฯ กุมาโร อาห อันว่าเจ้าชาลีกุมาร ก็สนองสารเสร็จ แด่สมเด็จธิบดินทรคืน ด่งงนี้ น เทว มยฺหํ วจนา บพิตร อันว่าพ่อตูข้าน้อยนารถ ฤๅจะอาจยินคำตู กล่าวนี้ เอหิติ สิวิสุตฺตโม พระบิตุราชเจ้าจุมพล ธบรางจนิมนต์ตู แลจะมา แลนาท้าว ฯ ตโต เสนาปตึ ราชา สญฺชโย อชฺฌภาสถ หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺติ เสนา สนฺนาหยนฺตุ นํ ฯ ภิกฺขเว ดูกร ภิกษุมุนี ผู้มีจัตุปาริสุทธศีล อนนทรงพิริยทรงพรต ตโต เมาะ ตทา ในกาลกำหนดกำหนัดนี้ ท้าวธกัตนิทิเสน่หา เอารสาธิราช ราชา สญฺชโย อันว่า พระบาทบรมภูธรเทพสญชัย สุตฺวา ชาลีกุมารวจนํ คร้นนพระได้ฟงงสองดไนยหลานราช ฟงงฺพระสาศน์หลานรักษ วจนํ ยงงพระราชโองการอนนตรศักดิ์ เจ้าจักรพรรดิภูบาล เจ้าจักรพาฬภูเบศ อชฺฌภาสถ ก็บนนทูลด้วยพระเดชเดชะ ด้วยพระตระบะเดโช เสนาปตึ แก่โยธาธิบดี ทวยโยธีธิบดินทร์ อนนเปนนรินทรามาตย์ ราชเสนาอากยรณ ด้วยสมยนสมุหพระดำรวจ ด่งงนี้ เสนา เมาะ เสนาโย อันว่าเสนาเรา บรู้กี่ขนัดกี่ขนาด อนนอยู่บำเรอราชในวงง อนนจะยงงบำเรอราชนอกวงง ทงงกงในกงนอก ทงงเมืองออกท่านทุกด้าว ทงงเมืองออกท้าวท่านทุกแดน แลแสนยากรน้นนฤๅ หตฺถี อสฺสา รถา ปตฺติ เมาะ หตฺถิเสนาโย อสฺสเสนาโย รถเสนาโย ปตฺติเสนาโย ฯ คือหมู่ช้างชำนิชำนน ชนชำนาญชาญชำนะ ลางหมู่ดูสรดะสรดื่น ลางหมู่ดูรยืนรย่งง งาสรพร่งงสรพราด ลางหมู่ขี่ผงาจอาจผงร อยู่แก่สมรแผ่นดิน ลางหมู่เอาเดือนก็ได้โดยถวิล ลางหมู่เอาดินก็ได้ด้วยถวัด ลางหมู่งาชรอัดชรแอ้น แล่นก็แล่นชนก็ชน ยลหูก็กางยลหางก็แกว่ง งามถ้วนแห่งบมิช้า ลางหมู่คล้าเอาเสือก็ได้ด้วยอุก ลางหมู่คลุกเอาศึกก็ได้ด้วยอาจ หมู่หนึ่งผาดไล่สีหก็ทนน หมู่หนึ่งผนนไล่สีหก็ท่าว ศึกฟงงข่าวสรีรรวว ย่อมตววหาญตววหื่น เห็นคคลื่นคคลับ ดำรยับเปนแสง ลางหมู่หน้าแดงจกรูล ดูจำรูญจกราด ทั้งตววดาษแผลผลิ ดูพรรฦๅนิพรรฦก ลางหมู่ดูคมึกคมำ แก้มกำยำกินมนน ย่อมตววทนนตววทรับ โจนจำบับจำบงง สัตรูพงงแพ้พ่าย ฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 ธันวาคม 2563 19:04:51 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2563 16:00:22 »


กัณฑ์มหาราช (ต่อ)

๏ อสฺสาเสนาโย คือฝ่ายม้าอัสวดร หมู่นิกรอัศวเดช แลม้านเรศต่างต่าง มีหมู่ด่างหมู่แดง ย่อมม้าแรงม้าเร้า หมู่ม้าเหล่ามาเลือก หมู่ม้าเผือกม้าผ่อง เห็จฟ้า ฟ่องหูฟงง หมู่ม้าปล่งงม้าปลอด ตีนคอขอดคอขด หมู่ม้าหมดม้าหม่น อนนรู้หล่นมิรู้ล้า หมู่ม้าหล่อม้าเหลือง ดูมเลืองมลาก หมู่ม้านาคม้านิล จบทุกดินทุกดาน หมู่ม้ากาลม้าแก้ว โฉมดูแพร้วดูพราย หมู่ม้าซ้ายม้าแซม แนมนายเผ่นน่งงผาย หมู่ม้าฝ้ายม้าฝุ่น สีสรตุ่นเทาเทา ขนกล้ยงเกลาพรายพรรณ เหาะเห็จหรรผนนผยอง ฉลองดินฟ้าอากาศ อาจดรดรงค ฯ รถเสนาโย สำนึงคือรถบรรจง ม้ายรรยงยรรยอง โยงรถทองหรรเห็จ หมู่หนึ่งรถสมเด็จสํแดง ครแลงครไล ดูประไพด้วยแก้ว หมู่หนึ่งแพร้วด้วยกงกาญจน์ บรรสารด้วยกงกำ หมู่หนึ่งทำรถหมดด้วยรัชฏ์ หมู่หนึ่งชรัดด้วยทองแดง แซงด้วยทองดาษ หมู่หนึ่งพาศด้วยสพ้นน ฝั้นด้วยสุพรรณ หมู่หนึ่งกนนด้วยเหล็กหล่อ ก่อด้วยเหล็กหลาย แสงดูพรายพัรเหา หมู่รถเราน้นนโสดสับ อนนประดับด้วยอานด้วยแอก แปรกบรัศกวยนแกว่งผัดกงผนน ญวนชำนันทวยทอด ธงทัดยอดดูแดง หมู่หนึ่งแสงดูขาว หมู่หนึ่งภาวชมภู หมู่หนึ่งดูขยวขจี หมู่หนึ่งสีแสงเหลือง หมู่หนึ่งเรืองแสงเมฆ หมู่หนึ่งแฉกแสงหงษ์ หมู่หนึ่งสรบงแสงแสด แสงพยงแดดดูฉาย หมู่หนึ่งพรายแสงดำ แสงขยวขำคคลับ ประดับดาษแกมกนน ต่างต่างพรรณต่างภาค ใบบรรดากก็ดูงาม ฯ

๏ ปตฺติเสนาโย ส่ำนึ่งคือพลสงคราม รามพิไชยไวยพิชิต หมู่หนึ่งฤทธิ์บรรจง หมู่หนึ่งรงคบรรเจอศ หมู่หนึ่งเลอศด้วยฝีมือ ฦๅด้วยฝีแมน แอนเอาศึกก็ได้บมิคลาศ อาจเอาเศิกก็ได้บมิแคล้ว ย่อมพลแผ้วผลาญม่าห ย่อมพลผ่าพลาญมาร ฤทธิบารรเบิก ก็เกรอกขบฟนนก็ดูร้าว ก็กร้าวขบฟนนก็ดูแรง ย่อมพลแขงตรเบ็งลํ่าสนน ย่อมพลขันธ์ตรเบ็งลํ่าสู่ บรู้ถดรู้ถอย หมู่หนึ่งสอยสัตรูตายรนับ หมู่หนึ่งสับสัตรูตายรนาบ ย่อมพลปราบบรปักษ์ แลทวยหาญเจ้าจอมจักรน้นนโสดหลายส่ำ เล็งดูลํ่าลบินลบ้นน ดูตรหมนนตรหมืน ดูรยืนรยัด ดูลขัดลขืน ดูลปืนลปลาน ย่อมพลลานพลเลือก ย่อมพลสักเงือกสักงู หน้าหลงงดูไหลดาษ อาจรบรวดอวดรบรอบ ย่อมพลขอบพลพันธ์ ย่อมพลสรนนพลสระ ย่อมพลชระพลเชรอด ย่อมพลเฉอดผลฉาน ย่อมพลชาญพลช่ยว ย่อมพลร่ยวพลแรง ย่อมพลแขงพลเข้ม ย่อมพลเล้มพลเหลา ย่อมพลเกลาพลแกล้ว ย่อมพลแผ้วพลผ่า ย่อมพลกว่าพลแกว่น ย่อมพลแล่นพลลํ่า อาจปลํ้าเอาลาภ ปราบกุมภกรรฐ์ปรนนขุนขร กำธรฑูตแผลงตรีกูฏก็เอน ผลักพระเมรุก็ท่าว ผลักผาด้าวก็ทบ ตรหลบเอาดาวมากิน ตรหลบเอาดินก็ได้ด้วยฉับ จับเอาเดือนแลตรวัน เที่ยวทนนบาดานชาญทุกทวีป ด้วยเร้วรีบบให้ห่าง ย่างตีนดยวก็จบ สบอากาศก็จวบ รวบเอาสุราไลยโลกย์ ไตรภพโอฆสงสาร แม้สัตรูประมาณด้วยพนน ทนนถึงหมื่นถึงแสนแด่นถึงล้าน อาจป้องปานเดจดยว สู้ต่อลยวต่อลาว ใจบอ้าวบอ่อน ใจบหย่อยนบหยุด ที่จะยุทธในรณรงค์ ฯ

๏ เสนา สนฺนาหยนฺตุ เมาะ อาวุทฺธํ สชฺชนฺตุ จงสูเร่งทรงอาวุธถ้วนหน้า หมู่ทวยกล้าอาพัทธ เร่งทรงขนัดทรงขรรค์ กุมกุทันธ์กนนกทาห ดาทงงด้งงทงง ดาบ สองตราบจับสูลจำรูลจับศักดิ์ สภักผ้าเกราะผ้ากราย พรายพรายด้วยจุรีจุแรง ลำแพงเพ็ชรเก็จกำจายมาร ผลาญด้วยกงด้วยกำ ทงงฉวยงสดำหน้าไม้หน้าแม่น แกว่นคำแหงแผลงคำเพลอง ดำเลองเสโลหโหล้แหลนหลาย จำหายแสงส่องตรวัน จำหนนแสงส่องฟ้า เหลื้อมๆ หล้าทุกแหล่ง ดูปรแพร่งปรแพรว ทุกลำแกล้วโยธา สูเร่งประดับประดา ดากนนมาอย่าช้า ท้าวธจะให้เสด็จไปรับลูกธเจ้าฟ้าพระศรีสรรเพ็ชญ์ เสด็จมาผ่านพระนคร เชดุดรคืนเล่าแล ฯ เนคมา จ มํ อเนฺวนฺตุ พลนานอกนานตว สบอายดนอายาตร เร่งดยรดาษล้อมโดยตาม พฺราหฺมณา จ ปุโรหิตา ทงงพราหมณ์พฤทธิพราหมณ์เพศ ทงงพราหมณ์เทศพราหมณ์ไทย สบสไมยดาษโดยดูตู ฯ

๏ ตโต สฏฺฐิสหสฺสานิ เสนาสุรเสนิศ ใจบภิตบพรานตย่อมทวยหาญหกหมื่น โยธิโน จารุทสฺสนา เลงดูชื่นดูชม งามดูสมดูสบาว สรหลนสรหลอน ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา ทรงอาภรณ์อาภาศเร่งดยรดาษดยรโดย อาวุธโบยยยาบ นานาวณฺเณหิ ลงฺกตา ปราบทุกแดนทุกด้าว ฦๅ ทุกท้าวทุกประเทศ เครื่องแก้วเวศไวไว นีลวตฺถธราเนเก โฉมปรไพรปรแพ่ง เครื่องขยวแขงเครื่องขำ ดูกำยำโยธา ปีตาเนเก นิวาสิตา ดาบหอกใหญ่หอกยาว ห่มผ้าดาว ผ้าแดด เหลื้อมๆ แสดแสงเหลือง อญฺเญ โลหิตอุณฺหีสา หมู่หมวกแดงเรืองดูรุ่ง แหลนยยุ่งยย้าย คล้ายๆ คลี่ไคลๆ สุทฺธาเนเก นิวาสิตา ลกลไขลขืน ย่อมพลหื่นพลหาญ ห่มเกราะกาญจน์ขยวขาว ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา ย่อมพลดาวพลแดง ย่อมพลแขงพลขันธ์ อาจขนัดขนรรสงคราม นานาวณฺเณหิ ลงฺกตา เล็งดูงามดูง่า แต่งเครื่องอ่าเครื่ององค์ ทรงเครื่องท้าวหลายพรรณ หิมวา ยถา คนฺธโร ดุจหิมวันต์ หิมเวศ หอมพิเสดพิศาล คันธาธารคนธา ปพฺพโต คนฺธมาทโน ชื่อจลาจรเลนทร์ หอมกรเวรกรวล อาจจิญจญจวญใจ นานารุกฺเขหิ สญฺฉนฺโน พฤกษดวงใสดวงสาง ใบกระช่างกระชู กิ่งก้านตรูตระการ มหาภูตคณาลโย ที่ฝูงมารฝูงมาห ทงงผีห่าผีเหว ผีท้องเลว หลายภาค อารักษ์มากนานา โอสเธหิ จ ทิพฺเพหิ มียาทิพย์ยาเทพย์ อันควรเสพย์ควรเสวอย ไข้ลเหอยเห็นหาย ทิสา ภนฺติ ปวนฺติ จ มีแสงพรายแสงพุ่ง มีแสงรุ่งแสงเรือง เหลื้อมๆ เหลืองขาวขยว ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา หมู่ฉลยวฉลาดพลเร้า หมู่เฉลาฉลุทอง ลงงลองแสงฉลับเฉลอมตรหมื่นเตอมกุมภัณฑ์ ทิสา ภนฺตุ ปวนฺตุ จ โฉมหลายพรรณหลายภาค เหลื้อมๆ หลากไรๆ ท่ววทิศไปขจุยขจร ฯ

๏ ตโต นาคสหสฺสานิ ถัดน้นนพลนิกรพวกกรี อนนมีไชยมีชาติ ดูสรพราศถ้วนหมื่น โยชยนฺตุ จตุทฺทส สี่พนนหมื่นพลายหาญ ย่อมตววสารตววสรร เร่งมาพลนนโดยกระษัตริย์ สุวณฺณกจฺเฉ มาตงฺเค พลอยผูกกรพัดรัดดำโพง โยงตาบหน้าสลูกสลาบ ครุฑธยยาบแพรทอง เหมกปฺปนิวาสเส จองจำลองจำหลัก ทรงผ้าปักผ้าปิ่น สทิ่นทยนทองทำ อารูฬฺเห คามณีเยภิ หมอจำนำจำหนับ ให้เร่งขับเร่งขี่ คล้ายๆ คลี่ไคลดล โตมรงฺกุสมาณิภิ ถือทวนถกลเถกองงาอังกุสอ่าองกาย พรายรัตนลออ ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา หมอประเสริฐประสิทธิ์ มาอย่าคลิดอย่าคลาส โดยเสด็จราชเร็วพลนน หตฺถิกฺขนฺเธหิ ทสฺสิตา ไสสามนนสารทธ์อย่าได้กดได้ก่ยว ฝ่ายช้างช่ยวรำรงค์ ฯ ตโต อสฺสสหสฺสานิ อนนดับน้นนม้ายรรยงยรรยอง แคบคับรองควรงาม ย่อมแสะสยามอยุทธ์ โยชยนฺตุ จตุทฺทส จตุทัศสหัศษาหัศเร่งอาต อาคาธทองร้อยราชรจนา อาชานียาว ชาติยา เผ่าอาชาไนย อนนมีไชยมีชาติ์ ขับผายผาดผนนผยอง ลงงลองพรรณอจินต์ สินฺธเว สีฆวาหเน เผ่าสินธพสบทวีป เร็วฤทธิ์รีบเร็วรงค์ ขนสงสรบงสรบาล อารูฬฺเห คามณีเยภิ นายม้าการม้าแกว่น อาจขับแล่นขับเลอ ใจเสมอเพชร์ยรรยง อิลฺลิยาจาปธาริภิ ทรงธนูธนุศ ก่งศรสุดกรส่ง แส้ส้าวดงโดมร ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา นายอัศดรอัศวเดช ทรงเครื่องเทศเครื่องท้าว จรัสท่ววด้าวชัชวาลย์ อสฺสปิฏฺเฐ อลงฺกตา อานสุพรรณสุแพก นายจำแนกจำนำ ทงงฉวยงสดำดาษดามา ฯ

๏ ตโต รถสหสฺสานิ ถัดน้นนรถทยมล้า ทยมแหล้น กวยนแก้วแกว่นกงไกว ปรไพดลแกมกาญจน์ โยชยนฺตุ จตุทฺทส เรือนพิมานพิมลสบปรตยนปรตเยก ด้วยแก้วเวศไวโพยม อโยสุกตเนมโย โสรมเหล็กหลายเหล็กหล่อ เรืองเปนช่อเปนช้นน กงแกว่งหม้นนบมิคลา สุวณฺณจิตฺตปกฺขเร ให้รจนารจเรข ทองไล้เลขลายขยน นยรมิตรด้วยมณีฉาย อาโรเปนฺตุ ธเช ตตฺถ หมู่นายรถเนืองเร่ง ธงธุชเปล่งธงทอง ลงงลองยวลเยนทร์ จมฺมานิ กวจานิ จ จงแต่งเขนแต่งขันธ์ ผ้าเกราะพรรณพรายแพร้ว ดยรดาษแก้วกรพินธุ์ วิปฺผาเลนฺตุ จ จาปานิ หมู่รู้ศิลปสาตร ให้เร่งผาดเร่งแผลง สรดำแดงด้วยเดโช ทฬฺหธมฺมา ปหาริโน หมู่โยธาโยเทศ ผู้จำเบศจำบงง ปรนงงกนนถวายศิลป์ ขิปฺปมายนฺตุ สนฺนทฺธา ฝูงพลพฤนท์พลพาห ห่มผ้าราผ้าราย ดาวดูฉายเฉลาทอง รเถสุ รถชีวิโน นองนายแอยงนายอยืน ฉมวยฉมำปืนยาแม่น เลี้ยงด้วยแกว่นกลางณรงค์ ใจบรรจงอาษาท่านน้นน ฯ

๏ เอวํ ราชา เสนางฺคตํ วิจาเรตฺวา คร้นนท้าวธพิจารณานรพฤนธ์พล พาหนพยุหหมู่จตุรงค์ อนนอลงกฏสำเร็จ เสร็จด้วยประการแลแล้ว ปุตฺตสฺส เม เชตุตฺตรนครโต ยาว วงฺกตปพฺพตา อฏฺฐุสภวิตฺถารํ อาคมนมคฺคํ สมตลํ กตฺวา ท้าวธ ก็มีพระราชโองการ แก่พระสุวรรณสวัสดิ์สมุหนายกด่งงนี้ ชี้ให้เห็น ดูกรอมาตยพลมาตยานุชิต สูเร่งรจิตรจนามรรคาลงการ ที่สงสารสรรเพชญ์ ท้าวธเสด็จคืนยงงเชดุดร นครรัตนราชธานีมีประมาณ แปดอสุภด้วยกว้างยาวแต่ทางวงกฏ มาจรดถึงเชดุดรนครจงราบ ดูชรบาปสิ้นเสมอกนน โสดเทอญ ฯ มคฺคาลงฺการตฺถาย อิทญฺจ อิทญฺจ กโรถาติ อาณาเปนฺโต อาห แล้วจงสูเร่งแต่งเครื่อง อนนจะประดับมรรคา ที่พระเอารสกูจะมาด่งงนี้ จงบริบูรณ์ ท้าวธก็มีพระราชบัณฑูรด้วยพระคาถา ด่งงนี้ ลาชา โอโลปิยา ปุปฺผา อนนว่าคนท้งงหลาย จงเรี่ยรายเข้าตอก ทงงดอกไม้แกมกนน โสดเทอญ มาลาคนฺธวิเลปนา เร่งแขวนรำยวลพรรณบุษปเรข อเนกด้วยคนธาทิกน้นน อคฺฆิยานิ จ ติฏฺฐนฺตุ พนมรัตนอิกพนมมาลาเลอศนิ์ ตั้งจงเฉิดทยมทาง เยน มคฺเคน เอหิติ ที่ใดกนนดารกลางมูลมารค เอารสราชเจ้าจักมา คาเม คาเม สตํ กุมฺภา หมู่ไหตราเตือนแต่ง แลร้อยแห่งทุกทาน เมรยสฺส สุราย จ ตวงเต็มสุราบานโซรแซร ให้กินแต่เต็มใจ มคฺคมฺหิ ปติตา ฐนฺตุ จงสูประดับในทุกที่ ถ้วนถ้องถี่รัถยา เยน มคฺเคน เอหิติ ทางใดพญาธรรมชอบ เจ้าจักคอบคืนเมืองเล่าแล มํสา ปูวา จ สงฺกุลิโย เข้าพองแดกงาเนืองนมมาก เนื้อนกหลากหลายพรรค์ กุมฺมาสา มจฺฉสํยุตา สังขยาไข่ขนมมนน ขนมถั่ว เนื้อปลาอั่วอากยรณ์ มคฺคมฺหิ ปติตา ฐนฺตุ แลคนท้าวไทยท่ววยรรยงรอบสองข้าง ขอบมรรคา เยน มคฺเคน เอหิติ ทางใดพงาเอารสราช เจ้าจักยาตรยงงบูร สปฺปิ เตลํ ทธิ ขีรํ นมเนอยทธิมูลมนนมาก ถ้วนทุกภาคพอพล อิ่มเทอญ กงฺคุปิฏฺฐา พหู สุรา กำเสาจรบลรศเอมโอช เข้าฟ่างโสดสราสรับแต่งเทอญ มคฺคมฺหิ ปติตา ฐนฺตุ จงสูประดับโดยมูลมารค ถ้วนถ้องดาษดูงาม เยน มคฺเคน เอหิติ ทางใดที่สนวรสนามรจเรข ท้าวผู้เอกเอารสจะคืนขอบน้นน อาฬาริกา จ สูทา จ มหาทักษิณ ยยืนนายโภชน์ อย่าช้าโฆสนามา ท่ววเทอญ นฏนฏฺฏกคายิโน ขับรำภิรมย์ดำดาอวจ แกล้งปรกวจกลถวายแก่ท่านเทอญ ปาณิสฺสรา กุมฺภถูณิโย ตบมือตีแฉ่ง วายกลองเทศ พิเสศด้วยดุริยางค์ มุทฺทิกา โสกชฺฌายิกา ขับรำสำรวลวางวายโศก โดยเสด็จโลกเจ้าจอม กษัตริย์น้นน อาหญฺญนฺตุ สพฺพวีณา ดิงพิลลำลำนักสวรรค์ ดนตรีสสยงสังคีตคายันต์ เภริโย ทินฺทิมานิ จ กลองเล็กกล่นน ฦๅรนนกลองใหญ่ เคงฆ้องไชยสามาญ ขรมุขานิ ธเมนฺตุ แตรสังข์สำนาญนันทเภรีศ สยงก้องปรีดิเปรมใจ นทนฺตุ เอกโปกฺขรา ปี่จีนโสดสรในใดต่าง ทงงกรลุมพางพอฟงง มุทิงฺคา ปณวาสงฺขา มหรทึกสรโพลสังข์สยงมี่ ปยวปี่แก้วแคนผสาร โคธาปริวเทนฺติกา แจรงทรอทรในสารสยงยิ่ง จเข้ดิ่งสารสวรรค์ ทินฺทิมานิ จ หญฺญนฺตุ โทลมรรธนิทันทีเทศ รนนกองเกษตรสีมา ท่ววเทอญ กุฏุมฺพา ทินฺทิมานิ จาติ ดิ่งดุริยางค์ ตีเป่า ขับล้วนเหล่าสยงสรวล สำรวลดาดดีดเทอญ ฯ เอวํ ราชา มคฺคาลงฺการํ วิตฺถาเรตฺวา อันว่าพระสญชยราชพระบาทก็พิจารณา ที่ประดับมรรคาไลย ด้วยไกลแต่วงกฏ มาจรดถึงวยง ก็ให้ผดยงทุกประการ แลแล้ว ฯ ชูชโกปิ ปมาณาติกฺกนฺตํ ภุญฺชิตฺวา ส่วนชูชกาจารย์ เหอมอาหารอนนนานา เอากรอยาแวนมาก เถ้าก็อิงอนาก ตากตากตนนอน อยู่แล ชิราเปตุํ อสกฺโกนฺโต กาลมกาสิ เหตุว่าอาหาร ย่อมของหวานอันอชยร ก็มาบยดบยฬอุทรให้ทล ก็ถึงที่กรวนกรวาย รทดรทาย เถ้าก็ตายวายชีวิตแล ฯ

๏ ราชา ตสฺส สรีรกิจฺจํ การาเปตฺวา ท้าวธก็ให้ทำเมรุชูชก รุดเร่งส่งสการ พราหมณ์พลนนทนนในวนนน้นน โสดแล นคเร เภริญฺจาราเปตฺวา ธก็ให้อมาตย คาดเภรี ตีกลองป่าวท่ววไปมา ตรตยงรหาญาติกากรพราหมณ์ ถามท่ววทงง พระนครท่านน้นน กิญฺจิสฺส ญาตกํ น ปสฺสิตฺวา ก็บมิเห็นเผ่าพรรคพันธุ์พวกพ้อง พี่น้องพราหมณ์ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งจะมารับทรัพย์มรฎก ชีชูชกน้นนโสดเลอย ธนํ ปุน รญฺโญ เยว อโหสิ ท้าวธก็ให้เอาสิ่งสินสรรพทรัพย์ ลำดับไว้ในพระคลงง ลํพงง คฤหาศสถาน เล่าแล ฯ อถ สตฺตเม ทิวเส สพฺพเสนาโย สนฺนิปติตฺวา อนนดับน้นน ในเมื่อสิ้นเจ็ดวนนพระบาทสญชย ก็ให้ตรวจไตรรี้พลพหลโยธา อีกอมาตยานิกร เต็มท้งงเชดุดรนองเนือง ในนอกเมืองมากโสด ราชามหนฺเตน ปริวาเรน ชาลิกุมารํ มคฺคนายกํ กตฺวา นิกฺขมิ ธก็ต้งงเจ้าชาลีหลานราช เปนมารคธิบดี ถือเสนีเสนา นำโยธาไปก่อนแล ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระสาศดาจารยาธิบดี อนนมีพิริยจรรยา ก็บันทูลคาถา ด่งงนี้ ฯ สา เสนา มหตี อาสิ อุยฺยุตฺตา สิวิวาหินี ชาลินา มคฺคนาเยน วงฺกํ ปายาสิ ปพฺพตํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรอารยเอารสาธิบดี อนนมีพิริยจรรยา สา เสนา อันว่า เสนานิกรนรนรินท์ สญฺชยนรินฺทสฺส แห่งพระสญชยนภูบดินทรบพิตร มหตี ทฺวาทสอกฺโขภินีสงฺขาตา อนนธคิดควรคณนา เต็มตรวจตราบมีผับ อนนธนับไว้ว่าประมาณมี สิบสองอักเษาเภนีนับพยู่ห์ อาสิ เมาะ อโหสิ ธก็มีถ้วนทุกหมู่ธก็หมาย สา เสนา อันว่าเสนาเราทงงหลายเหลือนับ อุยฺยุตฺตา เมาะ สชฺชิตา แล้วท้าวธก็ให้ประดับประดานับโดยพระราชโองการสารสั่ง นครา ปยาตา แล้วธก็ให้ไหลหล่งงถ่งงออกมา จากพระนคราคคลาคคลํ่า บมิรู้กี่ส่ำกี่แสนเสนา สิวิวาหินี เมาะ สิวิเสนาเอว ย่อมโยธาทวยหาร พระภูบาลไทธเรศตรี ปจฺจตฺถิเกน อภิภวิตุํ สมตฺถา อนนอาจผจญไพรี ในปรถพีทุกทวีป ปายาสิ ท้าวธก็ให้เร็วรีบเร่งไป โบยธไชยช่วยพล อย่าให้จลภายหลัง วงฺกตปพฺพตํ ยงงเขาวงกฏบรรพตราชคีรี ชาลินา สห กับด้วยเจ้าชาลีหลานราช มคฺคนาเยน เปนสมุหมารคนายก ยกพลไปถถ้นน คร้นนเข้าถึงสถาน ที่สองภูบาลเสด็จอยู่น้นน ฯ

๏ ตทา กลิงฺครฏฺฐวาสิโน กิร พฺราหฺมโณ อตฺตโน รฏฺเฐ ตํ นาคํ อาหริตฺวา สญฺชยสฺส อทํสุ ในกาลเมื่อฝนตกเต็มเกษตร ประเทศกาลึงคนคร ภูธรกาลึงค์ก็ใช้ พราหมณ์ท้งงหลาย ไถ่เอาปรตยนาเคนทร์ มาถวายแด่พระนเรนทรสญชยคืน เล่าแล โส สามิกํ ปสฺสิตุํ ลภิสฺสามีติ ตุฏฺโฐ อันว่าปรตยนาเคนทรคชสาร ก็บนนดาลใจชมชื่นหื่นหรรษา เหตุจะได้มาคอบคืนประสบ พบพระบาทเจ้าตนเล่าแล โกญฺจนาทํ อกาสิ จึงจะร้องก้องโกญจนาท ชื่นชมสาธุ์สะเทือนท่ววน้นน ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ อันว่าพระคาถานี้โสด พระสมณโคตมาจารย์ อาไศรยแก่โบราณจรรยา ก็บนนทูลคาถา ด่งงนี้ โกญฺจํ นทติ มาตงฺโค ดูกรอาจารย์ อันว่าพญาสารชื่อปรตย ร้องชมไชยนินนาท กุญฺชโร สฏฺฐิหายโน ชาติยายุศมหกสิบ ยิ่งพลอิพรเอาธาร กจฺฉาย พชฺฌมานาย กรพัตสารสารสนส้อย ทองทาบห้อยพรวญพราย โกญฺจํ นทติ วารโน นายชำนิเร็วเร่งตรแตร้น เปล่งสยงสทยร อาชานิยา หสิยนฺติ ม้าแมนหยรกึกก้อง กระทืบท้องธรณี เนมิโฆโส อชายถ สารถีเร็วรถคลี กรยวแก้วเมืองขวาง นภํ รโช อฉาเทสิ ธรณีบงงสุบงงเมฆ มืดฟ้าเฉกอัษฎงค์ อุยฺยุตฺตา สิวิวาหินี เสนาทรงธรณิศ ท้าวกบีดิสดาไป สาสนา มหตี อาสิ พลพระสญชยชเยศ ถ้วนทุกเพศทุกพรรณ อุยฺยุตฺตา หารหาริณี โยธาทงนนพลพยูห์ บมิรู้กี่หมู่แคว้นพระนคร ชาลินา มคฺคนาเยน หลานภูธรเสด็จยาตรา เปนมุขมารคนำพล วงฺกํ ปายาสิ ปพฺพตํ ยงงอจลวงกฏ ที่ท้าวทรงพรตนักบุญ เต ปาวึสุ พรฺหารญฺญํ ราชาดุลยสี่ท้าว เสด็จยงงดานด้าวดงหลวง พหุสาขํ มโหทกํ สาขาพวงเพศกิ่ง แนวนํ้าวิ่งวางมา ปุปฺผรุกฺเขหิ สญฺฉนฺนํ บุษบาบานโดยดอก ทุกขนนขอกไขขจร ผลรุกฺเขหิ จูภยํ ช่วงสลอนดวงลูก บภักปลูกเปนแนว ตตฺถ วินฺทุสฺสรา วคฺคู อารัญแถวเถื่อนถ้อง นกรี่ร้องสยงหวาน นานาวณฺณา พหู ทิชา สำนานนกนาเนก ปีกพยงเลขเลขา กูชนฺตมุปกูชนฺติ ภาษาศับทมี่ก้อง ต่างต่างร้องรับกนน อุตุสํปุปฺผิเต ทุเม กาลเมื่อบัลพใบแบ่ง ดอกขึ้นแข่งโผยผล พลพิหคคอย้าย อยู่น้นน เต คนฺตฺวา ทีฆมทฺธานํ อโหรตฺตานมจฺจเย ปเทสนฺตํ อุปาคญฺฉุํ ยตฺถ เวสฺสนฺตโร อหุ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร อริยาธิการทรงเพศ ยตฺถ เมาะ ยสฺมึ ปเทเส ใน ประเทศด้าวแดนใด เวสฺสนฺตโร อหุ ที่ท่านเจ้าใจธรรม์ พระแพศยันดรเสด็จสถิตย์ เต จตฺตาโร ขตฺติยา อันว่าสมเด็จบพิตรทรงสี่พระองค์ คนฺตฺวา เสด็จด้วยจตุรงคราชี แสนเสนีนับโกฏิ ทีฆมทฺธานํ เมาะ ทูรมคฺคํ หนทางโยชน์ยาวไกล อโหรตฺตานมจฺจเย ในเมื่อสิ้นถลยงไถรงค์ครนน ถนนถ้วนเดือนเผด็จ อปาคญฺฉุํ ลุแล้วเสร็จสี่กษัตริย์ ถึงตรบัดบมินาน ตํ ปเทสํ ห้องหิมวันตหิมเวศ ที่ท้าวทรงเพศทรงพรต สองดาบศสร้างสมณะธรรมอยู่น้นน ฯ 


มหาราชปพฺพํ นิฏฺฐิตํ
มหาราชบรรพจบเสร็จ พระศรีสรรเพชบันทูล บริบูรณ์ด้วยพระคาถา ๖๙  แล


http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62951797991991_kan11_1_640x480_.jpg
มหาชาติคำหลวง
บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2563 19:37:19 »




ทั้งหกกษัตริย์ก็ทรงกันแสง รำพันพิลาปจนวิสัญญีภาพสลบลงเมื่อได้พบหน้ากัน
ณ พระอาศรมที่เขาวงกตคีรี   อันเป็นที่ประทับอยู่แห่งพระเวสสันดรโพธิสัตว์เจ้า


กัณฑ์ฉกษัตริย์    

๑. พระเวสสันดร ได้ยินเสียงไหยรถคชแสนยากร ทรงตกพระทัยไหวหวาดว่า ปัจจามิตรจะมาจับพระองค์ จึงชวนพระมัทรีเสด็จขึ้นเนินเขา
    พระนางกราบทูลว่าเป็นทัพของพระเจ้ากรุงสญชัยเสด็จมารับ สมตามที่ท้าวสักกเทวราชประทานพร.
๑. เมื่อหกกษัตริย์พร้อมกันที่พระอาศรม ต่างก็ทรงโศกสลดที่พลัดพรากจากกัน จนถึงวิสัญญีภาพ.
๑. สหชาติโยธาเฝ้าพระเวสสันดร ทูลเชิญเสด็จกลับพระนคร.

ฉขัติยบรรพ
๏ ชาลีกุมาโรปิ มุจฺจลินฺทสรตีเร ขนฺธาวารํ นิวาสาเปตฺวา แม้อันว่าพระชาลีภูบดีดไนยนารถ ดรุณเรศราชกุมาร ยงงบริพารพลทงงผองกองทัพ ให้ยับย้งงต้งงโชมโรมราชี มีคู่ค่ายเขื่อนขันธ์ สุพรรณพระพลาไชยสถาน แทบท่าพิศาลสระสินธุ์ อนนชื่อว่ามุจลินทสระสิตน้นน จุทฺทส รถสหสฺสานิ อาคตมคฺคาภิมุขาเนว ฐปาเปตฺวา ยงงรถประทยบรงงรอง ยงงรถทองรงงเรข อเนกนับสิบสี่พนน อนันต์ นับสิบสี่หมู่ ธให้คืนหน้าสู่สถลมารค ทางทุเรศราชลีลามาน้นน ตสฺมึ ตสฺมึ ปเทเส สีหพฺยคฺฆทีปิขคฺคาทีสุ อารกฺขํ สํวิทหิ แต่งกองล้อมกองแล่น แต่งกองแกว่นกอง ตระเวน เกนพลทหารแหนช้นนนอก เกนพลหอกแหนช้นนใน รักษระไวระวงง ระแวด สัตว์ร้ายแรดเสือสีห์ อนนมีในที่น้นนน้นน โสดแล หตฺถีอาทีนํ สทฺโท มหา อโหสิ อันว่าพาหนะสำนยง สยงดุรงค์รถคชเปนอาทิ์ ก็หวั่นหวาดไหวสเทือน ทงงป่าแล ฯ อถ มหาสตฺโต ตํ สทฺทํ สุตฺวา ลำดัพน้นน อันว่าพระมหาสัตว์ทรงฟงง พาหนะประนงงนี่สยง พยงพายุพัดพนนฦก จินฺเตตฺวา ท้าวธก็รำพึง คนึงนึกดงงนี้ กินฺนุ โข เม ปจฺจามิตฺตา โอด่งงอาตมมาใส่ใจ ฤๅพวกไพริศแม่นม่นน มิอย่าเลอย มม ปิตรํ ฆาเฏตฺวา มล้างชนกากูแล้ว ชิงเอาเมืองแก้วกูเล่า แลฤๅ มมตฺถาย อาคตาติ ยงงตามมาเพื่อประโยชน์ จะรนนทำโทษแก่กู อีกนี้ มรณภยภีโต ธกลววมรณไภยภีต ภักตร์เศร้าซีดเสียใจ สลดแล มทฺทึ อาทาย ภาภัควะดีมัทรีอรอดูลย์ จากอดิศูรศาลาไลยน้นน ปพฺพตํ อารุยฺห ขึ้นสู่สูงศิขร ซอกซอนซ่อนพระองค์แอบอยู่แล เสนํ โอโลเกสิ บังพระไนยนรินทร์ เลงพลพฤนธามาตย์ ราชจัตุรงคราชยร อากยรณ์ด้วยนิกรขนัด อัศวลงการสารอลงกฏ รถยรรยงธงยรรยอง หางยูงทองระยับระยาบ ววาบแสงสาตรา ศรีสารพาภรณ์พิจิตร พิพิธพรรโณภาศ เลื่อมเลื่อมมาศหมวกมณี ส่ำโยธีอธึก แลพิฦกเลือนตา กว่าชื่นแล ฯ

๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระพิชิตมารมุนี ศรีวิสุทธสมาธิ์ อุดมอาทิ์อรหันต์ ยงงพระสธรรม์ประทีปแก้ว ส่องแสงแผ้วพุทธเพไนย ดงงนี้ เตสํ สุตฺวาน นิคฺโฆสํ ภีโต เวสฺสนฺตโร อหุ ฯ ฟงงราสงฆ์ เวสฺสนฺตโร อันว่าพระผู้เผ่าพงษ์สรรเพ็ชญ์ สมเด็จบรมนเรศเพศยันดร สุตฺวาน นิคฺโฆสํ คร้นนพระภูธรธได้ยิน สยงพลพฤนพรักพรยกถึง ภีโต เมาะ ตพฺพเสน ภยปฺปตฺโต ตกตลึงลานใจหวาด ลุอำนาจมฤตยู ปพฺพตํ อภิรูหิตฺวา ขึ้นบนภูเขาขยว สูงลิ่วหลยวแลพลาง ภีโต เสนํ อุทิกฺขติ ดูเสนางคนิกาย กนนเหิมหายหว่นนหว่า ขวัญป่าบินบอยู่เลอย อิงฺฆ มทฺทิ นิสาเมหิ นิคฺโฆโส ยาทิโส วเน ฯ มทฺที ดูกรเจ้ามัทรีมณีนาฎน้องรัก อิงฺฆ ดงงพี่ตักเตือนสติเจ้าแล้ว นิสาเมหิ เมาะ อุปธาเรหิ แก้วกูจงคำนวนควรคนึงคเนดู สกเสนา วา ปรเสนา วา พลสัตรูฤๅพลเรา นี้ณะเจ้า นิคฺโฆโส สยงปานใดดงงสท้าน คือจะค้านค่นไพรสเทือน อาชานิยา หสิยนฺติ ธุลีเลือนตระหลบหล้า ม้าร้องร่าเรองคนอง ธชคฺคาเนว ทิสฺสเร ทิวธงทองโบกสบัด ชารีฉัตรชุมสายสลอน จามรมาศกลิ้งกลด เห็นปรากฏแต่ตา บารนี้ อิเม นูน อรญฺญมฺหิ มิคสงฺฆานิ ลุทฺทกา วรคุราหิ ปริกฺขิปิตฺวา โสพฺเภ ปาเตตฺวา ตาวเท ฯ นูน ดงงเรามาตริตฤก อิเม ลุทฺทกา อนนหมู่หมู่มฤคลุทธพรานป่า ปริกฺขิปิตฺวา อนนมาล้อมมาล่ามิคากร อรญฺญมฺหิ ในวนัศวนาดรแดน วาคุราหิ ด้วยข่ายขึงแขวนบ่วงไขว่ แร้วรายใส่แซรงทาง โสพเภ ปาเตตฺวา ตาวเท ต่างขู่ขับคอยเขม้น ยงงเนื้อให้ตื่นเต้นตกขุม ขณะน้นน วิกฺโกสมานา ติปฺปาหิ หนฺติ เนสํ วรํ วรํ วิกฺโกสมานา เมาะ อสพฺภาหิ อกฺโกสมานา รุมกนนตบมือตรหวาด กล่าวฉกาจคำฉกรรจด่า ดงงนี้ หนถ สูจงฟนนจงเชือด กอบกินเลือดแล่เนื้อเถือเอาหนงง ท้งงตับไตหววใจมนนด้วยเทอญ วรํ วรํ เมาะ ถูลํ คุกคามขบฟนนกระกร้ยว ล้ยวไล่แล่นแหลนแส่ เลือกเอาแต่ตัวพีพี พยงป้นนน้นน ติปฺปาหิ เมาะ ติกฺขิณาหิ มิคมรณสตฺตีหิ จับจะรีระริบคม แทงระดมด้วยหอก ตอกด้วยหลาว ตาวตัดหวว ตววเด็จดิ้น สิ้นชีวิตร ยถา ฉนนใดดงงกูคิดกูคนึง ทนนทึงทุกทำนยบ ตถา มยํ อทูสกา ปรยบคือตนตูแล้ ที่แท้โทษปรตยาก อรญฺเญ อวรุทฺธกา เขาขับพราก พระบุรินทร์ มาอยู่ยงงไพรสิณฑ์ สันโดษ อมิตฺตหตฺถคตา คาบนี้โสดเข้าสู่ เงื้อมมือหมู่ปัจจามิตร ปสฺส ทุพฺพลฆาตกํ เจ้าจงดูกูลำบากจิตเจ็บ บารนี้ ไร้รี้พลพันธุอนาถ ฤๅจะรอดอาตม ล่วงอาชญาข้าศึกเลอย ฯ

๏ สา ตตฺส วจนํ สุตฺวา อันว่าเจ้ามัทรี ดาบศินีนางกระษัตริย์ เมื่อได้ฟงง อรรถคาถา แห่งบรมราชาธิเบศ เชฏฐสวามิตรัสด่งงน้นน เสนํ โอโลเกนฺติ เจ้าก็ เพ่งพระไนยยล พลจดูรสระดักสระดื้น พ่างภูมิพื้นหิมพานต์เพียนแล สกเสนาย ภวิตพฺพนฺติ เข้าใจแจ้งปรตยักษ์ ใช่ปรปักษ์ปัจจามิตร พลบพิตรพณเกล้า กูไซ้ ฯ มหาสตฺตํ อสสาเสนฺตี เมื่อจะประโลมโนมน้าวปลุกหฤทัยท้าวผู้ภรรดา ก็กราบทูล ด้วยคาถา ด่งงนี้ อมิตฺตา นปฺปสเหยฺยุํ อคฺคีว อุทกณฺณเว ฯ เทว ข้าแต่พระนเรศูรอิศรพงษ จงธอย่าทุกขอย่าท่าว จงธอย่ากล่าวกลววแกลน อมิตฺตา อันว่า ปัจจามิตรหมื่นแสน แดนถึงโกฏิโสดไซร้ ซึ่งจะเยียใดได้ฤๅมี อคฺคีว เมาะ ยถาติ ณุกฺกาทิโก ดุจอัคคีคบคาจุด นํ้าซรึ้งสุดแสนวา ตาเปตุํ น สกฺโกติ ไป่ยงงสาครให้แห้งเหือด ชลขเดาเดือดดาลฟอง ตถา อนนด่งงทำนองทำนูนทูลทำนยบ ตูข้าปรยบอุประไมย ยํ วรํ อันว่าพระพรอันใดน้นนโสด อินทรออกโอฐอวย อนุญาต ตุยฺหํ ประสาทแก่ท้าวธแปดสิ่ง ปางปริตยาคมิ่งเมียขวัญ ตเทว ตฺวํ วิจินฺเตหิ บพิตร จงหรรษาโมท มานมาโนศนึกในพร อปิ โสตฺถิ อิโต สิยา ความสถาวรเสวอยสวัสดิ ภูลเพิ่มพัฒนจะพึงมี ตโต พลนิกายโต แต่พลพิรียอมาตย อนนจะมาเชิญพระบาทบรมภูธร คืนนครเชดุดร รัตนราชธานี สีพีภพมณฑล ท่านน้นน ฯ

๏ อถ มหาสตฺโต ลำดัพน้นน อันว่าพระมหาบุริศราช เมื่อได้ฟงงนางนาฏนงถ่าวท่าวทูล ด่งงน้นน โสกํ ตนุํ ปนูทหิตฺวา ความกลววกล้นนกลืนหาย ทุกขบงงวายวาง โศกแล้ว ปพฺพตา โอรุยฺห ก็เสด็จแคล้วไคลคลา จากอจลาจรหลํ่า ลยบลงตํ่าตีนเขา สทฺธึ ตาย มทฺทิยา กับด้วยเยาวยุพราช องค์อรอาตมชายา ท่านน้นน ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ บพิตรธก็น่งงแนบ แทบพระทวาร บรรณศาลวาสี โสดแล อิตราปิ อตฺตโน ปณฺณสาลทฺวาเร นิสีทิ ส่วนเจ้ามัทรีก็สถิตย์ แทบระจิตทวาราวาศ อนนเปนคฤหาศแห่งเจ้าน้นน ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระภูริเบญจาญาณวิกสิต ยงงอำมฤตย์รศธรรมเมศ ธรรมภิเสศภิเศกสรง พงษพระญาพระญาติ ด้วยพระสาศนสนองด่งงนี้ ฯ ภิกฺขเว ดูกรสวากยบุตร ผู้วิสุทธศีลสังวร ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ดัพน้นน อันว่าพระภูบดิศรสีพีราชเอารส ขัติยดาบศดาบัศนี โอโรหิตฺวาน ปพฺพตา ท้าวผู้พิริยพาห์ ครรไลลาลงจากเขา นิสีทิ ปณฺณสาลายํ เนาในศาลาวาศ นิสิทสมาธิ์เสมออาริย์ ทฬฺหํ กตฺวาน มานสํ ปานปะติมาแมนนิมิตร ท้าวธต้งงจิตรอจล หน่อไท้เทพทศพลพิดก ด่งงนี้
 

มยํ ปพฺพชิตา นาม อมฺหากํ โกจิ กริสฺสติ
๏ ด่งงจริงตูโสดไซร้สมมุติ
เปนฤษีศีลสุทธิ์       สืบสร้าง
ใครห่อนหากประทุษฐ์   ทำโทษ
คือคู่ค่นไม้มล้าง ลู่ลมทับตน มนนแล ฯ

๏ ตสฺมึ ขเณ สญฺชโย ในกัษณน้นน บ้นนบรมนเรศูรสญไชยราช พระบาท ธมีโองการ สารสุนทรแก่บวรราชเทพี ด่งงนี้ ภทฺเท ผุสฺสติ ดูกรเจ้าสบรรษดี ผู้มี ศิริโสภาภักตร์ อนนเปนที่จำเริญรักจำเริญใคร่ แก่พี่นี้ สพฺเพสุ อมฺเหสุ เอกโต คเตสุ ในเมื่อเราทั้งสอง ปองจะไปสู่ไปหา กูลแก้วตาตูสายสวาดิ์ แลจะไปสระพราดสระพร้อมกนน นี้ณเจ้า โสโก มหา อโหสิ ทุกขกำเดาดาลโศก ซึ่งบุตรวิโยคก็จะบงงเกิดมี มากแล ปฐมํ ตาว หยุดอยู่เทอญธ ณ เจ้า ตูนี้จะเต้าเข้าไปก่อน แก้วกูแล ตฺวํ คจฺเฉยฺยาสิ มหนฺเตน ปริวาเรน เจ้าจึ่งค่อยเสด็จดลด้วยฝูงชนชาวแม่ ทวยเถ้าแก่กำนนนนาฎ นารีราชบริพาร เจ้าน้นน ชาลี จ กณฺหาชินา จ ส่วนสองดรุณหลานรัก ชาลีลักษณ์เลิศแล้วก็ดี แก้วกรรณหาชินานาฎก็ดี อย่าพาเต้าตามอาตมเข้าไป โดยด่วนเลอย โถกํ กาลํ วีตินาเมตฺวา องค์อุไภยพระหลาน จงอยู่สิ้นกาลกำหนด น่อยหนึ่งแล้ว ปจฺฉโต อาคจฺฉนฺตุ แก้วกูจงไต่เต้า ตามกูเข้าไป ภายหลัง ในลำดัพน้นน ฯ

๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่า พระชิเนนทรอมรนรนายก ดิลกธรรม์ธำรง มีพุทธฎีกาแก่สงฆ์ ทงงหลาย ด่งงนี้ นิวตฺตยิตฺวาน รถํ วุฏฺฐาเปตฺวาน เสนิโย เอกํ อรญฺเญ วิหรนฺตํ ปิตา ปุตฺตํ อุปาคมิ ฯ ภิกฺขเว ดูกรกษิณาสยพ ผู้ปรารภนฤพาน ปิตา อันว่าพระภูมิบาลบิตุเรศ ไทธิเบศบดีศูร กระษัตริย์น้นน นิวตฺตยิตฺวาน รถํ ให้ผนนพิไชยราชรถ คืนอาคต มรรคาไล เล่าแล เสนิโย เมาะ พลนิกาเย ยงงโยธาทุกหมวด ทุกหมู่ตรวจตรา ระวงงระแวดแล ปุตฺตํ อุปาคมิ พระบาทธไปสู่สำนักนิ์ เอารสรักร่วมหฤไทย ท่านน้นน เอกํ วิหรนฺตํ อมจฺจวิรหิตํ อนนอยู่ในกนนดารดง พงพนาวันวิเวก อาไศรยสัลเลขะทำงล แปลกปล่ยวพลพิริยราช ค่าไททาษก็บมี สักตนเลอย ฯ

๏ หตฺถิกฺขนฺธโต โอรุยฺห เอกํ โส ปญฺชลีกโต ปริกิณฺโณ อมจฺเจหิ ปุตฺตํ สีญฺจิตุปาคมิ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุสราพก ราชา สญฺชโย อันว่าพระผู้ผ่านภพ ดิลกโลไกสวรรย์ มหามหิศรทรงธรรม์เทพสญไชย โอรุยฺห ลงจากไอยราอาศน์ อนนโอภาษผูกกระโจมทอง เอกํ โส เมาะ ตตฺถ วามํเส อุตฺตราสงฺคํ ฐเปตฺวา พัตรากรองไกรค่า ห่มห้อยบ่าบงฉวยง ปญฺชลิกโต เมาะ ปคฺคหิตญฺชลิกโต ยอไดพยงภักตรผม ประนมนักขชุลีกร ปริกฺกิณฺโณ เมาะ ปริวาริโต หารแห่หน้าหลงงหลาม ทักษิณพามพลดาษดา อุปาคมิ ไปยงงอาวาศนิเวศ หน่อนเรศร์ราชนรินทร์ สิญฺจิตุํ เมาะ รชฺเชน อภิสิญฺจิตุํ เพื่อภิสิญจภิเศกสวัสดิ์ เชิญดำรงรัตนราไชสูรย์ พิบูลย์เบิกสีมา ท่านแล ตตฺถทฺทส กุมารํ โส อันว่าท้าวสญไชย ราชบพิตรผาดเห็นแล้ว ซึ่งพระลูกแก้วสิเนหา ขัติยวราราชกุมาร รมฺมรูปํ สมาหิตํ ธารถือเพศบรรพชิต บรรพชากิจ อุกาฐ มีมนะสาธุ์สำรวมหม้นน นิสินฺนตํ ปณฺณสาลายํ ธน้นนเอาอุรุพัธ บัตรเฌอเลอลาดปู พ่างประตูศาลาศรม ฌายนฺตํ อกุโตภยํ พยงพระศรีสยมภูวบพิตร เมื่อมารวิชิตรวิเชตร เหตุพ้นไภยพิบัติอุปัทวบีทา อนนบมานมาแต่ที่ใดที่หนึ่งน้นน โสดเลอย ฯ

๏ ตญฺจ ทิสฺวาน อายนฺตํ ปิตรํ ปุตฺตคิทฺธินํ เวสฺสนฺตโร จ มทฺที จ ปจฺจุคฺคนตฺวา อวนฺทิสุํ ฯ อุโภ ขตฺติยตาปสา อันว่าขัตติยดาบศ ท้งงสองพระองค์ เวสฺสนฺตโร จ คือพระพงษประภาษกร แพศยันดรดิลกก็ดี มทฺที จ คือภควดีมัทรี ศรีสุนทรพนิดาก็ดี ตญฺจ ทิสฺวาน ทายทัศนาแน่ตระหนัก ซึ่งท้าวผู้เปนจอมจักร อรรคบิตุรงค์ ปุตฺตคิทฺธินํ เมาะ ปุตฺเตสุ เปเมน สมนฺนาคตํ อนนมีมนจำนง จำนองปองปฏิพัท เอารสรัตน์นเรสูร อายนฺตํ เอาพลจดูรเสด็จมา โดยรัถยามารค ภิมุข ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปรีดีศุขสองสาภิรมย์ ออกอัญเชิญชมชื่นเคารพย์ อฺวนฺทึสุ ลันโทนทบท่าวศิระเกษ กราบบทเรศราชบิดา ท่านแล ฯ มทฺที จ สิรสา ปาเท สสฺสุรสฺสาภิวาทยิ ส่วนสุนิสาศรีสใภ้ ถั่นถึงไหว้สัศสุราบท มทฺที อหญฺหิ เต เทฺว ปาเท วนฺทามิ เต หุสา บพิตรข้าผู้สมมติว่ามัทรี สรวมสดุดีด้วยใจสาธุ์ ซึ่งพระบาทบววทอง ธท้งงคู่แล เตสุ ตตฺถ ปลิสชฺช ส่วนสมเด็จไท้ธเรศตรี ธรณีนารถนายก ปลิสชฺช เมาะ ปลิสชฺเชตฺวา หทเยน นิปชฺชาเปตฺวา กอดสองสุริยกับอก แอบองค์ ให้ซบลงแนบแทบพระหฤไทย ท่านน้นน ตตฺถ เมาะ ตสฺมึ สกฺกทตฺติเย อสฺสเม ท้าวธสถิตย์ประดิษฐาน ในบรรณศาลเสนาศน์ อินทรประสาทประสิทธิถวาย ปาณินา ปริมชฺชถ ชมลูกชายลูกสใภ้ ประลึงไล้ลูบปฤษฎางค์ ด้วยมือมางษลอออ่อน แล ตโต ราชา อันดับน้นนอันว่าท้าวผู้ทรงธรรมิกราชบิดา มหาสมโมติวงษ์ พงษ์จักรพรรดิผ่านเผ้า โรทิตฺวา ปริเทวิตฺวา ก็กรรแสงสงโรทเร้ารำจวนใจ เหตุอาไลยลาลด กำศรดแก่สองราชตระกูลท่านแล โสเก ปรินิพฺพุเต คร้นนเสร็จ โสกาดูร พระบาทธบันทูลทุสารคาถา ดงงนี้


         กจฺจิ โว กุสลํ ปุตฺต
๏ ดงงฤๅแลดู ไต่ถามแก้วกู ผู้บุตรสุดแสนสิเนหา
          กุสลํ เมาะ อโรคภาวํ
อันว่าอาพาธ อาเภทพยาธิโรคา บบีธาทวาทเวอวิกลกลใด
          กจฺจิ ปุตฺต อนามยํ
๏ ดงงฤๅแลดู ไต่ถามแก้วกู ผู้ลูกสงสารสายใจ
          อนามยํ เมาะ นิทฺทุกฺขภาวํ
อันว่าจาบัลย์ อุบัติเพื่อประเภทไภย บผ่าวเผาใจ จำตรอมจำตรากตรำศัลย์
          กจฺจิ อุญฺเฉน ยาเปถ
๏ หนึ่งค่อยเล็มล่ามาล้ยงกนน ท่วยทุเรศอารัญ ละลัดเลาะเสาะหาผลาหาร
          กจฺจิ มูลผลา พหู
๏ รากไม้มนนพรรณตระการ ลูกไม้สามาญ มูลมองมากอยู่ ภอสู่เสวอย
          กจฺจิ ฑํสา มกสา จ
๏ เหลือบยุงยายีมิสเบอย ยลย่อมยงงเหอย เหือดหายจรลายล่าจร หลีกหนี
          อปฺปเมว สิรึสปา
๏ สบส่ำสัตว์ร้ายตววรี ปองอริราวี พ่นพิศม์ผผกแผ่ผืนพงงพาน
          วเน วาฬมิคากิณฺเณ
๏ ห้ยมในไพรพฤกษพิศาล ดาษดื่นด้วยพาฬมฤคถึกเถลอง ราชสีห์แสดง
          กจฺจิ หึสา น วิชฺชติ
๏ ย่อมสัตว์ตววร้ายตววแรง มนนยงงสยดแทง ขวิดทอแถกถวัดกัดกุมเอาแลฤๅ ฯ
          ปิตุ วจนํ สุตฺวา มหาสตฺโต อาห

อันว่าพระแพศยันดรดาบศ เมื่อได้ฟงงพจนคาถา แห่งสมเด็จพระบรมนราราชดำรัส
ด่งงน้นน ก็ซ้นนสวดคาถาทูลด่งงนี้ ฯ

         อตฺถิ โน ชีวิกา เทว
๏ พระเอยอนนความขวนขวายล้ยงตนตูย่อมมาน
          สา จ ยาทิสิกีทิสา
ผสายากอยู่ไพรสานต์ การเลี้ยงชีพโหดหิน
          กสิรา ชีวิกา โหม
๏ ห้ยมทุกข์ทุกคํ่าเช้า เททรวงเสร้าโสกาจิณ
          อุญฺฉาจริยาย ชีวิตํ
เสียแท่นนอนแผ่นดิน กินลูกไม้ไพรพรํ่าหา
          อนิทฺธินํ มหาราช
๏ ฟงงเทอญไทธิบดี ดุจชีชำนินรา
          ทเม อสฺสํว สารถิ
นายม้ามนนทรมา ด้วยอาชาเยียหักหาร
          ตยมฺหา อนิทฺธิกา ทนฺตา
๏ สิ้นฤทธิแรงร้ายกาจ หมายเหมือนอาตมทรมาน
          อสมิทฺธิ ทเมติ โน
ยากไร้ช่วงใช้งาน ไป่ปานลูกปลํ้าปลูกเข็ญ
          อปิ โน กีสานิ มํสานิ
๏ ตรากตรอมไผ่ผอมเผือด ช้ำเฉกเลือดตาตูกะเด็น
          ปิตุ มาตุ อทสฺสนา
เพราะเหตุแห่แหนเห็น สองสมเด็จบดีสูร
          อวรุทฺธานํ มหาราช
๏ พระเอยโอ้ลำบาก ไพร่ขับพรากจยรจากบูร
          อรญฺเญ ชีวิโสกินํ
อาไศรยหิมวาดูร พูนทุกข์ถวิลกินน้ำตา แล ณท้าว ฯ

เอวญฺจ ปน วตฺวา ปุน ปุตฺตานํ ปวุตฺตึ ปุจฺฉนฺโต อาห เวสฺสนฺตโร อันว่าพระผู้เผ่าพุทธางกูร แสดงทุกข์อาดูร อนนเดือดร้อนแล้วบมิหึง เมื่อจะถามถึงพฤฒิเหตุแห่งสองรา เอารสาเสมออาตม์ ก็ตรัสด้วยบาทคาถา ด่งงนี้ เยปิ เต สิวิเสฏฺฐสฺส ทายาทปฺปตฺตมานสา ชาลีกณฺหาชินา จุโภ พฺราหฺมณสฺส วสานุคา ฯ อุโภปิ กุมารา แม้อันว่าชรไมยกุมารกุมารี คือ เจ้าชาลีแลนางกัณหาชินนาฏ ทายาทา เมาะ พนฺธุวนฺตา อันเปนหลานรักราชสุริยวงษ์ เต สิวิเสฏฺฐสฺส แห่งพระองค์อรรคภูธร เทพดิศรสีพีพล วสานุคา เมาะ พฺราหฺมณสฺส มยา ทินฺนา บัดนี้ตูมละลูกสองคนคู่ชีพิตร ประสิทธิประสาท ให้เป็นข้าขาดแก่พราหมณ์ผู้หนึ่งน้นน ฯ

๏ อจฺจายิกสฺส ลุทฺทสฺส โย เน คาโวว สุมฺภติ ฯ โย โส พฺราหฺมโณ อันว่า พราหมณ์ผู้ใดน้นนพยงผีเสื้อ คือจะฉีกเนื้อเถือทั้งเปนเปนภักษ์ คือจะหํ้าหักคอ แลบลิ้นเลียกินเลือด แล สุมฺภติ เมาะ โปเถติ มนนตีสองเสมอเนตร น่าสังเวช จยนใจจะขาด อาตมจยนจะคราก แตกสองภาคทำลาย แลพ่อฮา อิว โคปาลโก ดุจโคบาลใจบาป กุมรยวกำหราบรนนวววจำวิ่งแล อติวิย ปมาณาติกฺกนฺตสฺส เถ้ากลีลาภโลภ แบมือลโมบมักได้ สมพยาธิไร้รูปร่าง พ่างบรางควานผีป่า ผีภูตห่าเหวโหง ขึ้นจับโลงเหลือกตาหลอกลูก ตูแล ฯ เต ราชปุตฺติยา ปุตฺเต ยทิ ชานาถ สํสถ ปริยาปุณาถ โน ขิปฺปํ สปฺปทฏฺฐํว มาณวํ ข้าแต่บพิตรภูมีศวรราช ยทิ ชานาถ ผิวพระบาทยงงยินข่าว เต ปตฺเต กล่าวถึงสองกำพร้าบ้างแลฤๅ สํสถ โน กเถถ จงพิปรายประกาศ ราชปุตฺติยา แก่ข้าแลนางน้องนาฏนงพาลภัควดี อนนมีทุกข์ลนนลุงลาญแสลง แทงหฤไทยกลุ้มกลบ เล่ห์บุคคลอนนงูขบสลบล้มลงน้นน สปฺปทฏฺฐํว มาณวํ เมาะ ยถา วิสนิมฺมทฺทนตฺถาย มนฺตปทํ ปริปุณฺณนฺโต เวชฺโช สปฺปทฏฺฐํมาณวํ ติกิจฺฉถาติ ฟงงแฮท้าว เวชฺโช อันว่าแพทย์ผู้รู้มลักแหล่หลาย มนฺตปทํ ปริปุณฺณนฺโต เมื่ออ่านอะลำภายนมนตรา พิชาชาญชงัด วิสนิมฺมทฺทนตฺถาย เพื่อจะเป่าปัดบำบัดพิศม์ ติกิจฺฉติ ประกอบกิจรักษา มาณวํ ซึ่งมาณพ สปฺปทฏฺฐํอนนต้องพิศม์สยดบยนลำบาก ยถา หากจะอุประมาฉนนใด ปริปุณฺณาถ โน ขิปฺปํ เมาะ เอวํ ปุตฺตานํ ปวุตฺตึ ปริปุณฺณนฺตา อมฺเห ติกิจฺฉติ อนนว่าท้าวผู้ไกรกยรติกษัตริย์ ปวุตฺตึ ปริปุณฺณนฺตา จงบอกซึ่งอรรถอนุสนธิ์ยุบลเหตุ ปุตฺตานํ แห่งสองกุมาเรศราชเอารส อมฺเห ติกิจฺฉถ คือเอาอำมฤตโยสถ มารินรดรักษา อาตมให้ระสาย ขิปฺปํ พลนนเหือดหายห่างโศก ซึ่งพิศม์พิโยคแยงใจ เอวํ เมาะ ตถา ก็มีอุประไมยเหมือนด่งงน้นน ราชา อาห อันว่าท้าวสญไชย ก็พฤธิปราไศรยสนองถาม ด่งงนี้ เอเต กุมารา นิกฺกีตา อนนสองดไนยหน่อเหน้า เหง้ากรุงโกรมกษัตรีย ชาลี กณฺหาชินา จุโภ คือเจ้าชาลีหลานราช หลานน้อยนาฏกัณหา พฺราหฺมณสฺส ธนํ ทตฺวา บิดาเสียสินไถ่ สองเจ้าพ้นจากไพร่พราหมณ์แล้ว ปุตฺต มา ภายิ อสฺส ดูกรพระลูกแก้วเกิดกับอกองค์ อย่าเยียพะวงหว่นนหวาด ได้อัศประสาศสะดวกเทิน ลูกฮา ฯ

๏ มหาสตฺโต อันว่าพระผู้ส้างสมภาร พิสุทธ หวงงสมพุทธิภิเศกสมบัติ ท้าวธมีมนัศเปรมปรา ปรีดาภิรมย์ชมชื่น หื่นหรรษาโมทย์ จึงออกพระโอฐอื้นคาถา ทูลพระบาทพระบิดา ด่งงนี้ กจฺจิ นุ ตาต กุสลํ บพิตรยงงนฤโรค นฤโศกเศร้าแสนเสบอย อยู่ฤๅ กจฺจิ ตาต อนามยํ บพิตรยงงนฤทุกข์ นฤโทษศุขสำราญ อยู่ฤๅ กจฺจิ นุ ตาต มาตุ บพิตรออกนางนาฏ ชนนีอาตมอยู่ดีฤๅ ฤๅ จกฺขุ น ปริหายติ ยยวธทรงโสกานนต์ เนตรยุคลหม่นมวว หมองบ้าง แลฤๅ ราชา อาห อันว่าพระนเรศรราชบิดา ก็ตอบสารคาถาคืน ด่งงนี้ กุสลญฺเจว เม ปุตฺต ดูกรลูกไท้ ความบไข้ขุกเข็ญ ดอกรา อโถ ปุตฺต อนามยํ ดูกรพระลูกความทุกข์บถูกถึง ดอกรา อโถ ปุตฺต เต มาตุ ออกราชมารดาเจ้า นฤโรคเร้านราดูร จกฺขุ น ปริหายติ เนตรจำรูญรงงรอง บรางจะมววหมองมืดเลย ลูกฮา มหาสตฺโต อันว่า พระมหาสัตว์ ก็ทูลท่าวกล่าวคาถาถามด่งงนี้ กจฺจิ อโรคํ โยคนฺเต กจฺจิ วหติ วาหนํ บพิตร อนนว่าวาหนะท้งงผอง รถลำยองยานุมาศ กรินไกรอาศนอัศวาชี ยงงบริบวรณ์ดีหมีเปนใด ท่ยวทางไกลจรหลํ่า บมิรู้มลำบมิรู้มล้า แลฤๅ กจฺจิ ผีโต ชนปโท กจฺจิ วุฏฺฐิน ฉิชฺชติ อนึ่งโสด อันว่าเหง้ายุพราช อมาตยหมู่นิกรพฤนท์ ไพร่แผ่นดินแดนสีมา ยงงไพบูลย์ด้วยมางษมัศยา ธัญญาหารปานิโยทก ผาฟ้าฝนตกตามระดูกาล แลฤๅ ฯ ราชา อาห อันว่าพระสญไชยราช ก็กล่าวด้วยบาทคาถาคืน ด่งงนี้ อโถ อโรคํ โยคฺคมฺเม อโถ วหติ วาหนํ อันว่าวาหนะช้างม้า สีวิกากาญจ์คานหามเหมบุษบก กนกรถรูจี ยงงดูดีดูอ่า ขยวเข้าป่าไป่เปนเข็ญ ใดเลอย อโถ ผีโต ชนปโท อโถ วุฏฺฐิน ฉิชฺชติ หนึ่งโสดอันว่าหมู่มุขมาตยา ท้งงโยธาทวยราษฎร์ ถ้วนหน้าสาธุ์เกษมสุข ฝนเชยชุกชอบระดูกาล อยู่แล ฯ


เอวํ สลฺลปนตานญฺเจว
๏ เมื่อน้นนนรนารถไท้ท้งงสอง
เปรมศุขสนองคำชม ชื่นหน้า
พระภาคย์พ่างเพยียทอง     ปทุมาศ
อาบอบอายน้ำฟ้า เฟื่องฟุ้งจรบลบานแล

๏ ผุสฺสตีปิ โข เทวี แม้อันว่าพระสบรรษดี ศรีศุภลักษณ์ เลิศฦๅยศ สลฺลกฺเขตฺวา นางท้าวธกำหนดนึกในใจ ด่งงนี้ อิทานิ โสกํ ตนุกํ กตฺวา คาบนี้ไซร้ เห็นที่ไท้ท้งงสามกระษัตริย์ จะบนนเทาทุกข์โทมนัสน้อยลงแล้ว มิอย่า มหนฺเตน ปริวาเรน สทฺธึ ปุตฺตสฺส สนฺติกํ อคมาสิ ออกนางพระยายุรยาตร ไปสู่สำนักนิอาตมเอารส กับด้วยยศบริพารอนนมหามเหาฬาร ดิเรกน้นน ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระสาศดาจุธาเทพบดินทร์ อินทรอับษรสุเรศ สุรเชษฐชุลิศ ก็มีพระสาศนสุภาสิตแก่สงฆ์ด่งงนี้ อิจฺเจวํ มนฺตยนฺตานํ มาตา เนสํ อทิสฺสถ ราชปุตฺตี คิริทฺวาเร ปตฺติกา อนุปาหนา ฯ ภิกฺขเว ดูกร พุทธภักดี ผู้มีศีลสารอาริย พิสุทธอุดมพิเศศสมาธิ์ ทฺวินฺนํ ขตฺติยานํ เมื่อสองราราชกระษัตริย์ ถ้อถ้อยตรัสจำนรรจา อิจฺเจวํ เมาะ ยถา จุตฺตนเยน โดยด่งงกล่าวมาแต่หลงงแลแล้ว มาตา อันว่าสมเด็จสบรรษดี ศรีรัตนราชนารีสูร ราชปุตฺตี เกิดในตระกูลมัทธราช โฉมอพิลาศเลอศลำยอง คิริทฺวาเร คลาไคลคลองพิถีสถาน ถึงคีรีทวารวงกฏน้นน อนุปาหนา นางท้าวธทายถอดแล้ว ซึ่งปาทุกาแก้วกาญจนผจง ปตฺติกา ลงดินเดินไปสู่ ยงงที่อยู่ขัตติโยรส ปากฏา อโหสิ ก็มีลีลาศอนนปรากฏเฉพาะภักตร์ สองทรามรักราชภรรยาท่านแล ตญฺจ ทิสฺวาน อายนฺตึ มาตรํ ปุตฺตคิทฺธินึ เวสฺสนฺตโร จ มทฺที จ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา อวนฺทึสุ ฯ

๏ เวสฺสนฺตโร จ อันว่าสมเด็จเสด็จบพิตรแพศยันดร มทฺที จ มัทรีบดิศรสูรเทพกัลยา ตญฺจ ทิสฺวาน มาตรํ ยลอรรคดามาตย เพื่อพิสวาดิลูกตนมา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เชิญชมชื่นกฤษดา สดุดีด้วยภักดี มทฺที จ สิรสา ปาเท ส่วนองค์อ่อนไท้ ผู้ศรีสะใภ้น้อมเกล้าใกล้บาทาธุลี สสฺสุยา อภิวาทยิ ไหว้สัศสุรีราชเทพี แส้งวาทีท่าวถ่อมทูล มทฺที อหญฺหิ เต อยฺเย ออกมารดาราชตูข้าพระบาท ชื่อมัทรีนารีสูร ปาเท วนฺทามิ เต หุสา สรวมชีพบังคมบังคัลด้วย มูระธาศแทบบาทาทวา เตสุ ตตฺถ ปลิสชฺช ปาณินา ปริมชฺชถ อันว่าพระสบรรษดีศรีรัตนนารีศร สุนทรเทพมกุฎกระษัตริย์ ก็สรวมกอดสองสุริยเอารสรัตน สำผัสพื้นพระปฤษฎางค์ ด้วยหัตถมางษวิมลมุทวอุดม ตตฺถ อสฺสมปเท ธก็สถิตย์สถานในพิศาลอาศรม อนนท้าวเพศนุกรมกระทำถวายน้นนโสดแล ฯ เตสํ ผุสฺสตึ เทวึ วนฺทิตฺวา ฐิตกาเล ปุตฺตา กุมารกุมาริกาหิ ปริวุตา อันว่าสองดรุณราชชาลี กัณหาชินานารีราช อนนดาษไปด้วยกุมาริกา คณานิกรกุมาร เปนบริวารแวดล้อม อคมํสุ ห้อมแหน แห่เสด็จดล วนฺทิตฺวา ฐิตกาเล ในกษณเมื่อสองสุริยอดิสร ถวายกรกัลพุม บันสาร โกสุมศิโรตม์ แต่สมเด็จสบรรษดีเจ้าน้นนโสดสถิตย์อยู่ไซร้ มทฺที จ เตสํ อาคมนมคฺคํ โอโลเกนฺตี เยว อฏฺฐาสิ ฯ มทฺที จ อันว่าบวรภัควดี มัทรีอรเอกองค์พิลาส โอโลเกนฺตีเยว นางท้าวธรมยรมารคเต็มตา ซึ่งกุมารชรไมมาเมื่อน้นน ทิสฺวา คร้นนเห็นแล้ว เต กุมาเร ซึ่งสองพระลูกแก้วแก่นกระษัตริย์ โสตฺถินา อาคจฺฉนฺเต อนนมาโดยสวัสดิภาพ สณฺฐาเรตุํ น สกฺโกติ ความโศกซาบสยวสกล บ่มิอาจที่จะดำรงตนต้งงอยู่ตามธรรมดาได้เลอย ปริเทวมานา ก็ทรงกรรแสงแครงครวญ รํ่ารำจวญรนนชวนชำงือ ตรุณวจฺฉา วิย คาวี คือโครนรักลูก ดึงสพายผูกโผนไป ตโต ปายาสิ แสลงสลดใจใจจะขาด ลุกจากอาศน์ออกมาหา ลูกแล ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่า พระสรรเพชญ์ ผู้เผด็จด้ามตัณหา ลุปรมาภิ สมพุทธ ทรงวิมุตเสวตรฉัตร ก็บันทานธรรมวัจนบันทูล ให้จดูรเพทธพิไสยสดับ ดงงนี้ มทฺทิญฺจ ปุตฺตกา ทิสฺวา ทูรโต โสตฺถิมาคตา กนฺทนฺตา อภิธาวึสุ วจฺฉา พาลาว มาตรํ ฯ

๏ ภิกฺขเว ดูราพุทเธารส พิริยบำเพ็ญพรตพรหมจรรยา ปุตฺตกา อันว่า สองพงาเหง้ากระษัตรีย์ศุขโสรถดีโดย กนนมามาแกล่ใกล้ ทิสฺวา ยลอ่อนไท้ท้าวผู้แม่แท้ ถนัดแน่แลเห็นเห็นแต่ไกล กนฺทนฺตา ป่วนใจร้องรํ่าศัลย์ แล่นมามาพลนน สู่มารดาดาบศินี วจฺฉา พาลา ด่งงดรุณีเนื้อน้อย อยากนมละห้อยหาแม่ แม่มาดล อภิธาวึสุ แล่นเสลือกสลนลิ่วโลด โดดดัก ดิ้นดิ้นโดยโดย แม่แล มทฺที จ ปุตฺตเก ทิสฺวา ทูรโต โสตฺถิมาคเต วารุณีว ปเวเธนฺติ ถนธาราภิสิญฺจิถาติ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร จำรานธุระปลิโพธ มทฺที จ อนึ่งโสด อันว่าเจ้ามัทรี ปุตฺตเก ทิสฺวา เห็นกุมารกุมารีท้งงสองรา โสตฺถิมาคเต อนนอาคฤดาโดยสวัสดี ทูรโต แต่ทุรัศทุราไลยลิ่วลี่ ถับถึงที่สถานศาลสถิตย์น้นน วารุณีว ปเวเธนฺตี ธก็มีพระกายกัมปนาท พยงปริสาจสางสิงโสดแล ฯ กิร ด่งงได้ยินมา สา มทฺที อันว่า ออกนางพญาเยาวโยค มหนฺเตน สทฺเทน ปริเทวิตฺวา ธกำสรวญกำศรดโศกสุดสยงสิ้นสมฤดี วิสญฺญี หุตฺวา เสวอยวิสัญญีภาพพยงมรณ์ ตากตนนอนเหนือแผ่น ดินน้นน กุมาเรปิ เวเคนาคนฺตฺวา ส่วนอรอุไภยพี่น้อง แล่นซะซ้องแซงกนนมาด้วยด่วนแล มาตรํ ปตฺวา ถึงพระแม่เจ้า สองเจ้าล้มกลิ้งเกล้าเกลือกเกษ เหนืออุทเรศราชมาดรน้นน ตสฺมึ ขเณ ในตรบัดน้นน อันว่ากษิรารศธารา ก็ไหลออกมาจากประโยธรท่านไซ้ ปวิสึสุ เฉกนํ้าในสุหร่ายระหัด อัศจรรย์ดาลดูหลาก ตรงเข้าสู่ปากสองโบดก อาบอิ่มอกเอมใจ ผิวองค์อุไภยพิสุทธิ หน่อสมมุติเทพ แม้ไป่ได้เสพย์รศกระษยร ก็จะนยรชีพ โสดแล

๏ เวสฺสนฺตโรปิ แม้อันว่าพระเพศยันดรธิบดี ปิยปุตฺเต ทิสฺวา คร้นนกุมาร กุมารีทรามรักราช ท้าวธบอาจอดอาดูรได้เลอย วิสญฺญีหุตฺวา ทุกข์กำเดาดาลสุม รุมอุรารนนทด เททรวงสลดสลบลง ในที่น้นน มาตาปิตโรปิสฺส แม้อันว่าทวัยราชา คือองค์บิดุราธิราชมาดุรงค์ วิสญฺญีหุตฺวา ทรงกรรแสงสาหศรทดรทาย ท่าวทอดกายทรุดลงสลบแล สหชาตา อันว่าหมู่สหชาติโยธาท้งงหกหมื่น ตื่นตระหนก ต่างตีอกรํ่ารักราชกลิ้งเกลือกกลาดกลางดิน บนนดาลพลพฤนทไพร่แลนาย ชายแลหญิงทงงหลายทงงปวงโสด ทิสฺวา เห็นหกกระกษัตริย์ทรงโรทร้องรํ่าไร ซอนซบไป เมื่อน้นน การุญฺญํ บมิอาจกล้นน กรุณา ฟายนํ้าตาโสกานนต์ ทุ่มเท้งตนตระด่าว ดิ้นสิ้นสมฤดี เสพยพิสัญญีภาพท้งงผองโสดแล สกลอสฺสมปทํ อันว่าตระมวลสกลอาศรมบท ยุคนฺตวาตปติตํ วิย สาลวนํ อโหสิ ปรากฏดุจสาลวัน อนนต้องยุคันตวายุวาต รนาศรนับหัก ท้าวทับลง เล่ห์น้นน ตสฺมึ ขเณ ปพฺพตนทีสุ พ้นภูเขาท้งงหลายแลนที อนนมีในไพรพระหารญ ก็วิจลอัศจรรย์ดาลดูแปลก แผกกว่าธรรมดาในบัดดยวน้นน มหาปฐวี กมฺปิ อันว่ามหาปรัถพีผืนผไทแท่น แผ่นผเทศมณฑล สกลกมฺปี ดุจครวีไหวหว่นน ป่นนไปมาเมื่อน้นน มหาสมุทฺโท สงฺขุภิ อันว่ามหาพิศาล สมุทผุดเปนคลื่น ตื่นตีฟองฟุ้งฟัดฝ่งง ดงงจะตีทวงททาย รํ่ารักราชท้งงหลายสลบแล สิเนรุปพฺพตราชา อันว่าพระญาสิเนรุบรรพตาก็บรรดลดาล ประตยนประตยักษ์ โอนมิ เอียงอรรคจุฬาลันโทนโอนโอนต พยงจะกำศรดสงสาร ท่านน้นน ฉกามาวจรเทวโลกา อันว่าทวยเทพ ในช้นนฉ้อสรวง ก็ลลวงลาญลวงลวล เอกํ โกลาหลํ บงงเกิดโกลาหลมหามหัศจรรยาดิเรก เปนเอกอันเดียว ระดมกนน กึกก้อง สารดุจร้องรํ่าศัลย์ โศกแล ฯ อถ สกฺโก เทวราชา ถัดน้นน อันว่าท้าวสหัสเนตร ผู้เปนสุรเชษฐเทพดา จินฺเตตฺวา ธก็จินตนานึก ดงงนี้ ฉขตฺติยา สปริสา วิสญฺญีโน ชาตา อันว่าอดิศรกษัตริย์ท้งงหกตน ท่าวท้งงพลพิริยอมาตย์ โอ้เอนดูดูอนาถหนักหนา บารนี้ อุฏฺฐาย อุทกํ สิญฺจิตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ ชื่อว่าใครก็ไป่อาจที่จะอุฏฐา แลจะให้ซึ่งยาเยียกลํ้า หล่อซึ่งนํ้าลงเหนือตน แห่งบุคคลผู้ใดผู้หนึ่งนั้นก็บมิเนดเลอย หนฺททานิ เนสํ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสาเปสฺสามีติ ผิด่งงน้นน อาตมจะยงงห่าฝนโบษขรพรรษ ให้ปรวัตนาการตกลง เพื่อประสงค์จะสงเคราะห์ เฉภาะแก่ชนท้งงหลายในบัดนี้เทอญ ฉขตฺติยสมาคเม อำมเรศูรสำแดงพล ยงงห่าฝนโบษขรพรรษ ให้ตกในสโมสรกระษัตริย์ท้งงหกน้นน ตตฺถ เย เตมิตุกามา บนนดาคนใดแล ใคร่ปราถนาเพื่อจะอาบ เมล็ดฝนน้นนก็ซุ่มซาบสริราพยพ สบสรรพางค์ผู้ใฝ่น้นน เอกพินฺทุมตฺตมฺปิ น สณฺฐาติ แม้อันว่าหยาดหน่วยเมล็ดฝน ก็ไป่ติดไป่แปมตนคนผู้ไป่ประสงค์ ซึ่งจะอาบน้นน โสดเลอย ปทุมปตฺเต อุทกํ วิย เมล็ดฝนน้นนกลิ้งกลอก ไหลกระหลอกเลือนไป ดุจนํ้าค้างตกแต่ใบบงกช มีอาการกำหนดเหมือน ด่งงน้นน อิติ ตํ โปกฺขรวสฺสํ อโหสิ เหตุด่งงน้นน อันว่า อุทกพรรษาสวรรค์อนี้โสด จึ่งประกาศชื่อว่าโบษขรพรรษธารา ดิเรกแล ตทา ฉขตฺติยา กาลน้นน อันว่าท้าวธรณี กระษัตรียศวร ท้งงหกตนเปนต้นน้นน อสฺสาสํ ปฏิลภึสุ ได้สมฤดีดำรงอาตม์ คือ อัศประสาศ สะดวกแล ฯ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ธันวาคม 2563 20:29:48 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 16 ธันวาคม 2563 19:40:45 »


กัณฑ์ฉกษัตริย์ (ต่อ)
   

๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ สตฺถา อันว่าพระวิสุทธิเทพทศพล อนนตญาณยศยิ่งธ จึ่งเสด็จแสดงอรรถตรัสแก่สังฆษดม ด่งงนี้ สมาคตานํ ญาตีนํ มหาโฆโส อชายถ ฯ ภิกฺขเว ดูกรอาริยรอาบาป มหาโฆโส เมาะ การุญฺญโฆโส สยงพิลาปเท้งทวง ดินแดนสรวงช่วยเศร้า อาชายถ เกิดแก่ปวงพระญาติ หกราชเข้าคบกนน คาบน้นน มาตาปิตโร อาทึ กตฺวา สพฺพสฺมึ มหาชเน ในเมื่อหมู่โยธี กระทำพระชนกชนนีธาตรีศวรราช เปนอาทิ์อาดูรด้วยพิโยค ยูศัลย์โศกซรวนซบลงแลแล้ว ฯ ปพฺพตา สมนาทึสุ มหี อากมฺปิตา อหุ วุฏฺฐิธารํ ปวตฺเตนฺโต เทโว ปาวสฺสิ ตาวเท ฯ ปพฺพตา เมาะ ปพฺพตํ นิสฺสิตเทวตา อันว่าเทพยดาอดุลยเดช อนนอยูในเขาหิมเวศวงกฏน้นน สมนาทึสุ เมาะ วิรวึสุ ก็บนนฦๅสรบนนเลงเครงคฤ้านสรทื้นท่ววทุกพายผเทศแล มหี อากมฺปิตา เมาะ อาภูโส กมฺปนฺติ จบจักรวาฬไหวหว่นน ดินฟ้าฟะฟ่นนป่นนปานไกวกว่าชื่นแล เทโว เมาะ เมโฆ อันว่ามหิมาเมฆมืดมิด ชอุ่มอับทิศทิศอนนท่ววทวีปแล นทนฺตา ฟ้าแมลบมล่นนร้อง ท้องฟ้าขยวขขํ่า ยงงฝนพพรํ่าพรอยพรำ อึ้งอึงอัมพรระงม ด้วยกำลงงลมพายุพัดน้นน ฯ

๏ อถ เวสฺสนฺตโร ราชา ญาตีหิ สมาคจฺฉถ ฯ อถ เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่า พระยาธรรมทานาธิเบศวร์ บพิตรพระเพศยันดร สมาคจฺฉถ พระบาทธได้สโมสร สมาคม อุดมด้วยพระญาติทงงหลายในขณะใด ตทา เมโฆ วสฺสิ ก็ยงงโบษขร พรรษธาราให้หล่อหล่งงลงมาในขณะน้นน ฯ นตฺตาโร สุณิสา ปุตฺโต ราชา เทวี จ เอกโต ยทา สมาคตา อาสุํ ตทาสิ โลมหํสนํ ฯ ฉขตฺติยา อันว่าขัติยาธิบดีศวรดิลก หกพระองค์น้นนฤๅ นตฺตาโร เมาะ เทฺว กุมารา จ คือสองกุมารกุมารีก็ดี สุณิสา ปุตฺโต เมาะ มทฺที เวสฺสนฺตโร จ คือเจ้ามัทรีภัควะดีดวงอนุช แลพระมหาบุรุษ ราชเจ้าก็ดี ราชา เทวี เมาะ สญฺชโย ผุสฺสตี จ คือพระสญไชยผู้ผ่านเผ้าแผ้วแผ่นผงร แลบวรสบรรษดีพนิดาก็ดี สมาคตา ได้มาสู่สันนิบาต เอกโต เมาะ เอกฐาเน ในเอกอาสน์สถิตย์สถาน ยทา ย่อมมีแล้ว ในกาลเมื่อใด โลมหํสนํ อันว่าลางหลากใจชื่น บงงเหตุหื่นหรรษาสยอง แสยงขนพองเพื่อปรีดี ตทา อาสิ ก็มีในไสมย เมื่อน้นน โสดแลฯ ปญฺชลิกา ตสฺส ยาจนฺติ โรทนฺตา เภรเว วเน เวสฺสนฺตรญฺจ มทฺทึญฺจ สพฺเพ รฏฺฐา สมาคตา ฯ สพฺเพ ชนา อันว่าหมู่มหาชน คนทงงหลาย นาคราเจว หมายคือ ชาวเชดุดรนครสีมาก็ดี เนคมา ชนปทา จ คือฝูงประชาชาวนิคมคน แลฝูงชาวชนบทน้อยใหญ่ก็ดี สมาคตา ชุมใจไพร่พร้อมเพรียงกัน ปคฺคหิตญฺชลิกา หุตฺวา ถวายอภิวันทกฤษดาญ กฤษดากรานกราบเกล้า ตสฺส ปาเทสุ นิปติตฺวา กนฺทิตฺวา ซบแทบเท้าธไห้สอื้น ตาชุ่มชื่นงำงือใจ ยาจนฺติ จึ่งอัญเชิญเจ้าไตรภพภูเบศร์ โฉมแก้วเกษนีนาฎ ด้วยคำอาราธน์รํ่าไรทูล ด่งงนี้ นครํ เนตุกาโม โส อิเธว อภิสิญฺจสิ ตฺวํ โนสิ อิสฺสโร ราชา รชชํ กาเรถ โน อุโภติ ฯ ตฺวํ อันว่าพณเกล้า เหง้านเรศูรอิศรพงษ์ อิสฺสโร ราชา จงเจ้ากูมาเปนเอกองค์อิศรภาพผ่านฟ้า ผ่านแผ่นหล้าโลกากร โน เปนพำนักนิ์แก่ตูข้าราษฎรทงงหลาย ทรพ่อฮา โส ปิตา อ้าบัดนี้ อันว่าท้าวธรารักษธเรศตรีธรนีนารถชนก เต แห่งพระผู้จอมจักร อรรคดิลกโลกยโมลี เลอศนี้ อภิสิญฺจสิ ธมีมนประสงค์สาภินนท์ เพื่อจะถกลการพระราชพิธีถวัลยา พิไชยราชาภิเศก อิธเอว ฐาเน ในอรัญญิกวิเวกวงกาจลนี้แล้ว แท้จริง เนตุกาโม ปราถนาจะนำพณหววแก้วกูคืนคง นครํ ดำรงรัตนราชธานีบุรีรมยพิศาล พยงสุรสถานทิพย์พิเสศน้นน ตุมฺเห อันว่าพระองค์ อุโภ ทงงสองสุริยพงษ์ จักรพรรดิผ่านเผ้า เจ้าจักรพาฬภพนารถ รชฺชํ กาเรถ เชิญท้าวธเสวอยราชเสวอยรมย์ เสวอยสวัสดิอุดมด่งงก่อนเทอญ กุลสนฺตกํ เสตจฺฉตฺตํ ปฏิปชฺชถ พระบาท จงรับราชเบญจพิทธกกุธภัณฑ์ สุวรรณมาลาลงกาภรณ์บวรเสวตฉัตร อนนเป็นบริศการกระษัตริย์ ธิปัตยประยูรแห่งท่านแล ฯ


ฉขตฺติยปพฺพํ นิฏฺฐิตํ
ฉกระษัตรีย์บรรพจบบริบูรณ์ พระพุทธบันทูล
ทำสำเร็จ เสร็จสำฤทธิพระคาถา ๓๖ เท่านี้ ฯ


http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14868513039416_kan12_1_640x480_.jpg
มหาชาติคำหลวง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ธันวาคม 2563 20:31:15 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2563 18:01:46 »




พระเวสสันดรบรมโพธิสัตว์ พร้อมกษัตริย์ทั้งห้า ทรงวิภูษารัตนอลังการ
เสด็จทรงชเชนทราธารพระที่นั่งต้น  อันประดับล้วนด้วยเครื่องแก้วมณี
พร้อมด้วยหมู่สหชาติโยธี รอนแรมในป่าหิมพานต์  นิวัตกลับเข้าเสวย
ราชสมบัติ ณ กรุงสีพี

กัณฑ์นครกัณฑ์    
๑.  พระเวสสันดรทรงรับเชิญของสหชาติโยธา แล้วทรงลาผนวช
๑.พระเจ้ากรุงสัญชัย ทรงอภิเษกสองกษัตริย์ครองกรุงสีพี.
๑.ทรงยกทัพกลับกรุงสีพี เสด็จวันละโยชน์ สิ้นมรรคาหกสิบโยชน์, ถ้าจะนับแต่วันบรรพชาถึงเจ็ดเดือน
   จึงพระราชทานสองกุมาร, ชูชกรีบรัดมาสิบห้าวัน ถึงเชตุดร, เตรียมพลรับเจ็ดวัน ยกไปถึงพระอาศรม
   หนึ่งเดือนยี่สิบสามราตรี อยู่ในพนาลีเดือนเศษ ยกพลกลับสองเดือนสิริเป็นปีหนึ่งกับสิบห้าราตรี
   จึงคืนเข้าราชธานีแล้วแล.

กัณฑ์นครกัณฑ์
ตํ สุตฺวา มหาสตฺโต อันว่าพระมหาสัตว์ คร้นนได้ยินคำพลพฤนทามาตย์ ไหว้อาราธนาบำบวง สันรวงด้วยเคารพย์ เพื่อจะให้เจ้าไตรภพโลกเมาลี เปน กษัตรีสูร เสวอยราชบริบูรณ์ด่งงเก่าน้นน ปิตรา สทฺธึ สลฺลปนฺโต อิมํ คาถมาห ท้าวธก็มีพระสาสน์ด้วยพระราชบิดา ก็ทูลพระกรุณาสนองคืน ด่งงนี้ ฯ ธมฺเมน รชฺชํ กาเรนฺตํ บพิตร ข้าอยู่ศุขเสวอยราช โดยด้ามอาทิทศธรรมสนท้าว รฏฺฐา ปพฺพาชยิตฺถฺ มํ ชาวพระนครมามาก ขับข้าจากไอสวรรย์ สวัสดีน้นน ตฺวญฺจ ชนปทา เจว อันว่าสมเด็จบพิตรก็ดี ชาวสีพีพลไพร่น้นน เนคมา จ สมาคตา ชาวเมืองนอกเมืองนา หมู่ประชาชุมกนนกล่าวแล ฯ ตโต ราชา อตฺตโน โทสํ ปุตฺตํ ขมาเปนฺโต อาห อนนดับน้นน กรุงสญชยราช ยงงท้าวอาตมเอารส เพื่อจะให้อดโทษแห่งพระองค์ ด่งงน้นน ก็ซ้นนสวดคาถา ด่งงนี้ฯ ทุกฺกฏญฺจ หิ โน ปุตฺต ดูกรเจ้าอำเภอใด แลราช ผู้มีอยู่ในด้ามมารคธรรม ทำโทษน้นน ภูนหจฺจํ กตํ มยา ความผิดนิโยชน์ พ่อทำโทษ จริงจริง แลนาท้าว โยหํ สิวีนํ วจนา พ่อบมิต้านบมิไต่ ยินคำไพร่ยุยงกล่าวแล ปพฺพาชาสึ อทูสกํ ก็มาขับลูกแก้วแก่นกษัตริย์ โทษบมีแลมานิรเทศนี้ อิมํ คาถํ วตฺวา พระบาทพฤฒาธิราช ก็วโรวาทด้วยคาถา เท่าด่งงน้นนแลแล้ว อตฺตโน ทุกฺขหรณตฺถํ ปุตฺตํ ยาเจนฺโต อิมํ คาถมาห ท้าวธก็ จะอัญเชิญลูกพงาพญาธรรม์ เพื่อจะให้ถวัลยราชประเพณี สืบสันตดีศรีสุริยวงษ์ ดำรงโลกากร ผงรด้วยทศพิธราชธรรม์ บนนเทาทุกข์แห่งพระองค์บิตุราช ก็มี พระสาสน์สนองคืน ด่งงนี้ เยนเกนจิ วณฺเณน ดูกรราชผู้ยำแยงพ่อ แม้ธก่อการ ผิดนี้ก็ดี ปิตุ ทุกฺขํ อุทพฺพเห พึงบนนเทาทุกข์แห่งพ่อ ผู้เกื้อก่อตววตนชอบไส้ มาตุยา ภคินิยาปิ แม้ทุกข์แห่งพ่อแม่พี่น้อง พวกพ้องญาติตระกูลก็ดี อปิปาเณหิ อตฺตโน ก็พึงเอาชีวิตนี้รับรองครองญาติสู้เสียตน ชอบไส้ ฯ

๏ โพธิสตฺโต รชฺชํ กาเรตุกาโม จ อันว่าพระโพธิสัตว์ก็มีพระราชหฤทัย ที่ จะใคร่เสวยสมบัติพิพัทฒสถาน โสดแล เอตฺตเก ปน อกถิเต ครุกํ นาม โหติ ในเมื่อคดีท่าวด่งงน้นน แลพระโพธิสัตว์ บมิแกล้งกล่าวแก่พระปิตุราชภูบาล ชื่อว่าจะเป็นการทำงล กลทำนุก อำรุงผดุงผดา แห่งพรพระบิตุราธิราชไส้ ก็หาบมิได้โสดเลอย ตสฺมา รญฺโญ สทฺธึ กเถสิ เหตุน้นน ธจึ่งจรรจาคำเท่าด่งงน้นน ด้วยพระราชบิดา ท่านแล มหาสตฺโตปิ สาธุ สมฺปฏิจฺฉิ พระมหาสัตว์รับพระราชโองการ พระชนกาธิราชด้วยคำว่าสาธุแล ฯ อถสฺส อธิวาสนํ วิทิตฺวา สหชาตา สฏฺฐีสหสฺสา อมจฺจา ในการเมื่อน้นน อันว่าอมาตยทงงหกหมื่นตน อนนเกอดร่วมกษณด้วยพระโพธิสัตว์ ก็เห็นอรรถว่าเจ้าตนธเอานิมนต์ ด่งงน้นน นฺหานกาโล มหาราช รโชชลฺลํ ปวาหยาติ วทึสุ เขาก็ทูลบพิตร ที่น้นนชอบการ ที่จะสำโรจโสรดสรงพระองค์ ให้หมดมุทิลรโชชะล้าง ท่ววสรรพางค์บพิตรแล ฯ

๏ อถ เน มหาสตฺโต โถกํ อธิวาเสถาติ วตฺวา อนนดับน้นน อันว่าพระโพธิสัตว์ ก็มีพระราชโองการ สารว่าแก่อมาตยราชโยธา จงสูอำนดอดกูน้อยหนึ่งเทอญ ปณฺณสาลํ ปวิสิตฺวา ท้าวธก็เสด็จเข้าไป ยงงบรรณศาลาไลย ท่านน้นน อิสิภณฺฑํ โอมุญฺจิตฺวา ธก็แผลงผลัดเครื่องฤๅษีสิทธิ์ อนนสมเด็จบพิตรท้าวธทรงน้นนออกแล ปฏิสาเมตฺวา เครื่องทรงสำหรับ ท้าวธก็ลำดับไว้ในที่น้นน สงขวณฺณสาฏกํ นิวาเสตฺวา ท้าวธก็ธรงสุกุลพัตรฉาทน อนนขาวตรดาษดุจสังข์ โสดแล ปณฺณสาลโต นิกฺขมิตฺวา ท้าวธก็เสด็จออกนอกบรรณศาลาไลยท่านน้นน อิทํ มยา นวมาเส อฑฺฒมาสญฺจ สมณธมฺมสฺส กรณฏฺฐานํ ปารมิกูฏํ คณฺหนฺเตน ทานํ ทตฺวา ปฐวิยา กมฺปิตฏฺฐานนฺติ ธก็มีพระสาสน์ อันว่าสถานอาวาศนี้ เปนที่กูทำศรมณธรรม์ คิดคืนวันจรหลํ่า ได้เก้าเดือนสิบห้าคํ่ามีประมาณ ก็เปนสถานแผ่นดินจินจล เมื่อกูยกยอดทศพลบารมี แลกูให้พระราชกุมารกุมารี อีกเจ้ามัทรีเปนทาน เพ่อมสมภารที่จะเป็น พระพุทธเจ้าน้นน ปณฺณสาลํ ติกฺขตฺตุํ ปทกฺขิณํ กตฺวา ท้าวธก็ทำประทักษิณ สามรอบขอบบรรณศาลาอาศรม ประนมกรกัลพุม ถวายกุษุมมาลาลาชสาจกนกจรูญ โสดแล ปญฺจงฺคปติฏฺฐิเตน วนฺทิตฺวา อฏฺฐสิ ท้าวธก็นมัสการบรรณศาลาด้วยบัญจางคประดิษฐ อนนอุกฤษฐน้นน โสดแล ฯ

๏ อถสฺส กปฺปกาทโย เกสมสฺสุกมฺมาทีนิ กรึสุ อนนดับน้นน อันว่ากัลปกาจารย์ ก็กทำการทงงหลาย หมายมีต้นว่าตัดเครา เอาพระจำเจอมเฉลอม เชองวยร ศยรสำอางสอาจแล ตเมว สพฺพาภรณภูสิตํ เทวราชมิว วิราชมานํ รชฺเช อภิสิญฺจึสุ อันว่า ปุโรหิตาจารย์พฤฒามาตย์ อมาตยนุชิต แห่งสมเด็จบพิตร พระสัญชัยภูธร ยงงพระแพศยันดรอนนประดับ สรัพด้วยเครื่องสรรพาลังการ มุดดาหารอจินต์ งามเงื่อนอินทรดิเรก อภิเศกในราชสมบัติ เปนมหากษัตริย์กลก่อนแล ฯ เตน วุตฺตํ เหตุการณ์ด่งงน้นน อันว่าบ้นนพระคาถานี้ พระภูมีภาคย หากบัณฑูรแก่สงฆ์ด่งงนี้ ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ดูกรสงฆ์ อนนดับน้นน อันว่า พระแพศยันดรราช คร้นนฟังพระสาสน์ พระสัญชยบพิตรน้นน รโชชลฺลํ ปวาหยิ ท้าวธก็ชำระสะผงเผ่า มุทิลเท่าเสทาทุกแห่งแล สพฺพํ วตฺตํ จชิตฺวาน เสียฤษีพรตเพศ ห้องหิมเวศนาจลจรหลํ่าน้นน ราชเวสมธารยิ ทรงเพศเปนพญามหากระษัตราธิราช เรืองอำนาจฤทธิกล เก่าแล อถสฺส ยโส มหา อโหสิ ในกาลเมื่อน้นน อันว่าฦๅชาปรากฏยศแห่งพระมหาสัตว์ ก็มากแล เตน โอโลกิโต โลกิตฏฺฐานํ กมฺปิ ธก็เล็งแลดูซึ่งได้เห็นสรไหวมือไหว้ ทุกท่ววไท้เอกกระษัตรราช ดยรดาษล้อมพลากรอรชัญชุลีทุกหมู่แล มุขมงฺคลิกา มงฺคลานิ โฆสยึสุ อันว่าพราหมณ์ผู้รู้เพททงงหลาย ก็ถวายมงคลวาจก ยกยอกรสรดัก สรรเสอญศักดิจอมราชแล สพฺพตุริยานิ ปคฺคยฺหึสุ อันว่าพังพวกพลทุกพรรณ อนนรู้ฉันทสับทอนนเลอ ก็ตีดุริยบำเรอ พระโพธิสัตว์โสดแล มหาสมุทฺทกุจฺฉิยํ เมฆตชฺชิตนิคฺโฆโส วิย ตุริยานํ โฆโส อโหสิ อันว่าศับทดูริยทูนี เปนต้นว่าเภรีแลสังขบันเดาะ อันไพเราะระงม บนนสารสมบนนฦๅ คือสยงเมฆครรชิต ท่ววทุกทิศกึกก้อง ในท่าท้องมหรรณพ สรมุทรน้นน หตฺถีรตนํ อลงฺกริตฺวา อุปนยึสุ อันว่าอมาตยท้งงหลาย ก็ประดับเครื่องคชาภรณ์ แก่แก้วกุญชรปรตยนาเคนทร์ มาถวายแก่พระนเรนทร บพิตรแล โส ขคฺครตนํ พนฺธิตฺวา พระโพธิสัตว์ก็ทรงพระขรรค์ชัยศรี อนนประดับด้วยมณีกาญจน์ ดูชัชวาลย์ชวลิต เรืองรจิตโอภาษแล หตฺถีรตนํ อภิรุยฺหิตวา ธก็เสด็จ เหนือทวิรทรัตน์ อนนเปนสารสวัสดิแก่ท่านน้นน ตาวเทว สหชาตา สฏฺฐีสหสฺสา อมจฺจา สพพาลงฺการปฏิมณฺฑิตา ปริวารยึสุ ในกาลตระบัดน้นน อันว่าสหชาติยามาตยหกหมื่น ก็ชมชื่นหื่นเรอง ดำเกององคยยแง่ ก็มาแห่ห้อม ล้อมเปนบริพาร ท่านแล ฯ

๏ มทฺทึ เทวึ นฺหาเปตฺวา อันว่าพระสนมสมด้วยอันกบูร ในพระนเรนศูร สญชยบพิตร ก็มาให้เจ้ามัทธีอภิสิตโสรดสรง ชำระพระองค์นางนารถแล อลงฺกริตฺวา อภิสิญฺจิตฺวา ก็ประดับนิสรรพาภรณ์รจเรข อภิเษกเจ้ามัทรี ราชเทพีท่านน้นน สีเส ปนสฺสา อภิเสกํ อภิสิญฺจิยมานา ก็ทรงโสรดพระศีศะนางพญา ด้วยสหสราธาราอนรรฆ์ อนนประดับด้วยสุพรรณดิเรกน้นน เวสฺสนฺตโร ตํ ปาเลตูติ อาทีนิ วทึสุ ก็ถวายพระพร บวรมงคโลดม เปนประถมว่า ด่งงนี้ ข้าแต่แม่ณหัว จงท้าวธผู้เปนผววผ่านเผ้า รักษาเจ้ากูโดยธรรม์ สรรพสวัสดี จงมีแก่แม่เทอญฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระมาราภิภู ครูบดีศีลวิสุทธ ก็มีพุทธโอวาท สุหิต ให้บรรพชิตทงงหลายฟงงด่งงนี้ ฯ สีสนฺหาโต สุจิวตฺโถ สพฺพาภรณภูสิโต ปจฺจยํ นาคมารุยฺห ขคฺคํ พนฺธิ ปรนฺตปํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุนิกร โส เวสฺสนฺตโร อันว่าพระแพศยันดรนเรศ สิสนฺหาโต เมาะ ปรมสุคนฺเธน อามลเกน อตฺตโน อุตฺตมงฺควิขาลิโต ฯ อุตฺตมงฺควิขาลิโต ท้าวธก็สระพระเกษพระสกนธ์ ปรมสุคนฺเธน อามลเกน ด้วยคนธามลกชำระ จรบันสระหอมรศ สุจิวตฺโถ เมาะ สงฺขวณฺเณน สุจิวตฺเถน นิวาสิโต ท้าวธก็ทรงพระพัสตรพาดแครง ดุจแสงสังข์ใสสุทธ สพฺพาภรณภูสิโต เมาะ สพฺเพหิ อลงฺกาเรหิ วิภูสิตสรีโร มีพระอุตตมางคประดับ สรับด้วยพระสุพรรณมาลามหามงกุฏชยศรี ท่ววศรีระวิภูษิตา ลงการาดิเรก อเนกด้วยสุพรรณ อนรรฆ์ด้วยมหาสัปดพิธรัตน อารุยฺห เมาะ อภิรุยฺหิตฺวา ตระบัดน้นนนารถเสด็จแล้ว คานหามแก้วสีพิกากาญจน์ ชุมสายสารเสวตรฉัตร กั้งจอมกษัตรดูยง นาคํ เมาะ หตฺถีรตนํ แล้วท้าวธก็เสด็จขึ้นเหนือมงคลคชราช อนนตววขาวตรดาษดุจสังข์ผลึกมณี ปจฺจยํ เมาะ อตฺตโน ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนํ สหชาตํ ฯ อตฺตโน ปฏิจฺจ อนนเปนสารศรีสวัสดิพิชัย อนนอาศรัยแก่พระองค์ อุปฺปนฺนํ สหชาตํ พยงแผ่นผจงบรรเจอดเกอดทนนราชพิธี ไกรกรีเรือนทิพย์ สพฺพาภรณวิภูสิตํ อนนประดับด้วยอาภรณ์ จามีกรกนก นิสีทิตฺวา ปวเร อาสเน พระดิลกเสด็จจรอคาธ เหนือรัตนาศนพรายพรรณ ขคฺคํ พนฺธิตฺถ ทรงพระขรรค์ไกรเพ็ชร เงื่อนสมเด็จจอมนรินทร์ สุวณฺณมยํ เมาะ สตฺตรตนขจิตํ อนนอจินตรจิตงามพิพิธทองทาบ เปลวปลาบเปนแสง แสดงด้วยสับตพิธรัตน์ ปรนฺตปํ เมาะ ปรสตฺสุตาปนสมตฺถํ อนนอาจบำบัดปรปักษ์ บพักพัทธแพ้ง่าย วามโต ฝ่ายซ้ายแห่งพระดนู ดูมหิมากว่า ชื่นแล ฯ

๏ ตโต สฏฺฐี สหสฺสานิ ถัดน้นนอมาตยหกหมื่น ราชโยธา โยธิโน จารุทสฺสนา เป็นเสนา เห็นแก่ตาดูงาม สหชาตา ปริกรึสุ เกอดทันยาม เหลือหลามห้อมแห่ราช นนฺทยนฺตา รเถสภํ อมาตยนารถชม งามดูสมยศยิ่งแล ตโต มทฺทึปิ นฺหาเปสุํ เจ้านางมิ่งสาวสนมจึ่งจัดสรง ท่านน้นน สิริกญฺญา สมาคตา ษัตรีบรรจง สาวสนององค์ถวายพรแก่แม่แล เวสฺสนฺตโร ตํ ปาเลตุ ภูธรเทพจงสส้อง เสพย์รักษาแม่เทอญ ชาลี กณฺหาชินา จุโภ พงาสอง จงครองแม่ในเมืองคนนี้ทเจ้า อโถปิ ตํ มหาราชา พระสัญชัย เจ้าจอมไตรภพนารถน้นน สญฺชโย อภิรกฺขตุ จอมราชรักษ์ นางนงคลักษณ์อดูลย์ อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา ใจบุญสอง ลุสมพองสมบัติแล ปุพฺเพ กิเลสมตฺตโน ก็ตรัสถึงคำนึงทุกข์ศัลย ก่อนพู้น อานนฺทิยํ อจารึสุ ใช่รนนกลอง สำนองนันนทเภรี ล่นนแล รมฺมณีเย คิริพฺพเช ในนาภิศีขรีวงกฏ สรนุกนิน้นน อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา นางนักยศ คร้นนถึงสมบทสมฤทธิแล ปพฺเพ กิเลสมตฺตโน คิดคำนึงถึงทุกข์ที่ปรารมภ์ ก่อนพู้น อานนฺท จิตฺตา สุมนา ชื่นชม อรสรมนัสยเปรมปรี โสดแล ปุตฺเต สงฺคมฺม ลกฺขณา นางมีลักษณ์ สมลูกรักษสายใจ เล่าแล อิทญฺจ ปจฺจยํ ลทฺธา ในสมบัติแม้เสวอยสวัสดิอธึก โสด ปุพฺเพ กิเลสมตฺตโน ลำฦกก่อน เมื่อสองอ่อนน้อยเอองค์ ลำบากน้นน อานนฺทจิตฺตา ปตีตา จำนงจิตรชื่นชมนิตย์ สศัลย์ สห ปุตฺเตหิ ลกฺขณา นางนักธรรม์ ร่ำรับขวัญสองราช น้อยน้อยนารถมาสม พระแม่แล ฯ

๏ เอวํ มทฺที ปน ปุตฺเต อาห เจ้ามัทรีก็ชื่นชม มโนภิรมด้วยประการด่งงนี้ แลแล้ว ก็กล่าวแก่ลูกแก้ว ด้วยคาถาด่งงนี้ ฯ เอกภตฺตี ปุเร อาสึ นิจฺจํ ถณฺฑิลสายินี ฯ โภนฺโต ปุตฺตกา ดูกรสองสายใจจอมสวาดิ ตุมฺเหสุ ในเมื่อสองราชน้อยหนุ่มเหน้า ตุมฺหากํ ปิตรา แลพ่อออกเจ้าใจพระ ทินฺเนสุ แลท้าวธก็ละลูกรักไปเป็นข้า พฺราหมฺณสฺส แก่พราหมณ์ใจกล้ากาจกัสมน อหํ อัน ว่าตววตนแม่นี้ฤๅนเจ้า ถณฺฑิลสายินี เมาะ ภูมิยํ สยนสีลา แม่ยอมกลิ้งเกล้าเกลือกกลางดิน นอนปรดิทินเปนอาศน์ กามา เมาะ ปฏฺฐยมานา แม่ก็ย่อมปราถนาขอสม ตุยฺหํ เมาะ ตุมฺหากํ สองเสวอยรมยลูกแก้ว เอกภตฺตํ เมาะ เอกโภชนํ กตฺวา แล้วแม่ก็กินอาหารแลวนนแลคาบ อาบน้ำตาทุกวัน นิจฺจํ เมาะ สพฺพกาลํ ปุเร กรรมแต่ก่อนทุกเมื่อ หิ เพื่อฤๅแลว่าดงงน้นน แล อาสิ เมาะ อโหสิ ก็มีท่ยงแท้แลนาอ่อน เอารส จึ่งมาสมสอง เยาวยศลูกรักราช ด้วยอำนาจกุศลผลแม่กรทำมานี้ลูกฮา อิติ เมตํ วตํ อาสิ ตุมฺหํ กามา หิ ปุตฺตกา เอตํ เมาะ วตํ เม อันว่าวัตรแม่กทำมานี้ฤๅเจ้า อาสิ เมาะ อโหสิ ก็มีต่อท้าววนนนี้แลนา ลูกแก้ว อิติ ด้วยประการด่งงนี้แล้วจรหล่ำ ตุมฺหํ กามา เพื่อแม่พร่ำขอพบ ประสบสองรักราช อาบัดนี้แก้วกลอยสวาดิก็มาสม สว่างอารมณ์ใจแม่แล ตํ เม วตํ สมิทฺธชฺช อันว่าวัตรแม่ก็ทำมาสัมฤทธิ์ โดยอิจฉาใจแม่แล ตุมฺเห สงฺคมฺม ปุตฺตกา บัดนี้แม่มาสมสองเจ้า สะโศกเศร้ารำคาญใจแม่แล มาตุชํปิ ตํ ปาเลตุ ใจแม่รักสองราช อำนาจน้นนมา รักษาลูกเทอญ ปิตุชํปิ จ ปุตฺตกา อันว่าความเสน่ห์แห่งพ่อออกเจ้า จงมาก่อเกล้า สองกระษัตริย์แก่แม่เทอญ อโถปิ ตํ มหาราชา อนึ่งอันว่าพระบาทสญชัยปู่เจ้าก็ดี แลออกนางสบรรษดีศรีผู้ญ่าน้นน สญฺชโย อภิรกฺขตุ จงออกท้าวธมาบริรักษ์ สองเสมอจักษุจอมสวาดินี้ ยงฺกิญฺจิตฺถิ กตํ ปุญฺญํ บุญใดน้อย หนึ่งบ้าง แม่สืบสร้าง แสวงมานี้ ลูกฮา มยฺหญฺเจว ปิตุจฺจ เต บุญใดท้าวผู้พ่อ รังเกื้อ ก่อทำธรรมนี้นาเจ้า สพฺเพน เตน กุสเลน ด้วยกุศลกรรมทงงชื่น สรทื่นทยรทำมานี้ ลูกฮา อชโร ตวํ อมโร ภว จงสองเจ้า อย่ารู้เถ้ารู้ตาย อยู่สืบสายพระญาติ ด้วยอำนาจพระพร พระแม่นี้ ฯ

๏ ผุสฺสตีปิ โข เทวี อิโต ปฏฺฐาย มา สุณฺหา อิมาเนว วตฺถานิ นิวาเสตุ อันว่าออกนางสบรรษดี ราชเทพีก็คำนึง จับเดอมหึงแต่นี้ไป อันว่าสรใภ้กูจงมา ทรงผ้าผืนผจงอรรค์อนนมีพรรณ ด่งงนี้เทอญ อิมานิ อาภรณานิ ธาเรตุ จงมาทรงถนิมอาภรณ์เพณีอนนมีชื่อด่งงนี้ สุวณฺณสมุคฺเค ปูเรตฺวา ปหิณึสุ ธก็ใส่เครื่อง ประดับน้นน ในสุพรรณกระเช้า ก็ใช้สาวสนมอนนกบูร ทูลไปถวายแก่เจ้ามัทรี ลูกท่านน้นน ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห พระไตรโลกาจารย์ จักสำแดงโปราณจรรยา ก็บัณฑูรคาถาด่งงนี้ ฯ กปฺปาสิกญฺจ โกเสยฺยํ โขมโกทุมฺพรานิ จ สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ เยหิ มทฺที อโสภถ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุอันอธิก ทรงจตุปาริสุทธศีล สา มทฺที อันว่าเจ้ามัทรี วิสาสินีนงราม อโสภถ ดูงามเงื่อนอับศรสาวสวรรค์ เยหิ วตฺเถหิ ด้วยผ้าต้นพรรณอนนได สมบูรณ์ใสขบูรเขบ็จ นานปฺปกาเรหิ กลกรเหน็จต่างๆ ขยนแต้มช่างรจนา สา ผุสฺสตี อนนว่าออกนางพญา สบบรรษดีราชเทพีหน่อเหน้า ตสฺสา มทฺทิยา สสฺส อนนเปนแม่ผววเจ้ามัทรี อรรคมหิษีเสาวภาคย์ ตานิ วตฺถานิ ยงงผ้าต้นหลากหลายพรรณ กปฺปสิกญฺจ คือผ้ากรรบาศิกพัสตรก็ดี กปฺปาเสน กตํ อนนทำด้วยสมโยงผัดผยนผรร ด้วยอนรรฆใยยอง โกเสยฺยํ อนึ่งคือผ้าแพรทองโกษย โกเสยฺยํ วิสุหิกตํ อนนธกระทำด้วยไหม ประไพแครงเครื่องฟ้า โขมญฺจ คือผ้าโกษมพัสตรพิเสศ ตํ เตน กตํ อนนทำด้วยกระดาษเทศทอพราย อุทุมฺพรานิ จ อนึ่งคือผ้าอุทุมพรพัสตรทงงหลาย อนนพรรณรายด้วยทองคำ ปาเหสิ ธก็ให้สาวสนมนำไปส่งแล้ว มทฺทิยา แก่นางแก้วแก่นกษัตรีย์ มัทรีเทพบัญจง อตฺตโน สุณฺหาย อนนลูกสรใภ้พระองค์ ท่านน้นน ฯ ตโต โขมญฺจ กายูรํ องฺคทํ มณิเมขลํ สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ เยหิ มทฺที อโสภถ ฯ สา มทฺที อันว่าเจ้ามัทรีศรีมัทธราช อโสภถ เลงวิลาสวิไลย โฉมประไพประภักษ์ เยหิ อลงฺกาเรหิ ด้วยเครื่องบรัสรจนา สรรพาภรณ์ใดน้นนโสด นานปฺปกาเรหิ อนนบรัสโชติรจิต แสงพิพิธชัชวาลย์ ตโต เมาะ ตทา ในกาลเมื่อน้นนตรบัด สา ผุสสตี อันว่าออกนางสวัสดิ์สบรรษดี มทฺทิยา สสฺสุ อนนเปนแม่ผววเจ้ามัทรีแก่นไท้ ปาเหสิ ธก็ใช้สาวสรรค์ กำนัลราชเอาไป เต อลงฺกาเร เครื่องพิษยศรีกษัตริย์ อนนควรบรัสแห่งพระองค์ โขมญฺจ กายูรํ เมาะ สุวณฺณมยํ คีวปสาธนํ คือกัณฐาลงการวรรเวจ อนนธเขบ็จขบวร คำนวรด้วยนิขชาติ ประไพมาศเฉลาฉลัก องฺคทํ เมาะ พาหุปสาธนํ อนึ่งคือพาหุรักษศรี สมกอปร มณิเมขลํ เมาะ มณิโวมิสฺสกํ เมขลํ อนึ่งคือสรเอ้งขนรรขนอบรอบเอววรร สรรพแก้วเก้าสิ่ง มทฺทิยา แก่นางเมืองมิ่งมัทรี อตฺตโน สุณฺหา อนนเปนศรีสรใภ้อรรคราช เมียท้าวอาตมเอารสท่านน้นน ตโต โขมญฺจ กายูรํ อนนดับน้นน คือว่ารัตนปรสาธน์ ปรยบเป้งมาศมุกดาหาร รจิตรน้นน คีเวยฺยํ รตนามยํ ทงงสร้อยศอทอเทศ ประดับด้วยแก้วพิเสศนานาเลอศแล สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ พระราชเทพีแม่ผวว ส่งไปแก่แม่ณหววผู้ลูกแล เยหิ มทฺที อโสภถ เจ้ามัทรีงามเลอศ ด้วยถนิมเฉอดโฉมสวรรค์ ฤๅปรยบเลอย อุณฺณตํ มุขผุลฺลญฺจ ยงง สุพรรณศิโรเพศ ประดับไรเกศด้วยดวงมาลยมาศน้นน นานารตฺเต จ มาณิเย ถนิมรัตแสงฉรร หลากหลายพรรณแพรทอง สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ ท้าวแม่ผววส่งให้ แก่สรใภ้นารถนางเมืองมิ่งน้นน เยหิ มทฺที อโสภถ เจ้ามัทรีงามแจ้ง กล้องแกล้งเทพใดปานบปรยบเลอย อุคฺคตฺถนํ คิงฺคมกํ ถนิมรัตเรืองไหล่ นางฟ้าไฟ่อบอายอ่อนแล เมขลํ ปฏิปาทุกํ ทงงสรเอ้งสรอาจ เกือกแก้วบาทบววทอง แม่น้นน สสฺสุ สุณฺหาย ปาเหสิ นางผู้เปนมารดาบดี ส่งให้แก่เจ้ามัทรีผู้ลูกแล เยหิ มทฺที อโสภถเจ้ามัทรีงามรอบ ด้วยแก้วกอปรจนา แม้น้นน สุตฺตญฺจ สุตฺตวชฺชญฺจ ยงงถนิมสนด้วยสูตร เว้นสูตรภูสนภูษา ใส่น้นน อุปนิชฺฌาย เสยฺยสิ พิศพระภาคยพบู โฉมแม่แลไปงามตรูบารนี อโสภถ ราชปุตฺตี เจ้ามัทรีอเคื้อ อคาดเชื้อชาตรีกษัตริย์ น้นน เทวกญฺญาว นนฺทเน ดุจสาวสวรรค์นางบน อนนเหล้นในนนททิพยวโนทยานเป็นที่สถาน สวนอินทรประพาศน้นน สีสนฺหาตา สุจิวตฺถา สพฺพาภรณภูสิตา อโสภถ ราชปุตฺตี ตาวตึสาว อจฺฉรา ฯ ภิกฺขเว ดูกร พรหมัศจรรยมุนี สา มทฺที อันว่าเจ้ามัทรีอรรคเทพีทิพยลักษณ์ ราชปุตฺตี อนนเปนลูกรักราชธิดา มหากษัตราธิราช พระบาทท้าวมัทธเทพ สีสนฺหาตา เมาะ ปรมสุคนฺเธน อามลเกน อตฺตโน อุตฺตมงฺควิขาลิตา เจ้าก็สระเสพยศิโรรัตน์ อามลเกน ด้วยอมลกปัทมบววทอง รองพานมาศ รจิตร ปรมสุคนฺเธน อนนหอม พิพิธจรุงคนธ์ จรบลรศกำจร สุจิวตฺถา เมาะ สงฺขวณฺเณน สุจิวตฺเถน นิวาสิตา นางก็ทรงพัตราภรณ์พาดแครง ศรแสงใสสุทธชาติ์ อนนขาวตรดาษดุจสังข์ สพฺพา ลงฺการวิภูสิตา เมาะ สพฺเพหิ อาภรเณหิ วิภูสิตสรีรา ฯ วิภูสิตสรีรา ทรงสรรพางคประดับ สำหรับราชกระษัตรีย์ ศรีสำอาง เอาโฉม สพฺเพหิ อาภรเณหิ โรมด้วยแก้วเก้าสิ่ง อนนงามยิ่งรจนา โสภาพักตรพิมพ์โพธ กีทิสา แลนางพญาน้นน โสดงามดงงฤๅ อจฺฉรา อิว คือเทพเทพี ศรีอับศรสาวสวรรค์ อโสภถ ใครเห็นขวัญตาโลก โฉมเยาวโยคสสรม ตาวตึสา เปนที่ชมแก่เทวนิกร ในนครไตรตรึงษ์ พิภพพู้น กทลี ว วาตจฺฉุปิตา ชาตา จิตฺตลตาวเน ทนฺตาวรณสมฺปนฺนา ราชปุตฺตี อโสภถ ฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ธันวาคม 2563 20:04:05 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2563 18:11:04 »

กัณฑ์นครกัณฑ์ (ต่อ)
   
[๏ สา มทฺที อันว่าเจ้ามัทรีอรรคเทพีพิลาศ ราชปุตฺตี อนนเปนลูกรักราชธิดา นางพญาเยาวมาลย์ เนื้อนงพาลนงโพธ ทนฺตาวรณสมฺปนฺนา เมาะ พิมฺพผลสทิสาหิ รตฺตทนฺตาวรเณหิ สมนฺนาคตา ฯ สมนฺนาคตา อนนกอปด้วยพระโอฐแดงฉรร ดูดุจพรรณลูกไทร ใยตำลึงสุกเข้ม ใครค่าเล้มโฉมนาง สำอางองค์นงลักษณ์ ภักตราใสสรแล้ม แย้มแย้มจึ่งจรรจา แลนางพญาน้นนโสด สมบูรณ์โบษบววกาม อโสภถ เมาะ วิชิมฺหมานา อโสภถ มีดำเนิรงามแออวย รทวยรทอดกรกราย ค่อยโชยชาย ยกย่อง กทลีว เมาะ สุวณฺณกทฺทลี วิย เมื่อพิศพ่างพยงกล้วยทอง ลำยองบัตร บนนลาย พรายพรายพรรณพิพิธ ชาตา จิตฺตลตาวเน อนนเกอดใน จิตรลดาพนตำ บลอินทรอุทยาน วาตจฺฉุปิตา แลลมค่อยรำพายพาน พัดย่อน ให้โอนอ่อนไปมา อโสภถ แลไปดูงามแก่ตาพ้นแพ่ง ทุกแห่งห้องสงสาร อนี้คือโฉมนาง นงคราญเมื่อทรงเครื่อง ฟ้ากระเดื่องคนชม ฤๅอิ่มเลอย สกุณี มานุสินีว ดุจกินริน แน่งภักตรา แพ่งมานุษย์ ฤๅปรยบเลอย ชาตา จิตฺตปฺปตฺตา ปติ ปีกปานโบษเบญจรงค โฉมเฉกหงส์ลิลาศ แล นิโคฺรธปกฺกพิมฺโพฏฺฐี พิศดูโฉมฉรรโอษฐ พยงนิยโครธ สุกใส ราชปุตฺตี อโสภถ นางมีโฉมสรอาด นํ้าเชื้อชาติราชาธิเบศน้นน ตสฺสา จ นาคมาเนสุํ ขุนคชบาลเลอศแล้ว ประดับช้างแก้วมิ่งมาถวาย แก่แม่แล นาติวุฑฺฒํว กุญฺชรํ ทรงแก่กำเลาะกำลงง โฉมจำบงงบรปักษ์ พ่ายน้นน สตฺติกฺขมํ สรกฺขมํ อาจสู้ศรยิงยุ่ง ลำแลงพุ่งฤๅถอย โสดแล อีสาทนฺตํ อุรุฬฺหวํ งอนงาขวาเงื่อนรถ อาจนิหด ศึกแสยง ท่านน้นน สา มทฺที นาคมารุหิ นางเสด็จเหนือกูบแก้ว ช้างผ่าแผ้วสงคราม นาติวุฑฺฒํว กุญฺชรํ หูหางสรับลํ่าสนน พึงตกมันทแลไส้ สตฺติกฺขมํ สรกฺขมํ อาจอยู่แก่ปืนยืนแก่หอก กรกลับกลอกกรลึงไล่แล อีสาทนฺตํ อุรุฬฺหวํ งอนพลุกสดำดูเดช ทรงนเรศเรืองฤทธา เลอศน้นน ฯ อิติ เต อุโภปิ มหนฺเตน ยเสน ขนฺธาวารํ อคมํสุ ท้าวท้งงสองเสด็จไป ยงงพระพลาไชยด้วยยศบริวาร อนนมากน้นน ฯ สญฺชยราชา ทฺวาทสหิ อกฺโขภิณิหิ สทฺธึ สมคฺคํ ปพฺพตกีฬํ กีฬึสุ พระสญฺชยราช ก็เสด็จประพาศในหิมพานต์ อนนตรการด้วย เขาถํ้านํ้าคูหา ไพรพฤกษาสำราญ มีประมาณเดือนหนึ่งนับ กับด้วยพลสิบสองอักเษาภิณี น้นนโสดแล ฯ

๏ มหาสตฺตสฺส เตเชน หิมวนฺเต อรญฺเญ โกจิ วาฬมิโค วา ปกฺขิ วา กิญฺจิ สตฺตํ น วิเหเฐสิ อันว่าสัตว์ท้งงหลาย หมายเป็นต้นว่าคชสีห์ หมีแรดแผนผาดผก กับด้วยพนพิหคอนนอาจ ก็มิได้พาธพาธา ประชาชนคนผู้หนึ่งซึ่งมาในหิมพานต์ ด้วยบุญญาธิการเดชะ ธผู้จะได้ตรัสเปนพระพุทธ ในโลกยนี้ ฯ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่า พระไตรโลกุดดมพรหมมาร ทรจุทาณคประกาศคาถา ให้สราพกทงงหลายฟงง ดงงนี้ สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ดูกรสงฆ์ ป่าสามโยชนตรการ ตรกลสถานรญรอบน้นน ยาวนฺเตตฺถ มิคา อหุ หมู่พลมฤคดยรดาษ ดยรด้วยราชสิงสีห มากแล เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน เมื่อไมตรีพระแก้ว พระก่อแล้วโลมใจ สัตว์น้นน นาญฺญมญฺญํ วิเหฐยุํ สรรพสัตว์บโกรธ บกริ้วโทษแก่กนน หนึ่งเลอย สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ป่าสามโยชน์พระพนม พระพันสดมดูเลอศน้นน ยาวนฺเตตฺถ ทิชา อหุ นกทงงหลายเปนหมู่ เปนม่ววคู่ผววเมียมากแล เวสฺสนฺตรสฺส เตเชน ด้วยไมตรีบุนยท้าว บุนยท่านด้าวแดนดง ใหญ่น้นน นาญฺญมญฺญํ วิเหฐยุํ ร่วมรักกนนทุกเมื่อ ทุกเมื่อเชื่อวรร ฤๅอิ่มเลอย สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ป่าสามโยชน์ประมาณ ปรเมอลสถาน สรนุกนิ์น้นน ยาวนฺเตตฺถ มิคา อหุ เปนต้นว่ามฤคราช มฤคเรองอาจเอาธารอธิกโสด เอกชฺฌํ สนฺนิปาตึสุ มาชุมกันในเถื่อน ในถํ้าเพื่อพนสณฑ์มากแล เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ นิมิตเมื่อเจ้าใจสาธุ์ ในสุทธยาตรยงงเมือง ท่านน้นน สิวีนํ รฏฺญฐวฑฺฒเน ท้าวธก็จะให้พิบูลย์ พิบัติภูลฤๅจะมี แก่ไพรเลอย สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ป่าสามโยชน์พิศาล พิษยสถานแถวเถื่อนน้นน ยาวนฺเตตฺถ ทิชา อหุ พลพิหคนาเนก นานาเอกอัศจรรย์ ในป่าน้นน เอกชฺฌํ สนฺนิปาตึสุ มาชุมกนนตรสยก ตรสักพรยกไพรพนม มากแล เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ นิมิตเมื่อเจ้าใจอารย์ ในเอมกษานต์ยงงเกษตรน้นน สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน ท้าวธจะให้พิภพ พิพรรฒสพสีมา ท่านน้นน สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ป่าสามโยชน์สรนุกนิ์ สรนาน ปลุกใจโลกน้นน ยาวนฺเตตฺถ มิคา อหุ เปนต้นว่ามฤเคส มฤคเรืองเดชดูยง ยิ่งน้นน นาสฺส มญฺชูนิ กูชึสุ บริร้องสยงใส สยงเสนาะใจเพราะราชแล เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ นิมิตเมื่อใจเจ้ากล้ยง ใจกล่อมล้ยงโลกากระน้นน สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน ท้าวธจะได้ภิรมย์ ภิรามสมศุขราษฎร์แล สพฺพมฺหิ ตํ อรญฺญมฺหิ ป่าสามโยชน์ จำนนน จำนยงกรรกง รอบน้นน ยาวนฺเตตฺถ ทิชา อหุ ฝูงสกุณรรี่ รรักมี่มีใจสงงแล นาสฺส มญฺชูนิ กูชนฺติ บรํ่าร้องสยงหวาน สยงหว่านดาลแดโสดแล เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ นิมิตเมื่อเจ้าใจกว้าง ใจกว่าท้างอรรณพ เมื้อเมืองท่านน้นน สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน ท้าวก็ให้พิเสศ พิศาลเชตุประชา ประชุมกนนมา ก็มิขาดเลย ฯ

๏ สญฺชยนรินฺโท มาสมตฺตํ ปพฺพตกีฬํ วนํ กีฬิตฺวา อันว่าพระสญชยราช เสด็จประพาศกรีธาภิรมย์ ชมชลพนราชี พิลัทธรีมีประมาณเดือนหนึ่งแล เสนาคุตฺตํ ปกฺโกสาเปตฺวา ธก็ให้หาเสนาบดี ศรีสมุหนายกมา เมื่อน้นน ตาต จิรนฺเต อรญฺเญ วุฏฺฐมฺหา ธก็มีพระราชโองการถาม ดูกรเสนาบดี แต่เรามาเหล้นในสถาน พระหิมพานต์ไพรพง ดูอำลงก็จรหลํ่าแล กีฬนฺโต มม ปุตฺตสฺส อาคมนมคฺโค อลงฺกโตติ ปุจฺฉิตฺวา อันว่ามรคาที่พระเอารสาธิราช ท้าวธจักยุบาตรยงงพระนคร สูประดับคำนับนิดูบวรแล้ว แลฤๅ อาม เทวาติ กาโล โวคมนา ยาติ วุตฺตํ ในเมื่อ พระบาทภูบดี ศรีสญชย มีพระราชโองการ จึ่งมีพระสาลเสนา ทูลสนองพระฎีกา ด่งงนี้ บพิตรข้าแต่พณเกล้า อันว่ามรคาที่พระราชเอารสเจ้ากูจะเสด็จ ตูข้าก็สำเร็จเสร็จสรับ ประดับรนนราบปราบแผ้วแล้วทุกสถาน กาลทีนี้ควรสมเด็จพระบาท ลีลาศยงงพระนคร เชตุดรท่านเทอญ ฯ เวสฺสนฺตรสฺส อาโรจาเปตฺวา ท้าวธก็ให้อมาตย์ไปทูล แก่พระนเรสูรแพศยันดร ลูกท่านน้นน เภริญฺจาราเปตฺวา ท้าวธก็ให้อมาตย์ ฆาฏเภรีตีกลองป่าว ผดยงข่าวแก่พล ท่ววแล เสนํ อาทาย นิกฺขมึสุ ท้าวธก็ยกพลหลวง ปวงพลพยู่ห์ จากที่อยู่น้นนโสดแล วงฺกตคิริกุจฺฉิโต ยาว เชตุตฺตรนครา สฏฺฐีโยชนอลงฺกตมคฺคํ ท้าวธก็เสด็จโดยพนทางอนนประดับไว้ ได้หกสิบโยชน์แต่ท้องวงกฏ จรดถึงเชตุดรแล มหาสตฺโต มหนฺเตน ปริวาเรน มคฺคํ ปฏิปชฺชิ อันว่าพระมหาสัตว์ เสด็จโดยรัถยาด้วยมหิมาบริพาร เงื่อนบริวารรลอก ถ่งงออกไปโสดแล ฯ

๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระโลกยเชษฐาจารย์ ก็มีพุทธโองการพระคาถา ให้กษิณาศรพทงงหลายฟงง ดงงนี้ ปฏิยตฺโต ราชมคฺโค วิจิตฺโต ปุปฺผสนฺถโต วสิ เวสฺสนฺตโร ราชา ยตฺถ ยาว เชตุตฺตรา ฯ ภิกฺขเว ดูกรกุลบุตร พุทธโยคาพจร ยตฺถ เมาะ ยสฺมึ มคฺเค มารคานครใดน้นนโสด โส เวสฺสนฺตโร วสิ ที่พระโพธิสัตว์เสด็จสิงสงงวาศ โส มคฺโค อันว่ามารคนั้นแล้ว แผ้วรันราบ ชรบาบ ทุกดำบล ราชมคฺโค เมาะ เวสฺสนฺตรสฺส รญฺโญ คนฺตพฺพมคฺโค อนนเปนหนทางที่ ควรกษัตริย์ แพศยันดรหรัสลีลาศ ปฎิยตฺโต เมาะ อมจฺเจหิ อลงฺกโต แลอมาตย์ทงงหลายอลงกฏ รงงรจนาทุกปลาก วิสาขปูชากาโล วิย ดุจกาลไพสาขยบูชิต อนนทราบูชา วิจิตฺโต เมาะ กทฺทลีปณฺณปฏากาทีหิ ปูชาการเณหิ วิจิตฺโต ฯ วิจิตฺโต ตรูแก่ตาไตรจักร แลตรศักดิ์ลืมตน สบสูรชนบมิขาด ปูชาการเณหิ ด้วยเครื่องราชบูชา นานาพรรณต่างต่าง กทฺทลีปณฺณธชปฏากาทีหิ อนนช่างประดับควรชม เปนปรถมคือต้นกล้วย ด้วยกัลออมอบนํ้าหอมใสสุทธ์ ท้งงธงธุชปันฎาก เหลื้อม เหลื้อมหลากหลายพรรณ ปุปฺผสนฺถโต เมาะ ลาชปญฺจมเกหิ ปุปฺเผหิ สณฺฐิโต อนนเรืองรองด้วยจตุร พรรณมาลา ลาชาชาติห้าสิ่ง นิรนฺตรํ แถวถ้วนยิ่งแผ่นผจง วงฺกตคิริโต แต่เขาวงกฏคิรี ยาว เชตุตฺรปุรา เท่าถึงราชธานีนัคเรศ เชตฺดรเมืองกว้าง อโหสิ ก็มีทุกทางทุกที่ งามถ้วนถี่พึงชม ฤๅอิ่มเลอย ฯ ตโต สฏฺฐี สหสฺสานิ ถัดน้นนนายเนื่องคลื่น หกหมื่นหม้นนใจเพ็ชร พิเศษน้นน โยธิโน จารุทสฺสนา พลสมเด็จเด็ดเกล้า ไพรีเศร้ามหิมา ท่านแล สมนฺตา ปริกรึสุ ฝูงโยธาทายาท ดยรดาษล้อมทุกทิศ คคลํ่าแล เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ ตามบพิตรพิศภาคย ยงงเมืองหลากหลายพรรณ โสดแล สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน พลแจจรรจรรหมู่ พึ่งท้าวอยู่เย็นใจ ทุกแห่งแล โอโรธา จ กุมารา จ สาวใสสุทธ์สุทธชาติ ชาวเจ้าราชกุมารก็มา เวสิยา นา จ พฺราหฺมณา พฤฒาจารย์จารยาตร ดยรดาษล้อมพานิชก็มามาก โสดแล สมนฺตา ปริกรึสุ แชรงชิดกนนกรรกง ล้อมพระองค์พระภูเบศรน้นน เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ ท้าวผู้เชษฐ์ เชษฐา ยงงเชตุดราลัย เล่าแล สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน สบสมัยไมตรีราช ล้ยงไททาษทุกตนอิ่มแล หตฺถาโรหา อนีกฏฺฐา นายคชคณคนแกว่น นายลาแล่น เหลือหลาย หมู่ไส้ รถิกา ปตฺติการกา โยธาชาย ๆ รอบ ซ้ายขวากอปกวยนแกว่นไกว แกว่งแล สมนฺตา ปริกรึสุ ฝูงระไวๆ ยิ่งล้อมช้างมิ่งมงคล ท่านนั้น เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ เจ้าสากลกลเก่า ยงงเมืองเล่าเกษมศุข แก่ไพร่น้นน สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน ให้นิรทุกข์ทุกเทศ พลสบเกษตรสีมา ท่านน้นน กโรฏิยา จมฺมธรา เสนา นายกดาษ ใส่หมวกมาศเขนขนรร ท่านโสด อินฺทิหตฺถา สุวมฺมิกา หมู่ถือขรรค์ ขนนต่อ ห่มผ้าช่อชกกาญจน์ ท่านน้นน ปุรโต ปฏิปชฺชึสุ ชายชมหาญๆ กล้า แหนแห่หน้าโดยเสด็จ ท่านน้นน เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ พระสรรเพชญเพชรภาพ ท้าวธลุลาภเมือเมือง สิวีนํ รฏฐวฑฺฒเน บเคืองรักษ รักษไพร่ ทุกผู้ไต่ตามธรรม์ สมาคตา ชนปทา พลมาครนนๆ ราช ดลเมืองดาษมาดู ท่านน้นน เนคมา จ สมาคตา สรุกเกรากรูๆ แล่น เศรษฐีแกว่นกรูมา มากแล สมนฺตา ปริกรึสุ พลประชาๆ ชื่น เนื่องคลื่นล้อมจอมจักรน้นน เวสฺสนฺตเร ปยาตมฺหิ ท้าวลำนักๆ บุนย ถึงเมืองภูลเกษมราษฎร์น้นน สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน อำนาจนารถใจดี ชาวสีพีมีม่งง สิ่งสินค่งงครามครนน โสดแล ราชา สฏฺฐีโยชนมคฺคํ ทฺวีหิ มาเสหิ อติกฺกมฺม อันว่าพระมหาสัตว์ เสด็จข้ามหนทางบมิโหจ หกสิบโยชน์คณนา มีประมาณอนนดับสองมาศกแล เชตุตฺตรนครปตฺโต ก็ถึงพระนครเชตุดร โสดแล อลงฺกตปฏิยตฺตํ นครํ ปวิสิตฺวา ธก็เสด็จเข้าพระบุรีอนนธประดับ คำนับนิทุกสถาน ดูตระการกว่าชื่นแล ปาสาทํ อภิรุยฺห ธก็เสด็จประเวศปราสาท พระราชมณฑยร ท่านแล ฯ

๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระมาราภิภู ครูราชาธิบดี ก็มี พุธโธวาทจิตร ให้สรบรรพชิตทงงหลายฟงง ด่งงนี้ ฯ เต ปาวึสุ ปุรํ รมฺมํ พหุปาการโตรณํ อุเปตํ อนฺนปาเนหิ นจฺจคีเตหิ จูภยํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร เต ฉขตฺติยา อันว่าพระภูบาลท้งงหกพระองค์ จตุรงฺคพลนิกาเยหิ สมนฺนาคตา อนนกอปด้วยจตุรงคเสนา ยกโยธาดยรดาษ ยูรยุบาตรโดยบท หตฺถีอาทีหิ เปนอาทิคือทวิรท ส่ำสารมทธยย่งง แสงสัตรปล่งงยยับ มาประดับราชยย้าย กงจักร ผ้ายยย่นน พ่นนพลพฤนทร์ยยุ่ง ตาเต็มมุ่งยย้วว ขุนหมื่นหม้ววยยืด แสนยสรืดถึง ยยัด เอกสัตกษัตริย์ยยอบ กลดกลิ้งกอปยยรร พัชนีพรรณยยาบ หอกดาบด้างยย่น ผ้าช้อยช่นยยืน บ่าพกปืนชัชวาลย์ พลทหารโห่ยไย่ ไพร่พระนครยไย้ ใกล้พระทวารยย้าว ปาวึสุ ปุรํ เสด็จประเวศด้าวพระนคร เชตุดรรัตนราชธานี บุรีรมย์เกษมศุข รมฺมํ เมาะ หทยคหณสมตฺถํ อนนสรนุกนิอจินต์ อาจเอาใจดินใจฟ้า ถ้วนหน้าโลกยเตือนตา สิวีนํ ชนานํ แห่งประชาชน สบสกลสีพีราษฎร์ พหุปาการโตรณํ เมาะ อุจฺจปาการโตรณํ อนนมีอุดุงศาสนาปราการ แขลโขลญทวารจรีจรวจ ตรดวจดารโดรณ โคบุหรัสถลปราสาท เหลื้อมเหลื้อมมาศแมนเฉลา ส่นนเทาหน้าพรหมภักตร ตระศักดิ์ด้วยบราลี ไชยศรีครรภ์รยบรัตน์ เลื่อนลสัดแสงสินธุ์ อินทรกิลแผ่นผจง บริขากงกรรมรอบ อุเปตํ อนฺนปาเนหิ อนนกอปด้วยมางษมัษยาหาร เครื่องตระการหลายภาค เข้านํ้ามากมีรศ นจฺจคีเตหิ จูภยํ เมาะ นจฺเจหิ สเตหิ อุภเยหิ การเณหิ สมนฺนาคตํ ฯ สมนฺนาคตํ อนนเทพแสร้งสมมตบัญหาร สองประการประกาศ ถ้วนหน้าราษฎร์รงงชม นจฺเจหิ จ อนึ่ง คือสาวสนมเทพระบำ นางบำนำนรรฎก พลํหกดำอวจ แกล้งประกวดกลถวาย คีเตหิ จ อนึ่งคือสายสงงคีตจำรยง สยงสงงคีตจำรูญ สูงสงงคีตจำเรอญ สรรเสรอญศักดิ์จอมราช ดยรดาษด้วยจดูรพรรค์ สรรพกาพยศฤงฆาร สรรพการทำนุก ศุขเอาใจราษฎร์ระงม สํสำนยงทนนที ดึงดนตรีตีเป่า แสนสรนุกนิ บมิรู้กี่ร้อยเท่าพนนทวี อนนมีในนรโลกย ดินฟ้าโยกอยู่ชม ฤๅอิ่มเลอย วิตฺตา ชานปทา อาสํ อันว่าชาวชนบทดยรดาษ ชุํชมราชเข้าเมือง ท่านแล เนคมา จ สมาคตา ชาวนิครมเมืองนอก ซับซ้อนออกมาดู ท่านแล อนุปฺปตฺเต กุมารมฺหิ ในเมื่อพระแพศยันดรภูบาล เสด็จดลพระลานไชย ท่านน้นน สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน ท้าวผู้เผ่าพระดิลก ให้อิ่มเอก เอมพลไพร่น้นน เจลุกฺเขโป ปวตฺติตฺถ อาคเต ธนทายเก ฯ

๏ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุนิกร ตสฺมึ เวสฺสนฺตเร ในเมื่อพระแพศยันดรนรนารถนายก ธนทายเก เปนธนาทายกภูมิบาล สร้างศีลทานบริสุทธิ์ มหาชนสฺส แก่ฝูง มนุษย์ผู้กำรอ เข้ามาขอบมิขาด อาคเต นคเร แลท้าวธเสด็จพยุหบาตรยงงพระนคร เจลุกฺเขโป เมาะ เจลสฺส อุกฺเขโป อันว่ายกผ้าสรลอนยอกรสรไสว ไกวกนนแสง แคลงยยาบ สองตราบข้างมรรคา ท่ววประชาชนทุกพรรค์ ร้องรับขวัญรับมิ่ง ปวตฺติตฺถ จึงสดุสดียพณเกล้า อัญเชิญเจ้ากูมาครองครอบหล้า แลตูข้าท่านจะพึ่งใบบุนย ท้าวผู้มีคุณล้ยงโลกนี้ นนฺทิปฺปเวสิ นคเร พนฺธนา โมกฺโข อโฆสถ ฯ ราชา สญฺชโย อันว่าพระสัญชยาธิบดี อมจฺเจ ยงงอมาตยฺมนตรีท้งงหลาย นนฺทิ ปเวสึ เมาะ นนฺทิเภริญฺจาราเปตฺวา ท้าวธก็ให้ทายทัณฑ์ รนนเภรีตีผดยง นคเร ท่วววงงวยงในนอก อิติ วจเนน บอกด้วยคำท่ววฉวยงสดำดงงนี้ชี้ให้เห็น เวสฺสนฺตรมหาราชสฺส อาณา อันว่าอาชญานี้เปนอาญาพระแพศยันดรบรมจักรพรรดิ พนฺธโมกฺโข อโฆสถ เมาะ สพฺพสตฺตานํ พนฺธนา โมกฺโข อุโฆสิโต อนฺตมโส วิฬารํ อุปาทาย เวสฺสนฺตรมหาราชา สพฺพสตฺเต พนฺธนา วิสชฺชาเปสิ ฯ สพฺพสตานํ พนฺธนา โมกฺโข อันว่า รนนสายสัตว์ท้งงหลาย คลายจากจำนำจำนอง รญฺญา อุโฆสิโต แลพระสัญชยให้ปองป่าว อิติ วจเนน กล่าวด่งงนี้แท้ท่ยง เวสฺสนฺตรมหาราชา อันว่าท้าวผู้ส่ยงสรรเพชญ์ ศรีเวศยันดรราช สพฺพสตฺเต พนฺธนา วิสชฺชาเปสิ ท้าวธก็ให้ปล่อยปลาศ สบสัตว์ชาติ์ท้งงหลาย อนฺตมโส วิฬารํ อุปาทาย อนนมิบังควร คือวิฬาร สัตว์สงสารบำโนจ ด่งงน้นน พนฺธนา จากกรจร หม้นนจำจอง อย่าให้สัตว์ท้งงผอง เพทนา มม ปุตฺตสฺส ปุญฺญานุภาเวน ด้วยบุญญานุภาพพระแพศยันดรลูกไท้ ธผู้จะได้ตรัสเปนพระพุทธเจ้า ในโลกยนี้ โส นครํ ปวิฏฺฐทิวเสเยว ปจฺจูสกาเล จินฺเตสิ อันว่าพระแพศยันดรราช ในวนนเมื่อพระบาทเสด็จเข้ายงงเมืองท้าวธก็รำพึง คำนึงในกาลเมื่อจะใกล้รุ่งพุ่งพระฮาม ยามอรุโณไทยน้นน เสฺว วิภาตาย จ รตฺติยา ในเมื่อจรเข้าเร้ารุ่งพุ่งแสงสูรโยทย์พรุกนี้ไส้ มา อาคตภาวํ สุตฺวา ยาจกา อาคมิสฺสนติ อันว่าฝูงขี้ไร้ทุรพล คณยาจกท้งงหลาย คร้นนเขาได้ยินข่าวว่ากูมา ก็จะมาหากู โสดแล เตสาหํ กึ ทสฺสามีติ อันว่ากูนี้เข้ามาเปนท้าวเปนพญาใหม่ ก็จะคิดใคร่ทรัพย์อันใด แลจะให้จงเต็มใจฝูงยาจก พณิพกผู้จะมาขอนี้ โสดแล ฯ

๏ ตสฺมึ ขเณ สกฺกสฺส ภวนํ อุณฺหาการํ ทสฺเสสิ ในกษณน้นน อันว่าอาศนะแห่งท้าวสหัสนัย ก็ร้อนคือไฟประหาร ในพิมานท่านน้นน สกฺโก อาวชฺเชนฺโต ตํ การณํ ญตฺวา พระอินทรก็ส่องทิพยจักษุญาณ ก็รู้อาการด่งงน้นน ราชนิเวสปจฺฉิมวตฺถุญฺจ ปุริมวตฺถุญฺจ กฏิปฺปมาณํ ปูเรนฺโต ฆณเมโฆ วิย สตฺตรตนวสฺสํ วสฺสาเปสิ ฯ สกฺโก อันว่าท้าวพนนตา สตฺตรตนวสฺสํ ยงงพรรษธารา มหาสัปดพิธรัตนทงงหลาย ปูเรนฺโต อินทรก็ผาย ให้ตกเต็มตรบัด ปูริมวตฺถุญฺ จ หน้าวงง กษัตริย์เบื้องบูรพ์มูลมาก ปจฺฉิมวตฺถุญฺจ ปลากบัดจิมทิศท้ายคลวง ราชนิเวสนสฺส แห่งวงงหลวงเรือนราช เก้าแก้วสาดเปนเปลว กฏิปฺปมาณํ พอพยงเอวอรรฒางค์ วสฺสาเปสิ ก็วางให้ตกไหล คักลงมา คคฺคณเมโฆ วิย ครุวนาดุจเมฆพยู่ห์ จรก็ลู่ ขึ้นกลางคัคคณ ปฐวึ ปูเรนฺโต ก็ให้เต็มธรณีดลพยบพ้น วสฺสิ ก็ตกล้นลยงพยง ฝ่งงแล สกลนคเร ชาณุปฺปมาณํ วสฺสาเปสิ แล้วอินทรก็ให้ตกท่ววนคร ที่ลุ่มดอน ดาลราบ ชรบาบสิ้นเสมอกัน สำคัญพยงเข่าแล ฯ ปุนทิวเส มหาสตฺโต เตสํ เตสํ กุลานํ ปุริมปจฺฉิมวตฺถุญฺจ วุฏฺฐิธนํ เตสญฺเญว โหตูติ ทาเปตฺวา ในวนนรุ่งเช้า พระมหาสัตว์เจ้าก็ใช้ ให้อมาตยท้งงหลายไปให้ห่าฝนแก้ว แล้วแก่ตระกูลทงงหลาย ด้วยพระราชโองการ ด่งงนี้ คำนับนี้ อันว่าห่าฝนสับดพิธรัตนนี้ ผี้แลตกในที่แดนแคว้นร้ววเรือน เลื่อนตรวันตกตรวันออก จรอกตรกูลผู้ใดไส้ จงให้แก่มหาชนคน ผู้น้นน โสดเทอญ อวเสสํ อาตราเปตฺวา ว่าอันเสศสับดพิธรัตน นอกจงงหวัดธ กำหนดน้นน ว่าไส้ อตฺตโน เคหวตฺถุสฺมึ ธเนน สทฺธึ โกฏฺฐาคาเรสุ โอกิราเปตฺวา ธก็ให้อมาตยมาหล่อไว้ในลำพงงคลงง คฤหราชน้นน ทานํ อุปฏฺฐเปสิ ธก็ให้ โกษาธิบดี ลำดับคำนับนี้ไว้ จะให้เปนพระราชทาน เพ่อมสมภารจะเปนพระพุทธ โสดแล ฯ

๏ ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห อันว่าพระสรรเพชญ์พุทธเจ้า ยกเกล้า ธรรมเทศนา แก่อรหันตา กษิณาศรพท้งงหลาย ด่งงนี้ ชาตรูปมยํ วสฺสํ เทโว ปาวสฺสิ ตาวเท เวสฺสนฺตเร ปวิฏฺฐมฺหิ สิวีนํ รฏฺฐวฑฺฒเน ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุอรหันต์ สรรพบาปบ่นนเด็ด ตสฺมึ เวสฺสนฺตเร ในเมื่อพระสรรเพชญ์แพศยันดร รฏฺฐวฑฺฒเน อนนให้อิ่มอรเอมใจ สิวีนํ ชนานํ ในแห่งห้องราษฎร์มณฑล สีพีพล ไพร่ฟ้า ปวิฏฺฐมฺหิ ท้าวธเจ้าหล้าเสด็จประเวศ นครํ ยงงพิไชยเชตุพิศาล เทโว เมาะ สกฺโก อันว่าเจ้าพิมานเมืองฟ้า ถ้วนหน้ารยกพระอินทร วสฺสํ ยงงสรสินธารา พรรษาสวรรค์ไหลหล่อ ท่อธารฟ้าตรบัด ชาตรูปมยํ เมาะ สุวณฺณมยํ ย่อมไรรัตนแก้วเกื้อ เปลวปลาบเนื้อนพคุณ ปาวสฺสิ ก็ให้บงงอุรนองเนือง ท่ววท้งงเมืองบมินาน ตาวเท เมาะ ตสฺมึ กาเล ในกาลน้นนด่งงประกาศ แก่ประชาราษฎร์นิกร ว่าพระแพศยันดรผู้มีเดชะ ท้าวธจะได้ตรัสเปนพระบมินาน คในกาลพรุกนี้ ฯ

๏ ตโต เวสฺสนฺตโร ราชา ทานํ ทตฺวาน ขตฺติโย กายสฺส เภทา สปฺปญฺโญ สคฺคํ โส อุปปชฺชถาติ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร ตโต ในกาลก่อนแล้วลับไป เวสฺสนฺตโร อันว่าเจ้าจอมไตรภพนารถ พระบาทแพศยันดร ราชา เมาะ อุตฺตมราชา อนนเปนภูธรราชราชา มหากษัตริย์ปรเสรอฐ ขตฺติโย เมาะ ขตฺติยกุเล ชาโต อนนเกอดในตระกูลสูรยสมมต เอารสราชบพิตร สปฺปญฺโญ อนนมีจิตรเปรมปราชญ์ ฉลยวฉลาดด้วยปรีชา ทตฺวาน เสด็จพระทยาทานทายาทย์ อนนอาจให้บมิคิด โดยอำนิษดิผู้มาขอ ทานํ เมาะ อปฺปริยนฺตํ มหาทานํ ทานอนนพึงพอใจสัตว์ถ้วนหน้า ทุกท่ววฟ้าแดนดิน ยาจกานํ ชนานํ แก่ฝูงชีชินดบสวี โยคีคณอาธาร พรหมณาจารย์สบสัตว์ กายสฺส เภทา คร้นนธพิบัติชีวิเดนทรีย คือกาเยนทรียนาเมนทรียเสียเสร็จ อุปปชฺชถ จึงท้าวเสด็จไปเสวอยชาติ สคฺคํ เมาะ ตุสิตปุเร ในสุราวาศวยงสวรรค์ อนนเทพแสร้งไส้ชื่อสันตดุสิต จตฺตาริ วสฺสสหสฺสานิ ทิพฺพคณนาย แลธคิดคณนาในสวรรค์ ได้สี่พนนปีเปนที่สุด สฏฺฐีวสฺสสหสฺสาธิกสตฺตปญฺญาสวสฺสโกฏิโย เมื่ออสังขยาในมนุษย์นี้ไส้ ได้ห้าสิบเจ็ดโกฏิ กำไรโสดหกล้านเข้า แล้วแลเจ้ากูธก็เสด็จ มาตรัสเปนพระศรีสรรเพชญ์พุทธในโลกยนี้ ฯ

๏ สตฺถา อิมํ คาถาสหสฺสปฏิมณฺฑิตํ มหาเวสฺสนฺตรธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา อันว่าพระสาศดาจารย์ น้าวเอาดำนานพระมหาแพศยันดรธรรมเทศนา อนนประดับนิด้วยพระคาถาพนนหนึ่ง จึ่งบัณฑูรแก่สงฆ์ท้งงหลาย ด่งงนี้ เอวํ ภิกฺขเว ปุพฺเพปิ มม ญาติสมาคเม มหาเมโฆ โปกฺขรวสฺสํ วสฺสิเยวาติ วตฺวา ดูกรภิกษุท้งงหลาย ในเมื่อชุมชนพระญาติกากร แห่งพระมุนีวรตถาคต ในเมื่อกำหนดบุรพชาติ อันว่ามหาเมฆสาดห่าฝนสวรรค์ อนนชื่อว่าโบษขรพรรโษทกตกลงมาบนาน ด้วยประการด่งงนี้ ฯ ชาตกํ สโมธาเนสิ จึ่งพระพุทธเจ้าชุมนุมพระชาติชาฎก อนนพระดิลก หากดำรัสตรัสแห่งพระพุทธหฤทัย ด้วยพิษยพุทธัญญาน ด่งงนี้ ฯ ตทา ชูชโก เทวทตฺโต อโหสิ ดูกรภิกษุทงงหลาย อันว่าชูชกใจถัทธ ก็มาเป็นเทวทัตตนี้แล อมิตฺตาปนา จิญฺจมาณวิกา อันว่าอมิตตตา ก็มาเปนจิญจมาณวิกา อนนเท็จแลมาสำแดง โทษแห่งพระตถาคต นี้แล เจตปุตฺโต สิยา ฉนฺโน อันว่าเจตบุตรชาวเจตราษฎร์ ก็มาเปนนายฉันนามาตย์นี้แล อจุตฺตตาปโส สาริปุตฺโต อันว่า อรรจุตดาบศฤๅษี ก็มาเป็นพระธรรมเสนาบดีศรีสาริบุตรพุทเธารส นี้แล สกฺโก อนุรุทฺโธ อันว่าพระอินทร์อนนมาขอเจ้ามัทรี ศรีราชอนุช ก็มาเปนพระอนุรุทธเถรนี้แล วิสฺสุกมฺโม โมคฺคลฺลาโน อันว่าพระวิศสวกรรม์ อนนมาสรรพระบรรณศาลา ก็มาเป็นพระมหาโมคคัลลานเถร แล สีหราชา อุปาลี เถโร อันว่าไกรสรสีหราช อนนก้นนมรรคาพระมัทรี ก็มาเปนพระอุบาฬีเถร แล พฺยคฺฆราชา สิมฺพลีเถโร อันว่าพยัคฆราชอนนฉวาง มรรคพระมัทรี ก็มาเปนพระสิมพลีเถร แล ทีปิราชา จุลฺลนาโค มหาเถโร อันว่าพญาทีปิจ อนนมานิทรก้นนกนนดารมรรคา ก็มาเปนพระจุลนาคมหาเถร แล ทารเก รกฺขติ เทวา กจฺจายโน มหาเถโร อันว่าเทพดาอนนช่วยปฏิบัติรักษาพระชาลี ให้นิรไภยนิรโรคทงงหลาย ก็มาเปน พระกัจจายมหาเถร แล ทารเก รกฺขติ เทวธีตา วิสาขา พุทฺธุปาสิกา อันว่านางเทพธิดา อนนช่วยปรติบัติพระกัณหาพระชาลี ให้เสวอยโภชน แลกษีรธารา ก็ มาเป็นนางวิสาขา พุทธุปาสิกา นี้แล ปจฺจยนาโค มหากสฺสโป อันว่าพระคชา ธารสารเสวตร อนนให้เปนเหตุแก่พระทานาธิบดี ศรีบรมแพศยันดร อนนมีนามกรปัจจยนาเคนทร์ ก็มาเปนพระกัศยปเถร แล กาเรณุกา อากาสจารี อิธ กีสาโคตมี อันว่านางช้างชาติสวิสุทธภา เอาบุตรเหาะมาถึงถวาย เมื่อวายวางชนมชาตา ก็มาเปนนางกีสาโคตมี แล มทฺทราชา มหานาโม อันว่าบพิตรกรุงมัทธราชราชา อนนเปนพระอัยกาพระมัทรี ศรีสรรพลักษณกัลยา ก็มาเปนท้าวมหานาม แล อพฺภนฺตเร มหามจฺโจ อานนฺโท อันว่ามหาอมาตยานุชิต อนนเฝ้าสนิทในปราสาท พระนิเวศราชไพรชยนต์ ก็มาเปนพระอานนทเถร แล ทานเวยฺยาวจฺจกโร อนาถปิณฺฑิโก อันว่าอมาตยอนนชอบพระราชอัธยาศรัย อนนได้แต่งเครื่องสัตตสดกทยทานทายาทย์ ก็มาเป็นอนาถบิณฑิกมหาเศรษฐี แล สญฺชยนรินฺโท สุทฺโธทนมหาราชา อันว่ากรุงสญไชยราช ก็มาเป็นพระบาทศรีสุทโธธนาธิบดี ธาตรีศวรดิลก อนนเปนชนกแห่งพระตถาคต นี้แล ผุสฺสตี เทวี มหามายา อันว่าออกนางสบรรษดี ก็มาเปนออกนางศิริมหามายา อนนเปนมาดาแด่สมเด็จพระสรรเพ็ชญพุทธเจ้านี้ โสดแล มทฺที เทวี ราหุลมาตา อันว่าเจ้ามัทรี ราชเทพีพระบาท ก็มาเปนนางนารถศรียโสธรา อนนเปนมารดาแด่พระราหุลกุมาร นี้แล ชาลีกุมาโร ราหุโล อันว่าเจ้าชาลีพระราชเอารสอนนอดุลย์ ก็มาเปนพระราหุลกุมาร นี้โสดแล กณฺหาชินา อุปลวณฺณา อันว่าเจ้ากัณหาชินา พระราชบุตรีก็มาเปนนางอุบลพรรณาเถรีนี้ โสดแล เสสปริสา พุทฺธปริสา อันว่าเศศบริสัษยทงงหลาย อนนได้เคอยบำเรอพระตถาคตแด่บุรพชาติ ก็มาเปนสาธุ์บริสัษย อนนลุแก่อรรถธรรม์ พระสรรเพ็ชญ์พุทธนี้ แล เวสฺสนฺตโร ปน อหเมวาติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฯ เวสฺสนฺตโร ส่วนพระแพศยันดรราช อนนธญอในทศชาติ์ว่าทานบารมีศีลบริสุทธ น อญฺโญ ปุคฺคโล ใช่บุทคลผู้อื่นผู้ไกล อหํเอว คือพระบรมไตรโลกยนารถตถาคต อนนมียศแห่งพุทธสมบัติ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนนตรัสแก่สรรเพชดาชาญ โหติ ก็มีกาลต่อบัดนี้ แล เวสฺสนฺตโร โลกนาโถ เอวํ ธาเรถ ชาตกํ ฯ ภิกฺขเว ดูกรภิกษุบริพาร อารยโยคาพจร โส เวสฺสนฺตโร อันว่าพระแพศยันดรราชราชาอนนเปนจุธาธิบดี ศรีสมมติเทพเจ้าจอมกษัตริย์ โลกนาโถ อนนได้ตรัสแก่สรรเพชญ์ พุทธอุดมทิพจักษุ์ แลเปนพำนักนิแก่โลกยสงสาร โหติ ก็มีโดยโบราณนิยาย ตุมฺเห อันว่าท่านทงงหลายผู้สาธุสัปบุรุษ ใจบริสุทธศรัทธา ติวิธสมฺปตฺตึ ปฏฺเฐนฺโต อนนจะปรารถนาสมบัติสามประการ มนุสฺสสคฺคโมกฺขสมฺปตฺติสงฺขาโต อนนธกล่าวคือสถานมนุษย์สมบัติอนนนต์ อนนธกล่าวคือสวรรค์สมบัติเอนกอนนธกล่าวคือ อุปัทธิวิเวกสมบัติอนนอนรรฆ คือ พำนักนิ์ในนครนฤพาน ธาเรถ จงเร่งมาธารมาทรงดำรงดำรัส ให้เห็นอรรถธรรมท่ยงแจ้ง แสร้งสดับธรรมบพิตร อนนธรจิตรงงเทศนา อิมํ มหาเวสฺสนฺตรชาตกํ อนนชื่อพระมหาแพศยันดรชาติชาฎก เอวํ โดยพระมุนีนารถนายกบนนทูร เสร็จบริบูรณธรรม เท่านี้แล


มหาเวสฺสนฺตรชาตกํ นครกณฺฑํ นิฏฺฐิตํ
๔๘ พระคาถา บริบูรณ์


http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/24974829041295_kan13_1_640x480_.jpg
มหาชาติคำหลวง


จบบริบูรณ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ธันวาคม 2563 20:05:56 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า:  1 [2]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
มหาชาติคำหลวง : วรรณคดีแห่งชาติ
เกร็ดศาสนา
Kimleng 0 310 กระทู้ล่าสุด 23 พฤศจิกายน 2565 20:20:10
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.541 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 15 ชั่วโมงที่แล้ว